เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1109 ตื่นกลัว + ตอนที่ 1110 กำลังอารมณ์ไม่ดี
ตอนที่ 1109 ตื่นกลัว + ตอนที่ 1110 กำลังอารมณ์ไม่ดี
ตอนที่ 1109 ตื่นกลัว
เมื่อได้ยินเสียงสนั่นที่ดังมาข้างหลังและเสียงก่นด่าจากผู้ฝึกวิชาเซียนพวกนั้น เฟิ่งจิ่วไม่หันไปมอง แต่เรียกพลังทะยานผ่านไปด้วยความเร็วสูง ไม่ทันไรก็หายไปจากสายตาอีกครั้ง ทำให้พวกเขาแต่ละคนโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเปล่งเสียงคำราม
“เจ้าเด็กเวร! เจ้าอย่าหนีนะ!”
เพราะนึกถึงว่ากำลังของงูยักษ์แข็งแกร่งกว่าเดิม บนหัวยังมีก้อนสีแดงอีก เฟิ่งจิ่วจึงไม่คิดจะสู้ด้วย ทันทีที่สลัดทุกคนรวมถึงงูพิษด้านหลังทิ้งได้ เธอก็เก็บกลิ่นอายและมาที่หน้าผาสูง
ครั้นเห็นยาทิพย์ที่เติบโตบนหน้าผาสูง ดวงตาของเธอเปล่งประกาย เป็นยาทิพย์ที่เธอตามหานั่นเอง หลังจากหายาทิพย์พบ เธอตั้งใจจะกลับอาศรมไปกลั่นยาอายุวัฒนะ ที่นั่นมีเขตอาคม ต่อให้งูพวกนั้นคิดตามหาเธอก็ไม่แน่ว่าจะหาพบได้ อีกทั้งพวกของต้วนเยี่ยอยู่ทางนั้น เธอไม่ค่อยน่าวางใจสักเท่าไร
แม้บอกว่ามีกลืนเมฆาดูแลทางนั้นอยู่ แต่ตนเองอยู่ข้างกายพวกเขาจะวางใจกว่า อย่างน้อยต่อให้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็จัดการได้เลยทันที
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพื้นที่แตกต่างกันหรือไม่ เหมือนว่าตั้งแต่เข้ามาแถวนี้เธอก็รู้สึกว่าท้องฟ้าไม่จำกัดการบิน เพียงแต่บนฟ้าเปิดโล่งตกเป็นเป้าได้ง่าย ทั้งยังมีต้นไม้อยู่ทั่วทุกที่ในป่า ด้วยเหตุนี้จึงมีน้อยคนนักที่บินไปมา
ก่อนหน้านี้เธอนึกว่าเขตพื้นที่นี้บินไม่ได้เหมือนพื้นที่คราวก่อน ทว่าหลังจากหลบหนีการไล่ล่าของงูพิษและผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นมา ประสาทสัมผัสที่เฉียบคมกลับรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของที่นี่กับสถานที่ก่อนหน้านี้
ในเมื่อไม่ห้ามบิน เธอก็ใช้พาหนะเหาะเหินขึ้นไปได้ ไม่อย่างนั้นลำพังแค่ปีนขึ้นไปคงได้ไม่ถึงครึ่งหน้าผา
เธอตัดสินใจแน่วแน่ โยนขนนกบินแล้วกระโดดขึ้นไปเบาๆ จากนั้นนั่งขนนกบินมาตรงกลางหน้าผาสูง แล้วเด็ดยาทิพย์ที่เติบโตบนหน้าผาออกมาเก็บเข้าห้วงมิติ
เวลานี้ เธอไม่รู้ว่าตนเองหนีไปแล้ว แต่ผู้ฝึกวิชามารกับผู้ฝึกตนพวกนั้นยังโดนงูพิษไล่ตามจนไม่เหลือทางหนี โดยเฉพาะบริเวณที่พวกเขาอยู่ ผู้ฝึกวิชามารเสียคนไปไม่น้อยท่ามกลางการต่อสู้
ส่วนผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองสามคนและระดับกำเนิดวิญญาณก็ระวังกันมากขึ้น เมื่อฝูงงูเหล่านั้นล้อมโจมตีเหล่าผู้ฝึกวิชามาร พวกเขาตัดต้นไม้ทำให้ภายในป่าที่มีแมกไม้บดบังปกคลุมปรากฏโพรงใหญ่ทันที แล้วเรียกพลังกระโจนขึ้นไปโดยเร็ว คิดจะขี่กระบี่บินขึ้นไปตามความคิดที่ตั้งมั่นไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงงูพิษบนพื้นพวกนั้น ไม่นึกว่าขึ้นมาแล้วถึงจะรู้ว่าละแวกนี้ไม่มีการห้ามบิน
“ขี่กระบี่ออกห่างจากพื้นดินเร็วเข้า!”
