เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1215 บ้านของเยี่ยจิง + ตอนที่ 1216 ข้าเป็นเพื่อนสนิทของเยี่ยจิง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1215 บ้านของเยี่ยจิง + ตอนที่ 1216 ข้าเป็นเพื่อนสนิทของเยี่ยจิง
ตอนที่ 1215 บ้านของเยี่ยจิง + ตอนที่ 1216 ข้าเป็นเพื่อนสนิทของเยี่ยจิง
ตอนที่ 1215 บ้านของเยี่ยจิง
“ท่านวางใจเถอะ วันหน้าหากมีจดหมายมา ข้าจะสั่งคนส่งไปราชวงศ์เฟิ่งหวง” หัวหน้าตลาดมืดยิ้มเอ่ยไป กล่าวอีกว่า “คุณชายเฟิ่งจะจากไปแล้ว ข้าต้องไปเช่นกัน หวังว่าวันหน้าจะมีโอกาสพบคุณชายเฟิ่งอีก”
“คงมีโอกาส” เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย นั่งคุยเล่นกับเขาในตลาดมืดไปสักพัก ถึงจะลุกขึ้นออกมุ่งไปยังนอกเมือง
นอกเมืองพวกของเหลิ่งซวงคอยอยู่ตรงนั้นแล้ว เห็นนางออกมาก็เข้าไปรับหน้า “นายท่าน”
“อืม พวกเราไปกันเถอะ!” เธอหยิบเรือเหาะออกมา พาทุกคนขึ้นเรือเหาะและขึ้นไปบนท้องฟ้า…
ผ่านไปสองสามวัน เมื่อเรือเหาะร่อนลงนอกเมืองก็ถูกเก็บไป พวกของเฟิ่งจิ่วจึงถามว่า “นายท่าน พวกเราจะไปไหนขอรับ?” ตั้งแต่สองวันก่อนนายท่านเปลี่ยนเส้นทางกลับไป นี่ไม่ใช่เส้นทางกลับราชวงศ์เฟิ่งหวง แล้วจะไปไหนกัน?
“ข้ามาพบเพื่อนค่อยกลับไป” เธอกล่าวไป บอกพวกเขาว่า “ไปเถอะ! เข้าเมืองไปหลัวอวี่กับปี้ซานไปสอบถามข้อมูลของเยี่ยจิงจวนตระกูลเยี่ย พวกเราจะรออยู่โรงเตี๊ยม”
“ขอรับ” สองคนที่ถูกเรียกชื่อขานรับ หลังจากตามนางเข้าเมือง ทุกคนไปยังโรงเตี๊ยมข้างหน้าใกล้ๆ ส่วนพวกเขาสองคนไปสอบถามข้อมูลในเมือง
เดินเข้าโรงเตี๊ยมเจ้าของรีบร้อนออกมาต้อนรับด้วยตนเอง เชิญเฟิ่งจิ่วเข้ามาข้างในทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลังจากเหลิ่งหวาเข้าไปจองห้องพักสักสองสามห้อง เฟิ่งจิ่วก็ขึ้นไปห้องปีกชั้นสองทันทีรอพวกเขาสองคนกลับมา เหลิ่งซวงเหลิ่งหวาคอยอยู่ในห้อง ส่วนองครักษ์ตระกูลเฟิ่งเฝ้าตรงประตูห้องปีก
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ปี้ซานกับหลัวอวี่ถึงจะกลับมา
“นายท่าน”
ทั้งสองคารวะ รายงานว่า “บ้านตระกูลเยี่ยเป็นตระกูลชั้นสูงในเมือง เยี่ยจิงเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนตระกูลเยี่ย เป็นลูกสาวของผู้นำตระกูล ครั้งนี้ไม่ใช่งานแต่งเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูล แต่รัชทายาทต้องการแต่งเยี่ยจิงเป็นชายารอง ตระกูลเยี่ยถูกราชวงศ์กดดันถึงได้ตอบตกลง ทว่าตั้งแต่กลับมาเยี่ยจิงก็ป่วยหนักมาตลอด เรื่องงานแต่งจึงเลื่อนมาถึงตอนนี้ แต่ทางราชวงศ์มีคำสั่งสุดท้ายแล้ว อีกสามวันจะต้องแต่งงานขอรับ”
เฟิ่งจิ่วที่นั่งตรงโต๊ะมือหนึ่งเท้าคาง อีกมือเคาะหน้าโต๊ะเบาๆ ได้ยินทั้งสองรายงานก็ยิ้มเย็น “เป็นคนชอบข่มเหงคนอื่นสินะ”
สิ้นเสียงเธอลุกขึ้นมา บอกว่า “เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาตามข้าไปบ้านตระกูลเยี่ย พวกเจ้าทุกคนรออยู่โรงเตี๊ยมแล้วกัน!”
