เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1233 อยู่เป็นสัตว์เทวะคุ้มครองแคว้น + ตอนที่ 1234 เรื่องในอนาคตอันห่างไกล
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1233 อยู่เป็นสัตว์เทวะคุ้มครองแคว้น + ตอนที่ 1234 เรื่องในอนาคตอันห่างไกล
ตอนที่ 1233 อยู่เป็นสัตว์เทวะคุ้มครองแคว้น + ตอนที่ 1234 เรื่องในอนาคตอันห่างไกล
ตอนที่ 1233 อยู่เป็นสัตว์เทวะคุ้มครองแคว้น
“นายท่าน”
หงส์ไฟมองนาง เผยรอยยิ้มปิติยินดี อยากจะโผเข้าไปกอดนาง แต่คิดแล้วก็ไม่ค่อยเหมาะนัก เพราะอย่างไรตอนนี้เขาก็โตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่อาจถูกนางกอดไว้ในอ้อมแขนเหมือนตอนเป็นเด็กที่เปลือยก้นใส่แต่เอี๊ยมอีก
เฟิ่งจิ่วมองดูหงส์ไฟที่กลายเป็นหนุ่มน้อย รู้สึกสะท้อนใจลึกๆ ข้างใน เหมือนเห็นลูกเติบใหญ่ ตั้งแต่เริ่มบำเพ็ญฌาน หงส์ไฟก็ไม่เคยออกมาเลย ครั้งนั้นเธอทะลวงสู่ระดับกำเนิดวิญญาณข้างในนั้น ขณะเดียวกับที่กลายเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ เขาก็ก้าวเข้าสู่วัยหนุ่มในที่สุดเช่นกัน
ขณะมองหงส์ไฟที่สูงกว่าเธอเกือบครึ่งศีรษะตรงหน้า ดวงตาเธอฉายแววอ่อนโยนที่ยากจะปิดบัง
“หงส์ไฟ ที่เรียกเจ้าออกมาเพราะมีเรื่องจะหารือกับเจ้า” เธอมองเขาพลางกล่าว รอยยิ้มบนใบหน้าถูกเก็บไป “เรื่องที่ข้าตั้งใจจะไปแปดจักรวรรดิใหญ่เจ้าเองก็รู้ แต่ข้าไม่วางใจฝั่งราชวงศ์เฟิ่งหวง ข้าเป็นห่วงพวกท่านพ่อกับท่านปู่”
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าหงส์ไฟเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถามว่า “นายท่านต้องการให้ข้าอยู่คุ้มครองราชวงศ์เฟิ่งหวง และปกป้องพวกเขาหรือ?”
“ใช่”
เธอพยักหน้า กล่าวว่า “เจ้าเป็นสัตว์เทวะโบราณหงส์ไฟ แคว้นของเราก็เป็นราชวงศ์เฟิ่งหวง ปีนั้นเจ้าถือกำเนิดขึ้นในป่าเก้าหมอบของที่นี่ ถือว่าที่นี่เป็นบ้านของเจ้าก็ไม่ผิด หากเจ้ายังเป็นแค่ทารกก็เรื่องหนึ่ง ยามนี้เจ้าก้าวสู่วัยหนุ่มแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่ และเป็นสัตว์เทวะคุ้มครองแคว้นของราชวงศ์เฟิ่งหวงได้”
“สัตว์เทวะคุ้มครองแคว้นหรือ?” เขามองเธอ แล้วถามว่า “แล้วนายท่านเล่า หากข้าอยู่คุ้มครองราชวงศ์เฟิ่งหวง ใครจะคุ้มครองท่าน? หากไปถึงแปดจักรวรรดิใหญ่แล้วนายท่านพบเจออันตราย ใครจะช่วยนายท่าน?”
นี่เป็นเรื่องที่เขากังวล อยู่ที่นี่นายท่านอาจรับมือกับทุกเรื่องด้วยตัวคนเดียวได้ แต่เมื่อไปถึงแปดจักรวรรดิใหญ่ ถ้าไม่มีเขาอยู่ข้างกาย นายท่านเจออันตรายจะทำอย่างไร?
พอนึกถึงตรงนี้ เขาส่ายศีรษะ “ข้าไม่เห็นด้วยเท่าไร เทียบกับคุ้มครองราชวงศ์เฟิ่งหวงและคนในครอบครัวของนายท่านแล้ว ข้าอยากคุ้มครองนายท่านมากกว่า” แม้ตลอดมาเขาจะบำเพ็ญฌานอยู่ในห้วงมิติไม่ออกมา แต่หากนายท่านเจออันตรายถึงชีวิตเขาก็จะรับรู้ได้ และปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือเป็นธรรมดา แต่ถ้าเขาอยู่ที่นี่ตามที่นายท่านบอกจริงๆ เช่นนั้นแม้เขาจะรับรู้ได้ว่านายท่านมีอันตรายก็ไม่อาจข้ามไปช่วยได้!
