เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1139 ส่งไข่มาเสียดีๆ + ตอนที่ 1140 เสียงซ่าๆ
ตอนที่ 1139 ส่งไข่มาเสียดีๆ + ตอนที่ 1140 เสียงซ่าๆ
ตอนที่ 1139 ส่งไข่มาเสียดีๆ
คิดจะล่อมันออกไปก่อน ค่อยไปหาหนิงหลาง
เห็นมนุษย์สวมชุดแดงข้างล่างพุ่งไปในป่า นกอินทรีบนท้องฟ้าโกรธเคืองอย่างยิ่ง จุดแข็งของมันคือการบิน กำลังต่อสู้ก็อยู่ในอากาศ ท่าทางมนุษย์เจ้าเล่ห์เข้าไปหลบในป่าไม่คิดสู้ มันที่จับไม่ได้ต้องจำใจไล่ตามมนุษย์ไปติดๆ ไม่ปล่อย
“ฟิ้ว! ฟิ้วๆๆ!”
“ผัวะๆๆ…”
เสียงกระแสลมดุดันดังขึ้นทุกทิศทางในป่า ใบมีดลมคมกริบผาดตัดต้นไม้พวกนั้นขาดไปผืนใหญ่ พากันล้มลงพื้นเสียงดังสนั่น แรงกดดันระดับสัตว์เทวะรวมถึงจิตสังหารรุนแรงทำให้สัตว์ร้ายในป่าต่างหลบเลี่ยง
ภายในป่านี้ผู้ฝึกตนกลุ่มหนึ่งรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวเหล่านั้น ก็ดวงตาเป็นประกาย
“แรงกดดันระดับสัตว์เทวะ! นึกไม่ถึงว่าในรอบนอกจะมีสัตว์เทวะด้วย?”
“เร็วเข้า! พวกเราไปดูเสียหน่อย! ดูว่าเป็นสัตว์เทวะชนิดใด หากกำลังต่อสู้แข็งแกร่ง พวกเรายังรวมมือกันกำราบมันได้!”
ผู้ฝึกตนพวกนั้นเอ่ยขึ้น ไม่หลบออกไป ตรงกันข้ามยังไล่ตามไปบริเวณเสียงนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว อันตรายใดๆ ก็เลิกสนใจไปตั้งนานแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการคือทำอย่างไรถึงจะดีและได้ประโยชน์ต่อตนเองที่สุด
หลังจากไล่ตามไปหลายร้อยจั้ง เมื่อพวกเขาทะลุผ่านแมกไม้ไปเห็นนกอินทรีกลางเวหา ก็อดตะลึงในใจไม่ได้ “เป็นอินทรีนักสู้ตัวผู้! ระดับสัตว์เทวะขั้นเริ่มต้นรับมือไม่ยากมาก พวกเราร่วมมือกันน่าจะจัดการมันได้!”
“แต่อินทรีตัวนั้นเหมือนจะกำลังไล่ตามอะไร มันพูดว่าไข่อะไรเนี่ยแหละ?”
“ไข่? หรือว่ามีคนเก็บไข่ของมันไป? ไข่ที่เกิดจากสัตว์เทวะ ต้องมีราคาแน่นอน!”
นึกถึงข้อนี้ผู้ฝึกตนพวกนั้นท่าทางตื่นเต้น ก่อนจะเร่งแบ่งกันเป็นสองกลุ่ม “ระดับกำเนิดวิญญาณนำกลุ่มไป กลุ่มหนึ่งไล่ตามคนขโมยไข่ อีกกลุ่มตามข้าไปจับอินทรีมา!”
ดังนั้นจึงเห็นกองกำลังเกือบเจ็ดสิบแปดสิบคนแบ่งเป็นสองกลุ่ม ทุกกลุ่มต่างนำกลุ่มมุ่งหน้าไปโดยผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ บริเวณข้างหน้าเฟิ่งจิ่วยังพุ่งไปในป่า กระทั่งไปสักระยะหนึ่ง พลันรู้สึกว่าข้างหลังเหมือนจะผิดปกติเล็กน้อยจึงหันกลับไปมอง
เพียงเห็นผู้ฝึกตนหลายสิบคนร่อนกระบี่มาไม่รู้ว่าถืออะไรไว้ในมือ ยิงตาข่ายใหญ่สีเงินออกมาจับนกอินทรี แล้วลากมันลงจากบนฟ้าเสียดื้อๆ
“ตู้ม!”
