เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1345 ตะลึงงันไปหมด + ตอนที่ 1346 หลอมวิญญาณดั้งเดิม
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1345 ตะลึงงันไปหมด + ตอนที่ 1346 หลอมวิญญาณดั้งเดิม
ตอนที่ 1345 ตะลึงงันไปหมด + ตอนที่ 1346 หลอมวิญญาณดั้งเดิม
ตอนที่ 1345 ตะลึงงันไปหมด
“บนตัวเจ้ามีกลิ่นอายพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์” หญิงชรามองเฟิ่งจิ่ว “เจ้าไม่ใช่ขอทานล่ะสิ?” ขอทานคนหนึ่งไม่มีทางมีกลิ่นอายพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างนี้แน่
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าเฟิ่งจิ่วเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองหญิงชราผู้นั้นแวบหนึ่ง ก่อนพยักหน้าตอบว่า “อืม ข้าอยู่ข้างนอกตัวคนเดียว ปลอมตัวเป็นขอทานปลอดภัยกว่าหน่อย”
“พี่สาวๆ มาเล่นกับข้า พี่สาว มาเล่นกับข้า…”
เสียงราวกับเด็กเล็กเหล่านั้นดังเข้ามาจากข้างนอกอีกครั้ง เสียงนั้นเต็มไปด้วยความโหยหวนร่ำไห้ เพียงแต่หากเทียบกับสถานที่มืดมิดข้างนอกแล้ว ในศาลบรรพชนที่มีโคมไฟและแสงเทียน ทำให้ความน่ากลัวของเสียงนั้นลดลงไปมาก
เธอเหลียวมองไปข้างนอก ถามว่า “ทำไมพวกมันถึงเข้ามาไม่ได้?” ที่แห่งนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทำไมวิญญาณอาฆาตพวกนั้นถึงไม่กล้าเข้ามา
“เพราะพวกมันกลัวข้าจะหลอมพวกมัน จึงไม่กล้าเข้ามา” หญิงชราหลังค่อมกล่าว แล้วกัดขนมกินต่อ
เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ เฟิ่งจิ่วชะงักไปนิด “หลอมพวกมัน? หลอมอย่างไร”
หญิงชราช้อนดวงตามืดมนไร้แสงขึ้นมองเธอแวบหนึ่ง ไม่ตอบกลับย้อนถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าวิญญาณอาฆาตเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“ไม่รู้”
เธอส่ายหน้าตอบตามความจริง เธอไม่รู้จริงๆ เธอรู้แค่ว่ามีผี แต่ไม่นึกว่าจะมีสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณอาฆาตด้วย สิ่งของที่ไม่มีกลิ่นอายผีเลยสักนิดอย่างนั้น ใครจะไปรู้ว่าโผล่มาจากที่ไหน
“ผีคือวิญญาณของคนที่ตายแล้ว และถูกเรียกว่าผี แต่วิญญาณอาฆาตกลับเป็นวิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะความแค้น หรือพูดให้ถูกก็คือเหมือนกระบี่วิเศษที่มีวิญญาณกระบี่ ซึ่งแปลงมาจากตัวกระบี่เอง เป็นวิญญาณปกปักของกระบี่ ทว่าวิญญาณอาฆาตพวกนี้เทียบวัตถุวิญญาณอย่างพวกวิญญาณกระบี่ไม่ได้ เพราะพวกมันมีกลิ่นอายความแค้นอยู่”
เฟิ่งจิ่วนั่งฟัง เห็นนางพูดไปไม่น้อยแล้ว แต่ยังไม่บอกเธอว่าทำไมวิญญาณอาฆาตพวกนั้นจึงกลัวนางจะหลอมพวกมัน
ขณะกำลังคิด ก็เห็นนางกินขนมในมือจนหมด จากนั้นลุกยืนช้าๆ และเดินไปข้างนอก เห็นเช่นนี้เธอจึงตามไปด้วย ต่อมาถึงเห็นตุ๊กตาผ้ามากมายที่อยู่ข้างนอกบ้างนั่งบ้างยืน แม้แต่หุ่นไล่กาก็ตามมา พวกมันล้อมวงกันตะโกนเรียกอยู่ข้างนอก เธอเห็นแล้วตื่นตะลึงไม่น้อย
สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ เมื่อเงาดำตรงหน้าขยับไหว มือของหญิงชราหลังค่อมก็ยื่นออกไปคว้าตุ๊กตาผ้าตัวหนึ่ง มืออีกข้างทำท่าดึงจากตรงกลาง ราวกับกำลังกระชากบางสิ่งออกมา
“อ๊าก! ยายแก่น่ากลัวนัก!”