“ขอรับ” พวกเขาขานรับ
เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาตามหลังเฟิ่งจิ่วไป ส่วนพวกขององครักษ์ตระกูลเฟิ่งอยู่โรงเตี๊ยม
แม้ไม่รู้ว่าบ้านตระกูลเยี่ยอยู่ไหน แต่สุ่มๆ ถามทางไปตามถนนใหญ่ก็รู้แล้ว สามคนนายบ่าวมาถึงหน้าประตูใหญ่บ้านตระกูลเยี่ย เหลิ่งหวาจึงเข้าไปเคาะประตู
คนที่ขานรับและออกมาเปิดประตูเป็นชายชราคนหนึ่ง หลังจากชะโงกมองพวกเขาด้านนอก เห็นว่าเป็นคนแปลกหน้าจึงถามว่า “ทุกท่านมาหาใคร?”
“พวกเรามาหาคุณหนูใหญ่เยี่ย เยี่ยจิง” เหลิ่งหวาเอ่ยเสียงนุ่มนวน
“พวกเจ้าคือ?” ชายชราแปลกใจเล็กน้อย
“นายท่านของข้าเป็นเพื่อนของคุณหนูใหญ่เยี่ย แซ่เฟิ่ง รบกวนเข้าไปแจ้งที คุณหนูใหญ่จะรู้เอง”
“โอ้ เช่นนี้เอง! เชิญทุกท่านเข้ามาขอรับ” ชายชราเปิดประตูเชิญทั้งสามเข้ามา นำทางพวกเขามาถึงห้องรับแขก บอกเฟิ่งจิ่วว่า “คุณชาย คุณหนูของข้าป่วยหนักเกรงว่าจะพบแขกไม่ได้ เช่นนี้แล้วกัน! ข้าจะไปเชิญนายท่านกับฮูหยิบเข้ามาขอรับ”
เดิมทีเฟิ่งจิ่วอยากบอกว่าพาเธอไปหาเยี่ยจิงเลยได้ แต่คิดว่ายังไม่เอ่ยปากไปจะดีกว่า เพียงพยักหน้าและเอ่ยว่า “ต้องรบกวนแล้ว”
“เหอะๆ ไม่เลย คุณชายดื่มชารอสักครู่” ชายชรากล่าวจบถึงจะเร่งฝีเท้าไปเรือนด้านหลัง
………………………………………………….
ตอนที่ 1216 ข้าเป็นเพื่อนสนิทของเยี่ยจิง
“คุณชายชุดแดง? เพื่อนของจิงเอ๋อร์?”
ภายในเรือนหลักผู้นำตระกูลเยี่ยได้ยินคำพูดของพ่อบ้านก็ประหลาดใจเล็กน้อย เวลานี้ไม่คิดว่าจะมีคนมาหาลูกสาวของเขา น่าแปลกนัก ตั้งแต่สองผู้อาวุโศของตระกูลเยี่ยบรรลุขั้นล้มเหลวตายไป ผู้อาวุโสสองท่านที่มีความหวังจะบรรลุระดับกำเนิดวิญญาณที่สุดสิ้นใจไป กลุ่มอำนาจของตระกูลจึงไม่ใหญ่เท่าเมื่อก่อน ตระกูลเยี่ยของพวกเขาก็พังทลายลงไปทุกวันๆ
คนที่เมื่อก่อนบอกว่าเป็นญาติสนิทมิตรสหายพวกนั้นแต่ละคนหลีกเลี่ยงพวกเขา โดยเฉพาะหลังจากราชวงศ์กดดันให้แต่งลูกสาวของเขาเป็นชายารอง เคยพยายามขอความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่ญาติสนิทมิตรสหายพวกนั้นล้วนหนีหน้าหายไป ทำให้เขาหนาวเหน็บใจ
แม้รู้ว่ามนุษย์เห็นแก่ตัว แต่เขาคิดว่าสหายคนสนิทพวกนั้นจะไม่ คนที่เขาเคยช่วยเหลือคงไม่เป็นเช่นนั้น แต่เพียงล้มเหลวถึงรู้ว่าญาติมิตรในวันวานเป็นแค่คนที่พูดเพียงลมปากเท่านั้น
ลูกสาวของเขาจนปัญญา เพื่อรักษาทั้งตระกูลจะไม่ตอบรับงานแต่งไม่ได้ แต่ร่างกายของนางล้มป่วยเพราะกังวลเกินไป นับวันยิ่งซูบผมอย่างรุนแรง ฮูหยินของเขาน้ำตานองหน้าทั้งวันเพราะเรื่องนี้ เขาเป็นถึงผู้นำของตระกูลกลับจนมุม
“ขอรับ คุณชายงดงามโดดเด่นยิ่ง ดูท่าจะอายุไล่เลี่ยคุณหนูใหญ่” พ่อบ้านเอ่ยด้วยความเคารพ
