เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1247 อย่าเปิดเผย + ตอนที่ 1248 ไปหาข้ารับใช้ชายมาคนหนึ่ง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1247 อย่าเปิดเผย + ตอนที่ 1248 ไปหาข้ารับใช้ชายมาคนหนึ่ง
ตอนที่ 1247 อย่าเปิดเผย + ตอนที่ 1248 ไปหาข้ารับใช้ชายมาคนหนึ่ง
ตอนที่ 1247 อย่าเปิดเผย
หยางหย่งเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มๆ ก่อนกล่าวว่า “ข้าได้ยินพวกฮุยหลางบอกว่า ทางเริ่นเสียงหาร่องรอยของภูตหมอไม่เจอ ไม่รู้ว่าภูตหมอไปที่ใดแล้ว อีกอย่าง ข้าได้ยินนายท่านเคยบอกว่ามีสัญญาสิบปีกับกับภูตหมอด้วย? ทั้งยังบอกว่าหากยังฝึกตนไม่ถึงระดับกำเนิดวิญญาณก็ห้ามมาที่นี่?”
“ใช่น่ะสิ! สัญญาสิบปีมีเพื่อทดสอบนายของท่าน” เฟิ่งจิ่วยิ้มบอก “ครั้งนี้ข้าแฝงตัวเข้ามาเพราะอยากมาดูเสียหน่อย เขาได้ฉวยโอกาสตอนข้าไม่อยู่มีหญิงอื่นลับหลังรึไม่? แต่พอเข้ามาในนี้แล้ว เขตเรือนด้านในนี้กลับไม่มีสตรีสักคนเดียว เช่นนี้จะไม่เสียสมดุลหยินหยางรึ?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ แม้แต่หยางหย่งก็อดตะลึงงันไม่ได้ เขามองคนที่มีแววตาเจ้าเล่ห์ตรงหน้า แล้วหัวเราะเสียงเบาอย่างอดไม่ได้ “ท่านคิดมากไปแล้วจริงๆ
นายท่านไม่เคยใกล้ชิดสตรีเพศ ด้านนอกจวนนี้มีทาสหญิง แต่เขตเรือนด้านในกลับไม่มี ปกติมักเรียกข้ารับใช้ชายมาทำธุระให้ เกรงว่าการสุ่มตรวจสอบครั้งนี้คงทำให้ท่านผิดหวังแล้ว”
“เหลวไหล หากไม่ผิดหวังจะให้ข้าตื่นเต้นดีใจที่เห็นเขากอดก่ายหญิงอื่นอยู่ที่นี่หรือ?”
เธอกลอกตาอย่างหมดคำจะพูด กล่าวว่า “ข้ามาที่นี่เพราะมีธุระต้องมาทำ เพียงแต่มีเวลาเหลือหลายวันพอดี จึงมาดูเขาก่อน จริงสิ พิษเหมันต์ของเขาแก้ได้แล้วจริงหรือ ครั้งที่แล้วข้าได้ยินเริ่นเสียงกับฮุยหลางบอกว่าแก้ได้แล้ว? แก้อย่างไร? ขนาดข้ายังหาวิธีแก้พิษเหมันต์ของเขาไม่ได้เลย”
“แก้ได้แล้ว แท้จริงวิชาที่นายท่านฝึกฝนเดิมก็เป็นวิชาที่ร้อนแรงและแข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นหลายปีมานี้คงไม่อาจข่มพิษเหมันต์พันปีนั้นไว้ได้ เมื่อก่อนที่แก้พิษยังไม่ได้ เป็นเพราะนายท่านยังฝึกวิชาชุดนั้นไม่สำเร็จ
อีกอย่างในช่วงนั้น กลุ่มอำนาจเหล่านั้นกำลังจ้องเล่นงานนายท่านอยู่ มีครั้งหนึ่งนายท่านใช้แผนหนามหยอกเอาหนามบ่ง ทำให้คนพวกนั้นคิดว่าลงมือสำเร็จ แล้วฉวยโอกาสเก็บตัวฝึกวิชา กระทั่งต่อมานายท่านฝึกฝนจนสำเร็จบริบูรณ์ อาศัยวรยุทธ์ในร่างบีบเค้นพิษเหมันต์ออกมา เพียงแต่ว่า เพราะเหตุนี้นายท่านจึงสูญเสียวรยุทธ์ไปไม่น้อย อีกทั้งตอนนั้น…”