หัวหน้าผู้ฝึกวิชามารเห็นคนพวกนั้นขี่กระบี่หนีไป ก็เรียกกระบี่บินออกมาทันใด แล้วร่อนกระบี่หนีจากการปิดล้อมสังหารบนพื้นดิน
ทว่า ภายใต้ความหวาดกลัวรวมถึงการล้อมโจมตีของฝูงงู ความคิดของเหล่าผู้ฝึกวิชามารเบื้องล่างยังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่มีทางบินหรือหนีไปได้ จึงไม่ทันนึกว่าที่นี่พวกเขาก็ขี่กระบี่บินไปได้เช่นกัน
ถูกต้อง ป่าทึบแถบนี้บดบังเสียจนมองไม่เห็นท้องฟ้า อีกทั้งในเขตพื้นที่ตอนเข้ามายังบินไม่ได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงนึกว่าข้างในนี้บินไม่ได้เลย เมื่ออันตรายมาเยือน บางคนยืนหยัดสู้ด้วยความคิดว่าจะลองสักตั้ง บางคนกลับลนลานตื่นตกใจ เอาแต่วิ่งไปข้างหน้าไม่หยุด พยายามจะสลัดทิ้งอันตรายข้างหลัง
“อ๊าก…”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นในป่า โดยเฉพาะตอนกลุ่มผู้ฝึกตนที่ขี่กระบี่ยืนอยู่กลางอากาศรวมถึงผู้ฝึกวิชามารสองสามคนเห็นงูยักษ์ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดที่เลื้อยออกมาในป่าเบื้องล่าง ยิ่งตกใจเสียจนต้องสูดลมหายใจเย็น
………………………………………………….
ตอนที่ 1110 กำลังอารมณ์ไม่ดี
“ทำไมถึงมีสัตว์ยักษ์ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดด้วย!”
พวกเขารู้ว่าเทือกเขาแห่งความตายมีสัตว์ร้าย แต่ที่นี่ไม่ใช่ส่วนลึกของเทือกเขา นับได้ว่าเป็นบริเวณรอบนอกเท่านั้น ต่อให้อสูรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวในสถานที่เช่นนี้ ก็ไม่มีทางเป็นขั้นสูงสุดได้
ทว่าเวลานี้ แรงกดดันที่งูยักษ์ข้างล่างแผ่ออกมาเป็นกลิ่นอายของอสูรศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด พวกเขาเข้าใจแล้ว มิน่างูพิษมากมายเพียงนั้นถึงกรูกันออกมารอบๆ นี้ อสูรศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดเป็นงู ไม่ต้องพูดถึงว่าแถวนี้เป็นแค่รอบนอก ถึงแม้งูตัวนี้เข้าไปในเขตด้านในก็กลายเป็นราชาของงูได้เหมือนกัน
ตอนพวกเขาหยุดลงกลางฟ้าพลางมองงูยักษ์ด้านล่างอย่างหวาดหวั่น นึกไม่ถึงว่างูยักษ์จะเงยหน้าขึ้นมา ใช้ดวงตาดุร้ายกระหายเลือดมองผ่านร่างพวกเขา หลังจากสังเกตรอบหนึ่งแล้วถึงหดกลับไป ประหนึ่งกำลังหาอะไรบางอย่าง มองข้ามพวกเขา แล้วเข้าไปยังส่วนลึกในป่าต่อ
ทุกคนบนฟ้าเห็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจเบาๆ มองงูยักษ์ห่างออกไปไกล ขณะเลื้อยหางของมันยังตบพื้นดินบ่อยครั้ง คล้ายกำลังบอกว่า ‘ข้ามาแล้ว’ พวกเขาเห็นแล้วสั่นกลัวทว่าก็สงสัยด้วย
งูตัวนี้กำลังหาอะไร?
