เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 129 เกิดเรื่องแล้ว! + ตอนที่ 130 ผีเข้าแล้ว!
ตอนที่ 129 เกิดเรื่องแล้ว!
ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งมองไปที่เขา แววตาหมองหม่น กล่าวว่า “ไม่ผิด ข้าสงสัยว่านางไม่ใช่แม่หนูเฟิ่งของข้า”
“จะเป็นไปได้ยังไง! ท่านพ่อ ท่านออกไปด้านนอกแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? มีคนพูดเรื่องเหลวไหลอะไรกับท่านใช่หรือไม่? ท่านจะคิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” เฟิ่งเซียวรับไม่ได้นิดหน่อยที่พ่อตัวเองเคลือบแคลงในตัวลูกสาว นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เมื่อมองเฟิ่งเซียว ผู้เฒ่าเฟิ่งก็ส่ายหน้า แม้แต่พ่อตัวเองยังแยกไม่ออกว่าลูกสาวตัวจริงหรือปลอม มิน่าล่ะแม่หนูเฟิ่งถึงไม่กล้ากลับมา
เขาลุกยืนขึ้นมา เอามือไพล่หลังสูดหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยว่า “บางครั้งดวงตาคนเราก็มืดบอด มีอีกมากมายหลายเรื่องที่ต้องใช้หัวใจถึงจะรู้สึก และมองเห็น พ่อเจ้าใช้ชีวิตมาหลายปีดีดักเพียงนี้ เกลือที่กินยังมากกว่าข้าวที่เจ้ากินนัก”
เขามองเฟิ่งเซียวแวบหนึ่ง กล่าวต่อว่า “แม้นางจะแบกใบหน้าของแม่หนูเฟิ่ง มีปานรูปหงส์เหมือนกัน ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นแม่หนูเฟิ่ง ต้องรู้ไว้ ความรู้สึกน่ะ หลอกคนไม่ได้หรอกนะ”
เห็นเขาพูดจบท่าทางทั่วร่างก็เปลี่ยน ก่อนจะก้าวยาวเดินออกไป เฟิ่งเซียวตกใจรีบรั้งเขาไว้ เอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ ท่านคิดจะทำอะไรรึขอรับ?”
ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวว่า “นางไม่ใช่แม่หนูเฟิ่งของข้า ข้าจะจับนางมากระชากหน้ากากเสีย!”
เฟิ่งเซียวฟังคำพูดนี้ก็ตะลึงขึ้นมาทันใด แม้แต่น้ำเสียงก็ยังหนักแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ท่านพ่อ ท่านบ้าไปแล้ว! นางคือชิงเกอ เป็นหลานสาวท่าน แม่หนูเฟิ่งของท่านน่ะ!” เขาคิดว่าท่านพ่อถูกผีเข้า ไม่งั้นคงไม่พูดจาเช่นนี้ออกมาแน่
“หึ! ข้าว่าเจ้าแหละบ้า! แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็แยกแยะไม่ออก ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นพ่อของแม่หนูเฟิ่งอีกรึ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าแม่หนูเฟิ่งได้รับเคราะห์เช่นไร? เจ้ารู้ไหม!”
เมื่อนึกถึงใบหน้าหลานสาวสุดที่รักที่เสียโฉม เขาก็จุกขึ้นมาในลำคอทันใด ก่อนจะถลึงมองเฟิ่งเซียวด้วยดวงตาที่เปียกปอนน้อยๆ
“เจ้าเคยคิดหรือไม่ หากเฟิ่งชิงเกอในจวนผู้นี้เป็นตัวปลอม แล้วแม่หนูเฟิ่งตัวจริงอยู่ที่ใดเล่า? จะรับเคราะห์อยู่หรือไม่? จะทุกข์ทรมานอย่างไม่คาดคิดรึเปล่า? เจ้าไม่เคยคิด ถึงกับไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่ามีความเป็นไปได้นั้นเกิดขึ้น ขนาดข้าบอกเจ้า ก็ยังไม่ยอมเชื่อ เจ้าบอกสิ มีพ่อเช่นเจ้านี้ แม่หนูเฟิ่งของข้าจะกล้ากลับบ้านมาได้อย่างไร?”
“ท่านพ่อ สิ่งเหล่านั้นที่ท่านบอกเดิมทีก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ข้ารู้แจ้งลูกสาวตัวเองดี นางอยู่ข้างกายข้าเสมอมา ก็ไม่มีตรงไหนที่ไม่ชอบมาพากล ท่านคิดว่าเรื่องพวกนั้นที่กล่าวมาจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ท่านพ่อ ท่านเหนื่อยเกินไปรึเปล่า? หรือว่าดื่มเหล้าเสียจนเมามาย? ให้ข้าประคองท่านกลับไปพักในเรือนไม่ดีกว่ารึ?”
