เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1149 ลูกรัก + ตอนที่ 1150 ไม่เป็นศัตรูกันก็ดี
ตอนที่ 1149 ลูกรัก + ตอนที่ 1150 ไม่เป็นศัตรูกันก็ดี
ตอนที่ 1149 ลูกรัก
“เจ้าเด็กอ้วน คืนไข่มาให้ข้า เห็นแก่หน้าเจ้ามนุษย์ชุดแดง ข้าจะไม่ถือสาเรื่องที่เจ้าขโมยไข่ไป” ปากของนกอินทรีพูดพะงาบๆ ดวงตาเฉียบคมนิ่งจ้องหนิงหลาง
“ไข่…”
เขาลูบไข่ในอ้อมแขนอย่างอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย หยิบไข่มาไว้ในมือจะยื่นออกไปกลับตัดใจไม่ลง จู่ๆ ได้ยินเสียงแตกจึงก้มหน้ามองไปตามสัญชาตญาณ
เห็นไข่แตกออกเป็นรอยแยกเสียเอง เมื่อเสียงแตกดังขึ้นหัวเล็กๆ ก็โผล่ออกมาจากในเปลือกไข่ เจ้าตัวน้อยเปียกปอนเป็นเช่นนกน้อยเกิดใหม่ ไม่ทันตั้งตัวปากแหลมๆ ของเจ้าตัวน้อยก็จิกนิ้วมือของเขาเสียจนเลือดไหล
“อ๊าก!”
เขาดึงสองมือกลับด้วยความตกใจ ทำให้เจ้าตัวเล็กในมือตกลงบนพื้นพร้อมเปลือกไข่ เพียงเห็นว่าเจ้าตัวเล็กกระโดดออกมาตีปีกที่มีเพียงขนเล็กละเอียด จากนั้นค่อยกินเปลือกไข่ไป
เห็นเจ้าตัวเล็กที่ทั้งตัวไม่มีขน เป็นเช่นนกน้อยเกิดใหม่กัดกินเปลือกไข่เสียงดัง กลิ่นอายพลังวิญญาณไหลพล่านไปบนร่างพัดตัวเปียกๆ ของมันเสียจนแห้ง ขนพวกนั้นงอกออกมาด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า สีสันหลากหลายราวนกแก้ว
นกอินทรีข้างๆ รีบร้อนเข้ามาตรวจดู ก่อนจะยื่นปีกไปวางบนพื้นและขานเรียก “ลูกรัก มาหาพ่อตรงนี้เร็วเข้า”
ทว่าหลังจากเจ้าตัวน้อยกินเปลือกไข่หมด ร่างกายเติบโตขึ้น ก็เงยหน้ามองไปพักหนึ่ง จากนั้นค่อยวิ่งแจ้นไปหาหนิงหลางทางนั้น กระโดดเข้าอ้อมแขนของเขาโดยเร็วไว พลันไปซ่อนในหน้าเสื้อของเขาและโผล่หัวเล็กๆ ออกมา
“ลูก ลูก”
เจ้าตัวน้อยพูดเลียนแบบ เพียงจ้องมองนกอินทรีพลางพูดคำคำนี้ เฟิ่งจิ่วกับหนิงหลางสองคนฟังเสียจนหลุดหัวเราะออกมา
“เจ้าให้กำเนิดเจ้าตัวน้อยนี่หรือ? ไม่ใช่กระมัง? เจ้าดูสิ มันเรียกเจ้าว่าลูกด้วย” เธอเอ่ยถึงตรงนี้ ยังกลั้นขำได้ไม่ไหวสักเท่าไร
หนิงหลางสีหน้าระรื่น ลูบเจ้าตัวเล็กที่มาหลบในอ้อมอกตนเอง สุขใจเสียจนดวงตาหรี่กลายเป็นเส้น “เจ้าเด็กคนนี้นับว่ามีจิตสำนึก ไม่เสียแรงที่ข้าลำบากปกป้องเจ้ามาตลอดทาง น่ารักจริงๆ”
