เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1221 เป็นนางจริงๆ + ตอนที่ 1222 เจ้าเป็นภูตหมอจริงๆ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1221 เป็นนางจริงๆ + ตอนที่ 1222 เจ้าเป็นภูตหมอจริงๆ
ตอนที่ 1221 เป็นนางจริงๆ? + ตอนที่ 1222 เจ้าเป็นภูตหมอจริงๆ
ตอนที่ 1221 เป็นนางจริงๆ?
เยี่ยจิงมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง เห็นอีกฝ่ายยิ้มพลางพยักหน้าจึงค่อยเผยรอยยิ้ม บอกบิดาของตนว่า “ท่านพ่อ ท่านไปดูก่อนเถอะ”
“ได้ พวกเจ้ากินไปเถอะ! ข้าไปครู่เดียวก็กลับมา” ผู้นำตระกูลเยี่ยกล่าวจบ ก็ลุกขึ้นไปข้างนอกพร้อมกับพ่อบ้าน
เยี่ยจิงจับมือมารดาของตนไว้และเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “ท่านแม่ อย่าร้องไห้เลย รัชทายาทน่าจะมาถอนหมั้น”
“หา? จะเป็นไปได้อย่างไร? เขามาเร่งเรื่องแต่งงานแน่ๆ” เยี่ยฮูหยินนึกถึงว่าลูกสาวของตนเองสุขภาพไม่ดี องค์ชายรัชทายาทยังมาบังคับแต่งงาน เดิมทีบอกว่าอีกสามวันจะมาตบแต่ง ยามนี้ยังไม่ถึงเวลาก็มาหาถึงบ้านแล้ว
“เขาคงมาขอโทษเท่านั้น เยี่ยจิง งานแต่งนี้จะไม่เกิดขึ้นแล้ว” เฟิ่งจิ่วยิ้มเอ่ย พลางคิดว่าประสิทธิภาพการทำงานของคนตลาดมืดช่างรวดเร็วจริงๆ
เยี่ยฮูหยินได้ฟังคำพูดของทั้งสองคนก็อึ้งตกใจทันที คิดว่าค่อนข้างเหลือเชื่อ แต่เห็นท่าทางของลูกสาวกับเฟิ่งจิ่วแล้ว กลับเหมือนว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ ใจจึงสั่นไหวเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงมองไปยังเฟิ่งจิ่ว
“หรือว่าสิ่งที่พวกเจ้าพูดกันก่อนหน้านี้คือเรื่องนี้?”
ในเวลาสั้นๆ เพียงนี้เฟิ่งจิ่วก็ทำให้รัชทายาทของแคว้นพวกเขาถอนหมั้นและไม่มาหาเรื่องพวกเขาได้จริงๆ? นะ นี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จกันแน่?
“เจ้าค่ะ” คนทั้งสองพยักหน้า ยิ้มขานรับ
อีกด้านหนึ่ง ในห้องรับแขกด้านหน้า ยามนี้ผู้นำตระกูลเยี่ยกำลังมองรัชทายาทมามอบสิ่งของห่อเล็กห่อใหญ่ถึงบ้าน กล่าวว่ามาขอโทษ อีกทั้งจะยกเลิกงานแต่ง พรุ่งนี้เช้าเสด็จพ่อของเขาจะมีพระราชโองการประกาศเรื่องนี้ออกมา และยังบอกทำนองว่าจะชดเชยแก่ลูกสาวของเขาด้วย
เขารู้สึกเพียงว่าในหัวมีเสียงระเบิดสนั่น ถึงแม้ใบหน้ายังคงวางท่าน่าเกรงขามเฉกเช่นผู้นำของตระกูล แต่หัวใจกลับเต้นรัว ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนกระทั่งได้ยินรัชทายาทกล่าวถึงท้ายสุด จึงค่อยรู้เหตุและผลของเรื่องราว
ภูตหมอให้คนของตลาดมืดออกหน้าช่วยพวกเขาแก้ปัญหาเรื่องนี้หรือ?
เพียงแต่ตระกูลเยี่ยของพวกเขาไม่รู้จักภูตหมอนี่!
ชื่อเสียงของภูตหมอเลื่องลือไปทุกแคว้น แม้แต่ภูตหมอหน้าตาเป็นเช่นไรพวกเขายังไม่รู้เลย ซ้ำยังไม่เคยไปมาหาสู่กัน ทำไมภูตหมอต้องช่วยพวกเขาด้วย?
