เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1315 บรรยากาศหวานซึ้งใต้ฟ้ายามราตรี + ตอนที่ 1316 เสียงกรีดร้องตกใจ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1315 บรรยากาศหวานซึ้งใต้ฟ้ายามราตรี + ตอนที่ 1316 เสียงกรีดร้องตกใจ
ตอนที่ 1315 บรรยากาศหวานซึ้งใต้ฟ้ายามราตรี + ตอนที่ 1316 เสียงกรีดร้องตกใจ
ตอนที่ 1315 บรรยากาศหวานซึ้งใต้ฟ้ายามราตรี
“อย่างเช่น เจ้าจะแสดงความรักที่เจ้ามีต่อข้าก็ได้” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เดินมานั่งลงข้างกายเฟิ่งจิ่ว จากนั้นเอื้อมมือดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนอย่างเป็นธรรมชาติ นึกไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้รับจะเป็นศอกของเธอที่กระทุ้งกลับมา
“อึก!”
เขาร้องอู้อี้ “เจ้าจะฆ่าสามีตัวเองหรือ!”
“หา? เจ็บหรือ ขอโทษๆ ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ข้าช่วยท่านนวดเอง” เธอยิ้มกว้าง เอื้อมมือลูบไปลูบมาตรงหน้าอกของเขา
มีมือเล็กคู่หนึ่งลูบอยู่ตรงหน้าอก เซวียนหยวนโม่เจ๋อรู้สึกเพียงลมหายกระชั้นชิดขึ้นมา ในร่างกายมีเปลวเพลิงลุกโชน ทันใดนั้น เขากุมมืออีกฝ่ายไว้ กัดฟันกล่าวว่า “อย่าจุดไฟส่งเดช!”
“จุดไฟ? เปล่านี่? ข้าจุดไฟส่งเดชที่ไหนกัน” เธอเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าเขากระอักกระอ่วน ร่างกายก็แข็งทื่อ จึงกะพริบด้วยความสงสัย สายตาเลื่อนจากข้างบนลงข้างล่าง รู้สึกงงงันเล็กน้อย “ความสามารถในการควบคุมตนเองของท่านมีเท่านี้เองหรือ?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อรู้สึกว่าเปลวเพลิงในร่างกายลุกโชติช่วงยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเด็กสาวเพ่งมองท่อนล่างของเขาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ สายตาคู่นั้นดุจชนวนจุดไฟ ทำให้เขาแทบข่มใจไว้ไม่ได้ แต่คนบางคนก็ยังไม่รู้ตัว กลับเอ่ยหยอกเย้าเขาอยู่ตรงนั้น
“ร่างกายของท่านเหมือนจะแข็งทื่อไปเล็กน้อยแล้ว? หรือว่าเหนื่อยเกินไป ถ้าอย่างไร ข้าช่วยท่านนวดไหล่ดีไหม? อืม อย่างนี้ไง” เฟิ่งจิ่วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินมาข้างกายเขาแล้วเริ่มนวดไหล่ให้อย่างกระฉับกระเฉง
“ผ่อนคลายหน่อยๆ อย่าเกร็งตัวสิ”
ได้ยินดังนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อจึงปล่อยให้เฟิ่งจิ่วทำตามใจ หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ ดับไฟรุ่มร้อนภายในกาย จึงค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกายลงได้ แล้วรับรู้สัมผัสที่มือเล็กคู่นั้นกดลงมาบนไหล่เขา ครั้งแล้วครั้งเล่า เรี่ยวแรงไม่เบาไม่หนัก นิ่มนวลเชื่องช้า สบายยิ่งนัก
“ใช่แล้ว อย่างนี้แหละ ผ่อนคลายอย่างนี้ถูกแล้ว” เฟิ่งจิ่วหรี่ตาคู่งาม ประกายเจ้าเล่ห์พาดผ่านดวงตาไปอย่างรวดเร็ว
เธอนวดผ่อนคลายไหล่ให้เขาก่อน จากนั้นถึงนวดขมับให้ มีเพียงเธอเท่านั้น เขาจึงจะไว้ใจมอบตนเองให้เช่นนี้ ให้เธอนวดคลึงตามใจ หากเป็นคนอื่น เขาไม่มีทางมอบแผ่นหลังให้คนที่เขาไม่เชื่อใจเด็ดขาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงส่วนศีรษะที่อันตรายถึงชีวิตเลย
