เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1367 สิ่งใดไม่ใช่ของเราก็อย่ามอง + ตอนนี้ 1368 ข้าทำเอง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1367 สิ่งใดไม่ใช่ของเราก็อย่ามอง + ตอนนี้ 1368 ข้าทำเอง
ตอนที่ 1367 สิ่งใดไม่ใช่ของเราก็อย่ามอง + ตอนนี้ 1368 ข้าทำเอง
ตอนที่ 1367 สิ่งใดไม่ใช่ของเราก็อย่ามอง
ขณะเดียวกัน เฟิ่งจิ่วก็เลื่อนสายตาหนีไปเงียบๆ แอบคิดในใจว่าสิ่งใดไม่ใช่ของเราก็อย่ามอง
เธอไม่สนใจจะมองร่างเปลือยเปล่าของชายแปลกหน้า เพราะในสายตาของเธอ ไม่มีใครเทียบร่างกายกำยำน่าดึงดูดของเซวียนหยวนโม่เจ๋อได้อีกแล้ว
พอนึกถึงคนบางคน ภาพที่ชวนให้คิดไกลเหล่านั้นก็ผุดขึ้นมาในสมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เธอเหม่อลอยไปชั่วขณะ จนกระทั่งเสียงของชายแก่ดังมา
“สหายน้อย? มานี่เร็วเข้า เจ้ามัวยืนเหม่ออะไรอยู่?”
“อ้อ มาแล้ว” เฟิ่งจิ่วได้สติ รีบเดินออกไปที่ห้องด้านนอก
ชายสวมหน้ากากนอนอยู่ในนั้นโดยมีผ้าเตี่ยวผืนเดิมปิดท่อนล่างเอาไว้อีกครั้ง เธอเดินมายืนข้างชายแก่ “จะเริ่มแล้วหรือ?”
“อืม รอช้าไม่ได้อีกแล้ว มา ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังก่อน” ชายแก่อธิบายให้เฟิ่งจิ่วฟังหนึ่งรอบว่าต้องฝังเข็มเมื่อใด ฝังเข็มอย่างไร รวมถึงหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นต้องทำอย่างไร
เท่านั้นยังไม่พอ ชายแก่อธิบายเสริมว่า “ตอนฝังเข็มห้ามเกิดข้อผิดพลาดใดเด็ดขาด หากเกิดอะไรผิดพลาดเพราะการฝังเข็มแล้วทำให้มีอันตรายต่อชีวิตของเขา แม้จะเป็นข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้”
“อืม ข้ารู้แล้ว ข้าจะระวัง” เธอพยักหน้ารับ เห็นชายแก่ยังไม่ทันเริ่มก็เหงื่ออาบหน้าผากแล้ว ท่าทางเหมือนตื่นตระหนก แม้แต่มือก็ยังสั่นเล็กน้อยอย่างที่สังเกตไม่เห็น เธอก็อดตกใจไม่ได้ ถามว่า “ผู้อาวุโส ท่านไม่เป็นไรกระมัง?”
สภาพอย่างนี้จะจับมีดได้หรือ? นี่เป็นการผ่าตัดใกล้หัวใจเชียวนะ ถ้าไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียวก็อาจสูญเสียชีวิตหนึ่งไปได้เลย มือของเขาสั่นอย่างนี้จะผ่าตัดได้หรือ?
“แค่…แค่ตื่นเต้นนิดหน่อย” ชายแก่ตอบตามตรง ยกมือขึ้นปาดเหงื่อ แล้วหันไปสั่งคนข้างๆ ว่า “ไปรินชาร้อนมาให้ข้าหนึ่งแก้ว ข้าขอดื่มชาสงบสติอารมณ์หน่อย”
คนข้างๆ รับคำแล้วออกไป ชายแก่นั่งลงข้างๆ มองคนที่นอนอยู่บนเตียง สายตาของเขามีแววกังวลพาดผ่าน
เวลานี้เอง ชายแก่คนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืด ขมวดคิ้วจ้องหน้าชายแก่ที่มีเหงื่ออาบหน้าผาก พลางถามด้วยน้ำเสียงตึงเครียดว่า “หรือว่าเจ้าไม่มีความมั่นใจ? เจ้าผ่าตัดด้วยสภาพเช่นนี้ นายน้อยจะฟื้นขึ้นมาได้หรือ?”
