เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1307 เจ้าสิบังอาจ + ตอนที่ 1308 ทนได้เช่นไร
ตอนที่ 1307 เจ้าสิบังอาจ + ตอนที่ 1308 ทนได้เช่นไร
ตอนที่ 1307 เจ้าสิบังอาจ
ด้านนอก อาหานที่กำลังสั่งสอนสองคนนั้น เมื่อเห็นประตูเรือนเปิดออก ก็หันไปมองด้วยใบหน้าเคร่งเครียด สายตามองผ่านเซวียนหยวนโม่เจ๋อไปยังเฟิ่งจิ่วที่สวมชุดแดงทั้งตัวยืนอยู่ข้างหลัง ครั้นเห็นดวงหน้างดงามไร้ที่ติของเด็กสาว เขาก็ยิ่งมั่นใจว่านางต้องเป็นนางจิ้งจอกแน่นอน!
เฟิ่งจิ่วเดินออกมา ก็สัมผัสได้ถึงสายตาคมปลาบไม่เป็นมิตรกำลังมองประเมินมาที่ตนเอง เธอเงยหน้ามองไป สายตาจับจ้องชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่นอกลานบ้าน อีกฝ่ายใส่ชุดสีดำทั้งตัว ร่างกายกำยำ มีกลิ่นอายหนาวสะท้าน รอบกายเต็มไปด้วยแรงกดดันที่แข็งแกร่งและรุนแรง
ส่วนใบหน้า จะว่าธรรมดาก็ไม่ธรรมดา จะว่าโดดเด่นหรือก็ไม่ พอดูได้เท่านั้น ทว่าใบหน้าเคร่งขรึมจริงจังของเขา ยามนี้มองไปแล้วกลับชั่วร้ายอยู่บ้าง จึงให้มีความรู้สึกที่ไม่ดีนัก
คนผู้นี้ก็คือท่านอาหานที่ฮุยหลางพูดถึงหรือ ถึงเขาจะเลี้ยงเซวียนหยวนโม่เจ๋อมาตั้งแต่เล็ก แต่ก็ยุ่งวุ่นวายมากเกินไปแล้ว แม้แต่เรื่องผู้หญิงข้างกายของเขาก็ยังจะยุ่งรึ? ความต้องการจะควบคุมนี้ หึๆ ช่างเปิดโลกทัศน์ของเธอได้ดีจริงๆ
ต้องรู้ว่า แม้แต่องค์จักรพรรดิที่อยู่ในวัง บิดาแท้ๆ ของเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ก็ยังไม่จุ้นจ้านเท่าเขาเลย
ภาพประทับใจแรกที่เธอมีต่อท่านอาหานเรียกได้ว่าแย่มาก เธอรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก
หากเป็นคนในครอบครัวเข้ามายุ่งเรื่องนี้ยังพอเข้าใจได้ นี่ครอบครัวก็ไม่ใช่ อาศัยแค่บุญคุณเล็กน้อยก็คิดจะควบคุมเรื่องของเจ้านาย คนเช่นนี้เธอไม่รู้ว่า เหตุใดเซวียนหยวนโม่เจ๋อจึงเก็บไว้ข้างกาย ซ้ำยังให้ท่านอาหานดูแลคุกมืดที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาอีก
แต่ที่แน่ชัดเลยคือ คนผู้นี้แม้ล้ำเส้นแล้วก็ยังไม่สำนึก
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อถามเสียงเข้ม สายตาหันไปมองฮุยหลางกับอิ่งอี โดยเฉพาะเมื่อเห็นอิ่งอีที่หน้าซีดขาว มีรอยเลือดไหลออกจากมุมปาก สีหน้าเขาตึงเครียดทันที
อิ่งอีกับฮุยหลางยังไม่ทันพูดอะไร อาหานก็ชิงถามก่อน “นี่ก็คือเฟิ่งจิ่วที่พวกเจ้าพูดถึงหรือ?” สายตาคมกริบชั่วร้ายจ้องมองเฟิ่งจิ่ว “ช่างเก่งกาจเสียเหลือเกิน!”
“อาหาน!” เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเขา คิ้วขมวดเข้าหากัน “ข้าบอกว่าแล้วว่าท่านไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้!”