“เป็นอย่างไรบ้าง สบายใช่หรือไม่?” เธอยิ้มถาม
“อืม สบาย” ไม่เพียงสบาย ยิ่งรู้สึกเหมือนความเหนื่อยล้าจางหายไปจนสิ้น สายลมกลางคืนเย็นสบาย แล้วยังมีคนในดวงใจอยู่ข้างกาย ซ้ำยังกำลังช่วยนวดผ่อนคลายให้เขา ความรู้สึกนี้ทำให้ร่างกายและจิตใจของเขาล้วนผ่อนคลาย
“แน่นอนอยู่แล้ว นี่คือวิธีนวดด้วยนิ้วแบบพิเศษ ล้วนมีจุดลมปราณ ไม่ได้นวดส่งเดช” เธอยิ้มๆ นวดศีรษะเขาไล่ขึ้นไปด้านบน จากนั้นก็ลงมาที่ลำคอ นวดคลึงครู่หนึ่งก็นวดไล่ลงไปที่แผ่นหลัง จนมาถึงส่วนเอว
รู้สึกเพียงเมื่อมือของเธอนวดไปถึงบริเวณเอว ร่างกายของเขาแข็งทื่อ ดวงตาที่เดิมทีหรี่ลงครึ่งหนึ่งเบิกกว้าง ในดวงตามีไฟลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
“นั่งนานต้องนวดเอวหน่อย ไม่เช่นนั้นจะปวดเอาได้” เธอกล่าว แต่พอสิ้นเสียงก็ถูกเขาโอบแล้วดึงตัวจากข้างหลังมาข้างหน้า ให้นอนหงายอยู่บนตักเขา
“เอ่อ…”
เธอกะพริบตาปริบๆ มองเขา สังเกตเห็นว่าแววตาของเขายิ่งลึกล้ำและมืดมน จับจ้องมาที่กลีบปากของเธอ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ใบหน้าก็ค่อยๆ โน้มต่ำลงมา
เห็นเช่นนั้น เธอเอื้อมมือไปประคองใบหน้าของเขาไว้ จับจ้องเขาอย่างจริงจัง ท่ามกลางสายตาคาดหวังของเขา ริมฝีปากแดงของเธอเปิดออกเบาๆ เสียงกลั้วหัวเราะดังมา
“ท่านอา หนวดท่านได้เวลาโกนแล้ว”
………………………………….
ตอนที่ 1316 เสียงกรีดร้องตกใจ
เมื่อได้ยินคำพูดทำลายบรรยากาศนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อมุมปากกระตุก นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น มองร่างที่กระเด้งตัวลุกขึ้นจากตักเขาและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงหัวเราะอย่างหมดคำจะพูด
เห็นร่างสีแดงนั้นกระโดดขึ้นลงหลายครั้งแล้วหายลับไปในท้องฟ้ายามราตรี มีเพียงเสียงหัวเราะแหลมใสรื่นหูที่ดังมากับสายลม เขาอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้
ผู้หญิงคนนี้!
คนที่เริ่มยั่วยวนก็เป็นนาง คนที่ทำลายบรรยากาศก็เป็นนาง นางปีศาจน้อยที่ชอบทรมานคนเช่นนี้ เขาควรทำอย่างไรกับนางดี?
นั่งตากลมกลางคืนอยู่บนหลังคา สายลมกลางคืนที่เย็นฉ่ำก็ไม่อาจข่มความรุ่มร้อนในกายเขาได้ เขาเป็นผู้ชาย ถูกยั่วยวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากอดกลั้นไว้นานจะกลายเป็นอาการบาดเจ็บภายในจริงๆ
อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วกลับมาถึงห้องของเธอ ปิดประตูหน้าต่างแล้วหลบเข้าไปแอบหัวเราะอยู่ในผ้าห่ม
เอาเถอะ! เธอยอมรับก็ได้ว่าตั้งใจ เธอก็แค่อยากทดสอบความหนักแน่นของเขา นึกไม่ถึงว่าเขาจะความอดทนต่ำขนาดนั้น เมื่อนึกถึงสายตาคาดหวังนั้น และยังมีท่าทางตอนตัวแข็งทื่อ เสียงหัวเราะก็ยิ่งหลุดออกจากปากเธออย่างอดใจไม่อยู่
ส่วนเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่กลับมาถึงในลานบ้านเหลือบมองห้องของเฟิ่งจิ่วแล้วส่ายหน้า เดินเข้าไปในห้องก่อนสั่งให้คนเตรียมน้ำร้อนมาให้ เพื่อดับไฟร้อนในตัว
วันต่อมา เช้าตรู่อันเงียบสงบถูกเสียงกรีดร้องที่แหลมสูงทำลายลง
“กรี๊ด!”
