เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1283 รังแกผู้น้อย + ตอนที่ 1284 ไม่ปกติเท่าไร
ตอนที่ 1283 รังแกผู้น้อย? + ตอนที่ 1284 ไม่ปกติเท่าไร
ตอนที่ 1283 รังแกผู้น้อย?
“ไม่เป็นไร ข้าว่ารัชทายาทชื่อสุ่ยน่าจะไม่ได้ตั้งใจ” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ สื่อให้ฮุยหลางอย่าหุนหันพลันแล่น จากนั้นมองรัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยและเอ่ยว่า “หากรัชทายาทชื่อสุ่ยต้องการชีวิตของข้า ลูกศรนั้นคงไม่ยิงเฉออกไป”
รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยได้ยิน ดวงตาก็ฉายประกายวูบไหว ยิงเฉไปหรือ? ลูกศรเล็งจุดตายตรงหัวใจของมันชัดๆ เดาว่าหากไม่ใช่เพราะเซวียนหยวนโม่เจ๋ออยู่ในป่า รวมถึงข้างกายของมันมีฮุยหลางอยู่ น่าจะถูกคนด้านหลังเขาลงมือสังหารเพื่อระบายโทสะในใจแล้ว!
ฮุยหลางเห็นว่าเฟิ่งจิ่วไม่ถือสา จึงไม่พูดอะไรมากความ ทำเพียงมองพวกเขาที่เข้ามาขวางพวกตนเอง
“เสี่ยวหลีจื่อใช่ไหม?” รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยขี่ม้ามาตรงหน้าเฟิ่งจิ่ว ดวงตาคล้ายสตรีจ้องแน่นิ่งที่เด็กหนุ่มในชุดข้ารับใช้
“ใช่ขอรับ” เฟิ่งจิ่วพยักหน้าขานรับ
“เด็กรับใช้อย่างเจ้า ข้าเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก เทียบกับเรื่องล่าสัตว์เช่นนี้ ข้าสงสัยเรื่องพลังของเจ้ามากกว่า ไม่สู้ให้คนของข้าประลองกับเจ้าดูสักครั้ง?” ระหว่างพูด รัชทายาทชื่อสุ่ยที่นั่งบนหลังม้าโบกมือ ให้สัญญาณชายวัยกลางคนชุดเทาด้านหลังก้าวเข้ามา
“ท่านอย่าทำเกินไปนัก! นายท่านของข้าอยู่ละแวกนี้ หากเขาเห็นว่าพวกท่านรังแกคนที่นี่ พวกท่านได้ลำบากแน่!” ฮุยหลางกล่าวตักเตือนพลางขี่ม้ามาขวางเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่ว กดเสียงเบากล่าวว่า “เจ้าไปก่อนเถอะ พวกเขาจะหาเรื่องเจ้า!”
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองคนด้านหลังรัชทายาทชื่อสุ่ย เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจเล็กน้อย “ไม่ดีเท่าไรกระมัง? มองอย่างไรข้าก็เสียเปรียบ! อีกอย่างพวกท่านเป็นแขก ประมือกับแขกไม่ดีเท่าไรนัก ทั้งเสียมารยาทและไร้ระเบียบเกินไปขอรับ”
รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ยหัวเราะเยาะ สายตาละมุนละไมหยุดมองร่างของเฟิ่งจิ่ว “เจ้าใจกล้าแค่นี้หรือ?” สิ้นเสียงก็ส่งสัญญาณให้ชายวัยหลางคนชุดเทาข้างกายไหวร่างกระโจนเข้าไปจู่โจมเฟิ่งจิ่ว
“ขอรับ ข้าใจไม่กล้า แต่ในเมื่อพวกท่านอยากเล่น ข้าก็ได้แต่ร่วมสู้ด้วย! ถึงอย่างไรวันนี้ภารกิจหลักคือต้องทำให้พวกท่านสนุกสนาน ถ้ารู้สึกว่าล่าสัตว์น่าเบื่อไปแล้ว ก็เปลี่ยนมาประลองกันสักตั้งได้ อาจทำให้พวกท่านพอใจยิ่งกว่า”
มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มชั่วร้าย จากนั้นเห็นชายวัยกลางคนชุดเทาคนนั้นใช้สองมือรวมกลิ่นอายพลังโจมตีเข้ามา สองมือของเธอรวบรวมคลื่นพลังวิญญาณเช่นกัน ทั้งตัวลอยขึ้นไปจากบนหลังม้า ฝ่ามือที่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณสะบัดออกไป ก่อนเข้าประมือกับฝ่ายตรงข้ามกลางอากาศ
ฮุยหลางที่อยู่ข้างๆ มองด้วยสีหน้าหนักใจ พละกำลังของชายวัยกลางคนชุดเทาทะลวงถึงระดับกำเนิดวิญญาณ เฟิ่งจิ่วจะรับมือไหวหรือ?
