เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1175 เดินตามข้ามา + ตอนที่ 1176 ดูพลังของเขา
ตอนที่ 1175 เดินตามข้ามา + ตอนที่ 1176 ดูพลังของเขา
ตอนที่ 1175 เดินตามข้ามา
“พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน?” หนิงหลางขยี้ตาเอ่ยถามพลางถ่างตามอง เห็นว่าปี้ซานยืนอยู่ตรงนั้นและเดินไปเดินมาก็ตกใจทันที “กระดูกขาเขาหักไม่ใช่หรือ?”
พวกต้วนเยี่ยข้างๆ กันเห็นแล้วยังตกใจ เห็นเขาเดินอยู่ตรงนั้น ชัดเจนว่าหายดีแล้ว แต่จะเป็นไปได้อย่างไร กระดูกหักไม่ใช่หรือ ถึงแม้ยาดีก็ไม่น่าหายไวเพียงนี้กระมัง?
“ใช่ ข้าหายแล้ว พวกเจ้าดูสิ เดินหรือกระโดดก็ได้” เขาเอ่ยอย่างเริงร่า สะบัดขาที่เคยกระดูกหัก ทว่าไม่รู้สึกเจ็บสักนิด
“เอาละๆ ไม่เป็นไรก็ดี อย่าเห่อนักเลย” เฟิ่งจิ่วโบกๆ มือให้สัญญาณเขาไปอยู่ด้านข้าง เพิ่งว่าจบก็โดนพวกของหนิงหลางดึงไว้
“เฟิ่งจิ่ว เจ้ามียาวิเศษรักษากระดูกหักอะไรใช่หรือไม่ เอาให้ข้าสักขวดสิ! มิเช่นนั้นข้าซื้อจากเจ้าก็ได้” หนิงหลางมองเฟิ่งจิ่วอย่างเอาใจ สองมือเจ้าเนื้อยังกำหมัดทุบไหล่ของเธอ
“ไม่มี” เธอกล่าวอย่างตรงไปตรงมายิ่ง
“ทำไมจะไม่มี? เจ้าดูสิขาของเขาหายแล้ว อย่าขี้เหนียวนักเลย ข้าใช้เงินซื้อจากเจ้า เจ้าก็ขายน้ำใจให้พวกเรา”
“ไม่มีจริงๆ มือของข้าคู่นี้ช่วยคนได้ แต่ไม่ใช่ยาของข้า เอาละๆ ในเมื่อพวกเจ้าตื่นแล้วก็มาเฝ้ายามเสีย ข้าจะไปนอนสักพัก” เธอกล่าวขณะเดินไปนั่งพิงใต้ต้นไม้
“เฮ้ย”
หนิงหลางยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกปี้ซานขวางไว้
“คุณชายหนิง นายท่านของข้าค่อนข้างเหนื่อย ท่านปล่อยให้เขาพักผ่อนเถอะ!”
ได้ยินเช่นนี้ พวกของหนิงหลางถึงค่อยสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเฟิ่งจิ่วซีดเซียวเล็กน้อย ในใจนึกแปลกใจ ทว่าก็ไม่ถามกวนใจเขาอีก และลากตัวปี้ซานมาถามว่า “เช่นนั้นเจ้าเล่ามาซิ เขารักษาเจ้าอย่างไร? ใช้ยาอะไร? เจ้าแกะผ้าตรงขาให้ข้าดูหน่อย”
ปี้ซานได้ยินดังนี้ก็ส่ายหน้า “ไม่ได้ หากจะบอกนายท่านคงบอกพวกท่านแล้ว เขาไม่พูด ข้าก็ยิ่งพูดอะไรไม่ได้ ข้าจะไปเฝ้ายาม พวกท่านตามสบายเถอะ!”
ครั้นเห็นเจ้าคนตัวใหญ่นี่ปฏิเสธทันที พวกเขาอึ้งงัน มองหน้ากันและไม่พูดอะไรให้มากความอีก เอาเถอะ! นิสัยแปลกๆ ของเฟิ่งจิ่วใช่ว่าพวกเขาจะไม่รู้ ไม่บอกความลับก็ช่างเถอะ
จวบจนยามเช้าตรู่ แสงอาทิตย์แรกสาดส่องลงมา ทุกคนใช้น้ำล้างหน้าบ้วนปากอย่างง่ายๆ แล้วกินอะไรเล็กน้อยเติมท้องสักหน่อย จากนั้นจึงเตรียมตัวออกเดินทาง
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขาและบอกว่า “ป่าภูตต้นไม้ตอนกลางวันยังดี หากพวกเจ้าเร่งความเร็วไม่เดินผิดทาง เวลาหนึ่งวันก็น่าจะทะลวงผ่านไปได้ พวกเจ้าตามข้ามาเถอะ!”
