เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1401 เหมือนจะดีกว่าข้า + ตอนที่ 1402 มอมเหล้าหลอกถาม
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1401 เหมือนจะดีกว่าข้า + ตอนที่ 1402 มอมเหล้าหลอกถาม
ตอนที่ 1401 เหมือนจะดีกว่าข้า + ตอนที่ 1402 มอมเหล้าหลอกถาม
ตอนที่ 1401 เหมือนจะดีกว่าข้า
ซั่งกวนหวั่นหรงมองเขาแวบหนึ่ง คิ้วขมวดเล็กน้อย ก่อนปฏิเสธเสียงเฉยชา “ไม่ต้องละ เก็บของของเจ้าแล้วออกไปเสีย” เอ่ยส่งแขกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย
ชายแซ่หูสีหน้าค้างแข็ง ท่าทางเหมือนทำอะไรไม่ค่อยถูก “อาจารย์อาซั่งกวน…”
“ออกไป! ปัง!”
คราวนี้น้ำเสียงเย็นชาขึ้นอีกหลายส่วน หนำซ้ำมือข้างหนึ่งยังตบโต๊ะอย่างแรงจนส่งเสียงดัง
เฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งสังเกตอยู่ตลอด ยามที่นางยกมือขึ้นตบโต๊ะแล้วเผยรอยแผลตรงข้อมือออกมาให้เห็นโดยไม่ตั้งใจ ดวงตาเธอฉายประกาย สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แผล? ทำไมจึงมีแผลได้? อยู่ในยอดเขาซานหยางแห่งนี้ ซ้ำยังเป็นศิษย์ปิดสำนักของซานหยางจื่อ เหตุใดจึงมีแผลอยู่บนกายได้?
สายตาเฟิ่งจิ่วจับจ้องไปที่ข้อมือของนาง แผลนั้นเหมือนจะยังใหม่อยู่ อีกทั้งดูเหมือนรอยแส้ แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว…
ขณะกำลังครุ่นคิด ก็เห็นศิษย์พี่หูหน้าบึ้งเพราะทำตัวไม่ถูกที่โดนไล่ เขาหยิบตะกร้าขึ้นมา พูดเสียงกระแทกกระทั้นเล็กน้อย “ข้าเข้ามารบกวนอาจารย์อาเอง ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้ขอรับ!”
สิ้นเสียง ยามหมุนตัวจะเดินออกไป ยังไม่ลืมชะงักเท้าแล้วมองมาที่เฟิ่งจิ่ว “เจ้าเด็กนี่ยังยืนบื้ออยู่ทำไม วางยาทิพย์แล้วตามข้าออกมาได้แล้ว”
“หา! แต่ว่า…” เธออุตส่าห์ได้ขึ้นมาทั้งที จะให้ไปทั้งอย่างนี้หรือ?
“เอายาทิพย์มาให้ข้าเถิด!”
เสียงหนึ่งดังมา เฟิ่งจิ่วเงยหน้าขึ้น มองมารดาที่ยืนอยู่ตรงหน้า กลีบปากขยับเบาๆ อยากเอ่ยคำว่าท่านแม่ออกไป แต่สุดท้ายก็กล้ำกลืนไว้
เธอปรับอารมณ์ความรู้สึก จ้องเข้าไปในดวงตาของนาง คลี่ยิ้มประดับบนใบหน้า ก่อนจะเปล่งเสียงใสแฝงรอยยิ้มกล่าวว่า “อาจารย์อา ข้าชื่อเฟิ่งจิ่ว”
“เจ้าแซ่เฟิ่งหรือ?”