ขณะกำลังคิด ก็เห็นสองคนกลางอากาศประมือกันไปสิบกว่ากระบวนท่าแล้ว พลังวิญญาณและอานุภาพกดดันทะลักล้น กลิ่นอายในอากาศกดดันยิ่งขึ้น ฝ่ามือลมส่งเสียงหวีดหวิวในอากาศ รวดเร็วรุนแรงดุจมีด แม้สองคนไม่ได้สู้กันด้วยอาวุธ แต่เสียงกระแสลมดุเดือดนั้นกลับไม่ด้อยไปกว่าดาบกระบี่ในมือเลย แทบจะเป็นเวลาชั่วครู่เดียว ก็เห็นเฟิ่งจิ่วเตะชายวัยกลางคนลงมาจากข้างบนอย่างหนักหน่วง
“อั่ก!”
เขาถูกแรงขุมหนึ่งกดอัดจากกลางอากาศ ขณะซวนเซทรุดลงไป เด็กรับใช้ผู้นั้นก็มาที่ข้างกายเขาในพริบตาพร้อมฉีกยิ้มให้ ตอนที่เขากำลังอึ้งตะลึง ก็เห็นเด็กรับใช้ฝั่งตรงข้ามพลันไหวกายเข้ามาชิงถุงฟ้าดินตรงเอวของเขาไปด้วยความว่องไวยิ่ง
“จะ เจ้าจะทำอะไร?” ชายวัยกลางคนตะลึงเล็กน้อย หลังจากลงมาที่พื้นด้วยฝีเท้าซวนเซก็รีบประคองร่างกายไว้
………………………………………………….
ตอนที่ 1284 ไม่ปกติเท่าไร
วรยุทธ์ระดับกำเนิดวิญญาณของเขาสามารถกำราบฝ่ายตรงข้ามได้ พลังเหนือกว่าอย่างแน่นอน ผู้แข็งแกร่งฝีมือไม่ธรรมดาเช่นนี้ ไม่นึกว่าจะโดนชิงถุงฟ้าดินไปได้? ครั้นนึกถึงข้อนี้ สีหน้าของเขาประหลาดพิกลไปเล็กน้อย
อีกอย่าง คนตรงหน้าเป็นแค่เด็กหนุ่มไม่ใช่หรือ? เด็กหนุ่มคนหนึ่งมีพละกำลังเช่นนี้ หรือว่าจะมาจากราชวงศ์ ไม่ก็ตระกูลใหญ่? มีเพียงความเป็นไปได้สองอย่างนี้ถึงจะมีสมบัติฟ้าดินสำหรับฝึกบำเพ็ญและช่วยเหลือให้ทะลวงขั้นได้
เฟิ่งจิ่วลอยจากกลางอากาศกลับมานั่งบนหลังม้า เธอโยนถุงฟ้าดินในมือเล่น ยิ้มพูดว่า “ท่านคิดว่าข้าจะประลองกับท่านเปล่าๆ หรือ? ไม่มีค่าแรงสักหน่อยใครจะสนใจท่าน!”
ฝ่ายตรงข้ามประมาท มิเช่นนั้นคงไม่พ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเธอรวดเร็วเพียงนี้ ทั้งสองคนสู้กันอย่างยั้งมือไว้ ไม่ก่อความวุ่นวายมากไปนัก ดูท่าทางพวกเขาจะไม่อยากให้เซวียนหยวนโม่เจ๋อรู้สึกถึงสถานการณ์ตรงนี้ แต่ภายในป่าผืนนี้ ถึงแม้พวกเขาต่อสู้เคลื่อนไหวไม่ใหญ่โตมาก ด้วยพลังวรยุทธ์ของเขาจะไม่รู้เรื่องได้อย่างไร?
“คืนถุงฟ้าดินมา!” ผู้ฝึกตนกำเนิดวิญญาณคนนั้นขมวดคิ้วตะโกน พ่ายแพ้ก็เสียหน้ามากพอแล้ว ยังมาถูกเด็กคนหนึ่งชิงถุงฟ้าดินไป นี่ยิ่งน่าขายหน้านัก
“นี่รัชทายาทชื่อสุ่ยจะทำร้ายคนของข้าหรือ?”