เฟิ่งเซียวออกหน้าจะเข้าประคอง กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะสะบัดแขนเสื้อ แรงที่สะบัดมาผลักเขาถอยออกไปไกลหลายเมตรเสียดื้อๆ
“เจ้าคนไร้ยางอาย! รอก่อนเถิด รอข้าจัดการนังแพศยาตัวปลอมนั่น หลังจากรับแม่หนูเฟิ่งกลับมา ค่อยจัดการกับเจ้า!”
ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งด่าทออย่างเกรี้ยวกราด แล้วเรียกพลังกระโดดขึ้นไปยังด้านในเรือนของเฟิ่งชิงเกอ
“ท่านพ่อ!”
เฟิ่งเซียวตื่นตระหนก หลังจากอุทานก็รีบร้อนตามขึ้นไป แต่สุดท้ายกำลังเขาสู้ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งไม่ได้ ความเร็วยังห่างไกลไม่เท่าเขา แค่เพียงชั่วพริบตาเดียว จึงไม่เห็นเงาร่างแล้ว
เห็นเช่นนี้ เขาก็ตะโกนลั่น “ท่านพ่อ! ท่านอย่าทำอะไรงี่เง่าน่า!”
เพราะการเคลื่อนไหวของสองพ่อลูกเสียงดังมาก คนในจวนจึงแทบจะถูกรบกวนกันหมด ต่างพากันโผล่หัวออกมาพูดคุยเสียงเบา
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?”
“ข้าคล้ายจะได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าหาว่าคุณหนูเป็นตัวปลอม”
“จะเป็นไปได้อย่างไร! ท่านผู้เฒ่าดื่มเหล้าเมาแล้วกระมัง! คุณหนูจะเป็นตัวปลอมได้เช่นไร?”
“กรี๊ด!”
เสียงกรีดร้องดังลอยมา ทำให้พวกคนรับใช้ที่กำลังพูดคุยกันต่างพากันตกใจ
“ไม่ดีล่ะ เกิดเรื่องแล้ว รีบไปดูเร็ว!”
………………………………
ตอนที่ 130 ผีเข้าแล้ว!
เมื่อเฟิ่งเซียวมาถึงเรือนลูกสาว ก็ถูกภาพตรงหน้าทำให้ตื่นตระหนกเสียจนหัวใจแทบเต้นกระโจนออกมา
เพียงเห็นว่า ท่านผู้เฒ่าดึงกระบี่ยาวออกมาจากไหนไม่รู้ สองมือจับกระบี่ใช้กลิ่นอายพลังเร้นลับกำลังตวัดฟันสะเปะสะปะอยู่ในเรือน ส่วนลูกสาวเขาก็ร้องไห้ตกใจหลบอยู่ข้างๆ
“ท่านพ่อ! นี่ท่านทำอะไรน่ะ!”
เขาอุทาน รีบร้อนพุ่งเข้าไปจะยึดกระบี่ในมือเขา เพื่อเลี่ยงไม่ทำให้ใครบาดเจ็บ แต่ใครจะรู้ ท่านผู้เฒ่าเองก็หมุนตัวหลบ ก่อนจะออกแรงผลักเขาออกไป “ไสหัวไป! ข้าจะฆ่านาง! ต้องฆ่านางซะ!”
ใบหน้าเฟิ่งเซียวไร้สีเลือดฝาด พุ่งเข้าไปอีกครั้งกอดอยู่ด้านหลังเขาไว้แน่น “ท่านพ่อ! ท่านมีสติหน่อยเถิด! นั่นชิงเกอ! เป็นหลานสาวท่านนะ!”
“นางไม่ใช่! นางไม่ใช่! นางทำร้ายแม่หนูเฟิ่งของข้า! นางทำร้ายแม่หนูเฟิ่ง! อ๊าก! ปล่อยข้า! ข้าจะฆ่านางซะ!”
สองตาท่านผู้เฒ่าเฟิ่งเต็มไปด้วยเส้นเลือด ตะโกนลั่นทั้งท่าทางบ้าคลั่ง ดิ้นรนขัดขืนอยากจะกระโจนไปด้านหน้า
ไม่มีใครเห็น ว่าเฟิ่งชิงเกอที่หลบอยู่ด้านข้างทั้งน้ำตานองหน้าด้วยความตกใจขวัญหนีเป็นที่สุด สายตาที่มองไปทางท่านผู้เฒ่าเฟิ่งมีทั้งความชั่วร้ายและตื่นเต้น ประกายเหล่านั้นฉายแวบผ่านไป รวดเร็วไม่มีใครทันสักเกต
นางร่ำไห้อย่างเสียขวัญ ตะโกนว่า “ท่านพ่อ ท่านพ่อช่วยลูกด้วยเจ้าค่ะ ท่านปู่จะฆ่าข้า ฮือๆ…”
เฟิ่งเซียวฟังเสียงร้องคร่ำครวญของลูกรักที่ตกใจทำอะไรไม่ถูก แล้วมองท่าทางท่านผู้เฒ่าที่แทบจะสิ้นเสียสติ ทำเช่นไรก็หยุดไว้ไม่อยู่ สุดท้ายจึงไม่สนใจเรื่องเสียมารยาทอะไรอีก ใช้มือเหยียดตรงดั่งมีดเคาะตัดลงไปทำให้เขาสลบ
“เคร้ง!”
