เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1211 เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว! + ตอนที่ 1212 ต้องรู้จักเก็บซ่อน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1211 เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว! + ตอนที่ 1212 ต้องรู้จักเก็บซ่อน
ตอนที่ 1211 เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว! + ตอนที่ 1212 ต้องรู้จักเก็บซ่อน
ตอนที่ 1211 เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว!
ทุกคนทำความรู้จักกัน เฟิ่งจิ่วบอกพวกเขาว่า “ข้าคิดจะเรียกพวกเจ้ากลับไป พวกเจ้าเตรียมตัวเดินทางกลับราชวงศ์เฟิ่งหวง กลุ่มอำนาจที่นี่ก็เรียกกลับไปทั้งหมด”
พวกขององครักษ์ตระกูลเฟิ่งได้ยินคำพูดนี้ก็แปลกใจเล็กน้อย “กลับไปราชวงศ์เฟิ่งหวง? เช่นนั้นฐานทัพของพวกเราที่เคยอยู่ที่นี่ก็ย้ายกลับไปเช่นกันหรือขอรับ?”
“อืม จากนี้ไปภารกิจของพวกเจ้ามีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือคุ้มกันราชวงศ์เฟิ่งหวง และปกป้องครอบครัวของข้า” เธอมองพวกเขา แล้วเอ่ยว่า “ข้าคิดว่ากลับไปครั้งนี้ จัดการธุระเรียบร้อยจะไปแปดจักรวรรดิใหญ่”
“นายท่านจะไม่พาพวกเราไปหรือขอรับ?” พวกขององครักษ์ตระกูลเฟิ่งคิดว่าจะไม่ได้ติดตามข้างกายนายท่าน ก็อารมณ์หมองหม่นอย่างอดไม่ได้
“รอข้าไปสักพักหนึ่งลองดูสถานการณ์ค่อยว่ากัน พวกเจ้ากลับไปราชวงศ์เฟิ่งหวงก่อน ครั้งนี้ข้าวางแผนจะพาเหลิ่งซวง เหลิ่งหวารวมถึงตู้ฝานสามคนไปก่อน”
ปี้ซานข้างหลังได้ยินว่าตนเองจะไม่ได้ติดตามไป ก็เศร้าซึมเล็กน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ คิดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติมากพอจะติดตามข้างกายนายท่านและไปแปดจักรวรรดิใหญ่ด้วยกัน
เหลิ่งซวง เหลิ่งหวา รวมถึงตู้ฝานสามคนได้ยินก็ยินดีปรีดา
“ข้าล่ะ?” ไป๋เสี่ยวเกาๆ ศีรษะพลางเอ่ยถาม “คงไม่ให้ข้าไปราชวงศ์เฟิ่งหวงด้วยกระมัง?”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ เอ่ยว่า “แน่นอนว่าไม่ เจ้าต้องไปสำนักศึกษาหนึ่งดาราเข้าร่วมการคัดเลือกของสำนักเมื่อถึงเวลา ด้วยพรสวรรค์ควบคุมสัตว์อสูรของเจ้ามีโอกาสจะได้รับเลือกมากนัก ไปถึงสำนักเจ้าต้องขยันฝึกในคาถาควบคุมสัตว์อสูร หากข้าไม่ส่งคนไปหาเจ้า ก็ไม่ต้องถามหาข่าวคราวของพวกเรา รออนาคตข้าต้องการใช้งานเจ้าจะส่งคนไปตามหาเจ้าเอง”
“แต่ข้าเกรงว่าจะเข้าสำนักศึกษาหนึ่งดาราไม่ได้! การแข่งเข้มงวดจะตายไป แม้แต่คุณสมบัติจะสอบประเมินยังไม่มีเลย”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าเตรียมการเรียบร้อยหมดแล้ว ถึงเวลาหัวหน้าตลาดมืดกับเจ้าสำนักศึกษาสองดาราจะสนับสนุนเจ้าเอง”
ไป๋เสี่ยวได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าพลันเผยความประหลาดใจ “เช่นนี้เอง! ได้ขอรับ ถึงเวลาข้าจะกลับบ้านและไปสมัครที่สำนักศึกษาหนึ่งดารา”
เช้าตรู่สองวันต่อมา เวลายังเช้าๆ คนเดินไปมาในสำนักศึกษาก็น้อย เธอคิดว่าจะไม่ทำให้คนอื่นๆ แตกตื่น แค่มาบอกลาพวกของเจ้าสำนัก ไม่คิดว่าแค่เข้ามาสำนักศึกษาก็ถูกนักเรียนคนหนึ่งพบเข้า เจอก็เจอไปเถอะ! แต่นักเรียนคนนี้ดันเป็นผู้หญิง หลังจากเห็นเธอก็อุทานเสียงหลงและส่งเสียงกรีดร้องทันใด
“กรี๊ด! เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว! เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว!”
