เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1371 ความคิด + ตอนที่ 1372 คนเล่า
ตอนที่ 1371 ความคิด + ตอนที่ 1372 คนเล่า?
ตอนที่ 1371 ความคิด
เวลาเที่ยงวัน ด้านหน้าโรงหมอ
“จูเยวี่ย เจ้ากลับบ้านไปก่อนเถอะ! อย่าลืมว่าเจ้าติดเงินข้าอยู่เล่า วันหน้าถ้าข้าได้เข้าไปหาเจ้าก็จะไปเอาที่เจ้า” เฟิ่งจิ่วตบไหล่เขาพลางยิ้มบอก
“เจ้าไม่ไปจริงหรือ อยู่ที่นี่ต่อจะไม่เป็นไรจริงหรือ?” จูเยวี่ยถามอย่างไม่ค่อยวางใจ
“ไม่เป็นไร ผู้อาวุโสที่นี่ดูแลข้าดีมาก อีกอย่างข้าก็เป็นคนว่างงาน เร่ร่อนไปทั่ว อยู่ที่นี่สักสิบวันครึ่งเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว กลับเป็นเจ้า ร่างกายยังไม่หายดี ระหว่างทางนั่งรถม้ากลับไปก็จะได้พักฟื้นอาการบาดเจ็บด้วย”
“เช่นนั้นก็ได้! เจ้าต้องระวังตัวด้วยนะ” ได้ยินเฟิ่งจิ่วพูดอย่างนั้น เขาทำได้เพียงไปจากที่นี่ไปก่อน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีปัญญาไปมีเรื่องกับคนในโรงหมอแห่งนี้ อยู่ต่อไปก็ช่วยอะไรไม่ได้
“ไปเถอะ คนพวกนั้นเจ้าก็ไม่ต้องเป็นห่วง ข้ากำชับพวกเขาแล้ว ต่อไปจะไม่ไปหาเรื่องเจ้าอีก”
“อืม เช่นนั้นข้าไปแล้ว”
กล่าวขอบคุณจบ เขาจึงค่อยขึ้นไปนั่งบนรถม้า มองเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าโรงหมอ สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้านั้น อยากจะจดจำหน้าตาของเด็กหนุ่มให้ขึ้นใจ ถึงแม้ภายหน้าจะไม่ได้พบกันอีก เขาก็จะไม่มีวันลืม
“สหายน้อย คราวนี้วางใจได้แล้วกระมัง?” หมอเฒ่าพูดกลั้วหัวเราะ เสริมว่า “มาๆ พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ข้าอยากพูดคุยกับเจ้าเรื่องวิธีเย็บแผลของเจ้าในตอนนั้นสักหน่อย”
เฟิ่งจิ่วจึงเดินเข้าไปพร้อมกับเขา หลังจากถูกเขารั้งตัวพูดคุยอยู่หนึ่งชั่วยาม เธอถึงเอ่ยว่า “ข้าจะกลับไปพักผ่อนสักหน่อย คืนนี้ไว้ข้าค่อยไปดูอาการของเขาก็แล้วกัน”
“ได้ๆ เช่นนั้นเจ้าก็พักผ่อนให้เต็มที่” ชายแก่กล่าว ครั้นเห็นเฟิ่งจิ่วเดินไปด้านหลังแล้ว จึงค่อยหยิบสมุดขึ้นมาจดสิ่งที่เฟิ่งจิ่วพูดลงไป
เมื่อกลับมาถึงห้อง เฟิ่งจิ่วก็ขึ้นเตียงหลับเต็มอิ่มไปหนึ่งตื่น จนกระทั่งพลบค่ำจึงค่อยตื่นนอน ให้คนเตรียมมื้อเย็นมาให้ หลังกินมื้อเย็นเสร็จ เห็นว่าท้องฟ้ายังไม่มืด จึงเดินเล่นอยู่รอบๆ ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงเดินไปยังลานบ้านที่อยู่ด้านข้างหลังนั้น
ทันทีที่เข้าไปก็สัมผัสได้ถึงสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เธอ เธอเดินเข้าไปข้างในโดยไม่สนใจ จนเห็นชายแก่ชุดเทากับหมอเฒ่าที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างเตียง
