เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1223 ไปเป็นแขกบ้านข้าเถอะ + ตอนที่ 1224 สัญญาสิบปีนานเกินไป
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1223 ไปเป็นแขกบ้านข้าเถอะ + ตอนที่ 1224 สัญญาสิบปีนานเกินไป
ตอนที่ 1223 ไปเป็นแขกบ้านข้าเถอะ + ตอนที่ 1224 สัญญาสิบปีนานเกินไป
ตอนที่ 1223 ไปเป็นแขกบ้านข้าเถอะ
“เจ้าค่ะ คนภายนอกเรียกข้าเช่นนี้” เฟิ่งจิ่วหยีตายิ้มพลางพยักหน้ารับ
“สวรรค์!” เยี่ยฮูหยินยกสองมือปิดปากแล้วส่งเสียงร้องเบาๆ อย่างยากจะซ่อนความตกใจ “จะ เจ้าคือภูตหมอ!”
เฟิ่งจิ่วหัวเราะ เอ่ยว่า “ภูตหมอก็เป็นคนเจ้าค่ะ ไม่ต้องตกใจเพียงนี้” กล่าวจบก็มองเยี่ยจิงที่นั่งยิ้มน้อยๆ มองพวกเขาอยู่เงียบๆ “ข้าวางแผนว่าจะกลับบ้าน เจ้าไปพักบ้านข้าด้วยกันสักหลายวันดีไหม?”
พอได้ยินคำพูดนี้ เยี่ยจิงดวงตาเป็นประกาย “ได้หรือ?”
“ได้แน่นอน ไม่ทราบว่าท่านลุงกับท่านน้าเยี่ยจะวางใจหรือไม่?” เธอยิ้มมองทั้งสองคน
“วางใจสิ วางใจ วางใจแน่นอน” ติดตามภูตหมอออกไปข้างนอก พวกเขาจะมีอะไรไม่สบายใจอีก? นั่นเป็นเรื่องที่คนมากมายเท่าไรร้องขอยังไม่ได้มา
“สองวันนี้อยู่ในจวนข้าต้องรบกวนแล้ว รอให้ร่างกายของเยี่ยจิงดีขึ้นมาบ้าง พวกเราค่อยออกเดินทาง พอดีเลยเจ้าค่ะ ถือโอกาสสองวันนี้ชิมฝีมือของท่านน้าเยี่ยสักหน่อยได้”
“ได้ๆๆ ข้าจะทำให้เจ้าทุกวันไม่ซ้ำอย่างแน่นอน” นางยิ้มเอ่ยอย่างยินดี
ผู้นำตระกูลเยี่ยที่มองอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มขึ้นมา รู้สึกว่าเมฆดำที่ปกคลุมเหนือศีรษะของพวกเขาจางหายไปตามการมาถึงของเฟิ่งจิ่ว บรรยากาศกดดันของทั้งจวนตระกูลเยี่ยก็ผ่อนคลายลงเพราะเหตุนี้ กลับมาสบายใจเช่นวันวานอีกครั้ง
เช่นนี้เอง เฟิ่งจิ่วจึงพักในจวนตระกูลเยี่ยต่อไป ส่วนพวกองครักษ์ตระกูลเฟิ่งพักอยู่โรงเตี๊ยมทางนั้น ข้างในจวนสามีภรรยาตระกูลเยี่ยปฏิบัติต่อเธออย่างอบอุ่นยิ่ง เยี่ยฮูหยินเข้าครัวด้วยตัวเองทุกมื้อ ของที่ทำเป็นอาหารดีที่นางถนัดทั้งนั้น ซ้ำยังเป็นไปตามนางบอกจริงๆ ทุกมื้อไม่ซ้ำกัน อีกทั้งรสชาติดีนัก
ข่าวว่าภูตหมออยู่ที่จวนตระกูลเยี่ยไม่รู้ว่าแพร่กระจายไปได้อย่างไร เหล่าคนที่แต่ก่อนเคยหลบหน้าผู้นำตระกูลเยี่ยได้รับข่าวแล้วก็นำของขวัญชิ้นใหญ่มาเยี่ยม เพียงแต่ครั้งนี้ผู้นำตระกูลเยี่ยไม่ไปพบหน้าพวกเขา ปฏิเสธไม่พบแขก เพียงบอกคนนอกว่าทางบ้านมีแขกคนสำคัญไม่ขอพบคนอื่น
คนทั้งหลายเห็นดังนี้ก็อับจนหนทาง ในใจแอบเสียใจภายหลัง หากรู้แต่แรกวันนั้นคงไม่ห่างเหินกับตระกูลเยี่ย จนทำให้ตอนนี้จะเข้าไปจวนตระกูลเยี่ยสักก้าวก็ยากแล้ว
แต่ว่าคนของจวนตระกูลเยี่ยไปสานสัมพันธ์กับภูตหมอตั้งแต่เมื่อไร? นึกไม่ถึงว่าที่ผ่านมาจะไม่เคยแพร่งพรายความสัมพันธ์เช่นนี้เลย? ช่างน่าแปลกจริงๆ
