เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1203 มีคนในใจหรือยัง + ตอนที่ 1204 รู้จักตำหนักยมราชหรือไม่
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1203 มีคนในใจหรือยัง + ตอนที่ 1204 รู้จักตำหนักยมราชหรือไม่
ตอนที่ 1203 มีคนในใจหรือยัง + ตอนที่ 1204 รู้จักตำหนักยมราชหรือไม่?
ตอนที่ 1203 มีคนในใจหรือยัง
ผู้ครองแคว้นได้ยินเฟิ่งจิ่วกล่าวเช่นนี้ ยิ้มเอ่ยว่า “ข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นองค์หญิงราชวงศ์เฟิ่งหวง?”
“ถูกต้องเพคะ ช่วงนี้ตระเวนไปทั่ว หนึ่งปียังไม่กลับบ้าน กำลังคิดจะเที่ยวเล่นที่นี่สองสามวันค่อยกลับไป” เดิมทีวางแผนมาพาแม่ของเธอกลับไปด้วยกัน ไม่คิดว่าแม่ของเธอจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว
ส่วนคนตระกูลซั่งกวน เหอะ แยกพ่อแม่ของเธอจากกัน ปิดผนึกความทรงจำของพ่อ แล้วขังแม่ไว้ปรุงกลั่นยาให้ตระกูลซั่งกวนของพวกเขา คิดจะรับเธอกลับไป? ช่างเพ้อฝันเสียจริง!
“เช่นนั้นอยู่ในวังก่อนสักสองวันเถอะ! ให้ข้าทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างเต็มที่” เขากล่าวจบก็ยิ้มๆ “ทิวทัศน์ในวังนี้ไม่เลวเลย ข้าไปเดินเป็นเพื่อนภูตหมอเสียหน่อยดีกว่าหรือไม่?”
“เพคะ”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้าขานรับและลุกขึ้น เห็นผู้ครองแคว้นตรงตำแหน่งอาวุโสเดินลงมาทำท่ามือเชื้อเชิญเธอ ทั้งสองถึงจะเดินไปข้างนอก ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณรวมถึงปี้ซานก็ตามไปด้านหลังทั้งสองห่างไปสามก้าว
ทิวทัศน์ในพระราชวังช่างรื่นรมย์จริงๆ เห็นได้ถึงความสวยงามและประณีตทุกหนแห่ง สองคนเดินไปพลางพูดคุย มาถึงบริเวณสวนดอกไม้หลวง เห็นดอกไม้นับร้อยในสวนเบ่งบาน กลิ่นหอมสดชื่น ทั้งสองหยุดฝีเท้าลง
ผู้ครองแคว้นมองเฟิ่งจิ่วในชุดแดงข้างกาย ยิ้มเอ่ยว่า “หากไม่ได้ข่าว แม้แต่ข้าก็มองไม่ออกว่าภูตหมอเป็นผู้หญิง”
“ตลอดปีหม่อมฉันไปเดินข้างนอกแต่งกายเป็นชายสะดวกสบาย นานๆ ไปกิริยาท่าทางของผู้ชายก็เรียนรู้เสียจนเหมือน ท่านผู้ครองแคว้นมองไม่ออกเป็นเรื่องปกติเพคะ”
“ภูตหมอยังวัยเยาว์ ไม่ทราบว่าแต่งงานหรือยัง?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดนี้ก็หันหน้าเล็กน้อยและมองเขาอย่างแปลกใจ ได้ยินเขายิ้มเอ่ยว่า “เหอะๆ หากข้าบอกว่าไม่คิดอะไรคงเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างชื่อเสียงและพรสวรรค์ของภูตหมอ แค่ภูตหมอเป็นองค์หญิงก็พอจะแต่งเข้าแคว้นใหญ่ใดๆ ได้ พูดไปไม่กลัวภูตหมดขบขัน ข้ามีลูกชายสองสามคนโดดเด่นยิ่งนัก หากภูตหมอยังไม่แต่งงาน ไม่มีคนในดวงใจ พบกันเสียหน่อยยังได้ ดูซิว่าพวกเขาเข้าตาภูตหมอได้หรือไม่”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณความหวังดีของท่านผู้ครองแคว้นเพคะ หม่อมฉันหมายมั่นใครบางคนไว้แล้ว”
“โอ้? มีคนเข้าตาภูตหมอเสียแล้ว? ไม่ทราบว่าเป็นผู้เก่งกาจจากแคว้นใด?” เขาประหลาดใจเล็กน้อย เห็นท่าทางของเฟิ่งจิ่ว อีกทั้งไม่เคยได้ยินว่าข้างกายนางมีผู้ชายคนไหน จะหมายมั่นกับใครได้อย่างไร?
