เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1153 ใครวางค่ายกล + ตอนที่ 1154 ค่ายกลไม่ใช่จะบุกเข้าไปได้ง่ายๆ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1153 ใครวางค่ายกล + ตอนที่ 1154 ค่ายกลไม่ใช่จะบุกเข้าไปได้ง่ายๆ
ตอนที่ 1153 ใครวางค่ายกล? + ตอนที่ 1154 ค่ายกลไม่ใช่จะบุกเข้าไปได้ง่ายๆ
ตอนที่ 1153 ใครวางค่ายกล?
เมื่อสายฟ้าครั้งแรกผ่าลงมา เฟิ่งจิ่วในอาศรมก็เดินออกมาดูตรงค่ายกลรวมพลังวิญญาณในเขตอาคม สุดท้ายสายตาค่อยมาหยุดในค่ายกลรวมพลังวิญญาณที่พลังวิญญาณรอบๆ พุ่งพล่าน
คนข้างในนั้นคือต้วนเยี่ย พรสวรรค์ของเขาพูดได้ว่าโดดเด่นที่สุดในหมู่ทุกคน จะบรรลุขั้นเป็นคนแรกก็ไม่แปลก เธอมานั่งขัดสมาธิข้างหน้าค่ายกลของเขา เป็นผู้พิทักษ์ให้เขา
ยามนี้เหล่าผู้ฝึกตนในป่าด้านนอกตามไปที่นั่น เพราะชั้นเมฆที่ประดังบนท้องฟ้าและสายฟ้าที่ผ่าลงมา แต่เมื่อมาถึงที่นั่น พวกเขาถึงจะรู้ว่าพื้นที่ละแวกนี้ถูกวางค่ายกลและเขตอาคมไว้
พวกเขาหลายคนเดินไปมาด้านนอก ชัดเจนว่ามุ่งไปข้างหน้า เห็นว่าบริเวณที่ฟ้าผ่าอยู่เบื้องหน้า กลับพบว่าตนเองเดินไปข้างหน้า ไม่นานนักก็วนกลับมาที่เดิมอีกฃ
“อึก! ใครวางค่ายกลไว้? ไม่ค่อยเหมือนค่ายกลหลงทางทั่วไปเลย”
“ข้าเดินเข้าไปทำลายไม่ได้ เห็นอยู่ตรงหน้าทำไมกลับเดินไปไม่ถึงข้างใน คนวางค่ายกลเป็นยอดฝีมือ”
“นึกไม่ถึงว่าจะมีคนบรรลุขั้นที่นี่? น่าสงสัยเสียจริงว่าคนที่บรรลุขั้นในนี้เป็นใครกัน? น่าเสียดายไม่มีคนทำลายค่ายกลได้เลยหรือ?”
คนข้างนอกกำลังคุยกัน แม้จะสงสัยและอยากรู้ว่าคนที่บรรลุขั้นในนั้นเป็นใคร กลับไม่มีคนเข้าไปในค่ายกลได้ ใช่ หากมีคนทำลายได้คงไม่อยู่รอบนอกกันนานเพียงนี้ แถวนี้มีค่ายกลจึงไม่มีคนเดินผ่านไป
วันนี้หากไม่ใช่เพราะชั้นเมฆที่รวมตัวบนท้องฟ้ากับสายฟ้า เดาว่าพวกเขาคงไม่มาพบที่นี่
ผู้ฝึกตนไร้สำนักกลุ่มหนึ่งเห็นว่าไม่มีทางเข้าไปในค่ายกลได้ จึงเดินวนสองสามรอบและจากไป ทุกคนเข้าไปไม่ได้ ซ้ำยังมองไม่เห็น อยู่ที่นี่ไปก็เปล่าประโยชน์
คนบางกลุ่มยังวางอุบาย คิดว่าคนคนนี้กำลังบรรลุขั้นอาจเป็นโอกาสของพวกเขา ดังนั้นจึงวนเวียนอยู่รอบๆ คิดหาทางเข้าไปดู แม้จะเข้าไปไม่ได้ ขัดขวางการบรรลุขั้นของคนในนั้นก็ไม่เป็นผลร้ายต่อพวกเขา
ทว่าเมื่อพวกเขาคิดว่าในเมื่อไม่มีวิธีเข้าไปไม่สู้ใช้ไฟโจมตี ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินออกมาท่ามกลางผู้ฝึกตนไร้สำนัก
“ข้าทำลายค่ายกลได้” ชายชราสวมชุดคลุมสีเทา มือหนึ่งลูบเคราสีเทาขาวพลางเอ่ยขึ้น สายตามีความภาคภูมิบางส่วนมองทุกคนรอบข้าง
“ท่านทำลายได้? จริงหรือ?” มีคนเอ่ยถาม
