เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1103 ยี่โถปีนัง + ตอนที่ 1104 เจ้าเด็กเวร
ตอนที่ 1103 ยี่โถปีนัง + ตอนที่ 1104 เจ้าเด็กเวร
ตอนที่ 1103 ยี่โถปีนัง
เฟิ่งจิ่วลงมาจากต้นไม้ เดินไปตรงน้ำพุวิญญาณแล้วตักน้ำวิญญาณมารดต้นไม้ กำชับเหล่าไป๋คอยดูแลให้มากๆ จากนั้นจึงมาหาหงส์ไฟ เห็นมันยังคงอยู่ข้างในไม่เคลื่อนไหว ก็อดแปลกใจไม่ได้
“ครั้งนี้ทำไมนานเพียงนี้ หรือว่าจะผ่านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว?” พอนึกถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ และเห็นหงส์ไฟที่หลับใหลอยู่ในการบำเพ็ญฌานโดยไม่ผิดปกติอะไร จึงค่อยแวบกายออกมาจากห้วงมิติ
เฟิ่งจิ่วนั่งลงข้างตาน้ำ ยื่นมือออกไปเล่นน้ำบาดาลข้างกาย นิ้วมือเรียวยาวขาวเนียนไล้ผ่านผิวน้ำเบาๆ พลางมองระลอกน้ำกวาดออกไปและคืนสภาพเป็นเช่นเดิม
เล่นไปสักพักเธอก็สงบจิตใจลงได้ จึงลุกขึ้นเดินเข้าไปในป่า โดนราชางูไล่ตามมาตลอดตั้งแต่เมื่อวานนี้ จะหายาทิพย์ดีๆ ไม่ได้เลย เสียเวลาไปไม่น้อยจริงๆ ทั้งยังวิ่งมาไกลถึงเพียงนี้อีก
ตอนนี้เธอกำลังศึกษายาอายุวัฒนะตัวหนึ่ง ขาดยาทิพย์อยู่สองอย่าง จึงวางแผนจะหาดูหน่อยว่าในป่านี้มีหรือไม่ แล้วค่อยกลับอาศรมไปกลั่น มาเทือกเขาอเวจีครั้งนี้เธอไม่คิดให้ตนเองฝึกฝน เป้าหมายที่มาที่นี่คือพาพวกเขามาฝึกวิชา หลังหนึ่งปีผ่านไปเธอก็จะไปแคว้นระดับหนึ่งแล้ว
“หญ้าโคมจีนส่วนใหญ่จะเติบโตในพื้นที่สูงชัน พบเห็นได้มากตรงหน้าผาสูง แต่ยี่โถปีนังชอบพื้นที่ชื้นแฉะ น่าจะหาได้ในป่านี้”
เธอเดินไปพลางเอ่ยพึมพำ ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีงูพิษไล่ทำร้าย ไม่มีผู้ฝึกตนไร้สำนักดักฆ่า และก็ไม่เห็นสัตว์ร้ายออกล่า ด้วยเหตุนี้เธอจึงชะลอฝีเท้าลง ตามหายี่โถปีนังในละแวกรอบๆ โดยละเอียด
เธอไม่ได้ไปดูแลในห้วงมิติสักเท่าใดนัก พืชผลด้านในส่วนมากเป็นยาทิพย์ล้ำค่าหายาก ส่วนยาทิพย์ที่ไม่นับว่าหายากอะไรเธอไม่เคยปลูกมมาก่อน
หนึ่งคือเดิมทีคิดว่าหากต้องการก็หาซื้อได้สะดวก สองคือตนเองดูแลยาทิพย์มากมายเพียงนั้นไม่ไหว ปลูกพวกหายากก็ได้ประมาณหนึ่งแล้ว หากของอย่างอื่นขาดสามารถใช้วิธีอื่นเสาะหามาได้
แต่ว่าก็จะเป็นเช่นเธอในตอนนี้ ขาดยาทิพย์อย่างสองอย่างต้องเสียเวลาออกตามหา โชคดีว่ายาทิพย์สองอย่างไม่ใช่ของหายากอะไร
เดินไปในป่าประมาณเกือบหนึ่งชั่วยามได้ ก็พบยี่โถปีนังในพุ่มหญ้าใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ชุ่มชื้น ยี่โถปีนังก็เหมือนเช่นดอกไม้ป่า ดอกไม้สีม่วงเล็กๆ เบ่งบานสามกลีบ ลำต้นเป็นข้อปล้องคล้ายต้นไผ่ ใบหลายใบลู่ลง อยู่ในพุ่มหญ้าไม่สะดุดตา
