เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1347 สัญชาตญาณอันตราย + ตอนที่ 1348 ยายแก่มาแล้ว
ตอนที่ 1347 สัญชาตญาณอันตราย + ตอนที่ 1348 ยายแก่มาแล้ว
ตอนที่ 1347 สัญชาตญาณอันตราย
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่เคย” เธอเคยเห็นแค่ผีเท่านั้น
หญิงชรานั่งลงไป เล่าว่า “คนในหมู่บ้านนี้ย้ายออกไปนานแล้ว เพราะมีวิญญาณอาฆาตปรากฏขึ้นที่นี่ พวกเขานึกว่าเป็นภูตผี เชิญนักพรตปราบผีมาก็กำราบไม่อยู่ สุดท้ายทำได้เพียงย้ายออกไปกันหมด”
เมื่อได้ยินนางพูดถึงคำถามที่เธอถามครั้งแรกสุด เฟิ่งจิ่วแววตาไหวระริก คอยฟังอยู่เงียบๆ หญิงชราหลังค่อมคนนี้มักทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เสมอ เหมือนยอดฝีมือที่ปลีกวิเวกจากทางโลกมาอยู่ลำพังอย่างไรอย่างนั้น
คนในหมู่บ้านนี้ไปกันหมดแล้ว เหลือนางเพียงคนเดียว สถานที่เช่นนี้มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่เพียงลำพัง มีแต่วิญญาณอาฆาตข้างนอกนั่นอยู่เป็นเพื่อน
การหลอมวิญญาณดังกล่าวเป็นวิธีที่เธอไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินมาก่อน กลืนวิญญาณอาฆาตลงไปแล้วใช้ร่างกายตัวเองเป็นเตาหลอม สามารถกลั่นวิญญาณดั้งเดิมที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนดอกฝ้ายออกมาได้จริง
จากคำพูดของนาง คล้ายจะมองออกแต่แรกแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิง อีกทั้งยังรู้ว่าเธอเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่พูดเรื่องที่สามารถใส่วิญญาณดั้งเดิมลงในโอสถต่อหน้าเธอ
เพียงแต่คนเช่นนาง เหตุใดต้องเล่าเรื่องพวกนี้ให้เธอฟังด้วย เรื่องเหล่านั้นที่นางพูดเหมือนกำลังปูพื้นฐานความรู้ให้เธอ บอกเล่าเรื่องที่เธอไม่เคยได้ยินได้เห็นให้ฟัง สำหรับคนที่เพิ่งพบกันครั้งแรก การเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟังดูค่อนข้างผิดปกติ
ทว่าเธอกลับไม่รู้สึกถึงจิตสังหารจากตัวนาง แต่ถึงอย่างนั้น ลึกๆ ข้างในเธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี เพราะคนตรงหน้าจิตใจยากแท้หยั่งถึง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในอันตราย
สัมผัสที่หกของเธอแม่นยำมาโดยตลอด และก็เพราะเหตุนี้เอง เธอจึงรู้สึกว่าหญิงชราคนนี้มีอะไรแปลกๆ ถึงแม้ในใจจะแอบระแวงหญิงชราคนนี้ แต่ภายนอกเธอกลับไม่แสดงออกสักนิด แม้แต่สีหน้าท่าทางก็ยังทำเหมือนหญิงชราคนนี้เป็นคนดีที่ช่วยเธอไว้
ใช่แล้ว จนถึงตอนนี้ นางช่วยเธอไว้จริงๆ เธอจะแสดงความเชื่อใจและขอบคุณก็เป็นเรื่องปกติ
“พวกเขาย้ายออกไปหมดแล้ว แต่ว่าข้าชอบที่นี่ อาศัยอยู่ที่นี่มาก็หลายปีแล้ว ทำใจจากไปไม่ได้” พูดถึงตรงนี้ หญิงชราเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เหมือนบ่อน้ำแห้งมองเฟิ่งจิ่วอย่างไร้อารมณ์