ตุ๊กตาผ้ากับหุ่นไล่กาพวกนั้นที่ตอนแรกพากันมาล้อมวงตะโกนเรียกแตกกระเจิงทันที วิ่งหนีเตลิดจนไม่เหลือสักตัว เหลือไว้เพียงก้อนผ้าที่กำลังดิ้นขัดขืนอยู่ในมือของหญิงชรา
ขณะที่เธอประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์นี้ ก็เห็นว่าในสองสามอึดใจ หญิงชราทำมือเหมือนดึงบางอย่าง สุดท้ายก็กระชากดวงแสงดวงหนึ่งออกจากตุ๊กตาผ้าตัวนั้นมากำไว้ ในสายตาของเธอนางทำอย่างง่ายดายเหมือนบีบผ้าเก่าๆ ไว้ในมือเท่านั้น
“อ๊าก! ช่วยด้วย…ยายเฒ่าน่ากลัวมาก…”
ดวงแสงที่เหมือนขนมสายไหมก้อนนั้นขยับไปมา คิดจะหนีแต่ก็หนีไม่พ้น ถูกบีบจนแบนอยู่ในมือ
ดวงแสงดวงนั้นก็คือวิญญาณอาฆาตหรือ? เธอตะลึงเล็กน้อย เหมือนไม่ค่อยอยากเชื่อ ถ้าบอกว่าเป็นวิญญาณ ก็ดูจะใกล้เคียงกว่าเป็นผีมากจริงๆ อย่างน้อยดวงแสงดวงนี้ก็ดูสบายตากว่าหน่อย
อีกอย่าง หญิงชราคนนี้น่ากลัวมากจริงๆ ลงมือครั้งเดียวก็คว้าตุ๊กตาตัวนั้นไว้ได้ ทั้งยังกระชากวิญญาณอาฆาตออกมาด้วย
เธอกำลังคิดจะเดินเข้าไปดูวิญญาณอาฆาตในมือของหญิงชรา แต่นึกไม่ถึงว่าภาพหลังจากนั้นกลับทำให้เธอยืนตะลึงค้างอยู่กับที่…
………………………………….
ตอนที่ 1346 หลอมวิญญาณดั้งเดิม
เห็นเพียงว่าหญิงชราหลังค่อมใช้สองมือปั้นดวงแสงที่เกิดจากวิญญาณอาฆาตเป็นวงกลม จากนั้นยัดใส่ปาก เคี้ยวหนุบหนับแล้วกลืนลงไปทั้งอย่างนั้น เธอเห็นแล้วอ้าปากค้างอย่างค่อนข้างเหลือเชื่อ
กินลงไปแล้ว?
ขณะที่เธอตกตะลึง ก็เห็นร่างกายที่เดิมทีไม่มีคลื่นพลังวิญญาณของหญิงชราหลังค่อมมีควันร้อนผุดขึ้นมา ไอร้อนบนตัวราวกับจุดเตาไฟ เธอที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งก็ยังสัมผัสไอร้อนที่แผ่กระจายมาจากตัวนางได้
มือของนางลูบๆ ที่ท้อง กลางฝ่ามือมีกลิ่นอายพลังวิญญาณขุมหนึ่งที่รวบรวมไว้ไหลเวียนอยู่ ชั่วเวลาราวครึ่งก้านธูปผ่านไป ได้ยินเพียงนางเรอออกมาเสียงดัง ไอร้อนบนตัวค่อยๆ จางไป จากนั้นก็อ้าปาก คายดวงแสงขนาดเท่ากำปั้นดวงหนึ่งออกมา
“นี่คือ…”
เธอมองดวงแสงที่เล็กลงเกือบครึ่งดวงนั้นด้วยความตกตะลึง นี่คือวิญญาณอาฆาตดวงนั้นหรือ? วิญญาณอาฆาตดวงเมื่อครู่ถึงจะเป็นดวงแสงเหมือนกัน แต่บนดวงแสงเต็มไปด้วยกลิ่นอายสีดำเป็นเส้นๆ ทว่าดวงที่อยู่ตรงหน้านี้กลับขาวสะอาดดุจหิมะ ไม่เห็นกลิ่นอายสีดำแม้แต่น้อย นี่…หรือนี่ก็คือการหลอมที่นางพูดถึง?