หากเป็นคนที่ไม่รู้จักจะนึกว่ามันเป็นดอกไม้ป่า แต่คนชำนาญการแพทย์และยา แวบเดียวก็มองออกได้ว่านี่คือยี่โถปีนัง ยาอายุวัฒนะมากมายต่างใช้มันผสมยาขึ้นมาได้ สรรพคุณน่าทึ่งนัก
ยาทิพย์ที่ดีต้องเป็นยาทิพย์ที่สมบูรณ์ ตอนเก็บจึงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะของเช่นยี่โถปีนัง รากเล็กบางหยั่งลึกลงไปในดิน หากดึงรากมันขาดโดยไม่ระวัง ฤทธิ์ยาจะลดทอนลง สรรพคุณก็ลดลงมาก
ด้วยเหตุนี้ หลังจากพบยี่โถปีนัง เฟิ่งจิ่วจึงนั่งย่อลงขุดใต้ต้นไม้อย่างแช่มช้า เขี่ยดินด้านบนออกไปทีละน้อย ทำให้รากทั้งหมดออกมาอย่างสมบูรณ์ด้วยความระวัง
กระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป หลังจากเธอขุดยี่โถปีนังออกมาก็ถือดู ในใจพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ‘ไม่เลวเลย ยี่โถปีนังลักษณะนี้มีอายุเกือบร้อยปี ข้าว่าใช้ผสมลงในยา สรรพคุณต้องดีมากแน่ๆ’
เธอเผยรอยยิ้ม หยิบกล่องทรงยาวสีแดงออกมาจากห้วงมิติ แล้ววางยาทิพย์เข้าไปเก็บในกล่องอย่างระมัดระวัง
………………………………………………….
ตอนที่ 1104 เจ้าเด็กเวร
“วางยี่โถปีนังต้นนั้นลงเสีย”
เสียงหนึ่งที่มาอย่างกะทันหันทำให้เฟิ่งจิ่วตกใจเล็กน้อย และเงยหน้ามองไปตามเสียง เห็นว่าคนพูดเป็นชายวัยกลางคนอายุสามสิบกว่าปี รูปร่างผอมบาง กลิ่นอายอึมครึม ด้านหลังของเขามีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดสามคน รวมถึงผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขั้นเริ่มต้นคนหนึ่งตามมา
เฟิ่งจิ่วเก็บกล่องไปแล้ว คนพวกนั้นนึกว่าเธอแค่เก็บใส่ถุงฟ้าดิน ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น แต่ยามนี้หมายตายี่โถปีนังอย่างไม่ต้องสงสัย
“นั่นเป็นของที่ข้าเก็บได้ พวกเจ้าอยากได้ไม่ไปหาเองเล่า” เธอเลิกคิ้วขึ้น ยี่โถปีนังก็ใช่ว่าจะหาไม่ได้ มันคุ้มหรือที่จะมาแย่งของเธอไป?
“บอกให้เจ้าส่งมาก็ส่งมา!” ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่อยู่ด้านหลังตะโกนพลางจ้องมองเฟิ่งจิ่วด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
เฟิ่งจิ่วยกริมฝีปากขึ้น ชายตามองผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้น “เจ้าส่งถุงฟ้าดินตรงเอวมาให้ข้าสิ ข้าอาจจะพิจารณามอบยี่โถปีนังให้พวกเจ้าก็ได้”
คิดจะเอาของจากเธอไปโดยใช่เหตุหรือ จะเป็นเรื่องง่ายเพียงนั้นเชียว?
“รนหาที่ตาย!”