พวกเขาทั้งหลายพยักหน้าขานรับ “ได้”
ปี้ซานตามพวกเขามาตลอดทางยิ่งประหลาดใจขึ้นทุกที เดิมทีนึกว่าพวกเขาล้วนเป็นลูกคุณหนู ไม่นึกว่าประสาทสัมผัสที่มีต่อสภาพแวดล้อมกับอันตรายในนี้จะแข็งแกร่งและคุ้นชินยิ่งกว่าเขาเสียอีก
ตอนแรกที่พวกเขาเข้ามา ทะลุผ่านป่าภูตต้นไม้ไม่รู้เดินมานานแค่ไหน อีกทั้งยังโดนภูตต้นไม้โจมตีตลอด พวกเขากลับเห็นเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
หนำซ้ำสิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือความเป็นผู้นำของนายท่านที่เขาเพิ่งยอมรับ พูดคำไหนคำนั้น ปราดเปรียวตรงไปตรงมา ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองไปมากจริงๆ
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาคิดว่าตนเองทำถูกจริงๆ ที่ดึงดันจะติดตามนายท่านไป
อันที่จริง เดิมทีเขาคิดว่าตนเองก็แค่ตัวคนเดียว อีกอย่างเขาไม่คิดจะกลับไปหาทหารรับจ้างทางนั้นอีก นายท่านช่วยเขาไว้ เขาถึงได้คิดจะติดตามข้างกายและปกป้องเพื่อตอบแทน แต่ยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งพบว่าเจ้านายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา
………………………………………………….
ตอนที่ 1176 ดูพลังของเขา
คนทั้งกลุ่มใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณก้าวเท้าตามร่างสีแดงตรงหน้าไป ความเร็วว่องไวยิ่ง แทบจะพุ่งผ่านไปโดยไม่หยุด ระหว่างทางไม่เจอผู้ฝึกตนคนอื่นหรือสัตว์ร้ายจู่โจม จนกระทั่งช่วงเย็น พวกเขาก็ทะลุผ่านป่าภูตต้นไม้มาถึงบริเวณทางเข้าแรกสุด
เมื่อเห็นหน้าผาฝั่งตรงข้าม ก็มองเห็นผู้ฝึกตนไร้สำนักกลุ่มหนึ่งเฝ้าอยู่ริมหน้าผาฟากนี้ของเทือกเขา
“ฮี่ๆๆ ดูสิ นึกไม่ถึงว่าจะมีแกะอ้วนมาหาถึงที่จริงๆ” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งในหมู่ผู้ฝึกตนไร้สำนักฉีกยิ้ม แยกเขี้ยวจ้องมองพวกเฟิ่งจิ่วอย่างน่ากลัว
“ไม่นึกว่าจะเป็นแค่เด็กน้อยสองสามคน ดูท่าทางจัดการง่ายดายนัก” อีกคนหนึ่งเผยความตื่นเต้นบนใบหน้า “อีกอย่าง เจ้าเด็กพวกนี้ผิวละเอียดเนื้อเนียน โดยเฉพาะคนชุดแดง งดงามกว่าผู้หญิงอยู่หลายส่วนเลย”
“ย่าเจ้าน่ะสิ ข้าอยู่ที่นี่มาเกือบปีแล้ว ไม่เคยเห็นสาวงามที่พอไปวัดไปวาได้สักคน เจ้าเด็กชุดแดงเป็นของข้า!” ผู้ฝึกตนไร้สำนักคนหัวหน้าเป็นระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด บนใบหน้าประดับความชั่วร้าย ดูท่าทางคล้ายโจรเสียยิ่งกว่าโจร
“พี่ใหญ่ ท่านว่าไว้ไม่ผิดจริงๆ รออยู่ตรงนี้ไม่ต้องเข้าไปเจอสัตว์ร้ายโจมตี เห็นอะไรหยิบเก็บง่ายๆ ก็กอบโกยมาได้ทันที ตัดสินใจเช่นนี้ชาญฉลาดเหลือเกินจริงๆ”