“จิ๊บ”
ดวงแสงขนาดเท่ากำปั้นในมือของหญิงชราค่อยๆ กลายเป็นรูปร่าง กลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนดอกฝ้าย ส่งเสียงร้องดังจิ๊บๆ ต่อมาก็มีดวงหน้าเล็กๆ เหมือนเด็กทารกโผล่ออกมาจากดวงแสงดวงนั้น
“จิ๊บๆ!”
เธออึ้งค้าง มองสิ่งของขนาดเล็กที่ขาวเหมือนดอกฝ้ายนั้น ตอนที่มันกะพริบดวงตาใสกระจ่างมองเธอพลางส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ตัวน้อย เฟิ่งจิ่วอดตะลึงไม่ได้ “นะ นี่คือวิญญาณอาฆาตรึ?”
“นี่คือวิญญาณอาฆาตที่ผ่านการหลอมแล้ว เป็นวิญญาณอาฆาตที่ไม่มีกลิ่นอายความแค้น ไม่ถือว่าเป็นวิญญาณอาฆาตแล้ว” หญิงชราวางดวงแสงที่เหมือนดอกฝ้ายไว้กลางฝ่ามือของเฟิ่งจิ่ว
“ถ้าไม่ใช่วิญญาณอาฆาตแล้ว เช่นนั้นเป็นอะไร?”
เธอมองดวงแสงที่อยู่กลางฝ่ามือ มันกลับมีกายหยาบสัมผัสได้ ไม่ใช่แค่แสงดวงหนึ่ง สิ่งของสีขาวดุจหิมะที่อยู่ในมือเป็นอย่างที่เธอเห็น นุ่มนิ่มเหมือนดอกฝ้าย พอบีบดูก็กลายเป็นก้อน แม้แต่ใบหน้าเล็กๆ ยังถูกบีบเข้าไปด้วย เพียงแต่พอของเล็กๆ ก้อนนั้นสะบัดตัว ใบหน้าเล็กๆ ก็โผล่ออกมาอีกครั้ง ความน่ารักของเจ้าตัวจิ๋วนั่นทำให้เธอชอบใจจนไม่อยากวาง
“วิญญาณดั้งเดิม” หญิงชราค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างใน กล่าวว่า “วิญญาณในขั้นเริ่มต้น วิญญาณที่ไม่แปดเปื้อนความเคียดแค้นและความผิดบาปจะถูกเรียกว่าวิญญาณดั้งเดิม”
“วิญญาณดั้งเดิม?”
เฟิ่งจิ่วพึมพำเบาๆ มองดูดวงแสงที่ขาวผ่องบริสุทธิ์ในมือ ในสายตาของเธอมันเหมือนดอกฝ้ายก้อนหนึ่ง เมื่อแบมือออกก็เห็นเจ้าตัวเล็กๆ นั่นกระโดดไปมาบนมือเธอ ไม่ได้หวาดกลัวเธอเลย
“ถูกต้องแล้ว วิญญาณดั้งเดิมที่ผ่านการหลอมกลั่นสามารถทำเป็นวิญญาณโอสถได้ หากเติมเข้าไปยามกลั่นยา ระดับกับประสิทธิภาพของยาก็จะสูงขึ้นมาก ไม่เพียงเท่านี้ วิญญาณดั้งเดิมยังหลอมเป็นวิญญาณอาวุธได้ด้วย กระทั่งหากใส่เข้าไปในวัตถุใด ก็ล้วนกลายเป็นวิญญาณของสิ่งนั้นได้”
ฟังมาถึงตรงนี้ เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้ว ซักถามว่า “เมื่อก่อนทำไมข้าไม่เคยได้ยินเลย อีกอย่าง ของจำพวกวิญญาณอาวุธไม่ใช่บอกว่าเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้เพราะตัวอาวุธหรอกหรือ? หากทำอย่างนี้ได้ วิญญาณอาวุธก็คงไม่หายากเช่นนั้น”
“เจ้าหลอมวิญญาณเป็นหรือ”
เสียงแหบแห้งและแก่ชราดังมา เฟิ่งจิ่วชะงักเล็กน้อย นึกถึงภาพที่นางกลืนวิญญาณอาฆาตลงท้องไปทั้งเป็นเมื่อครู่ ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ทำไม่เป็น”
“ก่อนหน้านี้ เจ้าเคยเจอวิญญาณอาฆาตหรือ?” หญิงชราหลังค่อมถามอีกครั้ง ดวงตาที่เหมือนบ่อน้ำแห้งจับจ้องเฟิ่งจิ่ว
………………………………….