นางชะงักเล็กน้อย มองเด็กหนุ่มที่ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มบริสุทธิ์ เห็นดวงตาสดใสสุกสกาวของเด็กหนุ่มจับจ้องมาที่นาง ในดวงตาคู่นั้นแฝงไว้ด้วยความรักใคร่อย่างบอกไม่ถูก หัวใจของนางอดสั่นไหวเล็กน้อยไม่ได้
รู้สึกเพียงว่าเด็กหนุ่มคนนี้ให้ความรู้สึกแปลกๆ อย่างอธิบายไม่ถูก ทั้งที่ไม่เคยพบหน้ากันแท้ๆ แต่กลับรู้สึกสนิทสนมและคุ้นเคยอย่างไร้สาเหตุ ความรู้สึกนี้ ทำให้ท่าทางเฉยชาของนางอ่อนลงหลายส่วน สีหน้าเองก็อ่อนโยนลงด้วย
แซ่เฟิ่งหรือ…เป็นแซ่ที่ทั้งคุ้นเคยและห่างเหินเหลือเกิน
“ใช่ขอรับ ข้าแซ่เฟิ่ง ศิษย์พี่กัวมีธุระด่วนจึงต้องลงเขากะทันหัน ฉะนั้นจึงให้ข้ามาส่งยาทิพย์แทนขอรับ”
เธอพูดพร้อมยิ้มตาหยี อยากจะบอกนางว่าท่านพ่อข้าชื่อเฟิ่งเซียว แต่ก็กลัวว่าจะทำให้นางตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว อีกอย่าง…
เหตุใดมือของนางจึงมีแผล? เรื่องนี้เธอต้องสืบให้รู้แน่ชัด
“อืม ออกไปเถิด!” นางพูด ก่อนจะรับตะกร้ายาไปจากมือเฟิ่งจิ่ว
“ขอรับ” เธอรับคำแล้วประสานมือคารวะ หลังจากมองนางด้วยสายตาลึกซึ้ง จึงค่อยหมุนตัวเดินจากไป
เธอบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบทำความรู้จักกับท่านแม่ อยู่ยอดเขาซานหยางด้วยกัน ยังมีโอกาสอีกมากมาย
ทั้งสองคนเดินออกไปข้างนอก เขตอาคมถูกกางอีกครั้ง ตัดขาดกับโลกภายนอก เฟิ่งจิ่วที่เดินออกมาข้างนอกแล้วหันหลังไปมองแวบหนึ่ง ได้ยินศิษย์พี่หูค่อนขอดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก
“เหมือนอาจารย์อาซั่งกวนจะดีกับเจ้ามากกว่าข้าเสียอีก”
ยามได้ยินประโยคนี้ เฟิ่งจิ่วชะงัก สีหน้าสะดุดเล็กน้อย “จะเป็นไปได้อย่างไรขอรับ ศิษย์พี่หูคิดมากไปแล้ว ข้าเพิ่งเคยพบอาจารย์อาซั่งกวนเป็นครั้งแรก แล้วข้าก็เป็นเพียงเด็กส่งของคนหนึ่ง อาจารย์อาซั่งกวนถามไถ่สักประโยค ก็เพียงเพราะแปลกใจว่าเหตุใดถึงเปลี่ยนคนส่งยาทิพย์เท่านั้น”
ได้ยินเช่นนั้น ชายแซ่หูถึงพยักหน้า “ก็จริง ฟังดูมีเหตุผล ถึงอย่างไรเด็กน้อยเช่นเจ้าก็ไม่มีอะไรสักอย่าง เป็นเพียงเด็กส่งของคนหนึ่ง” กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อหมุนตัวเดินจากไป
………………………………….
ตอนที่ 1402 มอมเหล้าหลอกถาม
หลังได้ยินประโยคนั้น และเห็นชายแซ่หูเดินจากไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียดมุมปาก เผยให้เห็นรอยยิ้มประหลาด เธอยกมือขึ้น สะบัดแขนเสื้อ เห็นเพียงผงขาวที่เหมือนฝุ่นควันลอยสู่พื้นแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ระหว่างทางกลับ เธอไปแลกของรางวัลมา จากนั้นจึงค่อยกลับไปช่วยทุกคนในยอดเขาส่งยาทิพย์ เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างยุ่งๆ เช่นนี้…
ช่วงพลบค่ำ ระหว่างที่เธอกำลังเดินกลับถ้ำ ก็เห็นศิษย์พี่กัวที่กลับมาแล้วยิ้มแป้นเดินมาหา
“เฟิ่งจิ่ว วันนี้ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยไปส่งยาทิพย์แทนข้า มาๆ นี่เป็นของที่ข้าเอากลับมาฝากเจ้า” พูดจบ ก็ยื่นตะกร้าใส่ถุงกระดาษน้ำมันให้เธอ
ยังไม่ทันเปิดเฟิ่งจิ่วก็ได้กลิ่นหอมลอยมาแล้ว เธออดตาเป็นประกายขึ้นมาไม่ได้ ถามด้วยเสียงตื่นเต้นดีใจว่า “ศิษย์พี่กัว นี่ไก่ย่างหรือ?”
“ฮ่าๆ ใช่แล้ว คนบนยอดเขาเราไม่ชอบของกินมากนัก กลับเป็นเจ้า ปล่อยยาห้าธัญพืชไว้ไม่กิน ดันชอบกินของพวกนี้แทน พวกสัตว์วิญญาณมีปีกข้าไม่มีปัญญาซื้อ แต่ไก่ย่างนี่ข้าซื้อกลับมาฝากเจ้าได้”
“ศิษย์พี่กัว ท่านรู้ใจข้าเหลือเกิน ขอบคุณท่านมาก นี่เป็นของที่เยี่ยมที่สุดแล้วจริงๆ” เธอพูดด้วยความดีใจ แล้วถามอีกว่า “ศิษย์พี่กัวเพิ่งกลับมาหรือ ไปดื่มที่ถ้ำข้าสักสองจอกดีหรือไม่?”