“ไม่ทราบว่าท่านผู้ครองแคว้นเคยได้ยินตำหนักยมราชหรือไม่?” สีหน้าของเธอผ่อนคลายลง มีรอยยิ้มตรงหว่างคิ้ว
“ตำหนักยมราช?”
ผู้ครองแคว้นได้ยินคำนี้สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย หัวใจสั่นไหว “ตำหนักยมราชจะต้องยิ่งใหญ่มาก แม้แต่ตลาดมืดยังยากจะเทียบเคียง มีกลุ่มอำนาจในทุกๆ แคว้น แน่นอนว่าข้ารู้จัก”
แม้ตำหนักยมราชก่อตั้งมาไม่นานมาก แต่กลุ่มอำนาจกระจายไปทุกแคว้น อีกอย่างผู้แข็งแกร่งในตำหนักยมราชเป็นเช่นไม้ป่า แม้แต่แคว้นใหญ่ระดับหนึ่งอย่างพวกเขาก็ไม่กล้าไปยุ่งเกี่ยว
แต่ตำหนักยมราชซ่อนเร้นเป็นที่สุด หากบอกว่าผู้ครองแคว้นระดับหนึ่งอย่างพวกเขาเป็นเจ้าแต่ละแคว้นยามทิวา เจ้าตำหนักยมราชก็เป็นราชาผู้ครองราตรี ด้วยเหตุนี้กลุ่มอำนาจแข็งแกร่งของแคว้นระดับหนึ่งและสองต่างรู้จักและเรียกขานเจ้าตำหนักยมราชผู้ดูแลตำหนักยมราชว่าเป็นราชาแห่งราตรี
กลุ่มอำนาจของตำหนักยมราชไม่เคยถูกเปิดเผย เพราะเป็นเช่นนี้คนที่รู้ว่ากลุ่มอำนาจใหญ่โตกระจายไปทุกแคว้นใหญ่จึงไม่มากมาย
ตามที่เขารู้มา ช่วงนี้กลุ่มอำนาจแคว้นเล็กๆ นึกไม่ถึงว่าจะพยายามเอาชนะตำหนักยมราช ซ้ำยังวางแผนจะกำจัดให้หมดสิ้น สำหรับพวกเขาแล้ว คนพวกนั้นไม่เจียมตัวเกินไป
………………………………………………….
ตอนที่ 1204 รู้จักตำหนักยมราชหรือไม่?
แต่ยามนี้นางเอ่ยถึงตำหนักยมราช หรือว่าคนคนนั้นที่นางว่าเป็นคนของตำหนักยมราช?
เขานึกถึงตรงนี้เพียงรู้สึกว่าสมองระเบิด อารมณ์พลันแปรปรวนรุนแรง มองนางและพยายามใช้น้ำเสียงสงบนิ่งถามไป “หรือว่าคนคนนั้นที่เจ้าว่า เป็นคนของตำหนักยมราช?”
“ถูกต้องเพคะ เขาคือเจ้าตำหนักยมราช” เธอเผยรอยยิ้มออกมา เอ่ยว่า “อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร ตอนแรกรัชทายาทแคว้นเหินเวหาร่วมกับมู่หรงป๋อมาจัดการตระกูลเฟิ่งของพวกเขา เขาจึงปรากฏตัว”
ผู้ครองแคว้นรู้สึกหัวเราะไม่ลง แม้รู้ว่ากลุ่มอำนาจเบื้องหลังของเฟิ่งจิ่วแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่านอกจากเรื่องที่พวกเขารู้มา ยังมีกลุ่มอำนาจทรงที่ทรงพลังเสียจนทำให้พวกเขาไม่กล้าเป็นศัตรูและจิตใจเกิดสั่นสะท้านเช่นนี้อยู่ด้วย
กลุ่มอำนาจของตำหนักยมราชทรงอานุภาพ ไม่ใช่ว่าไม่มีคนเคยคิดจะถอนรากถอนโคนพวกเขา แต่ตามที่พวกเขาตรวจสอบรู้มากลับพบว่ากลุ่มอำนาจนี้เชื่อมโยงถึงกลุ่มอำนาจที่แข็งแกร่งยิ่งของแปดจักรวรรดิใหญ่ ตั้งแต่รู้เรื่องนี้ผู้ครองแคว้นระดับหนึ่งหลานคนแทบพูดได้ว่าสั่งคนเบื้องล่าง ว่าตำหนักยมราชเลี่ยงได้เลี่ยงไป จะไม่เป็นศัตรูกับเขาเด็ดขาด
