เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1395 เกิดเรื่อง + ตอนที่ 1396 โฉมงามชายตามอง
ตอนที่ 1395 เกิดเรื่อง + ตอนที่ 1396 โฉมงามชายตามอง
ตอนที่ 1395 เกิดเรื่อง
ยามก้าวขึ้นไปบนยอดเขาชั้นที่ห้า กลิ่นหอมของยาที่อบอวลอยู่ในอากาศยิ่งเข้มข้นกว่าเดิม บางทีอาจเป็นเพราะเธอมาแต่เช้า หรืออาจเป็นเพราะแต่ถ้ำล้วนกางเขตอาคมไว้แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ยินเสียงการหลอมกลั่นยา แต่ได้กลิ่นหอมของยาที่กระจายอยู่ในอากาศ
“อยู่ฝั่งซ้าย ถ้ำหมายเลขเจ็ด…”
เธอพึมพำเสียงเบา สายตากวาดมองถ้ำเหล่านั้น สุดท้ายจึงหยุดมองที่ถ้ำหมายเลขเจ็ด เมื่อก้าวเดินมาหยุดด้านนอก ก็เห็นลูกศิษย์ติดตามคนหนึ่งเฝ้าอยู่ตรงนั้น
“ข้ามาส่งยาทิพย์” เธอกอดตะกร้าไว้ในมือพลางบอก
“เอ๊ะ? เปลี่ยนคนแล้วหรือ?” ลูกศิษย์ติดตามคนนั้นมองเฟิ่งจิ่วอย่างประหลาดใจ มองพิจารณาหัวจรดเท้าแล้วจึงบอกว่า “เข้ามาเถิด!” ขณะกล่าว ก็พาเธอเข้าไปข้างในซึ่งเป็นที่เก็บยาทิพย์
ครั้นเดินเข้ามาในถ้ำ เฟิ่งจิ่วแอบอุทานในใจ ฐานะของนักเล่นแร่แปรธาตุนี่ไม่เหมือนกันจริงๆ ด้วย ถ้ำนี้อยู่ข้างนอกดูเหมือนประตูถ้ำประตูหนึ่งเท่านั้น พอเข้ามาข้างในกลับเป็นอีกดินแดนหนึ่งที่แตกต่างออกไป แล้วยังมีห้องแยกอีกหลายห้อง น่าจะเป็นที่พักและห้องหลอมยา รวมถึงห้องอาบน้ำ แต่ละห้องใหญ่กว่าถ้ำหินของเธอมากทั้งนั้น
เฟิ่งจิ่วเข้ามาข้างใน ได้ยินเสียงเล่นแร่แปรธาตุดังมาจากในห้องหลอมยา คล้ายมีคนกำลังพึมพำว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง หรือมีอะไรผิดพลาดไปทำนองนั้น
“เอาละ วางยาทิพย์ไว้ตรงนี้ก็พอ ประเดี๋ยวข้าจะเอาไปส่งที่ห้องหลอมยาเอง” ลูกศิษย์ติดตามคนนั้นบอกให้เฟิ่งจิ่ววางยาทิพย์ลง
“ขอรับ” เธอหยิบยาทิพย์ออกมาจากตะกร้า เหลือเพียงยาตัวสุดท้ายที่อยู่ข้างใน จากนั้นกล่าวลา “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ข้ายังต้องไปส่งยาทิพย์ที่อื่นอีก”
“ไปเถิด” ลูกศิษย์ติดตามคนนั้นพยักหน้า เมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วจากไป จึงค่อยจัดระเบียบยาทิพย์เหล่านั้น แล้วนำไปที่ห้องหลอมยา
เฟิ่งจิ่วไม่ได้รีบขึ้นไปที่ยอดเขาชั้นหกทันที แต่เดินวนรอบชั้นห้าหนึ่งรอบเพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่ แล้วจึงค่อยขึ้นไปที่ชั้นหก ยามมาถึงที่หน้าถ้ำหมายเลขสามบนชั้นหก กลับไม่เห็นลูกศิษย์ติดตามเฝ้าอยู่ด้านหน้า ดังนั้นเธอจึงตะโกนเรียก
“มีใครอยู่ไหมขอรับ ข้ามาส่งยาทิพย์”
ยังคงเงียบกริบไร้เสียงตอบกลับ เธอครุ่นคิดก่อนก้าวเท้าเข้าไปข้างใน ทว่าเพิ่งจะก้าวเข้าไปในถ้ำก็เห็นลูกศิษย์ติดตามคนหนึ่งนอนล้มอยู่ ในอากาศยังมีกลิ่นยาที่ยังหลงเหลืออยู่ด้วย
เมื่อได้กลิ่นยาชนิดนั้น เธอเปลี่ยนสีหน้าทันที รีบเข้าไปตรวจสอบดู ด้วยพื้นฐานร่างกายของเธอยาประเภทนี้ทำอะไรเธอไม่ได้ แต่เมื่อดมกลิ่นยาชนิดนี้เข้าไป หากเบาหน่อยก็จะมีอาการมึนเล็กน้อย หนักหน่อยสติปัญญาจะได้รับความเสียหาย ที่นี่เป็นถ้ำของนักเล่นแร่แปรธาตุ เช่นนั้นก็น่าจะเข้าใจฤทธิ์ของยาชนิดนี้จึงจะถูก เหตุใดถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้?