ครั้นพูดถึงตรงนี้ เสียงของเขาชะงักไป เงยหน้ามองเธอแวบหนึ่ง ทำเพียงยิ้มเล็กน้อย แล้วจึงไม่พูดสิ่งใดอีก
“ตอนนั้นทำไมหรือ?” เฟิ่งจิ่วกำลังตั้งใจฟัง เห็นเขาหยุดพูดก็อดแปลกใจไม่ได้
“เรื่องก็ผ่านไปแล้ว ไม่พูดถึงดีกว่า ใช่สิ ท่านบอกว่ามีเรื่องต้องมาทำที่นี่ ต้องการให้ข้าช่วยเหลือหรือไม่?” เขาเปลี่ยนเรื่องสนทนา ในใจคิดว่าไม่พูดถึงเรื่องที่นายท่านสูญเสียวรยุทธ์จนตัวเล็กลงจะดีกว่า
“เรื่องช่วยเหลือนั้นไม่ต้องหรอก แต่สองสามเดือนนี้ข้าจะอยู่ที่นี่ อีกหลายเดือนให้หลังข้ายังต้องไปจัดการธุระของข้าต่อ การไปครั้งนี้เกรงว่าคงไม่ได้มาหาเขาอีกนาน ข้าจะไม่อยู่ในเมืองหลวงนานนัก ฉะนั้นหากเขาจำข้าไม่ได้ ฮึ เรื่องที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึง”
“ได้” เขาพยักหน้า “หากมีเรื่องใดต้องการให้ข้าช่วยก็ขอให้บอก ข้ามีกำลังคนในมือพอให้ใช้งานได้”
“อืม ข้ารู้แล้ว” เธอยิ้มรับ ก่อนถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “ข้าได้ยินมาว่าท่านเป็นลูกชายคนรองของตระกูลใหญ่? เหตุใดจึงวิ่งมาเป็นพ่อบ้านให้เขาที่นี่ ที่บ้านท่านไม่คัดค้านหรือ?”
หยางหย่งยิ้มอ่อนโยน “ข้าเป็นลูกคนรอง ไม่จำเป็นต้องสืบทอดตระกูล คนในตระกูลข้าย่อมไม่คัดค้าน อีกทั้งติดตามข้างกายนายท่านก็ดีมาก อยู่ที่นี่ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมาย เป็นพ่อบ้านอยู่ในจวนของนายท่าน ใช่ว่าจะเทียบกับผู้นำตระกูลหนึ่งที่อยู่ข้างนอกนั่นไม่ได้”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “นั่นก็ใช่ อย่างไรฐานะของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดา ท่านเป็นทั้งพ่อบ้านและคนสนิท คงไม่น้อยหน้าผู้นำตระกูลข้างนอกนั่น”
“ยามนี้ท่านพักในเรือนข้ารับใช้กระมัง? ข้าช่วยท่านย้ายที่พักดีหรือไม่?”
………………………………….
ตอนที่ 1248 ไปหาข้ารับใช้ชายมาคนหนึ่ง
“ไม่ต้อง ที่พักตอนนี้ก็ไม่เลว อีกอย่าง หากได้รับสิทธิพิเศษ ที่นี่จะรักษาความลับไว้ไม่ได้ ท่านอย่าปฏิบัติกับข้าดีนัก” เฟิ่งจิ่วโบกมือแล้วลุกยืนขึ้น “หากไม่มีเรื่องใดข้าจะกลับไปกวาดพื้นแล้ว”
ขณะเอ่ยก็เดินออกจากศาลาไป แต่เหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้จึงหันไปถาม “ใช่สิ เหตุใดไม่เห็นเงานายท่านของท่านเลย?”
“นายท่านน่าจะอยู่บนหอทางนั้น ก็คืออาคารที่สูงที่สุดในจวนขอรับ” เขาเดินออกมาชี้หอคอยหลังนั้น
และทันทีที่เฟิ่งจิ่วสาวเท้าออกมา เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ยืนมองอยู่ตรงหน้าต่างมาโดยตลอดก็รีบถอยหลบไปด้านหนึ่ง ไม่ให้พวกเขารู้ว่าเขายืนมองอยู่ตรงนี้กว่าครึ่งชั่วยามแล้ว
สองคนนี้คุยอะไรกันอยู่ ถึงได้คุยกันนานขนาดนั้น?