ตำหนักยมราชยังดี ไม่เคยพูดเกินเลยว่าจะแทรกแซงพวกเขา แค่คงอยู่ในความมืดและจัดการแต่เรื่องในที่ลับ ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องด้านสว่างและแย่งชิงพื้นที่ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงค่อยๆ วางใจได้
วันนี้ได้ยินคำว่า ตำหนักยมราช อีกครั้งจากปากของภูตหมอ ซ้ำยังเอ่ยเรื่องน่าตกใจเช่นนี้ออกมา หากข้อมูลแพร่งพรายไป ทุกฝ่ายรู้ถึงคามสัมพันธ์ระหว่างภูตหมอกับเจ้าตำหนักยมราช เดาว่าคงไม่กล้าล่วงเกินนาง
สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงยิ่งกว่าคือเฟิ่งเซียว พ่อของภูตหมอ แคว้นที่ภูตหมออยู่ เห็นชัดๆ ว่ามีกลุ่มอำนาจและกำลังสนับสนุนแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่คิดว่าตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นมาจะไม่เคยใช้ความสัมพันธ์พวกนี้ มิเช่นนั้นราชวงศ์เฟิ่งหวงคงไม่ใช่แคว้นระดับหกเช่นตอนนี้เป็นแน่
มีกลุ่มอำนาจเช่นนี้สนับสนุน แน่นอนว่ามีสิทธิ์ก้าวกระโดดเป็นแคว้นระดับหนึ่ง!
ยามนี้นางกำนัลคนหนึ่งเดินเบาๆ เข้ามา หลังจากคารวะก็รายงานว่า “ท่านผู้ครองแคว้น ผู้เฒ่าและผู้นำตระกูลซั่งกวนมาหาเพคะ”
เขาได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นค่อยบอกเฟิ่งจิ่วว่า “ภูตหมอ เชิญเจ้าตามสบาย ข้าจะให้นางกำนัลพาไปเดินเล่นรอบๆ เดี๋ยวค่อยพาไปพักผ่อนที่ตำหนัก”
“เพคะ” เธอพยักหน้าเล็กน้อยพลางยิ้มขานรับ เห็นเขาสั่งนางกำนัลสองคนถึงจะออกไป
คนตระกูลซั่งกวน?
แววตาเธอเปลี่ยนไป มุมปากยกขึ้นน้อยๆ เดินนวยนาดไปท่ามกลางพุ่มดอกไม้ เดินเล่นที่นี่พักหนึ่งก็เดินไปนั่งในศาลาของสวนดอกไม้หลวง มือหนึ่งเท้าคางอีกมือเคาะหน้าโต๊ะเบาๆ แล้วบอกนางกำนัลสองคนว่า “ชงชาให้ข้าที แล้วเอาขนมเมล็ดซิ่งเหรินจานหนึ่งกับขนมเกาลัดอีกจาน”
“เจ้าค่ะ” นางกำนัลขานรับ คนหนึ่งคอยด้านนอกศาลา อีกคนหันไปสั่งนางกำนัลยกชากับขนมเข้ามา
ปี้ซานคอยเฝ้านอกศาลา เห็นดอกไม้นับร้อยในสวนดอกไม้หลวงเบ่งบาน ห้วงความคิดของเขากลับวุ่นวาย ข้อมูลน่าตกใจแต่ละอย่างๆ ทำให้ตะลึงเสียจนเวียนหัว
ไม่นานนักนางกำนัลก็ส่งน้ำชากับขนมเข้ามา จากนั้นค่อยยืนเงียบๆ นอกศาลาไม่กล้ารบกวนเธอ
เวลาเดียวกันนี้ในตำหนักข้างเคียง ผู้ครองแคว้นกับสองพ่อลูกตระกูลซั่งกวนคุยเล่นกันสองสามประโยคตามมารยาท จากนั้นค่อยเข้าประเด็น ถามว่า “ไม่ทราบว่าวันนี้สองท่านเข้ามามีธุระอะไร?”
อันที่จริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนใหญ่ทหารอารักขาบอกเขาตั้งนานแล้ว แต่ไม่คิดว่าเฟิ่งจิ่วเพิ่งเข้าวังมาไม่นาน พวกเขาจะตามเข้ามาเช่นกัน
………………………………………………….