“หึๆๆ สหายน้อยเจ้ามาแล้ว!” หมอเฒ่ายิ้มพลางเดินเข้ามาหา “นายน้อยเป็นไข้เล็กน้อย แต่ข้าป้อนยาให้เขาตามที่เจ้าบอก ไข้ก็ลดแล้ว แม้แต่อาการบวมแดงรอบแผลก็ดีขึ้นบ้างแล้ว”
“อืม ข้าขอดูหน่อย” เธอพยักหน้า ก้าวเข้าไปตรวจชีพจร “อืม แก้พิษได้แล้ว ชีพจรก็มั่นคงแล้วเช่นกัน”
“ใช่! สหายน้อย ยาของเจ้าเป็นยาเทวดาจริงๆ ข้ายังไม่เคยเห็นยาที่ไหนมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมขนาดนี้เลย” หมอเฒ่ากล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย ถามว่า “สหายน้อย ไม่ทราบว่ายังมีอีกหรือไม่ ผู้เฒ่ายอมซื้อในราคาสูง”
“ของดีมักมีน้อย อีกอย่าง นายน้อยของพวกท่านก็ไม่ต้องใช้แล้ว เขาพ้นขีดอันตรายแล้ว ใช้ยาธรรมดาก็พอ” เธอยิ้มบอก “ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว เช่นนั้นข้ากลับก่อนละ”
“จะได้อย่างไรกัน” ชายแก่ชุดเทาแย้ง “เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าคืนนี้เป็นช่วงวิกฤต? เช่นนั้นเจ้าก็ควรเฝ้าอยู่ที่นี่ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น”
เฟิ่งจิ่วกำลังทำท่าจะพูด ก็เห็นชายแก่ชุดเทาหยิบกล่องยาวใบหนึ่งยื่นให้เธอ “นี่เป็นค่าแรงของเจ้า”
เห็นดังนั้นเธอจึงรับมาเปิดดู พบว่าข้างในเต็มไปด้วยสมุนไพรถั่งเช่า จึงอดยักคิ้วไม่ได้ “ให้ข้าจริงหรือ?” คุณภาพดูไม่เหมือนของธรรมดาทั่วไป กลับเอาออกมาให้กันง่ายๆ อย่างนี้ คนพวกนี้ไม่ธรรมดาดังคาด!
“ใช่” ชายแก่ชุดเทารับคำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิชาแพทย์และยาของเด็กหนุ่มล้วนไม่ธรรมดา คนเช่นนี้ ความจริงเขาเองก็อยากคบค้าสมาคมด้วย
………………………………….
ตอนที่ 1372 คนเล่า?
“เช่นนั้นก็ได้! ขอบคุณ”
เฟิ่งจิ่วเก็บของแล้วหาที่นั่งลง “ในเมื่อให้ข้าเฝ้าอยู่ที่นี่ พวกท่านก็กลับไปเถอะ! อีกอย่าง อดหลับอดนอนต้องใช้พลังงานมาก ท่านให้คนตุ๋นของบำรุงมาให้ข้ากินสักหน่อย”
คนทั้งสองมองหน้ากันเมื่อได้ยิน ก่อนพยักหน้า “ได้! เช่นนั้นขอฝากที่นี่ไว้กับเจ้าด้วยก็แล้วกัน พวกข้าจะออกไปเฝ้าข้างนอก” ยังมีคนคอยจับตามองในที่ลับอยู่ พวกเขาจึงไม่กลัวว่าเด็กหนุ่มจะทำอะไร นอกจากนั้น ทำอะไรนายน้อยของพวกเขาไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เขาไม่น่าจะใช่คนโง่อย่างนั้น
เมื่อเห็นพวกเขาออกไปข้างนอกแล้ว แต่คนในที่ลับยังคงจับตาดูอยู่ เฟิ่งจิ่วก็ไม่ไปสนใจ คนที่นอนอยู่ตรงนี้เป็นนายน้อยของพวกเขา พวกเขาย่อมไม่อาจออกไปหมดทุกคนอยู่แล้ว
แต่หากเธอต้องการจะไป ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร คืนนี้ยังไม่ใช่โอกาสดีที่สุดที่จะไปจากที่นี่