หากงานแต่งครั้งนี้ของจวนตระกูลเยี่ยกับราชวงศ์ไม่ถูกยกเลิก พวกเขาคงไม่รู้ว่าที่แท้ยามนี้ภูตหมออยู่ในจวนตระกูลเยี่ยนี่เอง
ภายในสวนดอกไม้จวนตระกูลเยี่ย
เฟิ่งจิ่วเดินไปในเขตเรือนเป็นเพื่อนเยี่ยจิง หลังจากกินยามาหนึ่งวัน อีกทั้งยกเลิกงานแต่งไป เยี่ยจิงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ร่างกายที่อ่อนแอค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมาเพราะกินยาอายุวัฒนะเม็ดหนึ่งของเฟิ่งจิ่ว สามารถออกจากเรือนไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ได้แล้ว
“เยี่ยจิง ตระกูลเจ้ามีเจ้าเป็นลูกคนเดียวหรือ?” เฟิ่งจิ่วเด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งมาดมตรงปลายจมูก พลางถามคนที่ถือตะกร้าอยู่ข้างกาย
“ข้ามีน้องชายอีกคน แต่ไม่อยู่บ้าน” เยี่ยจิงเอ่ยและยื่นกรรไกรในตะกร้าให้เธอ “พวกเราตัดดอกไม้กลับไปปักแจกันกันเถอะ!”
“ได้ ข้าจะตัดเอง เจ้าถือตะกร้าไปก็พอ” เฟิ่งจิ่วรับกรรไกรมา เลือกตัดดอกไม้มาบางส่วน ตัดแต่งเล็กน้อยก่อนยื่นให้นาง
เยี่ยจิงรับมาวางลงในตะกร้า ก่อนจะชี้อีกดอกหนึ่ง “ดอกที่ยังตูมนั่นก็ดี”
“ดอกนี้หรือ?” กรรไกรของเฟิ่งจิ่วตัดดอกไม้ตูมสีชมพูดอกหนึ่งยื่นให้เยี่ยจิง
“อื้ม” เยี่ยจิงยิ้มอย่างพอใจ คอยเลือกให้อยู่ข้างๆ ส่วนเฟิ่งจิ่วก็ตัดไปพลาง ทั้งสองคนคุยกันไม่หยุดหย่อน เสียงหัวเราะพูดคุยดังกระจายออกไป
หลังจากพักในตระกูลเยี่ยสามวัน จึงค่อยเตรียมตัวออกเดินทาง
………………………………………………….
ตอนที่ 1224 สัญญาสิบปีนานเกินไป
พวกองครักษ์ตระกูลเฟิ่งในโรงเตี๊ยมรู้ว่าวันนี้ต้องไปกันแล้ว จึงมาคอยอยู่ด้านนอกจวนตระกูลเยี่ยแต่เช้า จนกระทั่งประตูใหญ่ของจวนเปิดออก นายท่านในชุดแดงก็เดินออกมา
“นายท่าน” พวกเขาเรียกอย่างพร้อมเพรียงกัน หลังจากคารวะก็ไปคอยอยู่ข้างๆ
“อืม” เฟิ่งจิ่วพยักหน้ารับ
สามีภรรยาด้านหลังที่ตามออกมาส่งมองบุรุษผู้งามสง่าผ่าเผยพวกนั้น เห็นพวกเขาแต่ละคนกระปรี้กระเปร่า ท่าทางไม่ธรรมดา ก็แอบชื่นชมอย่างอดไม่ได้ ผู้ติดตามของภูตหมอดีเลิศปานนี้ ทุกคนหน้าตาหล่อเหลา บุคลิกโดดเด่น
“ท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านไม่ต้องไปส่งหรอก ข้ากับเฟิ่งจิ่วอยู่ด้วยกันพวกท่านไม่ต้องเป็นห่วง จะไม่เกิดเรื่องอะไรเจ้าค่ะ” เยี่ยจิงหยุดฝีเท้าลง ก่อนบอกบิดามารดาที่มาส่งถึงนอกประตู
“อืม พวกเรารู้แล้ว มีเฟิ่งจิ่วอยู่ข้างกายเจ้า พวกเราก็วางใจได้” สามีภรรยาตระกูลเยี่ยตอบรับ จากนั้นสื่อให้พ่อบ้านก้าวขึ้นไป และส่งกล่องของขวัญสองสามกล่องด้านหลังให้
“นี่เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เจ้าอย่าปฏิเสธเลย หากปฏิเสธอีกถือว่ารังเกียจพวกเราจริงๆ แล้ว” ผู้นำตระกูลเยี่ยกล่าวจบ ก็ให้พ่อบ้านยกของไปข้างหน้า