“น่ารักจริงๆ น่ารักจริงๆ” มันคลอเคลียเสื้อผ้าของหนิงหลาง พร้อมเอ่ยอย่างเริงร่า
มีเพียงนกอินทรีตกตะลึง เห็นเจ้าตัวน้อยไม่ยอมรับมันอย่างสิ้นเชิง แต่ไปหลบในอ้อมแขนของเจ้าเด็กอ้วน ก็นิ่งอึ้งไปทันควันและไม่ตอบโต้อะไร
“เจ้าจะทำอย่างไร? เช่นนั้นก็ติดตามหนิงหลางไปเถอะ! เจ้าเห็นแล้วนี่ เจ้าตัวเล็กออกมาและจิกนิ้วมือและทำสัญญากับเขาเสียเอง มันทำสัญญาด้วยตนเอง ตอนนี้ความสัมพันธ์เป็นเช่นนี้ ถึงเจ้าไม่อยากก็ต้องยอมรับ” เฟิ่งจิ่วกล่าวไป แล้วมองเป็นนัยไปทางหนิงหลาง
หนิงหลางรู้ดีจึงรีบร้อนเอ่ยว่า “ใช่! เช่นนั้นเจ้าติดตามข้าไปแล้วกัน! เจ้าจะได้ปกป้องมันด้วย! ข้าว่ามันเพิ่งเกิดยังอ่อนแอเกินไป อีกอย่างกำลังของข้าก็ไม่อ่อนด้อย หากเจออสูรศักดิ์สิทธิ์อีกข้าอาจไม่รอด ปกป้องมันและปกป้องข้าด้วย เป็นอย่างไร? ข้าจะดูแลอาหารการกินเจ้าเอง”
เฟิ่งจิ่วได้ยินประโยคสุดท้ายก็มุมปากกระตุกและเบือนหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย เจ้าพวกนี้จริงจังเสียบ้างไม่ได้หรือ?
นกอินทรีเตรียมใจตั้งรับ เห็นลูกที่ตนเองเฝ้าหวงแหนนึกไม่ถึงว่าจะยอมรับมนุษย์ไม่ยอมรับมัน ก็รู้สึกเสียใจ ยามนี้ได้ยินคำพูดของพวกเขาสองคน จึงนอนคิดบนพื้นทันใด
………………………………………………….
ตอนที่ 1150 ไม่เป็นศัตรูกันก็ดี
แม้บอกว่านี่ไม่ใช่ไข่ที่มันให้กำเนิด แต่อย่างไรก็เฝ้าถนอมมานานปานนั้น ยามนี้กลับกลายเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว คิดอย่างไรอุปสรรคในใจไม่อาจก้าวข้าม ความแค้นก็กล้ำกลืนไม่ลงเช่นกัน
“กรร!”
ทันใดนั้นเสียงหมีคำรามดังขึ้น จากนั้นยังลอยมาอีกหลายเสียง เสียงคำรามดังสนั่นสะเทือนเสียจนกระแสลมในอากาศผันผวน เพียงได้ยินเสียงตุบดังลั่นแว่วมา ประหนึ่งว่ามีอะไรกำลังวิ่งมาทางนี้
“นั่นเป็นหมีกินคน!”
นกอินทรีเอ่ยขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นมองไปในป่า บอกพวกเขาว่า “ไปเร็ว! แถวนี้มีหมีกินคนไม่น้อย และตัวหนึ่งในนั้นก็บรรลุถึงระดับสัตว์เทวะแล้ว หมีกินคนทรงพลังไร้ขีดจำกัด พวกเจ้าหาใช่คู่ต่อสู้ไม่ รีบไปเสีย!”
“กรร!”
“ตุบๆ!”
