เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1127 ยังไม่ทันถาม + ตอนที่ 1128 ตระกูลหลิงแห่งเมืองใต้แคว้นระดับหนึ่ง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1127 ยังไม่ทันถาม + ตอนที่ 1128 ตระกูลหลิงแห่งเมืองใต้แคว้นระดับหนึ่ง
ตอนที่ 1127 ยังไม่ทันถาม + ตอนที่ 1128 ตระกูลหลิงแห่งเมืองใต้แคว้นระดับหนึ่ง
ตอนที่ 1127 ยังไม่ทันถาม
เคล็ดวิชาลูกไฟเช่นนั้น ปกติแรงกดดันที่แสดงออกมาไม่มีทางมากเพียงนั้น ยิ่งไปกว่านั้นอายุเด็กหนุ่มก็ไม่มาก กลับสามารถแสดงเคล็ดวิชาโจมตีธาตุออกมา เห็นได้ว่าไม่ธรรมดา
อีกอย่างเด็กหนุ่มพวกนี้ล้วนเป็นเพียงวรยุทธ์ระดับสร้างรากฐาน นึกไม่ถึงว่าจะกล้าสู้ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น จิตใจเช่นนี้เทียบหนุ่มสาวคนรุ่นหลังในตระกูลพวกเขาไม่ได้เลย
ดูจากกำลังต่อสู้ของพวกเขาก่อนหน้านี้ ในหมู่พวกเขากำลังต่อสู้ของหนุ่มน้อยหน้าเด็กแข็งแกร่งที่สุด เขาสามารถใช้วรยุทธ์ระดับสร้างรากฐานก้าวข้ามไปสังหารผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังได้ จากนี้ไปไม่นานจะยิ่งไม่ธรรมดา
“แหะๆๆ ไม่ต้องขอบคุณๆ พวกเราไม่ช่วยพวกท่านเปล่าหรอก”
หนิงหลางหรี่ตายิ้มพลางเอ่ย สองมือลูบท้องอ้วนกลม แล้วบอกผู้ฝึกตนระดับเนิดวิญญาณว่า “เป็นเช่นนี้! ข้าเพิ่งนับไป พวกท่านตรงนี้มียี่สิบเก้าคน ขอแค่ให้ค่าช่วยชีวิตคนละแสนก็ได้ แน่นอนว่านี่เป็นเพียงราคาของวรยุทธ์ระดับสร้างรากฐานคนอื่นๆ พวกนั้น ส่วนผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแปดคนต้องให้สองแสน ส่วนใต้เท้าระดับกำเนิดวิญญาณท่านนี้ต้องให้สามแสนกับของวิเศษสี่ชิ้น”
เขาเห็นสีหน้าแต่ละคนคร่ำเครียด ก็กล่าวอย่างหัวเราะร่า “พวกเราช่วยชีวิตพวกท่าน ข้อนี้พวกท่านคงไม่ปฏิเสธกระมัง? พวกเราจะไม่ปล้น เพราะพวกเราไม่ใช่โจร มิเช่นนั้นเมื่อครู่คงอาศัยตอนพวกท่านสลบไปกันหมดฆ่าพวกท่านทีละคนและขโมยสิ่งของติดตัวของพวกท่านไปแล้ว ใช่หรือไม่?”
“ดังนั้นจึงบอกว่าพวกเราช่วยคนมากมายเพียงนี้ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บ จะมีค่าช่วยชีวิตอะไรนิดหน่อยก็เป็นเรื่องปกติมาก พวกท่านว่าใช่หรือไม่?” เขายังคงยิ้มแย้มเหมือนไม่เห็นว่าคนของตระกูลนั้นสีหน้าเคร่งเครียดในความตกตะลึง ดวงตาที่หรี่กลายเป็นเส้นมองไม่เห็นแววตาและท่าทีในดวงตา
“เช่นนี้จะต่างอะไรจากตีชิงตามไฟ?” ผู้ฝึกตนอายุสามสิบกว่ากำหมัดพลางตะโกนกราด ชัดเจนว่าไม่คิดว่าเด็กหนุ่มพวกนี้จะกล้าเสนอราคาพวกเขาเช่นนี้
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวขอบคุณพวกเขาด้วยตนเอง นึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มยังกล้าเรียกร้องเงินและของวิเศษจากพวกเขา?