“ผู้นำตระกูลเยี่ย เรื่องก่อนหน้านี้ข้าผิดไปแล้ว ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ใจกว้างอย่าถือโทษข้าเลย”
องค์ชายรัชทายาทกล่าวพลางมองผู้นำตระกูลเยี่ยตรงหน้า ชะงักไปนิดก่อนจะเอ่ยอีกว่า “ผู้นำตระกูลเยี่ย พวกท่านรู้จักภูตหมอได้อย่างไร ในเมื่อรู้จักภูตหมอก็ควรบอกมาให้เร็วกว่านี้หน่อย เช่นนั้นคงจะไม่เกิดเรื่องมากมายเพียงนี้!”
“เรื่องนี้…”
ผู้นำตระกูลเยี่ยมองรัชทายาท ดูออกว่าเขาพูดหยั่งเชิงตนเอง จึงกล่าวว่า “ข้าเองก็ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ แต่ยกเลิกงานแต่งไปก็ดีแล้ว ตอนนี้เยี่ยจิงป่วยหนักอยู่บนเตียง ไม่เหมาะจะคุยเรื่องแต่งงานจริงๆ”
เขากล่าวจบก็ลุกขึ้นมา เอ่ยด้วยว่า “ข้าจะไปส่งฝ่าบาทแล้วกัน!”
“เหอะๆ ไม่ต้อง ข้าไม่รบกวนผู้นำตระกูลเยี่ยไปส่งหรอก”
รัชทายาทโบกๆ มือพลางปฏิเสธ เหลือบมองผู้นำตระกูลเยี่ยก่อนบอกว่า “เรื่องครั้งนี้หวังว่าผู้นำตระกูลเยี่ยจะให้คุณหนูพูดคำดีๆ ต่อหน้าภูตหมอด้วย” กล่าวจบถึงหมุนตัวจากไป
ผู้นำตระกูลเยี่ยได้ยินคำพูดนี้ก็ตกใจเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้
ภูตหมอ? คุณชายชุดแดง? เฟิ่งจิ่ว?
หรือว่าภูตหมอคือเฟิ่งจิ่ว? ใช่แล้วๆ นางมาหาและบอกว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อะไรสักอย่าง ทั้งยังให้ข้ารับใช้ออกไปสั่งให้คนจัดการ อีกอย่างนางเพิ่งมาไม่นานนัก องค์รัชทายาทก็มาขอโทษถึงบ้าน กล่าวเช่นนี้แสดงว่าเป็นนางจริงหรือ?
………………………………………………….
ตอนที่ 1222 เจ้าเป็นภูตหมอจริงๆ
ครั้นนึกถึงข้อนี้ เขาเก็บกลั้นความตื่นเต้นในใจไว้และรีบร้อนกลับเรือนด้านหลัง คิดจะไปถามให้ชัดเจน
ภายในเรือนด้านหลัง หลังเสร็จมื้ออาหารพวกเขาให้คนเก็บของบนโต๊ะ จากนั้นเปลี่ยนเป็นผลไม้สดๆ ที่หั่นมาแล้วเรียบร้อย ผลไม้จานใหญ่ที่มีหลากหลายชนิดและสีสันถูกจัดเรียงใส่จานกลมวางไว้กลางโต๊ะ
เยี่ยฮูหยินได้ฟังคำพูดของพวกนางสองคนแล้ว ยามนี้อารมณ์เบิกบานยากจะห้ามใจ คนข้างกายมาบอกนางว่าองค์รัชทายาทนำของขวัญมาขอโทษ หนำซ้ำยังยกเลิกงานแต่ง ข่าวนี้ทำให้นางอยากจะร้องไห้เบาๆ ด้วยความดีใจเป็นล้นพ้น
“เฟิ่งจิ่ว เจ้ากินผลไม้สิ” เยี่ยฮูหยินใช้ไม้กลัดเสียบผลไม้ชิ้นหนึ่งและยื่นให้นาง “เจ้าช่วยตระกูลเราครั้งใหญ่ พวกเราไม่รู้จะขอบคุณเจ้าอย่างไรเลย”
เฟิ่งจิ่วยิ้มพลางรับมา ยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอกเจ้าค่ะ ใครให้เยี่ยจิงมาเป็นเพื่อนของข้ากันล่ะ!”
