เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1471 สมหวัง + ตอนที่ 1472 ฟื้น
ตอนที่ 1471 สมหวัง + ตอนที่ 1472 ฟื้น
ตอนที่ 1471 สมหวัง
ใครๆ ก็พูดประจบเป็น แต่ประจบเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้ กลับมีน้อยนัก ไม่ว่าใครก็ไม่เคยเห็นคนประจบได้คล่องปากถึงเพียงนี้ เลือกใช้คำได้อย่างชำนาญ ระดับความหนาของหน้าก็ไม่มีใครเกิน
ต้องรู้ว่า ไม่มีใครประจบได้ออกนอกหน้าถึงขนาดนี้ เด็กหนุ่มคนนี้ กลับแตกต่างจากคนอื่น
“อะแฮ่ม”
ผู้อาวุโสสูงสุดกระแอมเบาๆ เหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ยกมือพยักพเยิด “เอาล่ะ เจ้ามีอะไรก็ว่ามา!” เขากลับอยากรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหน
“ข้าไม่ได้อยากพูดอะไร เพียงอยากแสดงความชื่นชมที่ข้ามีต่อท่านผู้อาวุโสสูงสุด รวมถึง…” ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกตัดบทแล้ว
“เอาล่ะๆ วันนี้ข้ามาเพราะมีเรื่องต้องทำ ไม่คุยไร้สาระกับเจ้าแล้ว” ขณะกล่าว เขาเหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ถามว่า “เจ้าว่าเจ้าชื่ออะไรนะ?”
“เฟิ่งจิ่วขอรับ เป็นศิษย์ชั้นล่างของยอดเขาซานหยาง” เธอยิ้มตาหยี
“เฟิ่งจิ่ว?” เขามองพิจารณาเด็กหนุ่มแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้า “เอาล่ะ เจ้าไปทำงานเถิด! ที่นี่ไม่มีธุระของเจ้า”
“ไม่ได้ขอรับ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าเธอหุบลง สีหน้าจริงจัง “ท่านผู้อาวุโสสูงสุดยังไม่ทราบหรือขอรับ? พักนี้ข้ากับศิษย์พี่ลั่วเป็นคนดูแลศิษย์พี่เฉิน เมื่อวานศิษย์พี่เฉินยังร้องไห้คร่ำครวญ บอกว่าทำตระกูลเฉินขายหน้า ทำท่านผู้อาวุโสสูงสุดขายหน้า เขาบอกว่าตนเองเข้ามาในสำนักก็มีผู้อาวุโสสูงสุดคอยดูแลมาตลอด เขานับถือท่านดุจบิดาแท้ๆ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นยิ่งไม่กล้าสู้หน้าท่าน เพราะละอายใจต่อท่านนัก”
คนจากตระกูลเฉินที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน ก็รู้สึกเปรี้ยวฝาดในใจเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้อาวุโสสูงสุดแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าก้มตา
ส่วนลั่วเหิงที่อยู่ด้านหนึ่งมุมปากกระตุก พักนี้ล้วนเป็นเขากับตนเองช่วยกันดูแลเฉินเต้างั้นหรือ? เขาดูแลอยู่คนเดียวแท้ๆ อีกอย่าง เมื่อวานเฉินเต้าร้องไห้คร่ำครวญงั้นหรือ? จนถึงตอนนี้เฉินเต้ายังหลับสนิทเหมือนหมู เดาว่าโดนขายก็ยังไม่รู้ตัว อีกอย่าง เมื่อวานเขามาเสียที่ไหนกัน ช่างไร้สาระเสียจริง อ้าปากก็พูดเหลวไหลแล้ว
เขาไม่เคยรู้เลยว่าเฟิ่งจิ่วพูดจาไร้สาระเก่งถึงเพียงนี้ ดูสิเล่นเอาพวกผู้อาวุโสสูงสุดตะลึงงันเลย ท่าทางเหมือนทำตัวไม่ถูก
ลั่วเหิงครุ่นคิดในใจ ผู้อาวุโสสูงสุดได้ยินเฟิ่งจิ่วพูดอย่างนั้น ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นึกประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเด็กหนุ่มพูดเรื่องเหล่านั้นด้วยใบหน้าตื้นตัน เขากลับไม่คิดว่าเด็กหนุ่มพูดไปเรื่อย เพราะปกติยามอยู่ในสำนัก เฉินเต้าเคารพเขามากจริงๆ
ในตอนนั้น เขาลังเลเล็กน้อย
หากตอนนี้ส่งตัวเขากลับไปโดยไม่สนใจคำร้องขอของเขา เช่นนั้นเขาจะไม่ดูเป็นคนแล้งน้ำใจ และเย็นชาไร้ความรู้สึกหรือ?