“อาเจ๋อ นางปีศาจคนนี้จะต้องรู้วิชาเสน่ห์อะไรแน่ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำให้เจ้าหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ได้ คนเช่นนี้จะเก็บไว้ข้างกายได้อย่างไร! หากเจ้าต้องการสตรี อาหานหาให้เจ้าได้ สวยกว่านางก็มีตั้งมากมาย”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เฟิ่งจิ่วหลุดหัวเราะออกมา เธอย่างกรายเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างเซวียนหยวนโม่เจ๋อ สองมือคล้องแขนของเขาแล้วเอนตัวพิงไว้ บนดวงหน้างดงามไร้ที่ติคลี่รอยยิ้มเย้ายวนชวนลุ่มหลง “เจ๋อ ตาเฒ่าคนนี้คือใครหรือ?”
ฮุยหลางกับอิ่งอีได้ยินแล้วมุมปากกระตุกอย่างอดไม่ได้ แอบชำเลืองมองอาหานที่โกรธจนหน้าเขียวแวบหนึ่ง ทั้งสองถอยไปยืนอยู่ด้านหนึ่งอย่างรู้ความ
ตาเฒ่า…คงมีแต่ภูตหมอที่กล้าล้อเลียนคนอื่นเช่นนี้
แต่ก็ใช่ ด้วยนิสัยของภูตหมอ อาหานพูดจาดูหมิ่นครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างนี้ หากเธอยังเรียกเขาอย่างเคารพนบนอบ นั่นสิจึงจะแปลก
“เขาชื่อหานหรง พวกเราล้วนเรียกเขาว่าอาหาน” เซวียนหยวนโม่เจ๋อกล่าวสั้นๆ
“อ้อ? แซ่หานหรือ ข้าก็นึกว่าเขาแซ่เซวียนหยวนเสียอีก!” เฟิ่งจิ่วกล่าวด้วยน้ำเสียงแช่มช้า ชำเลืองมองชายวัยกลางคนที่กำลังโกรธจนกำหมัดแน่น “ในเมื่อเป็นคนนอก เช่นนั้นก็ไม่ใช่ครอบครัวของท่าน เมื่อไม่ใช่ครอบครัว เช่นนั้นก็เป็นข้ารับใช้ ข้ารับใช้คนหนึ่ง เหตุใดมาจุ้นจ้านเรื่องท่านได้เล่า?”
“เจ้า เจ้าบังอาจ!”
หานหรงตะคอกด้วยความโกรธจัด แต่นึกไม่ถึงว่า…
“เจ้าสิบังอาจ!”
เฟิ่งจิ่วตวาดเสียงเย็น สีหน้าท่าทางแปรเปลี่ยนไปทันที และจับจ้องเขาด้วยแววตาเย็นยะเยือก
…………………………………….
ตอนที่ 1308 ทนได้เช่นไร
เธอปล่อยมือที่โอบแขนเซวียนหยวนโม่เจ๋อไว้ สาวเท้าไปข้างหน้า มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหานหรงอย่างไร้ซึ่งความกลัว นัยน์ตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ก่อนตำหนิด้วยน้ำเสียงน่าพรั่นพรึง “ข้ารับใช้คนหนึ่ง ผู้ใดมอบสิทธิ์ให้เจ้าทำตัวสามหาวต่อหน้าเจ้านาย?”
“เจ้า เจ้าเป็นแค่คนนอก มีสิทธิ์อะไรมายืนพูดอยู่ตรงนี้!”
หานหรงโกรธจนหน้าเขียวปัด หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง กลิ่นอายชั่วร้ายคุกรุ่น ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าเฟิ่งจิ่วเสียให้รู้แล้วรู้รอด ทำให้มั่นใจได้ว่าหากเซวียนหยวนโม่เจ๋อไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น เดาว่าเขาคงลงมือไปแล้ว
เฟิ่งจิ่วยิ้มเย็น “ข้าเป็นแค่คนนอก? หึ จะนอกยิ่งกว่าข้ารับใช้เช่นเจ้าได้หรือ?”
“อาเจ๋อข้าเป็นคนดูแลเขามาจนโต!” เขากำหมัดตะคอกเสียงดังลั่น
“ดูแลมาจนโตแล้วอย่างไร? เจ้าให้กำเนิดเขาหรือ หรือว่าเลี้ยงดูเขา ดูแลเขามาจนโต? ดูแลเขาจนเติบใหญ่แล้วไม่ต้องแยกแยะสูงต่ำก็ได้หรือ ไม่ต้องแยกแยะนายบ่าวก็ได้หรือ หรือว่าเจ้าต้องการทวงบุญคุณ?”