“ข้าไม่กล้ารับประกันว่าการผ่าตัดจะช่วยให้เขารอดชีวิตได้ แต่หากไม่ผ่าตัด เขาอยู่ได้ไม่เกินวันนี้แน่” ชายแก่ถอนหายใจ อธิบายว่า “พิษร้อนจู่โจมหัวใจแล้ว ถ้ายังไม่แก้พิษอีก เขาต้องตายจริงๆ แน่”
ได้ยินประโยคนี้ ชายแก่ที่เดินออกมามีสีหน้าเคร่งเครียด แต่กลับไม่พูดอะไรอีก หันไปจ้องเฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งแทน “ให้เจ้าหนุ่มนี่มาฝังเข็มให้นายน้อย หากเกิดอะไรขึ้น…”
“ข้าอธิบายให้เขาฟังแล้ว วิชาเข็มของเขาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
หลังจากรับชาร้อนจากองครักษ์มาดื่มเพื่อบรรเทาอาการตื่นตระหนก ชายแก่มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง แล้วหันไปพูดกับชายแก่อีกคน “อีกอย่างสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว ไม่ใช่หรือ?”
ชายแก่คนนั้นเม้มปากไม่พูดอะไรอีก ใช่แล้ว ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ อาการของนายน้อยถึงจะกลับไปก็ไม่ทันกาลแล้ว หนำซ้ำบาดแผลนั่น…
เขามองบาดแผลแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วบอกว่า “ต้องช่วยนายน้อยให้ได้!”
ชายแก่ดื่มชาร้อนสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็เดินมาข้างหน้า ทำความสะอาดมืออีกรอบ เมื่อเห็นมีดเล็กหลากหลายรูปแบบที่ต้องใช้เหล่านั้น ในใจเขาก็อดไม่ได้ที่จะตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ลังเลว่าควรจะหยิบมีดเล่มไหนดี?
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ด้านข้างเห็นอย่างนั้นก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เห็นว่าผ่านไปนานแล้วยังไม่เริ่มสักที จึงลองแนะนำว่า “ผู้อาวุโส ถ้าท่านทำไม่ได้ก็เปลี่ยนให้ข้าทำแทนเถิด!”
อย่างน้อยเธอก็รู้สึกว่า ถ้าเป็นเธอผ่าตัดเองคงไม่ลังเลอย่างนี้กระมัง?
………………………………….
ตอนนี้ 1368 ข้าทำเอง
ในเมื่อจะช่วย เธอย่อมหวังว่าจะช่วยให้คนรอดชีวิต แต่พอเห็นสภาพของชายแก่แล้ว น่าจะเป็นเพราะฐานะของคนคนนี้สำคัญมาก ทำให้เขาสูญเสียความสุขุมใจเย็นของคนเป็นหมอไป แล้วยังจะให้เขาผ่าตัดได้อย่างไรกัน?
“อะไรนะ? เจ้าหรือ?” ชายแก่ชะงักเล็กน้อย ถามว่า “เจ้าทำเป็นหรือ ถึงเจ้าจะทำเป็น ข้าก็ไม่กล้าไว้ใจให้เจ้าจับมีดหรอก เจ้ารู้หรือไม่ จุดนี้อยู่ใกล้หัวใจ หากไม่ระวัง…”
“ข้ารู้ แต่ข้าเห็นท่านตระหนกเกินไป แล้วสภาพท่านตอนนี้ก็ไม่เหมาะจะจับมีดผ่าตัดด้วย!” เธอพูดออกไปตรงๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้า “สำหรับข้าระดับนี้ถือว่าเป็นแค่การผ่าตัดเล็กๆ เท่านั้น ท่านให้ข้าทำเถอะ! แล้วท่านก็คอยเป็นลูกมือให้ข้าอยู่ข้างๆ”
ครั้นได้ยินประโยคนี้ ชายแก่ตะลึง หลีกทางให้โดยไม่รู้ตัว “ได้ เจ้า…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกตัดบทเสียก่อน
“ไม่ได้!”