ทันใดนั้นเสียงร้องกรี๊ดทำลายยามเช้าอันเงียบสงบและดังกึกก้องไปบนท้องฟ้า นักเรียนคนอื่นได้ยินเสียงก็พากันวิ่งออกมา เมื่อเห็นร่างสีแดงแพรวพราว แต่ละคนกรีดร้องยินดีไปตามๆ กัน
“กรี๊ด! เป็นเฟิ่งจิ่ว! เป็นเฟิ่งจิ่วจริงๆ! เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว! เฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว!”
เพียงชั่วครู่นักเรียนแต่ละสำนักพากันวิ่งออกมา พุ่งมาหาเฟิ่งจิ่วจากทุกทิศทุกทาง ท่าทางที่วิ่งพลางโห่ร้อง เฟิ่งจิ่วเห็นก็ไม่ทันตอบโต้อะไร
นี่เรื่องอะไรกัน?
เธอตกใจ ไม่นานนักก็เห็นร่างหลายสิบพุ่งมาจากบนยอดเขา นั่นเป็นพวกอาจารย์ของสำนักศึกษา แต่ละคนเห็นเธอ เหล่านักเรียนยังไม่ทันเข้ามารุมล้อมพวกเขาก็ล้อมเข้ามาแล้ว
“เฟิ่งจิ่ว? เจ้ากลับมาแล้ว!”
“ดีๆๆ เฟิ่งจิ่ว เจ้าสร้างชื่อเสียงให้สำนักศึกษาหกดาราของพวกเราโดยแท้!”
………………………………………………….
ตอนที่ 1212 ต้องรู้จักเก็บซ่อน
“หา?” เธอฟังไม่เข้าใจสักเท่าไร
“อย่าหาสิ เรื่องพวกนั้นที่เจ้าทำไปในสำนักศึกษาสองดาราพวกเรารู้หมดแล้ว” อาจารย์คนหนึ่งยิ้มเอ่ย เห็นพวกนักเรียนด้านหลังล้อมเข้ามา แต่ละคนขานเรียกเฟิ่งจิ่วๆ
“เอาล่ะๆ มาล้อมตรงนี้ทำไม?” รองเจ้าสำนักข้างหลังเดินเข้ามา พร้อมให้สัญญาณนักเรียนทุกคนแยกย้าย จากนั้นค่อยมาตรงหน้าเฟิ่งจิ่ว เห็นนางก็เผยรอยยิ้มออกมาทันใด “เจ้าสำนักรู้ว่าเจ้ากลับมา กำลังรอเจ้าอยู่ยอดเขาหลัก ตามข้ามาสิ!”
“ขอรับ” เฟิ่งจิ่วพยักหน้าขานรับ แล้วตามเขาเดินผ่านฝูงชนไปยังยอดเขาหลัก
เห็นเฟิ่งจิ่วตามรองเจ้าสำนักไปยอดเขาหลัก คนข้างหลังกำลังคุยกันว่า
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าครั้งนี้เฟิ่งจิ่วกลับมามีตรงไหนไม่เหมือนเดิม?”