ทุกก้าวที่บีบเข้าใกล้ วาจาก็บีบคั้นทุกคำ เอ่ยจนหานหรงจากหน้าเขียวกลายเป็นหน้าแดงก่ำ อ้าปากแต่พูดอะไรไม่ออกสักคำ เพียงจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาเดือดดาล ท่าทางเหมือนอยากจะสูบเลือดกินเนื้อของเธอเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่เดิมทีสีหน้าไม่ค่อยน่ามองได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่ว สีหน้าก็อ่อนลง รอยยิ้มและความรักใคร่พาดผ่านในดวงตา เขาไม่ปริปาก เพียงปล่อยให้นางจัดการไป
ภายหน้านางจะเป็นนายหญิงของจวนนี้ ถึงแม้เพราะว่าสายสัมพันธ์ที่นางมีกับเขา คนในจวนต้องยอมรับนางอยู่แล้ว แต่จะยอมรับนางด้วยใจจริงหรือไม่ ก็ยังบอกชัดไม่ได้ นางต้องมีความสามารถและความกล้าที่จะสะสางปัญหาเหล่านี้
เดิมทีเขายังคิดว่าจะหาโอกาสให้นางอย่างไร ตอนนี้หานหรงเดินมาให้จัดการถึงที่ ยังมีใครเหมาะจะเป็นตัวอย่างเชือดไก่ให้ลิงดูกว่าเขาอีก?
เปิดฉากด้วยหานหรงที่ควบคุมคุกมืด ยังจะมีใครในจวนนี้ที่กล้าไม่ยอมรับนางจากใจจริงอีก?
“อาเจ๋อ เจ้าปล่อยให้นางปีศาจตนนี้หมิ่นเกียรติอาหานเช่นนี้หรือ?” หานหรงทนไม่ไหว หันไปมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ยืนไม่สะทกสะท้านอยู่ด้านหนึ่ง
“ข้าเห็นแต่เจ้ากำลังหมิ่นเกียรตินาง ไม่ใช่นางกำลังหมิ่นเกียรติเจ้า” เซวียนหยวนโม่เจ๋อสีหน้าเคร่งขรึม ชำเลืองมองเขาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ก่อนกล่าวเสียงเย็นว่า “บางทีเจ้าควรอ่านกฎในจวนให้มากหน่อย”
ครั้นได้ยินคำเรียกขานที่เปลี่ยนไป จากเรียกอาหานกลายเป็นเรียกว่าเจ้า หัวใจของหานหรงหนักอึ้ง รู้ว่าตอนนี้พูดอะไรไปเขาก็ไม่ฟังแล้ว หากยังพูดอีก ก็มีแต่จะทำให้เรื่องวุ่นวายกว่าเดิม
หานหรงสูดหายใจลึกๆ ข่มกลั้นเพลิงโทสะในใจ พยายามทำให้ตัวเองดูสงบนิ่งสุดกำลัง แล้วจึงค่อยเอ่ยว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าขอตัวก่อน” ขณะกล่าว เขาประสานมือคารวะ ไม่รอให้พวกเขาพูดอะไร ก็หันตัวเดินออกไปเลย
เซวียนหยวนโม่เจ๋อจ้องแผ่นหลังเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ส่วนเฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ จบเรื่องง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ? เธอนึกว่าหานหรงจะทนไม่ไหวแล้วลงไม้ลงมือเสียอีก! ดูท่าคนคนนี้มีความสามารถในการอดทนสูงมากทีเดียว! ขนาดเรื่องอย่างนี้ก็ยังข่มอารมณ์ไว้ได้?
หากเปลี่ยนมุมมองแล้วลองคิดดู ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่แต่เดิมได้รับความเคารพในจวน จู่ๆ ก็ถูกสั่งสอน สุดท้ายทำได้เพียงข่มกลั้นความโกรธหมุนตัวเดินจากไป นี่ต้องมีความอดทนสูงขนาดไหนกัน?
อีกอย่าง คนที่สั่งสอนเขายังเป็นเธอ ถึงเซวียนหยวนโม่เจ๋อบอกว่าเธอจะเป็นนายหญิงของที่นี่ แต่หากยังไม่ได้แต่งงานกันก็ยังถือว่าไม่ใช่ เขากลับข่มกลั้นอารมณ์แล้วจากไปหลังจากถูกเธอสั่งสอน ความอดทนระดับนี้ จะดูเบาได้อย่างไร?
“คิดอะไรอยู่หรือ?”
เสียงพูดที่ดังข้างหูเรียกสติเธอกลับมา เฟิ่งจิ่วหันไปมองคนข้างกายแวบหนึ่ง
………………………………….