ในขณะที่สงสัย เธอรีบลากลูกศิษย์ติดตามคนนั้นออกไปข้างนอกก่อน แล้วค่อยกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง ตอนมาถึงห้องหลอมยา ก็เห็นมีคนล้มอยู่บนพื้นอีกหนึ่งคน เทียบกับลูกศิษย์ติดตามที่หมดสติอยู่ข้างนอกแล้ว ร่างกายของคนผู้นี้มีร่องรอยหลังการระเบิด เห็นได้ชัดว่าถูกเศษวัตถุโจมตีจนบาดเจ็บ บนตัวมีเลือดออกหลายจุด ลมหายใจก็ค่อนข้างรวยริน
เธอรีบสาวเท้าเข้าไปย้ายคนออกไปนอกถ้ำ หลังจากให้เขาได้สูดอากาศบริสุทธิ์ จึงค่อยตรวจสภาพร่างกายของเขา จากนั้นจึงจัดการแผลให้แบบง่ายๆ แล้วค่อยรีบไปเรียกคนมา
“ใครก็ได้! เกิดเรื่องแล้ว มีนักเล่นแร่แปรธาตุบาดเจ็บ…”
เธอวิ่งไปพลางตะโกนไปพลาง ถ้ำแต่ละถ้ำอยู่ห่างกันอย่างน้อยสิบห้าจั้ง พอเธอตะโกน ก็มีลูกศิษย์ติดตามได้ยินและรีบมาช่วย สุดท้ายลูกศิษย์ติดตามหลายคนรวมถึงเธอก็ช่วยกันพาสองคนนั้นไปรักษาที่ห้องยา
หลังจากเห็นสองคนนั้นถูกส่งตัวไปรักษาที่ห้องยาแล้ว เฟิ่งจิ่วถอนหายใจเบาๆ ก่อนนั่งลงนอกห้องยา
………………………………….
ตอนที่ 1396 โฉมงามชายตามอง
เป็นถึงนักเล่นแร่แปรธาตุ กลับหลอมยาจนเกือบเอาชีวิตตัวเองใส่เข้าไปด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ
เธอลอบส่ายหน้า รู้สึกว่าเหลือเชื่ออยู่บ้าง ในเมื่อเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุก็ควรรู้ว่ายาอะไรควรใส่เท่าใด ควรใส่ตอนไหน เมื่อใส่ยาเข้าไปแล้วควรกลั่นเป็นเวลานานเท่าใดมิใช่หรือ? ถึงจะเกิดเหตุระเบิดก็ควรรู้ล่วงหน้าว่าต้องหลบตอนไหนสิ
ความสามารถที่เตาระเบิดแต่ตัวเองยังเกือบเอาตัวไม่รอดอย่างนี้ เธอไม่อาจเรียนรู้ได้จริงๆ
“เจ้าเป็นคนส่งยาคนนั้นหรือ?”
ขณะนั้น พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เธอเงยหน้าขึ้นดู ก็เห็นชายชราผู้หนึ่งเดินมาทางเธอ
“ขอรับ ข้าเป็นคนส่งยาเอง” เธอลุกขึ้นแล้วตอบ
“ดีมาก วันนี้โชคดีที่พวกเขาได้เจอเจ้า ไม่อย่างนั้นหากช้าไปอีกแค่ชั่วครึ่งก้านธูป ชีวิตของพวกเขาคงหาไม่แล้ว” ชายชราลูบหนวดพลางชื่นชม มองดูเฟิ่งจิ่ว ก่อนถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “เจ้าบอกว่าเตาระเบิดรึ แล้วเจ้าเข้าไปได้อย่างไร? เหตุใดจึงไม่เป็นอะไรเลย?”
“หา?”
เฟิ่งจิ่วกะพริบตาปริบๆ ตอบว่า “ข้าเข้าไปแล้วไม่เป็นอะไรที่ไหนกันขอรับ? นั่นข้าไม่ได้เป็นคนฝึกจนเตาระเบิด ข้าย่อมไม่เป็นอะไรอยู่แล้วสิ!”