เสียงดังสนั่นลอยมา แม้แต่พื้นดินยังสะเทือนอย่างรุนแรง
เธอก้าวช้าลงเล็กน้อย มองบริเวณที่ต้นไม้ล้มระเนระนาด ฝุ่นควันตรงนั้นตลบขึ้น เหมือนจะมาพร้อมเสียงกรีดร้องแหลมๆ ได้ยินเสียงกรีดร้องนั้น ฝีเท้าที่เดิมทีจะสาวออกไปกลับทำอย่างไรก็ก้าวไม่ออก
ว่ากันตามเหตุผล เธอควรใช้โอกาสนี้หนีไป แล้วรีบไปรวมกับพวกของหนิงหลาง แต่ได้ยินเสียงกรีดร้องของนกอินทรีข้างหลัง ในใจกลับลังเลขึ้นมา
ไม่ว่าอย่างไร นกอินทรีก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรเธอ ตรงกันข้ามแม้บอกว่านั่นไม่ใช่ไข่ที่มันให้กำเนิด แต่พวกเขาเก็บไข่ของมันไปจริงๆ หากทำให้มันโดนคนพวกนั้นจับเพราะเหตุนี้ เช่นนั้น…
นึกถึงตรงนนี้เธอก้าวเดินไปตามเสียง ทว่าเดินไปไม่ทันไรก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งโผล่มาตรงหน้าและปิดล้อมเธอไว้
“เจ้าหนู เจ้าขโมยไข่อะไรไปใช่หรือไม่?” ชายฉกรรจ์ใบหน้ามีรอยดาบเชิดคางขึ้นเอ่ยถาม
“รีบส่งมาเสียดีๆ มิเช่นนั้น หึๆ!” อีกคนหนึ่งแค่นเสียงเย็น พร้อมจ้องมองเฟิ่งจิ่วอย่างมุ่งร้าย
………………………………………………….
ตอนที่ 1140 เสียงซ่าๆ
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนหัวหน้าจ้องมองเด็กหนุ่มหน้าตางดงามในชุดแดงแพรวพราวตรงหน้า นัยน์ตาเผยความครุ่นคิดและระวังตัว ท่าทางของเด็กหนุ่มไม่กลัวหรือตกใจ ตั้งแต่เห็นพวกเขาปรากฏตัวก็ไม่เคยแสดงความขลาดกลัวและตื่นตระหนก เหมือนจะไม่ปกติสักเท่าไร
คิดให้ลึกอีกสักชั้น ไม่นึกว่าเด็กหนุ่มจะสามารถขโมยไข่จากนกอินทรีระดับสัตว์เทวะ? เห็นได้ว่าฝีมือและพละกำลังของเขาไม่ธรรมดา อีกอย่างเขายังไม่กลัวแรงกดดันระดับสัตว์เทวะ? ภายใต้การไล่ล่าของนกอินทรียังปลอดภัยไร้บาดแผลได้ ชัดเจนว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
เป็นเพราะความหวาดหวั่นในใจ เขาจึงสงบสติอารมณ์ แล้วเข้าขวางสองคนที่ตะโกนแหกปากข้างหน้า ก้าวเข้าไปเอ่ยกับเด็กหนุ่มรูปงามในชุดแดงว่า “ส่งไข่นกอินทรีมาเสีย ข้าจะปล่อยเจ้าออกไปอย่างปลอดภัย”
เพียงเอ่ยออกไปเช่นนี้ ทุกคนด้านหลังผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณก็อดงุนงงไม่ได้ “ปล่อยเขาไป? ได้อย่างไรเล่า? เจ้าหนูดูมีสิ่งของดีๆ ติดตัวไม่น้อย แน่นอนว่าต้องฆ่าและชิงของเขามาเสีย! แต่ไหนแต่ไรเหยื่อที่มาถึงมือพวกเราก็ไม่เคยปล่อยเขารอดออกไปได้ ไม่ใช่หรือ?”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณกวาดมองคนพูดด้วยแววตาเคร่งขรึม เปล่งเสียงตะโกนลั่น “หุบปาก!”