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้จึงยิ้มเอ่ยว่า “ท่านลุงเยี่ยเกรงใจไปแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ เหลิ่งหวารับมา”
“ขอรับ” เหลิ่งหวาขานรับก่อนจะเข้าไปรับกล่องของขวัญมาเก็บเข้าในถุงฟ้าดิน
“เวลาสายแล้ว พวกเราขอตัวลาก่อน” เฟิ่งจิ่วประสานมือเอ่ย แล้วมองไปทางเยี่ยจิง
เยี่ยจิงเข้าใจ บอกบิดามารดาของนางว่า “ข้าไปเที่ยวที่นั่นสักพักจะกลับมา พวกท่านไม่ต้องกังวล พวกเราไปแล้วนะเจ้าคะ”
“เดินทางปลอดภัย” สามีภรรยาตระกูลเยี่ยกล่าว และกำชับเยี่ยจิงบางเรื่องอีก จากนั้นทั้งสองคนถึงจะมุ่งหน้าไปนอกเมือง
ก่อนจะพ้นประตูเมือง คนจากตระกูลจำนวนไม่น้อยในเมืองกรูกันออกมา ในมือถือของขวัญอยากจะมอบให้ แต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกองครักษ์ตระกูลเฟิ่งขวางออกไป จวบจนออกมานอกประตูเมืองแล้ว เรือเหาะก็ปรากฏขึ้นมา
“ไปกันเถอะ!” เฟิ่งจิ่วให้สัญญาณ พวกเขาขึ้นเรือเหาะไป ทิ้งคนด้านล่างพวกนั้นไว้ เวลานี้ถึงจะค่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้าไปทางราชวงศ์เฟิ่งหวง
ภายในจักรวรรดิของเซวียนหยวน ณ แปดจักรวรรดิใหญ่อันไกลโพ้น ในวังแห่งหนึ่ง เซวียนหยวนโม่เจ๋อในชุดคลุมสีดำหรูหราที่วาดลายเมฆเส้นทึบกำลังเอามือไพล่หลังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง พลางมองท้องฟ้าด้านนอก นึกถึงผู้หญิงที่ห่วงหาในใจคนนั้น
ความคิดถึงและห่วงใยในใจ ทำให้เขามองเมฆขาวที่รวมตัวกันบนท้องฟ้าเป็นเฟิ่งจิ่วผู้เจ้าเล่ห์ปานจิ้งจอก ในเมฆขาวเหมือนจะเห็นนางยิ้มให้เขาจากตรงนั้น และคล้ายได้ยินเสียงเจ้าเล่ห์ใสกังวานตะโกนอยู่ตรงนั้นว่า ‘ท่านอา ท่านอา’
ริมฝีปากบางซึ่งเดิมทีเม้มเล็กน้อยยกขึ้นเบาๆ อย่างที่สังเกตไม่เห็นเพราะนึกถึงคนที่ทำให้ตนสุขใจ เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น
ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทำอะไรตอนนี้?
ผ่านไปสองปีกว่าแล้ว ข่าวที่เริ่นเสียงส่งกลับมาครั้งก่อนบอกว่านางทะลวงถึงระดับหลอมแก่นพลัง ซ้ำยังทำให้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของสำนักศึกษาสองดาราไม่เหลือเค้าเดิม
เขานึกถึงตรงนี้ก็อดส่ายหน้าไม่ได้ นางก็เป็นเช่นนี้ ไปที่ไหนล้วนไม่สงบ ไม่เสียเปรียบใคร
แม้ปีนั้นตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา นางยังหนีรอดจากมือเขาไปได้ ถึงขั้นขโมยหัวใจของเขาไปด้วย ทำให้เขานึกว่าตัวเองพิศวาสเพศเดียวกันเสียแล้ว
“สัญญาสิบปี ทำไมตอนนั้นข้ากับนางถึงตกลงสัญญากันนานเพียงนี้?”
เสียงที่ทั้งทุ้มต่ำและแฝงด้วยแรงดึงดูดเปล่งออกจากปากเขาเบาๆ พร้อมรอยยิ้มจนใจ เมื่อนึกถึงสัญญาสิบปีระหว่างพวกเขาสองคน เขาอดถอนใจไม่ได้ ‘สัญญาสิบปี จะนานเกินไปแล้ว’
………………………………………………….