“อ้อ? เจ้ามีเหล้าด้วยหรือ?” เขาค่อนข้างประหลาดใจ
“มีขอรับ หลายวันก่อนศิษย์พี่ท่านหนึ่งให้ข้าเป็นรางวัล มีไหใหญ่เลยละขอรับ! ข้าเก็บไว้ยังไม่ได้ดื่มเลย!” เธอยิ้มกว้าง “ในเมื่อมีไก่ย่าง ก็ดื่มแกล้มเหล้าได้พอดี! ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เป็นเวลากินข้าวแล้วด้วย”
“อย่างนี้เองหรือ เช่นนั้นก็ดี พวกเราไปดื่มที่ถ้ำเจ้ากัน ไป” เขาพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นเดินไปที่ถ้ำพร้อมกับเฟิ่งจิ่ว
ภายในถ้ำ ข้างโต๊ะหิน สองคนดื่มเหล้ากินไก่ย่างพลางพูดคุยไปด้วย จากตอนแรกที่สติครบครันจนดวงตาเริ่มปรือลง เหล้าไหใหญ่ถูกดื่มไปถึงหนึ่งในสามแล้ว
“มาๆๆ ดื่มต่อ เอาให้หมดจอกนี้”
เฟิ่งจิ่วกล่าว ยกแก้วแล้วดื่มต่ออีกหนึ่งจอก จากนั้นก็รินเหล้าให้เขาอีก ขณะมองหน้าศิษย์พี่กัวที่กำลังมึนเมา เฟิ่งจิ่วคลี่ยิ้ม “ศะ ศิษย์พี่กัว ท่านเมาแล้ว”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? ข้ายังไม่เมา ไม่เมา มา ดื่มต่ออีก” เขาโบกมือ แต่สายตาพร่าเลือน ใบหน้าแดงก่ำไปทั้งดวง ซ้ำยังพูดจาเลอะเลือน ทั้งหมดนี้ล้วนดูออกว่าเขาเมาแล้ว
ครั้นเห็นเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วจึงพูดลอยๆ เหมือนไม่ได้ตั้งใจว่า “ศิษย์พี่กัว ปรมาจารย์ซานหยางดีกับอาจารย์อาซั่งกวนจริงๆ นะขอรับ! ถ้ำที่นางอาศัยอยู่ใหญ่กว่าของพวกเรามากเลย”
“อืม จะว่าดีก็ดีมาก แต่เจ้าเพิ่งมาอยู่ยังไม่รู้เรื่องอะไร ศิษย์ ศิษย์ปิดสำนักก็เรียกกันแค่ปากเปล่าเท่านั้น ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร อีกอย่าง เอื๊อก…”
เขาเรอเสียงดัง ก่อนเล่าต่อ “พวกเราหลายคนที่ขึ้นไปส่งยาทิพย์ข้างบนต่างก็รู้กัน ปรมาจารย์ซานหยางเข้มงวดมาก ถ้าอาจารย์อาทั้งห้าคนหลอมยาออกมา ละ แล้วเขาไม่พอใจ เขาก็จะทำโทษทางร่างกาย”
“หา? อย่างนี้เองหรือ โทษทางร่างกาย เช่นนั้นก็โดนตีน่ะสิ?” เธออุทานด้วยความตกใจ แต่กลับเห็นเขาส่ายหน้าไปมาแล้วสะลึมสะลือหลับไป ไม่นานก็ล้มลงไปนอนคว่ำอยู่บนพื้น
“ศิษย์พี่กัว?” เธอเรียก ผลักเขาสองสามที เมื่อเห็นว่าเขาหลับแล้ว ก็ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วปล่อยให้เขาหลับต่อ
ทำโทษทางร่างกาย? หรือว่าท่านแม่ของเธอโดนตีเพราะเหตุผลนี้ เรื่องบนยอดเขาชั้นบนมีน้อยนักที่จะได้ยินมาถึงข้างล่าง เธอเองก็เพิ่งรู้จากปากศิษย์พี่กัวเมื่อครู่ ที่แท้หากซานหยางจื่อไม่พอใจยาที่ถูกกลั่นออกมา ก็จะทำโทษศิษย์ของเขาด้วย
………………………………….