ชายฉกรรจ์โดนตะคอกเช่นนี้ก็กลัว จึงรีบก้มหน้าลงต่ำและก้าวถอยหลังไป แต่ในใจไม่แค้นเคือง หลังจากถอยออกไปยังคงเงยหน้าถลึงมองเด็กหนุ่มชุดแดงตรงหน้าอย่างดุร้าย
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขา ถามว่า “พวกท่านจับนกอินทรีตัวนั้นมาหรือ?” พวกเขากับคนพวกนั้นเป็นพวกเดียวกัน? รวมกันอย่างน้อยๆ ก็มีเจ็ดสิบแปดสิบคน กองกำลังเช่นนี้ใหญ่โตไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
อีกทั้งเธอเห็นว่าคนตรงหน้าพวกนี้ นอกจาผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ แค่ตรงนี้ก็มีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังเจ็ดคน ทางนั้นเดาว่าคงเหมือนกัน กองกำลังและพลังเช่นนี้ในรอบนอกคงไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูด้วย
“ถูกต้อง นั่นเป็นคนของพวกเรา” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณกล่าวไป พร้อมจ้องมองเฟิ่งจิ่วที่ท่าทางสบายๆ บอกว่า “ขอแค่เจ้าส่งไข่นกอินทรีมา ข้าจะรักษาคำพูด ปล่อยเจ้าออกไปโดยสวัสดิภาพและไม่ยุ่งเกี่ยวสิ่งของใดๆ ในตัวของเจ้า”
เด็กหนุ่มตรงหน้ายิ่งสงบเงียบและใจเย็น เขายิ่งคิดว่าไม่ถูกต้องนัก หากไม่ใช่เพื่อไข่ของสัตว์เทวะ คงไม่มาเสียเวลาที่นี่แน่ เป็นศัตรูกับคนที่ไม่รู้พละกำลังตื้นลึกหนาบางเช่นนี้คือข้อห้ามสำคัญ
เฟิ่งจิ่วมองผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ ก็รู้ได้คร่าวๆ ว่าเขากำลังคิดอะไร เดาว่าคงมองกำลังวรยุทธ์ของเธอไม่ออก แล้วเห็นว่าเธอสงบนิ่งไม่ตื่นกลัวเช่นนี้จึงคิดว่าเธอมีไพ่ตายและไม่อยากเป็นศัตรูด้วยกระมัง!
ใช่ ที่ไหนๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ฝึกตนที่วรยุทธ์บรรลุถึงระดับกำเนิดวิญญาณแล้ว การเป็นศัตรูโดยไม่รู้ข้อมูลของอีกฝ่ายก็ไม่ใช่วิธีที่ฉลาดเลยจริงๆ
แต่เธอจะทำอย่างไร? สถานการณ์ตอนนี้จะให้เธอคนเดียวจัดการคนมากมายเพียงนี้? ต่อให้สู้ไหวต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาด! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่…
แววตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา “พวกท่านต้องการไข่นกอินทรี? ได้สิ อย่างไรเสียข้าแค่เก็บมาเล่นๆ แต่…”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณได้ยินว่าเด็กหนุ่มยอมอ่อนข้อก็แปลกใจเล็กน้อย ในใจระแวดระวัง ถามว่า “แต่อะไร?”
“แต่พวกท่านก็รู้ว่าข้าโดนนกอินทรีไล่ล่ามานานเพียงนี้และเหนื่อยเสียจนเหลือทนเพื่อไข่ใบเดียวนี้ หากมอบให้เปล่าๆ เช่นนี้ก็หาใช่เหตุกระมัง?” เธอหรี่ตายิ้มพลางเอ่ยไป พร้อมต้องมองพวกเขา
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณกำลังจะถามเขาว่าคิดจะทำอย่างไรกันแน่? ก็ได้ยินเสียงซ่าๆ ดังมา…
………………………………………………….