ร่างกายท่านผู้เฒ่าเฟิ่งอ่อนยวบลงไป กระบี่ในมือร่วงหล่นลงพื้น ในที่สุดทั่วทั้งเรือนก็เงียบสงัดลงเพราะเขาหมดสติ
“เจ้าไปเชิญหลินเหล่ามาตรวจดูท่านพ่อเสียหน่อย” เฟิ่งเซียวประคองท่านผู้เฒ่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะออกคำสั่งกับคนรับใช้ด้านนอกเรือน
“ขอรับๆ” คนรับใช้รีบร้อนขานรับ ผู้คนที่อึกทึกครึกโครมต่างปรี่กลับกันไป ถึงจะไปเชิญท่านหมอในจวนอย่างรวดเร็ว
เฟิ่งชิงเกอถึงจะเดินเข้ามา สีหน้ายังคงหวาดกลัว “ท่านพ่อ ท่านปู่เป็นอะไรไปเจ้าคะ?”
“เจ้าบาดเจ็บหรือไม่?” เขามองไป เห็นนางน้ำตานองหน้า จึงปลอบประโลม “ไม่ต้องกลัวนะ มีพ่ออยู่จะไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้ เจ้ากลับห้องไปก่อนเถอะ พ่อจะส่งปู่เจ้ากลับเรือนเอง” ขณะที่พูด ก็ประคองท่านผู้เฒ่าที่หมดสติเดินออกไป
“ท่านพ่อ ลูกตามไปดูด้วยนะเจ้าคะ!” นางวิ่งตามมาต้อยๆ เอ่ยว่า “ลูกเป็นห่วงท่านปู่เจ้าค่ะ”
“ได้สิ!” เฟิ่งเซียวพยักหน้า แล้วปล่อยให้นางตามมา
พอวางท่านผู้เฒ่าลงบนเตียงได้ไม่นาน คนรับใช้ก็พาชายชราท่านหนึ่งเดินเข้ามา
“นายท่าน” ชายชราหันไปคำนับให้เฟิ่งเซียว
“หลินเหล่า เจ้ารีบเข้ามาตรวจท่านพ่อข้าเร็ว ลองดูทีว่าเขาไม่สบายตรงไหน” เฟิ่งเซียวกล่าวอย่างร้อนรน ให้สัญญาณเขาเข้ามา
“ขอรับ” หลินเหล่าขานรับ มองไปทางเฟิ่งชิงเกอที่ข้างเตียงแวบหนึ่งด้วยท่าทางสงบเยือกเย็น ถึงจะเดินเข้าไปช่วยตรวจดูอาการท่านผู้เฒ่าที่ข้างเตียง ผ่านไปสักพัก ก็ดึงมือกลับ เอ่ยถาม “นายท่าน ไม่ทราบว่าหลังจากท่านผู้เฒ่ากลับมา มีตรงไหนผิดปกติไปหรือไม่ขอรับ?”
ในดวงตาเฟิ่งเซียวเต็มไปด้วยความกังวลใจ ถอนหายใจ แล้วบอกว่า “หลังจากท่านพ่อเก็บตัวออกมาก็หนีไปข้างนอก ข้านึกว่าเขาออกไปร้านเหล้า นึกไม่ถึงว่าจะเจอกันบนถนน ตอนนั้นเห็นสีหน้าไม่สู้ดีอยู่ตลอด พอกลับมาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ซ้ำยังพูดว่าชิงเกอไม่ใช่หลานสาวเขาอะไรอีก จากนั้นจึงเข้าไปในเรือนชิงเกอ ตอนที่ข้าปรี่มาถึง ก็เห็นเขาถือกระบี่ตวัดฟาดวุ่นวายน่าตกใจเสียจนหัวใจข้าแทบระเบิดออกมาแล้ว”
น้ำเสียงเขาชะงัก ครุ่นคิดเล็กน้อย “หนำซ้ำ ตอนนั้นข้าเห็นท่าทีเขาไม่ชอบมาพากลนิดหน่อย”
………………………………