“อืม ข้ารู้สึกได้ เหมือนจะรู้สึกไม่เหมือนเดิม แค่เขายืนตรงนั้นไม่พูดอะไร ตามตัวล้วนมีกลิ่นอายผู้แข็งแกร่งชัดเจนยิ่ง”
“เขาบรรลุระดับหลอมแก่นพลังแล้วไม่ใช่หรือ? กลิ่นอายบนร่างแน่นอนว่าแตกต่างไป”
“พูดถึงแล้ว เขาบรรลุขั้นเร็วจริงๆ เพิ่งไม่นานเท่าไรก็กลายเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง พวกเรายังหยุดอยู่ที่เดิม”
“เขาคนนี้เทียบใครไม่ได้หรอก เทียบใครต่อใครก็น่าโมโหนัก”
ขณะนักเรียนทุกคนพูดคุยกัน บนยอดเขาทั้งสองเนี่ยเถิงกับโอวหยางซิวไม่เดินไปใกล้ แต่ยืนมองร่างสีแดงบนยอดเขาไกลๆ
เนี่ยเถิงสับสนในใจ สำหรับเฟิ่งจิ่ว เขาคิดว่าหากตอนแรกไม่ใช้วิธีบังคับเช่นนั้น อาจจะต่างไปจากตอนนี้ หลังจากประสบพบเจอเรื่องราวมามากมาย ก็ไม่มีความคิดอยากจะครอบครองนางเช่นตอนแรกอีกแล้ว
เขารู้ว่านางไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไป ความโดดเด่นหาใดเปรียบของนาง แม้แต่ผู้ชายก็สู้ไม่ได้เลย ผู้หญิงเช่นนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะคู่ควร
ในห้วงความคิดของเขานึกถึงร่างเย็นชาเคร่งขรึมอย่างไร้สาเหตุ ผู้ชายที่แผ่พลังอำนาจแห่งราชันไปทั้งร่างคนนั้นถึงจะเป็นปลายทางสุดท้ายของนาง!
ส่วนโอวหยางซิวคิดต่างจากเขา เห็นร่างสีแดงในใจยามนี้มีเพียงความชื่นชม จากความไม่พอใจตอนแรกมาถึงตอนนี้ ไม่พูดไม่ได้ว่าเฟิ่งจิ่วทำให้เขาเลื่อมใสอย่างสุดใจ
แม้กำลังของเนี่ยเถิงแกร่งกว่า เขาก็ไม่เคยยอมรับเนี่ยเถิง แต่เฟิ่งจิ่วไม่เหมือนกัน เรื่องที่เขาทำไปไม่มีเรื่องไหนไม่ทำให้เขาตะลึงหรือไม่รู้สึกเหลือเชื่อ
อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วที่มาถึงยอดเขาหลักเห็นเจ้าสำนักนั่งชงชาตรงโต๊ะหิน เห็นท่าทางก็เข้าไปคารวะ “ท่านเจ้าสำนัก”
“นั่งสิ” เจ้าสำนักให้สัญญาณ แล้วยื่นถ้วยชาให้นาง เห็นเฟิ่งจิ่วตรงหน้าท่าทางมีชีวิตชีวาเปล่งประกายเช่นตอนแรกจึงเผยรอยยิ้มออกมา “ลำบากอยู่ข้างนอกมาตั้งปีกว่า”
“ไม่เลยขอรับ เดินทางไปทั่วเปิดหูเปิดยิ่ง” เธอรับน้ำชามาพลางเอ่ยไป มองเจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักข้างๆ กัน แล้วกล่าวว่า “ท่านเจ้าสำนัก รองเจ้าสำนัก ข้ากลับมาครั้งนี้อันที่จริงมาบอกลาทั้งสองท่านขอรับ”
“เจ้าจะกลับไปแล้วหรือ?” เจ้าสำนักเอ่ยถามโดยไม่แปลกใจ เดิมทีนางไม่ใช่คนที่นี่ ไม่ช้าก็เร็วต้องกลับไป
“ขอรับ ข้าคิดจะกลับไปราชวงศ์เฟิ่งหวง กลับไปพบครอบครัวเสียหน่อย จากนั้นข้าจะต้องจากที่นี่ไปแปดจักรวรรดิใหญ่แล้ว” เธอบอกแผนการแก่พวกเขาสองคน
“ไปเถอะ! ที่นี่เล็กเก็บเจ้าไว้ไม่อยู่ แต่เจ้าต้องจำไว้ ไปสถานที่เช่นแปดจักรวรรดิใหญ่ต้องระวังทุกเรื่อง ผู้แข็งแกร่งทางนั้นเป็นเช่นไม้ป่า เพียงไม่ระวังจะนำมาซึ่งหายนะต่อชีวิต ต้องรู้จักเก็บซ่อน”
………………………………………………….