“ไม่ใช่ๆ ข้าหมายความว่า กลิ่นหอมของยานั่นเจ้าดมแล้วไม่เป็นอะไรหรือ นั่นมันหญ้าเจ็ดพักผ่อนเชียวนะ หากใช้ได้ดีก็จะเป็นยาทิพย์ช่วยชีวิต แต่ฝึกจนเตาระเบิดอย่างนักเล่นแร่แปรธาตุเคอ เช่นนั้นกลิ่นยาต้องแรงเกินไปแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพนี้ แม้แต่ลูกศิษย์ติดตามที่เข้าไปข้างในก็ยังหมดสติไปด้วย”
“อ้อ เรื่องนี้เองหรือ” เธอพูดเหมือนนึกขึ้นได้ “นั่นเพราะตอนข้าเข้าไปกลิ่นยาจางไปหมดแล้วน่ะขอรับ อีกอย่างข้าก็ได้กลิ่นแค่เล็กน้อย น่าจะไม่เป็นไร”
ได้ยินเช่นนั้น ชายชราพยักหน้า “เจ้าชื่ออะไร? วันนี้มีผลงานที่ช่วยชีวิตคน กลับไปข้าจะให้คนลงบันทึกไว้ให้เจ้า”
“ข้าชื่อเฟิ่งจิ่วขอรับ” เธอยิ้มตาหยีพลางตอบ
“เฟิ่งจิ่ว? ดี ข้ารู้แล้ว เจ้าไปทำงานเถิด!” ชายชราบอก แล้วพยักพเยิดให้เฟิ่งจิ่วกลับไปก่อน
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วจึงคารวะแล้วกลับออกมาก่อน
เธอกลับไปยังจุดแจกจ่ายยาทิพย์อีกครั้ง เมื่อหาผู้ดูแลร่างอ้วนเจอและรายงานเรื่องนี้ให้เขารู้แล้ว ก็หยิบยาทิพย์สองสามตะกร้ามาจำแนกประเภท
เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างยุ่งๆ เธอถือโอกาสตอนส่งยาทิพย์เดินขึ้นเดินลง ทำความคุ้นเคยกับยอดเขาซานหยางแห่งนี้ ในช่วงพลบค่ำ ตอนเธอเอาตะกร้าคล้องแขนกำลังเดินกลับ ก็เหลือบเห็นเงาร่างหนึ่งขี่กระบี่บินขึ้นไปทางยอดเขา
เห็นสตรีหน้าตางดงามสวมชุดขาวพลิ้วไสวขี่กระบี่ต้านลมด้วยท่าทางสงบนิ่ง เธออดไม่ได้ที่จะชะงักฝีเท้าแล้วเหม่อมอง ใบหน้านั้น…ใบหน้านั้นดูคล้ายกับเธออยู่หลายส่วน อีกทั้งใบหน้านั้นก็เหมือนใบหน้าของซั่งกวนหวั่นหรงที่เธอเคยเห็นทุกประการ
นั่นท่านแม่ของเธอหรือ?
หัวใจของเธอสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม อ้าปากเหมือนอยากจะตะโกนเรียก กลีบปากของเธอขยับเล็กน้อย แต่สุดท้ายกลับไม่ส่งเสียงออกไปสักคำ
บางทีอาจเป็นเพราะสายตาที่ร้อนรุ่มเกินไปของเฟิ่งจิ่วดึงดูดความสนใจของซั่งกวนหวั่นหรงที่กำลังขี่กระบี่ นางชะลอความเร็วกลางอากาศ ก้มหน้ามองลงไปด้านล่างเล็กน้อย เมื่อก้มมองก็เห็นเด็กหนุ่มชุดเขียวผู้นั้น
แต่เพียงแวบเดียว นางก็ละสายตากลับแล้วบินโฉบต่อไป ไม่นานนัก เงาร่างงดงามนั้นก็หายลับจากครรลองสายตาของเฟิ่งจิ่วไปทั้งอย่างนั้น
นั่นคือท่านแม่ของเธอ! ตัวจริงสวยกว่าในรูปวาดตั้งหลายเท่า เพียงแต่นางโฉบบินกลางอากาศ บินเฉียดไหล่ผ่านเธอไปเช่นนั้น
ครั้นนึกถึงตรงนี้ เฟิ่งจิ่วลอบทอดถอนใจ ช่างเถอะ อย่างไรก็มาอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องรีบเร่งนักหรอก ในเมื่อแต่ก่อนไม่เคยอยู่ด้วยกัน เธอก็พยายามทำความรู้จักว่านางเป็นคนเช่นไรไปก่อนก็แล้วกัน!
………………………………….