ในตอนนี้เอง จู่ๆ เฟิ่งจิ่วก็หันมา ถามว่า “ใช่แล้วศิษย์พี่ลั่ว ศิษย์พี่เฉินบอกว่าอยากอยู่ที่นี่สักสองเดือนแล้วค่อยกลับไป ท่านบอกผู้อาวุโสสูงสุดหรือยัง?”
“หา? บะ บอกแล้ว” เขาอ้ำอึ้ง แล้วตอบ สายตาหันไปมองผู้อาวุโสสูงสุด
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้มกว้างแล้วหันไปมองผู้อาวุโสสูงสุด “ข้ารู้อยู่แล้วว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะต้องอนุญาตให้ศิษย์พี่เฉินอยู่ที่นี่ต่อสักสองสามเดือนแน่ แค่คำร้องขอเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดก็ดีกับศิษย์พี่เฉินขนาดนี้ จะไม่อนุญาตได้เช่นไรกัน?”
“อะแฮ่ม!”
ผู้อาวุโสสูงสุดกระแอมเบาๆ มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง แล้วบอกว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้เขาอยู่ที่นี่สักสองสามเดือนก่อนก็แล้วกัน! ลำบากพวกเจ้าสองคนดูแลเขาแล้ว”
ขณะกล่าว ก็หยิบยาสองขวดออกมายื่นให้เฟิ่งจิ่ว “นี่เป็นยาที่ข้าหลอมเอง เจ้าเอาไปให้เฉินเต้าที! ให้เขาพักฟื้นดีๆ” สิ้นเสียง ก็หมุนตัวแล้วพาคนเดินจากไป
………………………………….
ตอนที่ 1472 ฟื้น
มองดูพวกเขาจากไป ลั่วเหิงอดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้ เดินเข้ามาตบไหล่เฟิ่งจิ่ว “เจ้าสุดยอดจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดเปลี่ยนใจได้อย่างนี้ เจ้าไม่รู้หรอก เมื่อกี้ข้าพูดตามที่เจ้าบอก แต่เขาไม่ยอมฟัง ยืนยันจะพาเฉินเต้ากลับให้ได้”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ มองยาสองขวดในมือ แล้วยื่นให้เขา “ท่านรับไว้เถิด! พวกเราเข้าไปดูศิษย์พี่เฉินกัน”
เห็นเงาร่างนั้นก้าวเข้าไปข้างใน ลั่วเหิงรีบเดินตามไป
ในยอดเขาซานหยาง ภายนอกดูเหมือนสงบไร้คลื่นลม ทว่า เมื่อซั่งกวนหวั่นหรงเก็บตัวฝึกบำเพ็ญ พวกต้วนมู่ไป๋ก็จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พวกเขามักรู้สึกว่ากำลังจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่แม้พวกเขาสามคนจะเป็นคนระดับอาจารย์อาในยอดเขาซานหยาง กลับไม่อาจเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของท่านอาจารย์ของพวกเขาได้
ด้วยเหตุนี้ ความกังวลและความสงสัยจึงยังคงวนเวียนอยู่ในใจ กระวนกระวายจนไม่มีสมาธิฝึกบำเพ็ญตน
วันนี้ ทั้งสี่คนนัดดื่มชากันใต้ต้นไม้หน้าถ้ำ หลังจากดื่มชาหมดไปหนึ่งถ้วย นักเล่นแร่แปรธาตุลำดับที่สี่ทำลายความเงียบด้วยการถามว่า “พวกท่านคิดว่าท่านอาจารย์กำลังคิดจะทำอะไรอยู่? หลังกลับมาศิษย์น้องไปพบท่านอาจารย์ครั้งเดียวก็เก็บตัวเงียบแล้ว ถึงแม้พักนี้จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจกลับไม่สงบเอาเสียเลย”
“นั่นก็ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงรอดูเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเราก็ทำผิดกฎไม่ได้ไม่ใช่หรือ?”