“ไม่หรอก หากสู้ไม่ได้ข้าก็หนีได้นี่!”
เธอก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ตบๆ ไหล่เขาแล้วบอกว่า “ที่นี่หากมีเจ้าคอยคุ้มครองข้าก็ยิ่งวางใจได้ และหากเจ้าอยู่ที่นี่ ปกติหากไม่มีเรื่องใดก็แค่ฝึกตนอยู่ในอาศรม ข้าคิดไว้แล้ว ใช้เวลาไม่นานนักหรอก หากทางนี้ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรอีกเจ้าก็ตามข้าไปด้วยได้ เป็นอย่างไร?”
“เช่นนั้นถ้าท่านใช้เวลาหลายปีจึงจะกลับมาจะทำอย่างไร?” เขาถามด้วยอารมณ์ค่อนข้างหม่นหมอง ดูท่าทางนางไม่คิดจะพาเขาไปด้วยแน่
“ไม่นานถึงหลายปีหรอก” สายตาเฉลียวฉลาดของเฟิ่งจิ่วจับจ้องที่หงส์ไฟ พูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า “ข้ายังต้องพาท่านแม่ของข้ากลับมาหาท่านพ่อข้าอีก เจ้าวางใจเถอะ อย่างมากก็สามปี ภายในสามปีข้าจะกลับมาแน่”
เห็นเช่นนั้น เขาก็ทำได้เพียงพยักหน้า “ท่านพูดแล้วนะ อย่างมากก็สามปี หากสามปีแล้วท่านยังไม่กลับมา ข้าจะไปหาท่าน”
เขาไม่ไว้ใจให้นางอยู่ข้างนอกคนเดียวจริงๆ โดยเฉพาะที่แปดจักรวรรดิใหญ่ สถานที่แบบนั้นระดับพลังของนางยังอยู่แค่กำเนิดวิญญาณ ยามนางมีอันตรายเขาไม่ได้อยู่ข้างกาย อย่างไรก็รู้สึกไม่วางใจอยู่บ้าง
“อืม” เฟิ่งจิ่วยิ้มพยักหน้า ก้าวออกไปกอดเขาไว้ กล่าวเสียงเบาว่า “ขอบคุณเจ้ามาก เสี่ยวเฟิ่ง”
…………………………………..
ตอนที่ 1234 เรื่องในอนาคตอันห่างไกล
ครั้นถูกนางกอด เสี่ยวเฟิ่งราวกับได้สัมผัสความรู้สึกที่ถูกนางกอดตอนเป็นเด็ก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ สำหรับเขา เฟิ่งจิ่วเป็นเจ้านาย และยิ่งเป็นเหมือนมารดาที่เป็นมนุษย์
ตั้งแต่เด็กก็ติดตามอยู่ข้างกายนางมาตลอด ความดูแคลนและดูเบาในตอนแรกเริ่ม มาถึงตอนท้ายกลายเป็นชมชอบนางยอมรับนางจากใจจริง ทุกย่างก้าว เขากำลังเติบโต นางก็กำลังเติบโตเช่นกัน
“นายท่าน ข้าไม่อยู่ปกป้องข้างกายท่าน ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าบาดเจ็บเล่า” เขายังคงกำชับอย่างไม่วางใจ อีกทั้งกล่าวอีกว่า “สามปี อีกสามปีไห้หลังจำไว้ว่าต้องกลับมารับข้า”
“อืม แน่นอน” เธอรับปากด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงค่อยพาเขาเข้าไปในวัง แจ้งให้ท่านปู่กับท่านพ่อของเธอรู้เรื่องนี้
ภายในวัง
“อะไรนะ เจ้าจะให้หงส์ไฟอยู่เป็นสัตว์เทวะคุ้มครองแคว้นที่นี่? ได้อย่างไรกัน!”