“จะเป็นเพื่อนที่สำนักศึกษาของจิงเอ๋อร์หรือเปล่า?” นึกถึงข้อนี้ผู้นำตระกูลเยี่ยกล่าวว่า “ข้าจะไปดูเสียหน่อย เจ้าอย่าเพิ่งบอกคุณหนูใหญ่”
“ขอรับ” พ่อบ้านขานรับ แล้วเดินตามผู้นำตระกูลออกไป
มาถึงห้องรับแขกด้านหน้า เพียงเข้ามาด้านในก็เห็นเด็กหนุ่มชุดแดงนั่งดื่มชาตรงนั้น เมื่อเห็นเด็กหนุ่มผู้นำตระกูลเยี่ยพลันตกใจเล็กน้อย เพียงเพราะเด็กหนุ่มโดดเด่นมากจริงๆ
ท่าทางไม่เหมือนใคร หน้าตาหล่อเหลา บนร่างมีกลิ่นอายสูงศักดิ์เป็นธรรมชาติ แม้แต่ลูกหลานของราชวงศ์เกรงว่ายากจะเทียบ เขาเห็นเช่นนี้ก็เดินเข้าไป “ไม่ทราบว่าคุณชายคือ?”
“ข้าแซ่เฟิ่ง นามเดียวว่าจิ่ง เป็นเพื่อนของเยี่ยจิง ท่านนี้เป็นผู้นำตระกูลเยี่ยแน่ๆ!” เฟิ่งจิ่วลุกขึ้นประสานมือคารวะพลางเอ่ย
“ข้าเป็นผู้นำตระกูลเยี่ย คุณชายเฟิ่งเชิญนั่ง”
เห็นเด็กหนุ่มท่าทางใจกว้าง ทุกๆ ท่วงท่ามีความงามสง่าติดตัว แอบๆ แปลกใจอย่างอดไม่ได้ หลังจากเชิญเขานั่งลงก็เอ่ยว่า “นางป่วยหนักออกมาต้อนรับไม่ได้ เสียมารยาทจริงๆ หวังว่าคุณชายเฟิ่งจะไม่ถือสา”
เพราะที่นี่เป็นเพียงแคว้นระดับหก แม้ตอนนี้เรื่องของภูตหมอเฟิ่งจิ่วกระจายไปในกลุ่มอำนาจตระกูลและแคว้นระดับสูง แต่แคว้นระดับหกกลับไม่ได้รับข่าวกับภาพเหมือน ด้วยเหตุนี้ผู้นำตระกูลเยี่ยจึงไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าคือภูตหมอที่ชื่อเสียงเลื่องลือ
“ไม่หรอกขอรับ ข้ากับเยี่ยจิงเป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่สนใจมารยาทเล็กๆ น้อยๆ” เธอยิ้มเอ่ยไป
ผู้นำตระกูลเยี่ยเห็นเช่นนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายเฟิ่งกับนางรู้จักกันอย่างไร? หรือว่าคุณชายเฟิ่งเป็นนักเรียนสำนักศึกษาหกดารา?”
“ถูกต้องขอรับ พวกเรารู้จักกันในสำนักศึกษาหกดารา เยี่ยจิงเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา ข้าชื่นชมยิ่งนัก ช่วงก่อนหน้านี้ข้าอยู่ข้างนอกตลอดไม่ได้กลับไปสำนักศึกษา ช่วงนี้กลับไปถึงรู้ว่านางกลับมาบ้าน เล่ากันว่ากลับมาแต่งงาน ด้วยเหตุนี้จึงอยากเข้ามาหานางเสียหน่อย แต่ไม่คิดว่าจะได้ยินว่านางป่วย”
ผู้นำตระกูลเยี่ยได้ยินเช่นนี้ก็โล่งใจ ที่แท้เป็นเพื่อนที่สำนักศึกษาของจิงเอ๋อร์ เพื่อนที่รู้จักในสำนักศึกษามาหานางถึงที่นี่เป็นพิเศษ นับว่ามีน้ำใจนัก
เขาพยักหน้าทันที ถอนใจเอ่ยว่า “ทั้งหมดต้องโทษว่าคนเป็นพ่ออย่างข้าไร้ประโยชน์ จึงทำให้นางต้องป่วยหนักเช่นนี้ คิดว่าคุณชายเฟิ่งน่าจะรู้เรื่องที่จิงเอ๋อร์จะถูกแต่งไปเป็นชายารองของรัชทายาทแล้วกระมัง?”
………………………………………………….