“หา? ท่านกล่าวเช่นนี้ได้อย่างไร? เห็นชัดๆ ว่าพวกเจ้าช่วยพวกท่านนะ!” หนิงหลางมองเขาอย่างไม่ชอบใจ “พวกท่านไม่ได้ยินหรือ? ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นบอกว่าฆ่าผู้ชายเสีย ผู้หญิงจับกลับไป หากพวกเราไม่ช่วยเหลือ พวกท่านก็ตายไปเสียจนตายไม่ได้อีกตั้งนานแล้ว ตอนนี้ข้าเก็บค่าช่วยชีวิตจากพวกท่านบ้าง ทำไม? ไม่อยากให้หรือไร?”
“เจ้า!”
“เอาล่ะ!” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณตะโกนเสียเข้ม ดวงตาเฉียบคมกวาดมองผู้ชายที่พูดไป “ใครให้เจ้าไร้ระเบียบเช่นนี้? ยังไม่ถอยไปอีก!”
ชายคนนั้นกัดฟันอย่างโกรธเคือง ทำได้เพียงขานรับและถอยออกมา
“เช่นนี้ถูกต้องแล้ว ใครให้ท่านไม่มีระเบียบ ไม่ดูเสียหน่อยเล่า พวกเราเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพวกท่าน หากไม่มีพวกเราจะมีพวกท่านได้หรือ?” หนิงหลางกล่าวภูมิใจยิ่ง
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสงบสติอารมณ์ ก่อนจะเผยรอยยิ้ม “เหอะๆๆ คุณชายท่านนี้ อย่าไปสนใจเขาเลย ข้าขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย”
“ไม่ต้องๆ พวกเราไม่ช่วยพวกท่านเปล่าๆ มารยาทอะไรพวกนี้พวกเราไม่ถือสา คุยกันตรงๆ ก็ได้” หนิงหลางโบกๆ มือเอ่ย
“ใช่ๆ” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณยิ้มๆ แล้วบอกว่า “เอาตามคุณชายว่าแล้วกัน! จ่ายเงินเล็กน้อยแค่นี้ก็ขัดผู้มีพระคุณอย่างทุกท่านไม่ได้จริงๆ โอ้ ใช่ ข้าแซ่หลิน ยังไม่ทันถามชื่อเสียงเรียงนามของคุณชายทุกท่านเลย?”
………………………………………………….
ตอนที่ 1128 ตระกูลหลิงแห่งเมืองใต้แคว้นระดับหนึ่ง
ไหนเลยจะรู้ หนิงหลางเชิดคางขึ้นและสะบัดแขนเสื้อกล่าวว่า “ชื่อเป็นเพียงคำเรียก ไม่เอ่ยถึงก็ไม่เป็นไร”
คนของตระกูลเห็นเช่นนี้บางคนแอบๆ ขมวดคิ้ว ดวงตาเผยความไม่พอใจ บางคนสีหน้าถมึงทึงทันควัน คิดว่าเด็กหนุ่มพวกนี้ช่างไม่รู้จักดีชั่ว
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณหลังจากแจ้งแซ่ของตนเองก็ถามชื่อแซ่อีกฝ่าย ไม่คิดว่าเขาจะไม่บอก? ไม่ใช่แสร้งอายเรียกราคาจะเป็นอะไรได้?
