เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1277 หยุดอยู่ตรงนั้น + ตอนที่ 1278 ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตาย
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1277 หยุดอยู่ตรงนั้น + ตอนที่ 1278 ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตาย
ตอนที่ 1277 หยุดอยู่ตรงนั้น + ตอนที่ 1278 ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตาย
ตอนที่ 1277 หยุดอยู่ตรงนั้น
แววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นลึกล้ำมืดดำ ลำคอขยับขึ้นลงอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขายกยิ้มขณะจับจ้องสตรีที่งดงามดุจบุปผาด้านล่าง “ไม่ใช่ ต้องอย่างนี้” สิ้นเสียงก็โน้มตัวลงไป มุดหน้าเข้าไปตรงซอกคอของเธอแล้วขบกัดเบาๆ
“กรี๊ด! จั๊กจี้ ฮ่าๆๆๆ…”
เฟิ่งจิ่วร้องเบาๆ หดเกร็งลำคอ ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมาพลางผลักเขาออกไป ใครจะรู้ว่าพอผู้ชายคนนั้นเห็นเธอจั๊กจี้ ก็เริ่มทำการจั๊กจี้เธอโดยตรง
“อ๊า…ฮ่าๆๆๆ…อย่า อย่าเล่นสิ ฮ่าๆๆๆ…อย่าเล่น ฮ่าๆๆๆๆ…”
เสียงหัวเราะที่กลั้นไว้ไม่อยู่ระคนเสียงขอร้องดังออกมาจากในห้อง เหล่าองครักษ์ลับที่ถอยห่างออกไปสามจั้งต่างหันมาสบตากันเงียบๆ แล้วคลี่ยิ้ม
ทางด้านฮุยหลางกับอิ่งอีที่กำลังเดินมาไม่ไกล ได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาจากในเขตเรือน ฝีเท้าก็พลันชะงักลงทันที โดยเฉพาะฮุยหลางที่ทำหน้าประหลาดใจ ท่าทางเหมือนอยากจะเข้าไปแอบดูให้รู้แล้วรู้รอด
แล้วเขาก็อดไม่ได้ก้าวเท้าไปข้างหน้าจริงๆ อิ่งอีที่เห็นอย่างนั้นกลอกตาอย่างเอือมระอา รีบยื่นมือคว้าเขาไว้ แล้วถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “เจ้าจะไปทำอะไร?”
“ข้าก็จะไปแอบดูอย่างไรเล่า!” ฮุยหลางหันกลับมา ตอบเหมือนเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
“แอบดูอะไรของเจ้า? ไม่ได้ยินหรือว่าเป็นพวกของนายท่านที่อยู่ข้างใน?”
ฮุยหลางคลี่ยิ้ม “ได้ยินแล้ว แต่เจ้าดูสิ พวกเขาหัวเราะกันขนาดนั้น ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ข้างใน ข้าแค่จะแอบไปดูแวบเดียว ฮิๆ นายท่านไม่รู้หรอก”
“นายท่านไม่รู้รึ? เช่นนั้นก็ดี! เจ้าไปเถิด! เกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่ต้องมาหาข้า” เขาดึงมือกลับมาไม่รั้งฮุยหลางอีก จากนั้นกอดอกถอยไปพิงต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล แล้วยืนดูอยู่อย่างนั้น
เจ้าโง่คนนี้ นายท่านกับภูตหมอกำลังปลูกต้นรักกันอยู่ข้างใน ก็ยังอยากไปดูรึ? เช่นนั้นก็ไปดูเสีย! เขาไม่เชื่อหรอกว่านายท่านจะไม่รู้
“ชิ อิ่งอี เจ้าขี้ขลาดเกินไปแล้ว เป็นเช่นนี้ไม่ได้นะ แต่ไม่เป็นไร เจ้ารออยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวข้าแอบไปดูแล้วจะมาบอกเจ้า” เขาหันไปบอกกับอิ่งอี ก่อนจะย่องฝีเท้าเบาๆ ย่อตัวก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว จนมาถึงมุมกำแพงนอกห้องนั้น ถึงจะแนบหูแอบฟังแล้วค่อยๆ เปิดหน้าต่าง ตั้งใจจะแอบส่องดูข้างใน
“ฮ่าๆๆๆๆๆ…อย่านะ ข้าไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ…”
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ในห้องถูกเขาใช้สองมือจั๊กจี้จนเหมือนถูกจี้จุดลมปรานหัวเราะ เธอหัวเราะจนหายใจติดขัด อ้อนวอนไม่หยุด เธอเพิ่งรู้ว่า ผู้ชายที่ปกติทำหน้าเคร่งเครียดและเย็นชาคนนี้จะจั๊กจี้คนเป็นด้วย ขำจะตายอยู่แล้ว
“ครั้งหน้ายังกล้าอีกหรือไม่?” เขาหยุดมือ นัยน์ตาดำลึกล้ำฉายรอยยิ้มมองเธอ
“ไม่ ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้วจริงๆ”
ไม่ง่ายเลยกว่าควบคุมลมหายใจได้ เธอรีบรับปาก เอ่ยจบสีหน้าของทั้งสองค้างเติ่ง เพราะได้ยินเสียงเล็กๆ ดังแว่วมา ดังนั้นหลังจากสบตากันแวบหนึ่ง จึงหันไปมองทางหน้าต่างพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เซวียนหยวนโม่เจ๋อหยิบหมอนบนเตียงขึ้นมา ครั้นเห็นศีรษะที่โผล่ขึ้นมาจากหน้าต่างบานนั้น ก็ปาหมอนใส่ทันที
“ตุบ!”