เสียงนั้นดังจากลานด้านหลังมาถึงหน้าลานบ้านหลัก ทำให้คนทั้งเขตเรือนแตกตื่น แน่นอน ยกเว้นแค่คนผู้หนึ่ง นั่นก็คือเฟิ่งจิ่วที่กำลังนอนหลับคุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่มนั่นเอง
เธอเหมือนไม่ได้ยินเสียงนั้น เพียงพลิกตัวเล็กน้อย ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัว ไม่คิดจะสงสัยสักนิดด้วยซ้ำ
เพราะไม่ต้องสงสัยก็รู้ว่าเรื่องอะไร หนำซ้ำเรื่องนั้นยังเกิดจากฝีมือของเธอด้วย
ผู้หญิงสี่คน สองคนเฝ้ายามกลางคืนอยู่นอกห้องที่เฟิ่งจิ่วอยู่ รอรับใช้เฟิ่งจิ่วว่าตอนกลางคืนจะลุกขึ้นมาดื่มน้ำอะไรหรือไม่ ส่วนอีกสองคน นอกจากคนที่ถูกพากลับมาเมื่อคืน อีกคนยังอยู่ที่เรือนด้านหลัง
ตอนที่เสียงกรีดร้องแหลมดังทะลุฟ้า สองคนที่อยู่ในเรือนของเฟิ่งจิ่วเห็นเฟิ่งจิ่วไร้ความเคลื่อนไหว จึงเดินย่องออกไปข้างนอก คิดจะไปดูที่ด้านหลังว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นเซี่ยเอ๋อร์วิ่งเข้ามาอย่างลนลาน
“ยะ แย่แล้วๆ ไม่รู้ว่าตงเอ๋อร์เป็นอะไร วันนี้ตื่นมาตอนเช้าก็ ก็…” นางหอบหายใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความแตกตื่นหวาดกลัว
“ก็อะไรหรือ?” พวกนางรู้ เมื่อคืนตอนที่คุณหนูถามพวกนางสี่คนว่าใครจะเป็นคนยกชาไปให้นายท่าน พวกนางล้วนลังเล มีเพียงตงเอ๋อร์ที่เสนอตัว
แต่ต่อมากลับถูกหามกลับมา พวกนางไปดูมาแล้ว ไม่ถือว่าบาดเจ็บหนัก แต่จะว่าเบาก็ไม่เบาเช่นกัน
“นาง นางอ้วนขึ้น อ้วนขึ้นหนึ่งเท่าเลย!” เซี่ยเอ๋อร์กล่าว หน้าตาตื่นตกใจ “กลางดึกข้าลุกไปดูนาง ยังไม่เป็นอะไร แต่พอเช้านี้นางตื่นมาก็…ก็กลายเป็นอย่างนั้นแล้ว…”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ชุนเอ๋อร์กับชิวเอ๋อร์ตกใจสะดุ้ง สบตากันแวบหนึ่ง ชุนเอ๋อร์พูดว่า “เจ้าไปดูหน่อย คุณหนูยังไม่ตื่น ข้าคอยอยู่ต่อคนหนึ่งจะดีกว่า”
“ก็ดี ข้าไปไม่นานก็กลับ” ชิวเอ๋อร์กล่าวแล้วเดินตามเซี่ยเอ๋อร์ไปที่เรือนด้านหลัง เดินไปพลาง ประหวั่นพรั่นพรึงไปพลาง
จะอ้วนขึ้นชั่วข้ามคืนโดยไม่รู้สาเหตุได้อย่างไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้นในจวนแห่งนี้ หากเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้นจริง นั่นอาจจะเป็น…
พอนึกถึงความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัว นางก็อดตัวสั่นไม่ได้
ครั้นมาถึงเรือนด้านหลัง ตอนเห็นร่างที่กำลังกอดผ้าห่มร้องไห้อยู่ตรงมุมเตียง นางอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง อุทานด้วยความตกใจ “ทำไม ทำไมถึงได้อ้วนเช่นนั้นได้?”
………………………………….