ทั้งที่เป็นการเหลือบมองปกติแท้ๆ แต่ในสายตาของเฟิ่งจิ่ว แววตานั้นกลับเหมือนมีบางอย่างแอบแฝง ยามแววตานั้นมองมาที่ร่างเธอ หัวใจของเธอหนักอึ้งเล็กน้อย แต่ภายนอกยังยิ้มตาหยี แล้วกลบเกลื่อนด้วยการพูดเร็วๆ “มีเรื่องมากมายที่เป็นความเคยชิน ก็เหมือนข้า ข้าชอบใส่ชุดขอทานเดินทางไปทั่วทิศ”
“อืม ล้วนเป็นความเคยชิน”
หญิงชราหลังค่อมรับคำ ก้มหน้าหลุบตาลง มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในแขนเสื้อและดึงด้ายสีแดงเส้นเล็กเท่าไม้จิ้มฟันออกมา ก่อนจะนั่งลงตรงนั้นแล้วเริ่มถักด้าย
ครั้นเห็นเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วหยิบขนมชิ้นที่หญิงชราให้มาเมื่อครู่ออกมา เธอมองดูงาที่โรยไว้บนขนม แววตาไหวระริก หยิบขึ้นมากัดกินหนึ่งคำ
“ท่านผู้เฒ่า เหตุใดร่างกายของท่านถึงเป็นเตาหลอมได้ หากทำเช่นนั้น ร่างกายจะทนไหวหรือ?” เธอกินขนมไปพลาง ถามไปพลาง
นางเงยหน้ามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง เสียงแก่ชราค่อยๆ เอื้อนเอ่ยว่า “ไม่หรอก เพราะร่างกายของข้าก็คือเตาหลอม”
“เช่นนั้นวิญญาณดั้งเดิมตัวนี้เล่า?” เธอชี้ไปที่สิ่งของเล็กๆ ที่ขาวผ่องดุจดอกฝ้ายบนหัวไหล่ตัวเอง “เจ้าตัวเล็กนี่ก็จะอยู่ในสภาพนี้หรือ เหมือนมันจะชอบข้ามากด้วย?”
“หึๆ…” หญิงชราหลังค่อมหัวเราะเสียงต่ำ เสียงแก่ชราสั่นเครือเล็กน้อย “มันชอบเจ้ามาก เพราะกลิ่นอายบนตัวเจ้าบริสุทธิ์อย่างไรเล่า”
………………………………….
ตอนที่ 1348 ยายแก่มาแล้ว
เฟิ่งจิ่วหลุบตาต่ำ ปกปิดประกายที่วาบผ่านดวงตาไป
เพราะกลิ่นอายบนตัวเธอบริสุทธิ์
ประโยคนี้หญิงชราไม่ได้พูดแค่ครั้งเดียวแล้ว
“ท่านผู้เฒ่า วิญญาณอาฆาตเกิดขึ้นได้อย่างไรกันแน่?” เธอถามด้วยเสียงแช่มช้า เจือแววสงสัยไว้รางๆ
“เกิดขึ้นได้จากการรวมแก่นแท้ของผืนฟ้าและแผ่นดิน วิญญาณอาฆาตในขั้นแรกก็คือวิญญาณดั้งเดิม เร่ร่อนไปทั่วไร้ที่สถิต เมื่อกลืนกินกลิ่นอายความแค้นเข้าไปจึงกลายเป็นวิญญาณอาฆาต” เสียงแหบแห้งและแก่ชราของนางหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนมองเฟิ่งจิ่วแล้วพูดต่อ “แม่หนู ยังมีเรื่องอื่นอยากถามหรือไม่?”
“มี” เธอใช้มือกุมท้องแล้วลุกขึ้นยืน ขมวดคิ้วทำหน้างอ “ท่านผู้เฒ่า ห้องน้ำอยู่ที่ใด ข้าปวดท้องนิดหน่อย”
หญิงชราเหลือบมองเธอ มือผอมแห้งชี้ไปยังด้านหนึ่ง “เดินตรงไปแล้วเลี้ยวทางนั้น”
“อ้อ ข้าก็นึกว่าอยู่ข้างหลัง!” เธอมองไปทางข้างหลังศาลบรรพชน
“ข้างหลังนั่น เจ้าอย่าเข้าไปเป็นดีที่สุด” หญิงชราบอก แล้วก้มหน้าถักเชือกแดงในมือต่อไป “ข้างนอกก็อย่าออกไปจะดีที่สุด หากถูกวิญญาณอาฆาตพัวพันเข้าจะแย่เอา”
“ได้ ข้ารู้แล้ว ประเดี๋ยวข้าก็กลับมา” เธอรับคำแล้วเดินไปยังทางที่นางชี้ ในมือยังถือวิญญาณดั้งเดิมที่ผ่านการหลอมมาแล้วตัวนั้น จนกระทั่งหลุดจากครรลองสายตาของคนข้างหลัง ใบหน้าไร้พิษภัยของเธอแปรเปลี่ยนทันใด ดวงตาหรี่เล็ก สีหน้าเย็นเยียบเล็กน้อย
เธอเดินไปโดยไม่หันหลังกลับ พลางเก็บวิญญาณดั้งเดิมในมือใส่ไว้ในห้วงมิติ เก็บเสร็จแล้วก็เดินไปทางห้องน้ำ แต่กลับเดินผ่านห้องน้ำไป อาศัยความมืดโฉบออกจากหมู่บ้านด้วยความรวดเร็ว
ที่แห่งนี้มีอันตราย!