ไม่พูดไม่จาก็หาเรื่องกัน ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังตะโกนลั่น ตั้งใจจะทดสอบพลังของเฟิ่งจิ่ว ถึงอย่างไรคนที่เข้ามาในสถานที่เช่นนี้ได้ พวกเขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นลูกพลับอ่อนที่บีบได้ง่ายๆ อยู่แล้ว
ทว่า สิ่งที่ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงคือเมื่อสิ้นเสียงตะโกน ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังกำลังจะลงมือ เด็กหนุ่มชุดแดงที่ก่อนหน้านี้มีสีหน้าไม่หวั่นเกรงก็ร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนก
“อ๊าก! พวกเขาจะฆ่าข้า! ข้าโดนปล้นแล้ว!”
เด็กหนุ่มสับขาวิ่งมาหาพวกเขาทางนี้ พุ่งผ่านข้างกายพวกเขาไปได้อย่างไรไม่รู้ นึกไม่ถึงว่าพวกเขายังไม่ทันได้ขวางไว้ก็เห็นฝ่ายตรงข้ามหนีไปไกลกว่าสามสิบจั้งแล้ว
“สมควรตาย! มันขโมยถุงฟ้าดินของพวกเราไป!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณตะโกนด่า ก่อนจะหมุนตัวไล่ตามเฟิ่งจิ่วไปเป็นคนแรก หลังจากผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเอ่ยเตือน คนอื่นๆ ด้านหลังต่างก้มหน้ามอง มองคราวนี้สีหน้าล้วนถมึงทึงขึ้นมา
ตรงข้างเอวของพวกเขาว่างเปล่า ถุงฟ้าดินที่ห้อยไว้หายไปหมด ครั้นนึกถึงสมบัติมากมายในถุงฟ้าดิน พวกเขาก็กัดฟันไล่ตามเด็กหนุ่มชุดแดงไปอย่างรวดเร็ว
เดิมทีคิดจะแย่งยี่โถปีนังที่เด็กหนุ่มชุดแดงเก็บได้ ถึงอย่างไรเรื่องปล้นชิงเช่นนี้ก็เห็นได้บ่อยนักข้างในนี้ ที่นี่ไม่มีข้อกำจัดด้านศีลธรรม มีเพียงพละกำลังแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ คนแข็งแกร่งล้วนปล้นชิงสิ่งของจากคนอื่นหรือถึงขั้นสังหารคนได้
ข้อนี้กลายเป็นที่ยอมรับภายในนี้ไปแล้ว แม้แต่ตระกูลชั้นสูงต่างๆ ยามอยู่ในนี้ก็ยังเดินทางเป็นหมู่คณะ หนึ่งคือป้องกันไม่ให้กลายเป็นเป้าโดนคนเพ่งเล็ง สองคือเมื่อพบของดีอะไรจริงๆ พวกเขาก็จะมีกำลังช่วงชิงมา
แต่ไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มชุดแดงที่พวกเขาเพ่งเล็งจะกล้าขโมยถุงฟ้าดินของพวกตนไปซึ่งๆ หน้า
เมื่อนึกถึงว่าถุงฟ้าดินของตนโดนชิงไป ซ้ำคนขโมยยังเป็นเจ้าเด็กชุดแดงอายุไม่ถึงยี่สิบปี ความคิดที่อยากจะสังหารในใจของพวกเขายิ่งมากขึ้น
เจ้าเด็กนั่น อย่าให้พวกเขาจับเขาได้เชียว!
ยามนี้เฟิ่งจิ่วที่เก็บถุงฟ้าดินของคนพวกนั้นวิ่งหนีไปยิ้มตาหยี ยังไม่ได้ดูว่าในถุงฟ้าดินมีอะไรก็วิ่งให้คนด้านหลังไล่ตามเสียแล้ว
คิดจะแย่งของจากเธอหรือ เธอก็ขโมยของพวกเขาก่อนเสียเลย! ดูซิว่าพวกเขาจะกล้ามาหาเรื่องเธออีกหรือไม่
“หยุดนะ! เจ้าเด็กเวร เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณด้านหลังด่าทอด้วยความโมโห สีหน้าบึ้งตึงมีจิตสังหารน่าสะพรึงกลัว แต่เดิมคิดว่าอีกไม่กี่ชั่วอึดใจก็ไล่ตามทันแล้ว ใครจะรู้ว่ากลับทิ้งระยะอยู่ตลอดจึงไม่อาจเข้าใกล้ได้
………………………………………………….