เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1263 บ่าวผู้นี้บังอาจนัก + ตอนที่ 1264 หลบไป
ตอนที่ 1263 บ่าวผู้นี้บังอาจนัก + ตอนที่ 1264 หลบไป
ตอนที่ 1263 บ่าวผู้นี้บังอาจนัก
คิดๆ แล้วก็ใช่ องค์หญิงของราชวงศ์ชื่อสุ่ยหนึ่งในแปดจักรวรรดิใหญ่จะธรรมดาได้อย่างไร?
“เจ้ารู้จักข้าหรือ” องค์หญิงแห่งชื่อสุ่ยแปลกใจเล็กน้อย มองเด็กรับใช้แวบหนึ่ง
“รู้จักขอรับ ทุกคนในจวนรู้ว่ารัชทายาทกับองค์หญิงสามแห่งชื่อสุ่ยมาที่จวนของพวกเรา”
นางฟังถึงตรงนี้ก็พยักหน้า ถามว่า “เช่นนั้นนายท่านของเจ้าอยู่ในจวนหรือ”
เฟิ่งจิ่วฉีกยิ้ม “เหมือนจะอยู่ และก็เหมือนไม่อยู่ขอรับ”
องค์หญิงโฉมงามขมวดคิ้วเล็กน้อย “เหมือนอยู่และไม่อยู่อะไรกัน?”
“แม้ข้าน้อยไม่เห็นนายท่านออกไปข้างนอก แต่ก็ไม่เห็นนายท่านในจวนเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ทราบว่านายท่านอยู่หรือไม่ขอรับ”
“เช่นนั้นเรือนหลักที่นายท่านของเจ้าพำนักอยู่ทางไหน?” องค์หญิงแห่งชื่อสุ่ยถามอีกครั้ง
“องค์หญิงสาม พ่อบ้านของพวกเราบอกว่าจะเตรียมงานเลี้ยงพรุ่งนี้ ถึงเวลานั้นนายท่านจะต้อนรับทั้งสองท่าน พรุ่งนี้พวกท่านจะได้พบนายท่านขอรับ” เธอยิ้มเอ่ย ไม่ได้บอกชัดเจน
รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยที่นั่งอยู่ในศาลาชำเลืองมองร่างนั้น สายตาละไมคล้ายสตรีฉายประกายเล็กน้อย บอกองค์หญิงสามว่า “อยากพบเซวียนหยวนโม่เจ๋อจะไปยากอะไร? ข้ามีวิธีทำให้เขาออกมาเอง” ระหว่างพูด เขาลุกขึ้นเดินออกมาจากศาลา
องค์หญิงสามแห่งชื่อสุ่ยประหลาดใจ หันไปมองเสด็จพี่ของนางแล้วถามว่า “เสด็จพี่รัชทายาท ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
จะทำอย่างไรให้เซวียนหยวนโม่เจ๋อออกมาเอง? พวกเขามาถึงจวนนี้แล้ว เซวียนหยวนโม่เจ๋อควรจะออกมาพบหน้า การกระทำที่หลังจากให้พวกเขาไปพักก็ยังไม่เห็นเงาเช่นนี้ ชัดเจนว่าไม่เห็นพวกเขาในสายตา
ยามนี้ เฟิ่งจิ่วมองร่างที่เดินมาหาเธอ อดเลิกคิ้วเล็กน้อยไม่ได้ ในใจแอบคิดว่ารัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยคิดจะทำอะไรกันแน่? ขณะกำลังคิด ก็ได้ยินเสียงตะคอกรุนแรงพร้อมแรงกดดันจู่โจมมาหาเธอ
“บ่าวผู้นี้บังอาจนัก! กำเริบเสิบสานไม่เห็นใครในสายตา!”
เสียงตะโกนทุ้มต่ำพร้อมแรงกดดันทรงพลังจู่โจมมาหา เฟิ่งจิ่วกลับยังคงยืนไม่ไหวติง ทำเพียงเกาๆ ศีรษะและมองซ้ายขวาหน้าหลัง สายตาที่ฉายความมึนงงอยู่บ้างหยุดมองร่างของรัชทายาทแห่งชื่อสุ่ย
“องค์รัชทายาท ท่านหมายถึงใครหรือ?”
รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยกับองค์หญิงสามใบหน้าแข็งทื่อ พวกเขามองเด็กรับใช้ที่ทำสีหน้าประหนึ่งว่าไม่มีเรื่องอะไร เห็นว่าเขาเหมือนจะไม่รู้สึกถึงแรงกดดันที่ปกคลุมไปหา กลับยังยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าฉงนสงสัยได้
“คุกเข่าลงเสีย!”
รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยตะโกนอีกครั้งด้วยใบหน้าถมึงทึง แรงกดดันที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าโจมตีปกคลุมไปทางเด็กรับใช้ตรงหน้า
เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว ก่อนจะถอยหลังไปพลางเอ่ย “หากองค์รัชทายาทกับองค์หญิงสามไม่มีธุระอื่นใด เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนขอรับ”
รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยเห็นเด็กรับใช้ถอยไปเหมือนไม่รู้สึกอะไร ในดวงตาก็ฉายประกาย พลันยื่นมือจู่โจมไปยังคนที่กำลังถอยจากไป “คิดจะไปรึ ข้าอนุญาตแล้วหรือ?” ใบมีดลมรุนแรงพร้อมด้วยแรงกดดันโจมตีออกไป มือคว้าไปทางลำคอของเฟิ่งจิ่วอย่างรวดเร็ว คล้ายว่าโมโหโกรธา คิดจะหักคอของเธอเสีย
“อึก! หยุดเสีย!”
ฮุยหลางที่มาตามหาเฟิ่งจิ่วเห็นภาพเช่นนั้น ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด เสี่ยวหลีจื่อคนนี้นายท่านกำลังโปรดปรานเชียว! หากถูกรัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยสังหารต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
ทันใดนั้นเขาตะโกนห้าม ขณะเดียวกันก็พุ่งไปข้างหน้า แต่เพราะระยะห่าง อีกทั้งรัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยยังไม่หยุดเพราะเสียงตะโกนของเขา ยามเห็นว่ามือนั้นจะบีบคอที่ทั้งเรียวเล็กและบอบบางของเสี่ยวหลีจื่อ ฮุยหลางหวั่นวิตกอย่างอดไม่ได้ รู้สึกเพียงอกสั่นขวัญหาย
ทว่าเวลาต่อมา ความอกสั่นขวัญหายทั้งหมดกลับกลายเป็นความตะลึงและตกใจแทน…
………………………………………………….
ตอนที่ 1264 หลบไป
เพราะเขาเห็นเด็กหนุ่มหลบจากการคว้าจับของรัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยอย่างง่ายดาย แม้จะแค่ขยับฝีเท้า แต่ท่วงท่าที่งดงามกลับทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อ เหมือนเห็นเงาของใครบางคนรางๆ
“ไม่นึกว่าในจวนของเซวียนหยวนโม่เจ๋อจะเก็บเสือซ่อนมังกรไว้ แม้แต่เด็กรับใช้ตัวเล็กๆ ยังมีฝีมือเช่นนี้” รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยหรี่ตาเล็กน้อย ดวงตาคล้ายสตรีจ้องเด็กรับใช้ที่ถอยห่างออกไปอย่างมุ่งร้าย แอบตกใจอยู่ลึกๆ ในใจ
ขนาดเด็กรับใช้คนเดียวยังมีฝีมือเช่นนี้ ในจวนนี้มีผู้แข็งแกร่งหลบซ่อนอยู่โดยที่เขาไม่ทันสังเกตมากเท่าไรกันแน่?
“รัชทายาทชมเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงเด็กรับใช้ทั่วไป”
เฟิ่งจิ่วเอ่ยด้วยรอยยิ้มในหน้า จับจ้องคนทั้งสองครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างมีเลศนัย “รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยอย่าใจร้อนเกินไปจะดีกว่าขอรับ ถึงอย่างไรก็เป็นแขก ยังมีอีกข้อหนึ่ง นายท่านของข้าจะปกป้องคนของตัวเอง หากในจวนนี้ขาดใครหรือใครหายไป จะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่”
กล่าวคำพูดนี้จบ ริมฝีปากของเธอยกยิ้มเย็น กวาดตามองทั้งสองคนแวบหนึ่ง ก็อ่านความคิดของพวกเขาเสียจนเข้าใจชัดแจ้ง
“รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ย ต่อให้คนในจวนของเราทำผิดพลาดตรงไหน ก็ควรให้พวกเราสั่งสอนกันเอง การลงมือปุบปับเช่นในวันนี้ หวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไป” ฮุยหลางเอ่ยปาก เสียงเว้นช่วงไป ก่อนจะมองพวกเขาสองคนแล้วเอ่ยว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่วันนี้ กระหม่อมจะรายงานนายท่านของกระหม่อมไปตามความจริง”
กล่าวจบจึงค่อยบอกเฟิ่งจิ่ว “ไปกันเถอะ!”
ถึงอย่างไรก็เป็นแขกของที่นี่ รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยจึงมองสองคนจากไปโดยไม่เข้าสู้หรือขัดขวางอีก แต่แววตาอึมครึม ในใจรู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก
“เสด็จพี่รัชทายาท พวกเรากลับกันก่อนเถอะ!” องค์หญิงสามก้าวเข้าไปบอก
รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยพยักหน้ารับ มองสองคนที่เดินไปไกลแล้วแวบหนึ่ง จากนั้นถึงมุ่งหน้าไปเขตเรือนทิศเหนือ องค์หญิงแห่งชื่อสุ่ยเห็นดังนั้น ก็รีบร้อนตามกลับไปเขตเรือนทิศเหนือด้วยกัน…
อีกด้านหนึ่ง ฮุยหลางพาเฟิ่งจิ่วเดินห่างไปไกล จนกระทั่งมาถึงใต้ต้นไม้ถึงจะหยุดฝีเท้ามองคนข้างกายด้วยความสงสัย และขานเรียกอย่างลองเชิง “ภูตหมอ?”
“เฟิ่งจิ่ว?” เขาเรียกอีกครั้ง เพราะท่าร่างที่เด็กหนุ่มหลบหลีกก่อนหน้านี้คุ้นตามาก เหมือนท่าร่างของภูตหมอ ทำให้เขาตั้งสติกลับมาได้
เมื่อได้ยิน เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าจำข้าได้แล้ว ไม่ง่ายเลยจริงๆ!”
“หา? เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย!”
ฮุยหลางเห็นนางยอมรับแล้ว ก็อดตกตะลึงไม่ได้ ถามขึ้นว่า “ท่านมาได้อย่างไร ซ้ำยังเข้ามาเองคนเดียวอีก? ไม่คิดว่าจะแอบเข้ามาในจวนด้วย? หยางหย่งกับอิ่งอีรู้ตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ นึกไม่ถึงว่าที่ผ่านมาจะไม่บอกข้าเลย จะแล้งน้ำใจเกินไปแล้ว!”
เอ่ยถึงตรงนี้ เขารู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย “รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยกลับคิดทำร้ายเจ้าเสียได้ เจ้าไปตอแยอะไรพวกเขา? พวกเขาก็ไม่เห็นใครในสายตาจริงๆ มาถึงจวนของพวกเรายังกล้าทำเช่นนี้อีก ข้าว่าพวกเขามาที่จวนแต่นายท่านไม่ไปหา พวกเขาก็เลยโกรธ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ พลางยักไหล่ กล่าวว่า “ข้าไม่ได้ตอแยพวกเขา พวกเขามาหาเรื่องข้าเอง”
“เกินไปแล้ว ข้าจะให้นายท่านจัดการพวกเขาแน่”
ฮุยหลางเอ่ยอย่างโกรธเคือง จากนั้นบอกว่า “จริงด้วย นายท่านอยู่ในเรือน เจ้ากลับไปก่อนเถอะ! ประเดี๋ยวข้าจะเข้าไป”
“อืม” เฟิ่งจิ่วตอบรับและเดินไปทางเขตเรือนหลัก
เวลานี้ เธอไม่รู้ว่าหลังจากพวกตนออกมา องครักษ์ลับได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนดอกไม้กับเซวียนหยวนโม่เจ๋อโดยละเอียดแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดพวกนั้น สีหน้าของเซวียนหยวนโม่เจ๋อก็มืดมะมึน…
………………………………………………….