หญิงชราคนนั้นยิ่งอันตราย!
สัญชาตญาณบอกเธอว่า ถ้ายังไม่หนีอีก เกรงว่าจะหนีไม่พ้นแล้ว!
“พี่สาว พี่สาวเล่นกับข้า พี่สาว…”
“พี่สาว พี่สาวอย่าไป เล่นกับข้า เล่นกับข้า…”
ท่ามกลางค่ำคืน ตุ๊กตาผ้าพวกนั้นกระโดดตามเธอมา เสียงเล็กแหลมเหมือนเด็กเล็กดังไล่หลัง ก้องอยู่กลางฟ้ายามราตรี ดูประหลาดยิ่งนัก
“พี่สาว เล่นกับข้าเถิดนะ เล่นกับข้าเถิด…”
เฟิ่งจิ่วหันหลังไปมอง ก็เห็นว่านอกจากตุ๊กตาผ้าและหุ่นไล่กาที่กระโดดตามหลังมา ยังมีดวงแสงย้อมไอสีดำอีกหลายดวงลอยมาทางเธอด้วย
“ไม่ต้องตามข้ามาแล้ว ถ้ายังตามมาอีกข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ!”
เธอหลอมวิญญาณไม่เป็น แต่พวกมันมากันไม่ขาดสาย ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรี่ยวแรงและพลังวิญญาณของเธอต้องหมดลงแน่ ก่อนจะหลุดพ้นจากอันตราย เธอต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน!
หญิงชราคนนั้นอันตรายเกินไปแล้ว พลังของนางแข็งแกร่งเกินไป ไม่ใช่ระดับวิญญาณต้น แต่เป็นเซียนเหินหรือ? เธอแค่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหิน กลับไม่เคยประมือกับผู้แข็งแกร่งระดังเซียนเหินเลย เรื่องที่ไม่มีหลักประกันเลยเช่นนี้ หากไม่ทำได้ เธอเลือกไม่ทำดีกว่า
“พี่สาว เล่นกับข้าสิ เล่นกับข้า…”
เธอเคลื่อนไหวเร็วมาก มุ่งหน้าออกจากหมู่บ้านไปโดยไม่หยุดพัก ตอนที่แสงจันทร์สาดส่องลงมาจนเห็นประตูหมู่บ้านอยู่ตรงนั้นรางๆ ก็เพิ่มความเร็วขึ้นอีก
ใกล้ถึงแล้ว! ถ้าไปจากหมู่บ้านประหลาดนี้ได้ หญิงชราคนนั้นคงจะไม่ตามมาอีก
ทว่า ในตอนนี้เอง เสียงแหบแห้งและแก่ชรากลับดังมาจากข้างหลัง เสียงนั้นฟังดูแปลกประหลาด ราวกับดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ดังเข้าหูเธออย่างชัดเจน
“แม่หนู นี่เจ้าจะไปไหนหรือ?”
เงาร่างสีดำร่างหนึ่งโฉบมาจากข้างหลังปานภูตผี ขณะที่ขยับวูบไหว ก็รวดเร็วเสียจนเห็นเพียงชุดสีดำสะบัดกลางสายลม เกิดเป็นเสียงแหวกอากาศ เพราะการปรากฏตัวของหญิงชราคนนั้น วิญญาณอาฆาตที่เดิมทีตามหลังเฟิ่งจิ่วอยู่พากันหวีดร้องด้วยความตกใจ
“กรี๊ด! ยายแก่มาแล้ว รีบหนีเร็ว!”
………………………………….