ส่วนเฟิ่งจิ่ว ยามนี้เธอกำลังนั่งขนนกบินกลับเพื่อหลบเลี่ยงงูบนพื้น พลางสังเกตเบื้องล่างว่ามีงูยักษ์โผล่มาหรือไม่
จนตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจ งูยักษ์กินยาอายุวัฒนะของเธอไปทำไมไม่ตัวระเบิดตาย แต่เหมือนจะบรรลุขั้น หนำซ้ำยังกลายพันธุ์ด้วย? แล้วทำไมบนหัวถึงมีก้อนใหญ่สีแดงปูดขึ้นมา?
ตอนกำลังคิดก็พลันเกิดเสียงดังฟุ่บ จิตสังหารพุ่งจากพื้นดินขึ้นมาหาเธอ ขณะที่เธอเรียกสติกลับมาก็หลบอาวุธลับที่ยิงมาหา สายตาคมกริบมองไปข้างล่าง
ผู้ฝึกวิชามารสิบกว่าคนขี่กระบี่ขึ้นมาจากด้านล่าง กระจายตัวไปรอบๆ และเข้าล้อมเฟิ่งจิ่วไว้ แต่ละคนจ้องมองอย่างมุ่งร้าย ว่ากันตามจริงคือจับจ้องขนนกบินที่เธอนั่งอยู่
“ขนนกเคลือบหลากสี เจ้าหนู เจ้ามาจากไหน?” ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งจ้องเฟิ่งจิ่วพลางถาม นัยน์ตาเปิดเผยความละโมบอย่างโจ่งแจ้ง
เฟิ่งจิ่วชายตามองพวกเขา “ได้มาจากไหนแล้วอย่างไร คิดจะปล้นกันรึ? พวกเจ้ามีฝีมือหรือไร?” ในหมู่สิบสามคน สิบคนในนั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน สามคนเป็นระดับหลอมแก่นพลัง กองกำลังเช่นนี้ก็คิดจะมาปล้นของจากมือของเธอ?
แต่ว่าที่บัดซบนี่เดินสามก้าวเจอสัตว์อสูร สิบก้าวก็โดนปล้น จะหลอกกันเกินไปแล้ว เธออยากหนีจากงูพวกนั้นและกลับอาศรมไปกลั่นยาเซียน ยังจะเจอคนมาหาเรื่องกันได้
เฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่ใช้สองแขนยันขนนกกระโดดขึ้นมายืนเบาๆ ชุดแดงพลิ้วไหวท่ามกลางสายลม ยามนี้ใบหน้างดงามเปลี่ยนไปเย็นชาดุดัน ราวกับปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
“ตอนนี้ข้ากำลังอารมณ์ไม่ดี! พวกเจ้าก็มาตอแยข้า คนมาหาถึงที่ เช่นนั้นอย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจแล้วกัน”
เสียงเย็นเยือกดังออกไปพร้อมความหนาวเหน็บ ไอสังหารที่ชวนขนลุกกระจายออกจากร่างของเธอ บุคลิกท่าทางเปลี่ยนไป ต่างจากคนเฉื่อยชาก่อนหน้านี้เหมือนเป็นคนละคน
สิบกว่าคนนั้นเห็นว่าเด็กหนุ่มชุดแดงพลันเปลี่ยนไปดุดันน่าหวาดกลัว แรงกดดันและจิตสังหารบนร่างน่าพรั่นพรึง ก็ใจสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้ ตกตะลึงและลังเลกันเล็กน้อย
คนคนหนึ่ง จู่ๆ จะเปลี่ยนไปดุจเทพสังหารได้อย่างไร กลิ่นอายบนร่างเด็กหนุ่มและจิตสังหารนี้ทำให้พวกเขาเห็นแล้วอดตื่นกลัวไม่ได้ มาระรานเขา นี่พวกเขาทำถูกแล้วหรือไม่?
ชั่วเวลานี้ บางคนเริ่มลังเลแล้ว ถึงอย่างไรก็รอดชีวิตอยู่ในนี้มาตั้งนาน มีสายตาที่มองคนเป็นอยู่ รัศมีอำนาจซึ่งเด็กหนุ่มเผยออกมาในตอนนี้ไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะล่วงล้ำได้
………………………………………………….