เฟิ่งซานหยวนกับเฟิ่งเซียวได้ยินคำพูดของเธอก็คัดค้านทันที “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงราชวงศ์เฟิ่งหวงเรา ยามนี้แคว้นต่างๆ มาแสดงความยินดี กลุ่มอำนาจและตระกูลเหล่านั้นล้วนแต่อยากเป็นมิตรกับเรา พวกเราทางนี้ไม่มีเรื่องใดหรอก เป็นเจ้าต่างหาก เจ้าไปแปดจักรวรรดิใหญ่ตามลำพัง หากไม่มีเสี่ยวเฟิ่งอยู่ข้างกาย พวกเราจะวางใจได้เช่นไร”
ขณะเอ่ย เฟิ่งซานหยวนโบกมือ ส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ได้ๆ เรื่องนี้ข้าไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด เจ้าพาเสี่ยวเฟิ่งไปด้วยเสีย”
เฟิ่งเซียวเองก็กล่าว “ใช่แล้ว เสี่ยวจิ่ว ทางนี้เจ้าวางใจเถิด! ดูจากสถานการณ์ยามนี้ ที่นี่ไม่มีอันตรายใดหรอก แม้ตอนนี้เรายังเป็นเพียงแคว้นระดับหก ทว่าแม้เป็นคนจากแคว้นระดับหนึ่งก็คงไม่โง่งมถึงขั้นลงมือกับเราหลังจากเห็นแล้วว่าพวกเรามีศักยภาพเช่นนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขา หงส์ไฟตาเป็นประกาย หันไปมองนายท่านที่ยืนอยู่ข้างกาย พวกเขาไม่อยากให้ตนอยู่ที่นี่ ถ้านายท่านเห็นด้วย เช่นนั้นก็ดีสิ เขาจะได้ตามนางไปแปดจักรวรรดิใหญ่ด้วย
ทว่า เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า ก่อนกล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง “ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่ได้กลัวกลุ่มอำนาจจากแคว้นระดับหนึ่งใดๆ แต่ข้ากลัวคนจากแปดจักรวรรดิใหญ่”
เสียงของเธอหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นบอกอีกว่า “ราชวงศ์เฟิ่งหวงผงาดขึ้นเร็วเกินไป จะต้องมีคนตาร้อนผ่าวเป็นแน่ แม้คนจากแคว้นต่างๆ ไม่ได้ลงมือ แต่รับประกันได้ยากว่าพวกเขาจะไม่หาคนมาเล่นงานลับหลัง หากเป็นผู้แข็งแกร่งจากแปดจักรวรรดิใหญ่ เพียงคนเดียวก็มากพอจะทำลายแคว้นหนึ่งได้แล้ว
กล่าวถึงตรงนี้ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตอนที่ข้าไปเทือกเขาอเวจีก็ได้พบกับผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง พลังอยู่เหนือระดับกำเนิดวิญญาณแน่นอน ผู้แข็งแกร่งเช่นนั้นหากจะลงมือเล่นงาน ต่อให้มีองครักษ์ตระกูลเฟิ่งอีกกี่คนก็ไม่อาจต้านทานไหว แต่หงส์ไฟไม่เหมือนกัน แม้เป็นผู้ฝึกตนที่แก่กล้าอีกสักเท่าใดก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์เทวะโบราณที่โตเต็มวัย ยามนี้เสี่ยวเฟิ่งเติบโตขึ้นแล้ว อานุภาพของเขากำราบได้ทุกสิ่ง รวมถึงผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณขึ้นไปด้วย”
ได้ยินเธอกล่าวเช่นนี้ คนทั้งสองมีสีหน้าเคร่งขรึม เป็นเช่นนั้นจริง สิ่งที่พวกเขาพบและประสบในตอนนี้เป็นเพียงมุมหนึ่งของภูเขาเท่านั้น ใต้ฟ้านี้มีผู้แข็งแกร่งมากมาย หากเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณขึ้นไปจริง เช่นนั้นพวกเขาจะมีพลังปกป้องราชวงศ์ของพวกตนได้หรือ?
เธอมองพวกเขา กล่าวว่า “ฉะนั้นข้าจึงอยากให้หงส์ไฟอยู่ที่นี่สามปี อีกสามปีให้หลังหากไม่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ก็คงไม่มีเรื่องใดอีกแล้ว ถึงแม้เกิดเรื่องขึ้น มีหงส์ไฟอยู่ที่นี่ข้าก็วางใจได้”
พ่อลูกเฟิ่งเซียวสบตากัน หันไปมองหงส์ไฟ แล้วจึงหันไปมองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “แต่หากให้หงส์ไฟอยู่ที่นี่ แล้วเจ้าจะทำอย่างไร เจ้าไปที่นั่นตามลำพัง สภาพแวดล้อมเช่นนั้นหากไม่มีหงส์ไฟอยู่ด้วยจะไม่อันตรายมากหรือ?”
เฟิ่งจิ่วแย้มยิ้ม ตอบว่า “เรื่องนี้พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไปที่นั่นจะเก็บงำเขี้ยวเล็บไว้ไม่ทำตัวเช่นตอนอยู่ที่นี่แน่นอน”
…………………………………………………