“ใช่ๆ จิงเอ๋อร์ของพวกเรามีเพื่อนอย่างเจ้า นับว่าโชคดีไปทั้งชาติ โชคดีไปทั้งชาติจริงๆ” นางยิ้มพยักหน้ารัวๆ พลางพูด
“ท่านแม่ ท่านอย่าทำเช่นนี้เลย จะทำให้เฟิ่งจิ่วอึดอัดเอา หากจะขอบคุณนางจริงๆ อีกเดี๋ยวค่อยทำอาหารสองสามอย่างที่ถนัดที่สุดให้นางกิน นางต้องดีใจแน่เจ้าค่ะ” เยี่ยจิงยิ้มกล่าว จากนั้นค่อยมองเฟิ่งจิ่วและบอกว่า “เจ้าไม่รู้หรอก แม่ของข้าฝีมือดี แค่จะไม่เข้าครัวง่ายๆ เท่านั้น”
“ข้าชอบอาหารรสเลิศเป็นที่สุด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องรบกวนท่านน้าเยี่ยจริงๆ แล้ว” เธอยิ้มหยีตา แม้แต่เยี่ยฮูหยินยังเปลี่ยนเป็นท่านน้าแล้ว
“ไม่รบกวนๆ”
เยี่ยฮูหยินยิ้มขึ้นมาอย่างสุขใจ คิดว่าเด็กเฟิ่งจิ่วคนนี้ช่างดีจริงๆ ไม่เพียงเกิดมาโดดเด่น แม้แต่ฝีมือยังเก่งกาจนัก ทั้งยังใกล้ชิดและเป็นกันเองเช่นนี้ ไม่ถือตัวเลยสักนิด
“ผู้นำตระกูล”
สาวใช้สองคนด้านนอกเรือนขานเรียกด้วยความเคารพ ทำให้ทุกคนในเรือนรู้ว่าผู้นำตระกูลเยี่ยกลับมาแล้ว
“นายท่าน เป็นอย่างไรบ้าง?” เยี่ยฮูหยินมองเขาอย่างยินดีจนยากจะปิดบัง นางรู้ว่างานแต่งถูกยกเลิกแล้ว และก็ยกเลิกเพราะความสัมพันธ์ของเฟิ่งจิ่ว ส่วนรายละเอียดยังไม่รู้
ทว่าผู้นำตระกูลเยี่ยไม่ตอบกลับนาง แต่มาตรงโต๊ะและประสานมือโน้มกายคารวะเฟิ่งจิ่วอย่างจริงจังตั้งใจ “ข้ามีตาหามีแววไม่ ถึงไม่รู้ว่าแขกในบ้านเป็นภูตหมอ หากมีตรงไหนเสียมารยาทไป หวังว่าจะไม่ถือสา”
สิ้นเสียง เขายังเอ่ยอีกว่า “ข้าแซ่เยี่ยขอขอบคุณจากใจจริงในความกรุณาที่ภูตหมอช่วยเหลือไว้ ณ ที่นี่ ความเมตตาในวันนี้ ตระกูลเยี่ยของเราจะจำไว้ขึ้นใจแน่นอน” ขณะเดียวกัน ระหว่างกำลังโค้งคำนับ แรงที่ไร้รูปร่างก็ประคองเขาขึ้นมาแล้ว
“ท่านลุงเยี่ยไม่ต้องทำเช่นนี้” เฟิ่งจิ่วเอ่ยขึ้น ไม่รับการคารวะจากเขา แต่ลุกขึ้นมายิ้มบอกว่า “เยี่ยจิงเป็นเพื่อนของข้า เพื่อนลำบากจะไม่ช่วยเหลือได้อย่างไร? ท่านลุงเยี่ยกล่าวหนักเกินไปแล้ว”
ผู้นำตระกูลเยี่ยพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น หลังจากเชิญเฟิ่งจิ่วนั่งลง ตนเองก็นั่งลงเช่นกัน และกล่าวว่า “เมื่อครู่รัชทายาทมาขอโทษถึงบ้านด้วยตนเอง ข้าจึงรู้ตัวตนภูตหมอของคุณหนูเฟิ่งจากปากเขา”
อย่างไรเขาก็ไม่คาดคิดว่าภูตหมอจะมาหาถึงบ้านของเขา และยิ่งไม่คิดว่าภูตหมอจะเป็นเพื่อนของลูกสาวตน ซ้ำยังเป็นผู้หญิงด้วย
“ข้าให้คนของตลาดมืดไปจัดการให้ เป็นเรื่องแค่เอ่ยประโยคเดียว” เฟิ่งจิ่วกล่าวจบก็เห็นเหลิ่งซวงเดินเข้ามาจากด้านนอก
“นายท่าน จัดการธุระเรียบร้อยเจ้าค่ะ” ระหว่างพูดก็ยื่นป้ายคำสั่งตลาดมืดให้
“อืม” เฟิ่งจิ่วขานรับและรับมา
“เฟิ่งจิ่ว จะ เจ้าเป็นภูตหมอจริงๆ หรือ?” เยี่ยฮูหยินมองเธออย่างค่อนข้างเหลือเชื่อ
………………………………………………….