ผู้ฝึกตนสุนัขรับใช้เอ่ยขึ้นข้างกายอย่างประจบเอาใจ ดวงตาเล็กตี่จ้องมองพวกเฟิ่งจิ่วอย่างมุ่งร้าย
ตามความคิดของพวกเขา เจ้าเด็กห้าคนนี้ดูท่าทางอายุสิบกว่าปี มีแค่เจ้าคนร่างใหญ่ที่แข็งแรงหน่อยและยังเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง คนอื่นๆ เป็นเพียงระดับสร้างรากฐาน คนเช่นนี้มีแต่พวกเขาโง่เง่าเท่านั้นถึงจะไม่ปล้น
อันที่จริงพวกเขาไม่รู้ เนื่องจากว่าจะออกจากที่นี่ เฟิ่งจิ่วจึงกดพลังไว้ ไม่อยากโดดเด่นเกินไปจนสะดุดตาคน ถึงอย่างไรอายุอย่างพวกเขา ระดับสร้างรากฐานก็นับว่าเก่งกาจมากแล้ว
พวกหนิงหลางกับต้วนเยี่ยเห็นเฟิ่งจิ่วกดวรยุทธ์ไว้ที่ระดับสร้างรากฐาน จึงเก็บงำตามเช่นกัน พวกเขาคิดง่ายๆ แค่ว่าเฟิ่งจิ่วกดเอาไว้ แน่นอนว่าพวกเขาก็คงไม่เผยวรยุทธ์หลอมแก่นพลังออกมา ทั้งยังหวังว่ากลับบ้านไปจะทำให้ครอบครัวประหลาดใจ
ด้วยเหตุนี้จึงกดวรยุทธ์ไว้ที่ระดับสร้างรากฐานด้วย แต่ไม่คิดว่าเพิ่งพ้นป่าภูตต้นไม้มาก็จะพบคนไม่ดูตาม้าตาเรือเช่นนี้
“นายท่าน พวกท่านถอยหลังไป ข้าจัดการเองขอรับ” ปี้ซานเอ่ยพร้อมชักกระบี่ยาวตรงข้างเอวที่เฟิ่งจิ่วมอบให้ออกมาชี้ผู้ฝึกตนไร้สำนักเบื้องหน้า
“เจ้าพวกไม่ดูตาม้าตาเรือ! คำพูดหยาบช้าล้นปากขัดหูนัก!” กลิ่นอายพลังวิญญาณบนร่างปี้ซานเอ่อล้นออกมา นั่นคือจิตมุ่งต่อสู้ที่กระหายเลือด แม้เขาเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังขั้นกลาง แต่มีประสบการณ์การต่อสู้มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้งแล้ว จิตมุ่งต่อสู้ที่มีผู้ฝึกตนไร้สำนักทั่วไปเทียบไม่ได้แน่นอน
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ จึงส่งสายตาสื่อให้คนอื่นถอยไปข้างๆ
ผู้ฝึกตนไร้สำนักกลุ่มนั้นมีสิบกว่าคน ในนั้นนอกจากผู้ฝึกตนหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดคนนั้น คนอื่นล้วนเป็นระดับสร้างรากฐาน ถือโอกาสดูเสียหน่อยว่ากำลังต่อสู้ของปี้ซานอยู่ระดับไหน
พวกหนิงหลางเห็นดังนั้นก็นิ่งมอง ยามนี้ปี้ซานเป็นผู้คุ้มกันข้างกายเฟิ่งจิ่วแล้ว เช่นนั้นพวกเขาควรช่วยตรวจสอบดูเสียหน่อย ว่าเขามีคุณสมบัติพอจะอยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่วจริงหรือไม่ หากกำลังต่อสู้อ่อนแอเกินไป หลังออกจากที่นี่ไปค่อยให้เฟิ่งจิ่วส่งเขากลับก็ได้
ทว่า เมื่อเห็นจิตมุ่งต่อสู้อันดุดันกับจิตสังหารน่าสะพรึงที่ปะทุจากร่างของเขาก็แปลกใจกันเล็กน้อย ลงมือรวดเร็วรุนแรงและสะอาดหมดจด มองไม่ออกเลย! ท่าทางพอมีฝีมือจริงๆ หากหนึ่งคนสู้สิบกว่าคนได้ก็ไม่แย่แล้ว
“ฟิ้ว!”
“แกร๊ง!”
………………………………………………….