เสียงที่คุ้นเคยดังมาพร้อมความเย็นยะเยือก เฟิ่งจิ่วหันกลับไปมอง เห็นเซวียนหยวนโม่เจ๋อในชุดคลุมสีดำท่าทางเย็นชาขี่ม้าดำเข้ามา ยามนี้สีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย เสริมให้ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาดุดันและน่าเกรงขามขึ้นมา
“เสด็จพี่รัชทายาท”
อิ๋งเสวี่ยที่ตามหลังเซวียนหยวนโม่เจ๋อมาขี่ม้าเข้ามาข้างๆ รัชทายาทแห่งชื่อสุ่ย ครั้นเห็นสถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายก็อดแปลกใจไม่ได้ เสด็จพี่ให้คนทำร้ายเด็กรับใช้คนนั้นหรือ?
“ฮ่าๆๆๆ ข้าแค่เห็นว่าวรยุทธ์ของเขาสูงส่งแม้อายุยังน้อย ใคร่อยากรู้ยิ่ง จึงให้คนแลกเปลี่ยนความรู้กับเขาเสียหน่อย” เสียงเว้นช่วงไป ดวงตาอ่อนหวานมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อก่อนเอ่ยว่า “รัชทายาทเซวียนหยวนวางใจได้ ไม่เห็นจะทำร้ายคนของท่านเลย!”
ฮุยหลางได้ยินคำพูดนี้ก็แค่นเสียงเย็น “หึ ไม่ทำร้ายคนของพวกเราอะไรกัน ชัดเจนว่ากำลังของพวกท่านสู้ไม่ได้”
เวลานี้ สายตาของเซวียนหยวนโม่เจ๋อหันไปหาเฟิ่งจิ่ว หยุดมองร่างเธอสักพักถึงถามว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไรขอรับ แค่ลุกมาอบอุ่นร่างกาย ถือโอกาสหาค่าตอบแทนเล็กน้อย” เฟิ่งหยีตายิ้ม โยนถุงฟ้าดินในมือเล่นพลางเอ่ย
ได้ยินเช่นนี้ เซวียนหยวนโม่เจ๋อถึงจะพลิกตัวลงจากม้า เดินช้าๆ มาหาเธอ เมื่อมาถึงข้างม้าก็ยื่นมือออกมา
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้จึงยื่นมือออกไปจับมือของเขาและกระโดดลงจากม้า
“หิวหรือยัง พวกเราไปย่างเนื้อกินกัน” เขาถามประหนึ่งว่ารอบข้างไม่มีใคร น้ำเสียงมีความเอาใจที่ไม่ปกปิดเลยสักนิด
“ขอรับ ข้าหิวแล้ว” เธอพยักหน้าขานรับ ปล่อยให้เขาจูงมือเธอเดินผ่านทุกคนมาพักใต้ต้นไม้ไม่ไกล พวกฮุยหลางจัดการเหยื่อด้วยความรวดเร็วและเตรียมการย่างเนื้อ
รัชทายาทชื่อสุ่ยเห็นภาพนี้ด้วยตาตัวเอง ก็ประหลาดใจพอสมควร ‘เล่ากันว่ารัชทายาทแห่งเซวียนหยวนไม่สนใจผู้หญิง หรือว่าเขาจะชอบผู้ชายด้วยกัน?’ เมื่อนึกถึงข้อนี้ เขามองร่างของสองคนนั้นด้วยความสนใจยิ่ง จากนั้นถามขึ้นว่า “อิ๋งเสวี่ย เจ้ามั่นใจในรสนิยมทางเพศของเขาหรือไม่? คนเช่นนี้จะชมชอบผู้ชายหรือไม่?”
คนทั่วไปไม่มีเหตุผลที่จะทอดทิ้งสาวงามเลิศคนหนึ่งไม่เข้าไปใกล้ชิด แล้วไปสนิทสนมกับเด็กรับใช้ที่หน้าตาเรียกได้ว่าพริ้มเพราแทน หนำซ้ำยังใช้น้ำเสียงและแววตาเอาอกเอาใจเช่นนั้นกับเด็กรับใช้ เห็นเช่นนี้จะอย่างไรก็ไม่ปกติ!
………………………………………………….