มีแค่ส่วนน้อยสองสามคนใบหน้าไร้อารมณ์ เฝ้ามองไปเงียบๆ
แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณได้ยินคำพูดของหนิงหลาง แค่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มเอ่ยว่า “เอาเถอะ! ทุกท่านพักผ่อน ข้าจะสั่งคนนำเหรียญทองกับของวิเศษมา”
กล่าวจบก็หันกลับไปบอกสองสามคนเสียงเบา ไม่นานนักถุงฟ้าดินใบหนึ่งจึงส่งมาถึงในมือของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ เขายื่นให้หนิงหลาง
“คุณชายท่านนี้ ตรงนี้มีห้าล้านเหรียญทอง รวมถึงของวิเศษป้องกันตัวห้าชิ้น โปรดรับไว้ด้วย”
“หา? ห้าล้านเหรียญทองกับของวิเศษป้องกันตัวห้าชิ้น? เยอะไปแล้ว!” หนิงหลางมองเขาพลางเอ่ย
“เหอะๆๆ ข้าหวังจะสานไมตรีกับพวกท่านจึงนำมามากเช่นนี้ ทุกท่านรับไว้เถอะไม่ต้องเกรงใจ! อันที่จริงเทียบกับพวกท่านที่เสียงชีวิตช่วยเหลือ เงินทองแค่นี้ไม่เท่าไรเลยจริงๆ หากพวกท่านไปจวนตระกูลหลินในเมืองหลวงแคว้นระดับหนึ่ง ข้าจะเลี้ยงอาหารทุกท่าน นับเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ”
คนของตระกูลเห็นผู้อาวุโสสูงสุดพูดคุยกับพวกเขาอย่างสุภาพเช่นนี้ ซ้ำยังนำเหรียญทองกับของวิเศษมากมายเพียงนั้นมามอบให้ ในใจอดแปลกใจไม่ได้กลับไม่ถามอะไรมาก เพียงมองห้าคนนั้น
ห้าคนนี้นอกจากจะอายุน้อยไปหน่อย หน้าตาท่าทางโดดเด่น ใจกล้าเกินคน อันที่จริงก็มองไม่ออกว่ามีอะไรพิเศษตรงไหน ทำไมผู้อาวุโสสูงสุดกลับมองต่างออกไป?
สองสามคนที่พักอยู่ข้างกันได้ยินคำพูดของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ ก็มองไปทางนั้นโดยไม่ปริปาก แต่หยิบกระเป๋าเก็บน้ำมาดื่มดับกระหายเสียหน่อย พลางรอหนิงหลางจัดการเรื่องให้เสร็จ
หนิงหลางได้ยินคำพูดของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ นิ้วมือลูบบนท้องอย่างเบามือ เอียงคอคิดๆ แล้ว ถึงจะยื่นมือไปรับ “เอาเถอะ! ในเมื่อผู้อาวุโสหลินเกรงใจกันเพียงนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ปฏิเสธ แหะๆๆ สิ่งของอื่นๆ ข้าไม่ชอบ แต่เงินอะไรนี่กลับไม่อาจต้านทาน”
เขารับถุงฟ้าดินมาและตรวจดูต่อหน้า ถึงจะเก็บเข้าในห้วงมิติไป จากนั้นค่อยบอกพวกเขาว่า “เช่นนั้นพวกเราขอลา มีโอกาสค่อยเจอกันอีก”
พูดจบจึงทยอยออกไปพร้อมพวกของเฟิ่งจิ่ว ไม่นานนักก็หายไปจากสายตาของคนพวกนั้น
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด เจ้าเด็กนี่อวดดีนัก นึกไม่ถึงว่าจะเปิดถุงฟ้าดินตรวจดูต่อหน้า เขาไร้มารยาทเช่นนี้ ทำไมท่านผู้อาวุโสสูงสุดยังปฏิบัติอย่างสุภาพเพียงนี้?”
“ใช่ พวกเขามีแค่ห้าคน อีกอย่างพละกำลังก็อยู่แค่ระดับสร้างรากฐาน หากพวกเราจะสู้ พวกเขาไม่รอดแน่ๆ”
“คนพวกนี้โอหังเหลือเกินจริงๆ ท่านผู้อาวุโสสูงสุดแจ้งแซ่ของตนเองและถามชื่อพวกเขา นึกไม่ถึงว่าจะไม่แยแส”
“เอาล่ะ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามลอยมาจากปากของผู้อาวุโสสูงสุด พร้อมด้วนแรงกดดันระดับกำเนิดวิญญาณ ทำให้พวกเขาเงียบปากไปกันทันที แต่ละคนไม่กล้าปริปาก
“พวกเจ้าคิดว่าจะรังแกคนพวกนี้ได้ง่ายๆ? และเค้นคอฆ่าได้ตามใจหรือ?” ผู้อาวุโสสูงสุดมือไพล่หลังหันมากวาดมองทุกคนข้างหลัง กล่าวว่า “พวกเจ้าโชคไม่ดีกระมัง? หรือไม่รู้ว่ากลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างของพวกเรายังไม่ฟื้นคืนมา?”
………………………………………………….