“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านคิดว่าอย่างไร?” นักเล่นแร่แปรธาตุอีกคนหันไปถามต้วนมู่ไป๋ที่เงียบไม่พูดไม่จา
“ก็เหมือนกับที่ศิษย์น้องรองบอก ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเรายังทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”
ต้วนมู่ไป๋ตอบ พลางเก็บซ่อนสายตา ถึงแม้จะรู้จุดประสงค์ของท่านอาจารย์ แต่เกรงว่าพวกเขาคงไม่มีทางขัดขวางให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ เขาหวังเพียงว่าศิษย์น้องจะไปจากที่นี่เสีย เหตุการณ์อาจารย์สังหารศิษย์จะได้ไม่เกิดขึ้น ทว่า นี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขา เขาจะพูดออกไปได้อย่างไรกัน?
พวกเขาดื่มชากันเงียบๆ ในหัวกลับกำลังครุ่นคิดกันไปต่างๆ นานา…
หลายวันต่อมา เพราะภายนอกยอดเขาซานหยางดูสงบสุข เฟิ่งจิ่วเองก็ว่างไม่มีอะไรทำ วันนี้จึงมาที่ถ้ำของเฉินเต้าอีก เมื่อคำนวณเวลาดูแล้วก็พบว่าตั้งแต่ผ่าตัดให้เฉินเต้า นี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว ผ่านมานานขนาดนี้ ถึงเวลาที่เธอจะทำให้เฉินเต้าฟื้นขึ้นมาได้แล้ว
วันนี้ ลั่วเหิงที่เอาแต่นับวันรอก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน เพราะเขาอยากเห็นเฉินเต้าหายดี และอดใจรอไม่ไหวที่จะป่าวประกาศให้ทุกคนรู้
ด้วยเหตุนี้ เมื่อครบสิบห้าวัน เขาก็ออกมาเดินวนไปวนมาหน้าถ้ำเพื่อรอเฟิ่งจิ่วแต่เช้าตรู่ เมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วเดินทอดน่องมาทางนี้ เขาก็โบกมือเรียกพร้อมกับดวงตาเป็นประกาย
“เฟิ่งจิ่วๆ เร็วเข้าสิ เจ้าอย่ามัวแต่ชักช้า! ข้ารอเจ้านานแล้วนะ”
เธอยิ้มๆ ไม่นานก็เดินมาถึงตรงหน้าเขา “รีบร้อนอะไรกัน? ข้าก็มาแล้วนี่อย่างไร?” เธอเดินผ่านเขาเข้าไปข้างใน พลางถามว่า “พักนี้ไม่มีใครมารบกวนศิษย์พี่เฉินกระมัง?”
“ชิ! เจ้าเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ตั้งแต่เขาเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเขาอยู่แล้ว แน่นอน พวกเราสองคนเป็นข้อยกเว้น”
“ไม่มาก็ดีแล้ว”
เฟิ่งจิ่วบอก เดินมาข้างเตียงแล้วตรวจอาการก่อนเล็กน้อย แล้วจึงค่อยหยิบเข็มเงินออกมา “นี่ก็ครึ่งเดือนแล้ว กระดูกสมานตัวได้ระดับหนึ่งแล้ว ถึงจะยังลงจากเตียงไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มั่นใจได้แล้วว่ากระดูกจะไม่เคลื่อนง่ายๆ อีก”
สิ้นเสียงของเธอ เข็มเงินก็ทิ่มลงไปบนหัวของเฉินเต้าเบาๆ ผ่านไปไม่นาน คนที่กำลังหลับใหลอยู่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา…
………………………………….