เซวียนหยวนโม่เจ๋อยืนพิงกำแพงครุ่นคิด ปรับอารมณ์เล็กน้อย จนกระทั่งเห็นคนทั้งสองเดินจากไปผ่านทางช่องเล็กๆ จึงค่อยหันกายเดินออกมา
ขณะมองเงาร่างทั้งสองที่เดินจากไป นัยน์ตาลึกล้ำของเขาไหวระริก หยุดอยู่ในหอครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อยๆสาวเท้าเดินลงไป ลึกๆ ข้างในสุขใจที่ได้พบนางอีกครั้งหลังจากจากกันสองปีกว่า แต่ก็รู้สึกขุ่นเคืองด้วย
ขุ่นเคืองที่นางไม่ฟังคำเขา รอให้เข้าสู่ระดับกำเนิดวิญญาณก่อนค่อยมาที่นี่ หากเกิดเรื่องใดขึ้นทางนี้แล้วเขาไม่อยู่ข้างกายนาง เช่นนั้นจะทำอย่างไร? ทว่า สุดท้ายความขุ่นเคืองนี้ก็เทียบไม่ได้กับความสุขใจเลย
แม้เขาจะปั้นหน้าบึ้งตึงน่าเกรงขาม แม้เขาจะพยายามทำหน้าเย็นชาสุดชีวิต แต่ริมฝีปากที่เม้มบางๆ กลับหยักโค้งขึ้นเล็กน้อยด้วยความยินดีอย่างที่ไม่อาจปิดซ่อนความดีใจไว้ได้
ในเมื่อนางปลอมตัวเข้ามาแต่ไม่มาหาเขา เช่นนั้นเขาจะไปหานางเอง ในเมื่อนางอยากเล่นสนุก เช่นนั้นเขาก็จะเล่นเป็นเพื่อนนาง แต่เขาอยากรู้นักว่า สุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายทนไม่ได้แล้วเปิดเผยตัวตนก่อน
ครั้นมาถึงด้านล่าง เซวียนหยวนโม่เจ๋อเดินตรงไปยังเรือนหลัก เดิมทีนึกว่าเฟิ่งจิ่วที่ออกจากศาลาจะกวาดพื้นอยู่หน้าเรือนหลัก นึกไม่ถึงว่าจะมองไม่เห็นแม้แต่เงา
“นายท่าน ท่านมาทำอะไรอยู่ที่นี่ขอรับ?”
ฮุยหลางเดินมาจากด้านหลัง เห็นเจ้านายเอามือไพล่หลังมองซ้ายมองขวา จึงอดถามด้วยความแปลกใจไม่ได้ และมองรอบๆ ตามไปด้วย ก็ไม่เห็นสิ่งใดนี่!
เซวียนหยวนโม่เจ๋อได้ยินคำถามก็หันไปมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นสาวเท้าเดินเข้าไปในลานบ้าน ครั้นมาถึงข้างในเขาไม่ได้กลับห้อง แต่นั่งลงข้างโต๊ะในลานบ้าน
ฮุยหลางเห็นเช่นนั้น ก็หันไปส่งสัญญาณให้ข้ารับใช้ชายนำอาหารมาให้ พลางหันไปสบตากับอิ่งอี ต่างคนต่างส่งสายตาให้อีกฝ่ายเข้าไปถามนายท่านว่าเกิดเรื่องใดขึ้น
สุดท้าย อิ่งอีไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงก้าวเข้าไปถาม “นายท่าน เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ เหตุใดดูไม่สดชื่นตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้? พักผ่อนไม่เพียงพอหรือขอรับ?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงใช้มือเคาะหน้าโต๊ะเบาๆ พลางคิดในใจว่าจะนำตัวคนมาไว้ข้างกายอย่างไรดี?
จนกระทั่งมีอาหารและของว่างมากมายมาวางบนโต๊ะ เขาจึงมีประกายวาบผ่านในหัว ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ
“ฮุยหลาง ไปหาข้ารับใช้ชายสักคนมาชิมอาหาร” เขาทำหน้าตึงกล่าวพลางนั่งหลังตรง ไม่ยอมจับตะเกียบ
ได้ยินเช่นนั้น ฮุยหลางชะงักงัน “ชิม? หากชิมให้ข้าชิมก็ได้นี่ขอรับ!” ขณะเอ่ยก็ก้าวเข้ามา ม้วนแขนเสื้อจับตะเกียบคีบของกิน จากนั้นอ้าปากทำท่าจะส่งอาหารเข้าไป ใครจะรู้ น้ำเสียงเย็นเยียบที่น่าเกรงขามและคุ้นเคยกลับดังขึ้นมาในตอนนี้
“หลบไป”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเหลือบมองเขาด้วยความรังเกียจ “ไปตามข้ารับใช้ชายมาสักคน ให้รับผิดชอบอาหารการกินของข้าต่อจากนี้” เขากำชับเสียงเข้ม
“ข้ารับใช้ชาย? อ้อ ได้ขอรับๆๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” ฮุยหลางกล่าว จากนั้นก็รีบวิ่งออกไป
…………………………………………..