สิ้นเสียงของนกอินทรีก็เห็นหมีดำตัวใหญ่หลายตัวพรวดมาจากในป่า แต่ละตัวสูงประมาณหนึ่งจั้ง มันโน้มตัวครึ่งหนึ่งและเผยกรงเล็บแหลมคมจ้องมองพวกเขา พร้อมอ้าปากแยกเขี้ยวร้องคำราม
เฟิ่งจิ่วที่เรียกพลังขึ้นไปเห็นหมีคำตัวใหญ่พวกนั้น กลับรู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษ เพราะนึกถึงเสี่ยวเฮยที่ช่วยเธอคุ้มกันอาศรม พวกเขาไม่สู้ หลังจากนกอินทรีตีปีกบินไป เธอก็พาหนิงหลางกระโดดขึ้นขนนกบินขึ้นไป แล้วหยุดลงกลางอากาศมองหมีดำตัวใหญ่เบื้องล่างที่จ้องมองพวกเขา
หนึ่งตัวในนั้นเดินออกมาจากข้างหลัง มันสูงกว่าหมีกินคนตัวอื่นๆ หน่อย หลังจากจ้องมองทั้งสอง ยังหันมองนกอินทรี สุดท้ายถึงจะหมุนตัวออกไป
หนิงหลางถอนหายใจเบาๆ “โชคดี หากสู้กันอีก เดาว่าข้าคงได้บาดเจ็บเพิ่ม”
“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ! ไปรวมกับพวกของต้วนเยี่ยก่อน” เฟิ่งจิ่วกล่าวจบก็พาหนิงหลางนั่งขนนกบินกลับไป ส่วนนกอินทรีคอยเปิดทางให้พวกเขาข้างหน้า ไม่นานนักก็เห็นพวกของหนิงหลางร่อนกระบี่มาทางนี้
“เฟิ่งจิ่ว! หนิงหลาง! พวกเจ้าไม่เป็นอะไรกระมัง?”
พวกเขาเห็นทั้งสองรอดมา ใจที่หวั่นๆ จึงผ่อนลง ในที่สุดก็วางใจได้เสียที
“ข้าบาดเจ็บไม่น้อย เจ็บแทบตายแล้ว” หนิงหลางเอ่ยด้วยใบหน้าเจ็บปวด ทว่านึกถึงเจ้าตัวน้อยในอ้อมอก จึงเผยรอยยิ้มดีใจออกมา “จริงด้วย ข้าจะบอกพวกเจ้า! ข้าเก็บนกน้อยมา ไม่ใช่นกน้อยธรรมดาๆ”
เขานำนกน้อยในอ้อมอกออกมาพวกเขาดูราวกับเป็นสมบัติ “พวกเจ้าดูสิ มันนี่แหละ”
นกอินทรีข้างๆ มองไปก็แค่นเสียงหยัน แล้วหันหน้าไปทางอื่นไม่พูดไม่จา
พวกของต้วนเยี่ยแปลกใจเป็นที่สุด มองๆ นกน้อยตัวนั้น… อันที่จริงพวกเขาคิดว่ามันต่างจากนกน้อยไม่มาก สิ่งที่แตกต่างคือขนนกบนตัวของมันสีสันมากมายคล้ายคลึงนกแก้ว
“เอาละ มาคุยอะไรกันบนนี้? ไปข้างล่างเถอะ” เฟิ่งจิ่วเอ่ยขึ้น พาหนิงหลางไปในป่าด้านล่างเสียก่อน ส่วนคนอื่นข้างหลังก็ตามลงมา
“พวกเราเห็นสัญญาณจึงไล่ตามมา โชคดีมีอสูรกลืนเมฆา นกขายาวที่เจอกลางอากาศพวกนั้นจึงไม่เข้ามาขวาง” ลั่วเฟยเอ่ยไป มองเฟิ่งจิ่วพลางถามว่า “นกอินทรีนั่นมันอะไรกัน? ทำไมมันถึงตามมาด้วย?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็เล่าประสบการณ์เรื่องราวให้พวกเขาฟังอย่างยิ้มๆ สุดท้ายถึงจะบอกว่า “เช่นนี้แทนที่จะบอกว่าตามพวกเรา ไม่สู้บอกว่าติดตามนกน้อยที่ทำสัญญากับหนิงหลางมา”
“เช่นนั้นก็ดี ไม่ทำร้ายพวกเราเป็นพอ” ลั่วเฟยถอนหายใจเบาๆ อย่างน้อยก็รู้ว่าสัตว์เทวะตัวนี้จะไม่เป็นศัตรูกันอีกต่อไปก็ดีแล้ว มิเช่นนั้นมีศัตรูเพิ่มมา ด้วยกำลังของพวกเขาจะรับมือกันไม่ไหว
………………………………………………….