“โอ๊ย!”
ฮุยหลางร้องด้วยความตกใจ รีบหดตัวกลับไป ได้ยินเพียงสิ่งของชนเข้ากับหน้าต่างจนเกิดเสียงดัง เล่นเอาเขาตกใจอยากจะวิ่งหนีออกไปทันที ทว่ายังไม่ทันออกจากประตูลานบ้าน ประตูเรือนก็ถูกเปิดออก เสียงตวาดแฝงด้วยเพลิงโทสะที่คุ้นเคยพลันดังมา
“หยุดอยู่ตรงนั้น!”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฮุยหลางยืนตัวแข็งอยู่กับที่…
………………………………….
ตอนที่ 1278 ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตาย
“แหะๆ นะ นายท่าน คงไม่ได้รบกวนท่านกระมัง?”
เขาหันตัวกลับมา ยิ้มเหยเก มองเจ้านายอย่างเอาใจ เพียงแต่พอเห็นใบหน้าดำทะมึนของผู้เป็นนาย รวมถึงรังสีที่แผ่อยู่รอบตัวของอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกว่าหนังศีรษะชาวาบ
เฟิ่งจิ่วยืนพิงอยู่ตรงประตูเรือน สองมือกอดอกยืนมองฮุยหลาง เธอรู้อยู่แล้วว่าเป็นเจ้าโง่นี่ ถ้าเป็นคนปกติคงไม่กล้าทำเรื่องอย่างการแอบดูเช่นนี้ ก็ได้! ถึงเธอจะเคยเป็นแบบอย่างเรื่องการแอบดู แต่เธอถือเป็นกรณียกเว้น
“อิ่งอี”
“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ” อิ่งอีโฉบกายก้าวเข้ามา ประสานมือคำนับอย่างนอบน้อม
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวว่า “เอาตัวเขาไปห้อยกลับหัวไว้ใต้ต้นไม้ที่เรือนด้านหน้า จี้จุดลมปราณหัวเราะของเขาให้หัวเราะจนฟ้าสาง”
ฮุยหลางเบิกตาโต รีบอ้อนวอนทันที “นายท่าน ไม่เอานะขอรับ! ข้าสำนึกผิดแล้ว ข้าไม่ควรอยากรู้อยากเห็นว่าพวกท่านทำอะไรอยู่ในนั้น แต่ข้ายังไม่ทันได้เห็นอะไรจริงๆ จริงๆ นะขอรับ ข้าไม่เห็นอะไรเลย”
เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก เงยหน้ามองท้องฟ้า เจ้าคนน่าขันคนนี้นี่
“เอาตัวไป” เซวียนหยวนโม่เจ๋อโบกมือสั่ง
“ขอรับ” อิ่งอีรับคำ ก้าวเข้ามาลากตัวฮุยหลางออกไป
“นายท่าน นายท่าน…”
เขาตะโกนด้วยใบหน้าร่ำไห้ แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากอ้อนวอนภูตหมอ เพราะอย่างไรตัวตนของนางก็ยังเป็นความลับ มีแค่พวกเขาไม่กี่คนข้างกายนายท่านที่รู้ หากตะโกนออกมา คงเลี่ยงไม่พ้นทุกคนในจวนรู้กันหมด
ด้วยเหตุนี้ ฮุยหลางจึงถูกจับแขวนห้อยหัว ผูกไว้ตรงเขตเรือนด้านหน้าที่ผู้คนสัญจรผ่านไปมา แล้วก็หัวเราะอยู่ตรงนั้นไม่หยุด…