“แน่นอน นี่เป็นค่ายกลหลงทางที่ถูกดัดแปลงไปเล็กน้อย คนอื่นไม่รู้เรื่อง แต่ข้าศึกษาค่ายกลมาหลายปี ชำนาญการวางและทำลายค่ายกล เมื่อครู่ข้าเดินเข้าไปในค่ายกลรอบหนึ่ง ข้าบอกว่าทำลายได้ย่อมทำลายได้แน่นอน” ชายชรากล่าวด้วยคำพูดแสดงถึงความมั่นใจ
คนรอบข้างเห็นพลันเอ่ยว่า “ในเมื่อทำลายได้ท่านจะรออะไร? ทำลายมันเร็วเข้าสิ! คนในนี้กำลังบรรลุขั้น เป็นเวลาดีที่สุดที่จะเข้าไปขัดขวางการบรรลุขั้น ท่านยังลังเลอะไรอีก? ที่นี่แม้สุ่มหาบนตัวใครสักคนยังมีสมบัติที่ไม่ธรรมดา หากคนในนี้ตายไป สิ่งของของเขาพวกเรายังแบ่งเท่าๆ กันได้”
ชายชราได้ยินคำพูดนี้ถึงจะพยักหน้ารับ “ข้าจะทำลายค่ายกลก็ได้ แต่พวกเจ้าต้องสัญญาว่าอย่างน้อยสุดต้องแบ่งของวิเศษให้ข้าหนึ่งถึงสองชิ้น หากเขามียาอายุวัฒนะหรือน้ำยาติดตัวต้องมอบให้ข้าเช่นกัน”
กลุ่มผู้ฝึกตนไร้สำนักได้ยินก็มองหน้ากัน จากนั้นค่อยพยักหน้า “ไม่มีปัญหา! จัดการตามท่านว่าเลย!” พวกเขารับปากแล้ว แต่สุดท้ายเขาจะมีชีวิตรอดเก็บสิ่งของออกไปจริงหรือ?
………………………………………………….
ตอนที่ 1154 ค่ายกลไม่ใช่จะบุกเข้าไปได้ง่ายๆ
ชายชราได้ยินก็ยินดีในใจ ติดตามกลุ่มผู้ฝึกตนไร้สำนักของพวกเขามาด้วยกัน กลับไม่เคยพบค่ายกลที่นี่ มิเช่นนั้นอาจเข้ามาสำรวจเสียเนิ่นๆ
แต่ในเมื่อพวกเขาเอ่ยถึงเพียงนี้ เช่นนั้น…
แววตาของเขาเป็นประกาย กลับไปตรงกองกำลังของเขา แล้วกระซิบบอกพวกเขา ไม่รู้ว่าพูดอะไรกันก็เห็นคนพวกนั้นที่เดิมทียืนข้างๆ กันพยักหน้าบ่อยครั้ง
ไม่นานนักกลุ่มผู้ฝึกตนไร้สำนักกับชายชราก็เดินเข้ามา มองคนอีกกลุ่มหนึ่ง “พวกเจ้าตามข้าเข้าไปเถอะ!”
“เข้าไป? จะเข้าไปทำไม? เจ้าบอกว่าทำลายได้ไม่ใช่หรือ?” ชายฉกรรจ์จากอีกกลุ่มหนึ่งจ้องมองชายชราตรงหน้าพลางเอ่ยถามอย่างระวังตัว
“ทำลายได้ แต่คำว่าทำลายของข้าไม่ได้หมายความว่าจะทำลายค่ายกลออกไป แต่หมายความว่าทำลายค่ายกลหลงทาง แยกแยะทิศทางจากข้างใน และเดินออกจากค่ายกลหลงทางได้”
ชายชรากล่าวจบก็ลูบเครามองพวกเขา “พวกเจ้าจะตามข้าเข้าไปหรือไม่? คนของกลุ่มพวกเราคิดจะเข้าไป เอาตามที่ว่ากันไว้ก่อนหน้านี้ดีกว่า ขอแค่ของวิเศษสักชิ้นสองชิ้นรวมถึงหากมียาอายุวัฒนะกับยาก็มาให้ข้าเป็นพอ”
“หึ! เจ้าเห็นพวกเราเป็นคนโง่หรือไร? คนพวกนี้เข้าไปจะไม่ปล้นพวกเราหรือ?” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งยิ้มเยาะ สายตาไม่เป็นมิตรจ้องมองคนของชายชราทางนั้น
“ไม่หรอก พวกเขาแค่คุ้มกันข้าเข้าไป เพราะข้าไม่ไว้วางใจพวกเจ้าเช่นกัน ใครจะรู้ว่าหลังจากพาพวกเจ้าเดินเข้าไปข้าจะโดนพวกเจ้าฆ่าหรือเปล่า” เขาก็ระวังตัวเหมือนกัน! ใช้ชีวิตมาหนึ่งชั่วอายุคน จะไว้เนื้อเชื่อใจคนจริงๆ ได้อย่างไร?