ด้วยเหตุนี้ เฟิ่งจิ่วจึงเดินไปเดินมาอยู่ในห้องนี้ พอเห็นว่าไม่มีตั่งก็ให้คนยกตั่งเข้ามาให้ จากนั้นก็นั่งอ่านหนังสืออยู่บนตั่งนั้น จวบจนมื้อค่ำถูกยกเข้ามา เธอจึงค่อยตรวจดูอาการของคนที่อยู่บนเตียงอีกหน เธอเห็นว่าใบหน้านั้นสวมหน้ากากอยู่ตลอด ก็ไม่คิดจะถอดออกมาดูเช่นกัน เพราะสุดท้ายรู้มากไปก็ไม่ส่งผลดีอะไร
คืนนี้เป็นเหมือนที่เธอคาดไว้ หลังกินยาของเธอเข้าไป คนบนเตียงก็ไม่มีไข้ ผ่านค่ำคืนนี้ไปอย่างเงียบสงบ กระทั่งฟ้าสางเธอจึงกลับไปพักผ่อนที่ห้อง และพอเข้าห้องไปครั้งนี้ก็ไม่ออกมาอีกเลยทั้งวัน
ภายในห้องของเรือนหลังข้างๆ หลังจากหมอเฒ่าตรวจดูอาการบาดเจ็บในช่วงเย็นเสร็จสิ้น ก็พยักหน้ายิ้มๆ แล้วอธิบายกับชายแก่ชุดเทา “อาการบาดเจ็บของนายน้อยฟื้นตัวได้ไม่เลว พ้นขีดอันตรายแล้ว ที่เหลือแค่รอเขาฟื้นก็พอ”
“เช่นนั้นก็ดี” ชายแก่ชุดเทาจึงค่อยวางใจได้ พูดว่า “เจ้าหนุ่มนั่นมีความสามารถไม่น้อย คนอย่างนี้ ถ้าหากดึงมาเป็นพวกของเราได้…”
ชายแก่ตัดบทเขา “เรื่องนี้เจ้าอย่าเสียเวลาคิดเลยดีกว่า สหายน้อยคนนั้นดูก็รู้แล้วว่าไม่ชอบการผูกมัด อีกอย่างความสามารถของเขาไม่ธรรมดา ไม่มีทางเป็นคนไร้ชื่อเสียงเรียงนามแน่นอน”
เห็นเช่นนั้น ชายแก่ชุดเทาจึงไม่พูดอะไรอีก เพียงลูบหนวดเอ่ยว่า “เขากลับไปพักตั้งแต่เมื่อเช้าจนป่านนี้ก็ยังไม่ออกมาสักครั้ง ถึงแผลของนายน้อยจะค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว แต่จะประมาทไม่ได้ เพื่อไม่ให้แผลนั่นติดเชื้อและอักเสบขึ้นมาอีก ตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ให้คนไปเรียกเขามาดูแลเถอะ!”
“ก็ดีเหมือนกัน” หมอเฒ่าเห็นด้วย ตั้งใจจะไปเรียกด้วยตนเอง นึกไม่ถึงว่าเพิ่งจะหมุนตัวไป ก็เห็นเด็กหนุ่มเดินหาวเข้ามาพร้อมกับใบหน้าง่วงงุน
“หึๆ สหายน้อย เจ้ามาแล้วหรือ?”
“ผู้อาวุโส วันนี้ท่านเตรียมอาหารบำรุงอะไรไว้ให้ข้า?” เฟิ่งจิ่วตบหน้าเบาๆ สองสามที หลังได้สติบ้างแล้วก็ถามด้วยสีหน้าคาดหวัง
ยามได้ยินประโยคนั้น หมอเฒ่าส่ายหน้าหัวเราะ “เจ้ารอเดี๋ยว ข้าจะให้คนไปยกมาให้” อยู่ร่วมกันมาสองวัน เขารู้แล้วว่าเจ้าหนุ่มนี่ชอบกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเลิศรส
“ใช่แล้ว หนังสืออาหารบำรุงเล่มนี้ขอคืนให้ท่าน ข้าอ่านจบแล้ว” เฟิ่งจิ่วยื่นหนังสือให้เขา
ชายแก่รับไว้ ก่อนจะนั่งลงด้วยกัน ส่วนอีกคนเดินเข้าห้องไปแล้ว ผ่านไปไม่นาน หลังจากที่ทั้งสองกินมื้อเย็นเสร็จ เฟิ่งจิ่วก็เข้าไปในห้อง คนอื่นๆ พากันออกจากห้องไปอีกครั้ง
ไม่มีใครใส่ใจมากนัก จนกระทั่งเช้าวันต่อมา พอพวกเขาเคาะประตูแล้วเข้าไปในห้อง กลับพบว่าเด็กหนุ่มไม่อยู่ในห้องแล้ว
ชายแก่สองคนชะงักเล็กน้อย มองหน้ากันแวบหนึ่ง ชายแก่ชุดเทาถามขึ้นว่า “เด็กหนุ่มคนนั้นเล่า?”
ไร้เสียงตอบรับจากในที่ลับ คล้ายเพิ่งจะตั้งสติกลับมา แต่ละคนมองหน้ากันด้วยความสับสน…
………………………………….