ส่วนทางฝั่งเรือน เฟิ่งจิ่วเห็นว่าเหลือเพียงพวกเขาสองคนอีกครั้ง ก็รีบหัวเราะกล่าวว่า “ท้องฟ้าราตรียามนี้กำลังดี ข้าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย” กล่าวจบก็รีบไหวกายหายออกไป
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเลิกคิ้ว ยิ้มเอ่ยว่า “อย่ากลับมาดึกนักเล่า”
ยามได้ยินประโยคนี้ของคนข้างหลัง เฟิ่งจิ่วเกือบสะดุดล้มหน้าทิ่ม เธอปรับฝีเท้าให้มั่นคงแล้วหันไปมองแวบหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงเขาดังมาอีกครั้ง
“ข้าให้ห้องครัวตุ๋นรังนกน้ำแดงบำรุงร่างกายให้เจ้า”
ได้ฟังแล้วเธอก็กะพริบตาปริบๆ แล้วเผยรอยยิ้มเบิกบาน “รู้แล้ว!” ขณะเอ่ยก็โบกมือแล้วไหวกายจากไป
อาศัยโอกาสช่วงที่เซวียนหยวนโม่เจ๋อกำลังอาบน้ำ เฟิ่งจิ่วเดินเล่นไปจนถึงเขตเรือนด้านหน้า มองเห็นร่างของฮุยหลางที่ถูกจับห้อยหัวและหัวเราะจนตัวสั่นอยู่ จึงเดินเข้าไปหา
“ฮุยหลาง รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ห้อยหัวกินลมชมวิวยามค่ำคืนเช่นนี้?” เธอนั่งลงบนหินก้อนหนึ่ง มองฮุยหลางที่กำลังหัวเราะเสียงดัง
“มะ ฮ่าๆๆๆ ไม่ ฮ่าๆๆๆ…ไม่ดีเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ…”
เขาหัวเราะจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว รู้อย่างนี้เขาคงไม่อยากรู้อยากเห็นวิ่งไปแอบดูตั้งแต่แรก นี่ถ้าได้เห็นอะไรสักนิดก็ยังดี แต่ไม่เห็นอะไรเลยกลับโดนจับมัดห้อยหัวอย่างนี้ ไม่ยุติธรรมที่สุด!
“จะไม่ดีได้เช่นไร? ข้ารู้สึกว่าดีมากเลย! เจ้าดูสิที่นี่มีทั้งลม แล้วยังมีทิวทัศน์ยามราตรีให้ชมอีก ไม่มีใครมารบกวนเจ้า ดีจนไม่รู้จะดีอย่างไรแล้ว” เธอเอามือเท้าคาง ยิ้มตาหยีพลางกล่าว
“อีกอย่าง เจ้ากล้าแอบดู เช่นนั้นก็ต้องกล้ารับผลที่ตามมาสิ! เจ้าอย่าโทษนายของเจ้าเลย หากไร้กฎเกณฑ์ย่อมไม่อาจปกครองหมู่คณะได้ เรื่องนี้เจ้าก็รู้ เอาละ! ข้าอยู่คุยเป็นเพื่อนเจ้าที่นี่ดีไหม? เจ้าหัวเราะต่อไปเถิด ไม่เป็นไร หากพรุ่งนี้เสียงแหบข้าจะรักษาให้เอง”
“อย่า ฮ่าๆๆๆๆ…อย่าทำอย่างนี้ ฮ่าๆๆๆ…”
“ความจริงนายของเจ้าถือว่าใจดีกับเจ้ามากแล้ว ถ้าเป็นข้า ข้าจะจับเจ้ามัดห้อยหัวใต้ต้นไม้แล้วปล่อยสัตว์ร้ายที่ปล่อยให้หิวโหยมาหลายวันไว้ออกมา อย่างนี้สิจึงจะเรียกว่าลงโทษ เจ้าว่าใช่หรือไม่?”
………………………………….