คนกลุ่มนั้นได้ยินคำพูดนี้ก็กัดฟัน จ้องมองคนพวกนั้น แล้วเห็นคนรอบข้างจับจ้องกันไม่น้อย แววตาจึงเป็นประกาย เอ่ยว่า “ได้ พวกเราจะเข้าไปด้วย!”
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงเวลานั้นก็อย่าหาว่าพวกเขาแก่งแย่งผลประโยชน์แล้วกัน!
ดังนั้นคนสองกลุ่มจึงเดินเข้าไปในค่ายกลภายใต้การนำทางของชายชรา คนอื่นๆ เห็นพลันจิตใจสั่นไหวเล็กน้อย แอบคิดว่า ‘คนพวกนี้แค่มองก็รู้ว่าเพิ่งเข้ามาที่นี่ไม่นานมาก ถึงไม่คุ้นชินกฎและอันตรายในนี้’
สถานการณ์เช่นนี้ไม่รู้แจ้งถึงศัตรูก็กล้าเข้าไปสำรวจโดยพลการ เป็นการรนหาที่ตายโดยแท้ อีกอย่างในหมู่คนพวกนั้นพละกำลังอ่อนสุดเป็นระดับหลอมแก่นพลังขั้นกลาง วรยุทธ์เช่นนี้ยังกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ไม่ไหวเลยจริงๆ
มีคนพวกนี้สำรวจเส้นทางก็ดี พวกเขาจะลองดูว่าคนข้างในค่ายกลเป็นใครกันแน่? เป็นผู้ฝึกตนไร้สำนัก? คนของตระกูลหนึ่ง? หรือจะเป็นผู้ฝึกวิชามาร?
ไม่ทันไรหมอกในค่ายกลก็บดบังสายตาของพวกเขา ทำให้พวกเขามองไม่เห็นร่างของคนที่เข้าไปพวกนั้น หลังจากผ่านไปสักระยะ เพียงได้ยินเสียงเข่นฆ่ากันดังมาจากด้านใน ได้ยินเสียงเสียงดาบกระบี่กระทบกันรวมถึงเสียงกรีดร้อง ผู้ฝึกตนที่รอข้างนอกก็หวั่นๆ ใจ
เป็นคนในนั้น? หรือสองฝ่ายสู้กัน?
“อ๊าก!”
ผู้ฝึกตนคนหนึ่งเลือดโซมกายฝีเท้าซวนเซพรวดพราดออกมา ยามนี้บนท้องฟ้าสายฟ้าครั้งที่สองก็ผ่าลงมา เสียงดังสนั่นเสียจนพื้นดินสั่นไหว เสียงสะเทือนหูทำให้ในหูของพวกเขาดังก้องไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผ่านไปนานยังไม่ได้ยินเสียงอื่นใด
เพียงเห็นว่าเมื่อผู้ฝึกตนคนแรกพุ่งมาพร้อมร่างเต็มไปด้วยเลือด ด้านหลังผู้ฝึกตนหลายคนก็โผล่มา ทุกคนเป็นผู้มีวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลัง ส่วนผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานที่ตามเข้าไปพวกนั้น ยังเดินออกมาไม่ได้สักคน
ส่วนชายชราซึ่งบอกว่าตนเองทำลายค่ายกลเดินเข้าไปได้ด้วยคำพูดที่มั่นใจนักหนา ก็ตะเกียกตะกายตามหลังมาทั้งร่างโชกเลือด…
………………………………………………….