ชายแก่ชุดเทาคนที่ก้าวออกมาเมื่อครู่คัดค้านเสียงเข้ม “เจ้าหนุ่มนี่เป็นใครมาจากไหนไม่รู้ จะให้เขาผ่าตัดได้อย่างไร? ถ้าหากมีข้อผิดพลาดอะไร ยากจะรับประกันชีวิตของนายน้อยได้!”
พอได้ยินประโยคนี้ ชายแก่ก็ลำบากใจ เขามองเฟิ่งจิ่วก่อนหันไปมองชายแก่ อธิบายว่า “แต่ว่าข้าตระหนกเกินไปอย่างที่สหายน้อยคนนี้บอกจริงๆ ข้ากลัวว่า…”
“เช่นนั้นเจ้าก็สงบจิตใจก่อน การผ่าตัดนี้ ต้องเป็นเจ้าลงมือเท่านั้น!” เขาเอามือไพล่หลังขณะพูด คิดว่าอย่างไรให้คนของตัวเองผ่าตัด ก็ยังวางใจกว่าให้คนแปลกหน้าผ่าตัดอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะมีความรู้วิชาแพทย์สูงส่งขนาดไหนกันเชียว? เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของนายน้อย เขาจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
“เช่นนั้นก็ได้!” ชายแก่จนใจ ทำได้เพียงพยักหน้ารับ สงบสติอารมณ์ แล้วจึงค่อยหยิบมีดเล่มเล็กอันแสนคมกริบที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมา “มีสิ่งตกค้างอยู่ข้างในแผล ต้องกรีดแผลเอาสิ่งตกค้างออกมาก่อน ระหว่างการรักษา ใครที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเอ่ยปากทำลายสมาธิของข้า
สหายน้อย รบกวนเจ้าสกัดจุดลมปราณตรงนี้ที”
“ได้” เฟิ่งจิ่วรับคำ หยิบเข็มเงินมาสกัดจุมลมปราณบริเวณที่เขาบอก จากนั้นก็ยืนดูอยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นอย่างนั้น ชายแก่จึงค่อยใช้มีดเล็กกรีดเปิดแผลออกเล็กน้อย สิ่งตกค้างที่อยู่ในแผลถูกดันออกมาพร้อมกับเลือดสีดำผสมพิษ การจะเอาสิ่งตกค้างออกมาเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า
เมื่อเวลาผ่านไป เลือดที่ไหลออกจากแผลมากขึ้นเรื่อยๆ กลับยังไม่อาจเอาเศษสิ่งตกค้างที่อยู่ในแผลออกมาได้ นั่นทำให้ชายแก่ยิ่งกังวล เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกได้ว่าลมหายใจของคนเจ็บอ่อนลงทุกที หน้าผากเขาก็ยิ่งมีเหงื่อผุดมากขึ้น
สุดท้าย เขาก็ตัวแข็งทื่อ ถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว
คนข้างๆ เห็นดังนั้นก็ใจหายวาบ โดยเฉพาะชายแก่ชุดเทา รีบถามขึ้นทันที “เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้า ความสามารถของข้ามีจำกัด เกรงว่า เกรงว่า…” เขาพึมพำอย่างละอายใจ ไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายตรงๆ
“เจ้า! นี่เจ้าอยากให้นายน้อยตายหรือ!” ขณะที่ชายชราโมโห กลับเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นก้าวเท้าเข้ามาหยิบมีดและแหนบ เขาจึงตวาดถามเสียงดัง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ช่วยคน” เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขา “แน่นอน ต้องจ่ายเงินข้าด้วย ไม่มากหรอก แค่หนึ่งแสนเหรียญทองก็พอ”
“สหายน้อย นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ” ชายแก่รีบเตือน
“หากช่วยไม่ได้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยความตาย!” ชายแก่อีกคนข่มขู่
“พรืด!”
เธอหลุดหัวเราะ “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่านี่เป็นแค่การผ่าตัดเล็กๆ? กลัวอะไรกัน?” ขณะพูด เธอก้าวเข้าไป ใช้มีดเล็กที่คมกริบกรีดแผลให้กว้างขึ้นอีกหน่อย การเคลื่อนไหวอันคล่องแคล่วที่เหมือนกำลังหั่นเนื้อหมูก็ไม่ปานนั่น พาให้คนด้านข้างใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
………………………………….