เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1487 กลับมาอีกครั้ง + ตอนที่ 1488 ใครกันแน่
ตอนที่ 1487 กลับมาอีกครั้ง + ตอนที่ 1488 ใครกันแน่
ตอนที่ 1487 กลับมาอีกครั้ง
“อยากได้คน? ก็ได้ งั้นให้เจ้า!”
ซานหยางจื่อพุ่งเข้าใส่อสูรกลืนเมฆา กรงเล็บคมกริบจู่โจมมาทางเขา ความอำมหิตพลันก่อตัวในใจ เขาจับซั่งกวนหวั่นหรงผลักออกไปข้างหน้าเพื่อเป็นกำบังมนุษย์ให้ตนเอง
“กรี๊ด!”
ซั่งกวนหวั่นหรงที่ถูกจับตัวไว้ถูกผลักไปข้างหน้าโดยไม่ทันตั้งตัวรู้สึกได้เพียงว่ากรงเล็บแหลมคมจู่โจมเข้ามา ไอสังหารน่าพรั่นพรึง แต่ในตอนนั้นเอง สัตว์เทวะที่กำลังจู่โจมมาทางเธอกลับรีบชะงักการโจมตี เพราะหยุดการโจมตีอย่างกะทันหัน ร่างกายของมันสะบัดไปอีกทางอย่างแรงเพื่อเลี่ยงการโจมตีนาง
เห็นอย่างนั้น นางอึ้งงัน มองดูร่องรอยเส้นหนึ่งที่เกิดขึ้นตอนสัตว์เทวะตัวนั้นล้มกระแทกพื้นอย่างแรง ขณะที่นางหมายจะอ้าปากพูดอะไร ก็ถูกตีที่ต้นคอด้านหลัง และหมดสติไปเสียก่อน
“กรรซ์!”
อสูรกลืนเมฆารีบกระโดดตามไป นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับขว้างอะไรบางอย่างมา เสียงระเบิดดังบึ้มตรงหน้ามัน กลิ่นฉุนเสียดแทงจมูกกระจายไปทั่ว มันรู้สึกเพียงขาอ่อนไปทั้งสองข้าง ร่างกายล้มคว่ำลงไป ทำได้เพียงมองดูคนผู้นั้นหามท่านแม่ของนายท่านหายลับไปในไม่กี่อึดใจ…
ในอีกด้าน เฟิ่งจิ่วที่คลายจุดลมปราณได้แล้วไม่ได้ออกจากประตูหน้า แต่กลับอ้อมไปที่หลังเขา เธอตั้งใจจะออกจากหลังเขา ที่นั่นค่อนข้างอันตราย หน้าผาสูงชันไม่อาจปีนได้ วิธีเดียวที่ใช้ได้ก็คือบิน แต่ที่นั่นมีเขตอาคมกับค่ายกลอยู่ เพื่อห้ามไม่ให้ศิษย์ในสำนักเข้าออกทางหลังเขา แต่เขตอาคมกับค่ายกลกลับใช้ไม่ได้ผลกับเธอมากนัก
แต่ทว่า เพราะความกว้างใหญ่ของพื้นที่หลังเขา เธอกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าตนเองได้สวนทางกับซานหยางจื่อที่กำลังหามท่านแม่ของเธอกลับมา ตอนที่นางบินผ่านค่ายกลและเขตอาคมมาข้างนอกด้วยความเร็ว และตามกลิ่นของอสูรเมฆาไป ก็เห็นมันสะบัดขนบนตัวแล้วลุกขึ้นยืน
“เจ้ากลืนเมฆา ท่านแม่ของข้าเล่า?” เมื่อได้กลิ่นในอากาศที่ยังไม่จางไป รวมถึงเห็นรอยเลือดที่หยดอยู่บนพื้น หัวใจของเธอหนักอึ้ง
“ถูกตาเฒ่านั่นจับตัวกลับไปแล้ว” อสูรกลืนเมฆาบอก แล้วพูดอย่างรู้สึกผิด “นายท่าน พลังต่อสู้ของตาเฒ่านั่นไม่สูง แต่เขากลับใช้ยาได้เก่งกาจมาก ไม่รู้ว่าเป็นยาใดถึงทำให้ข้าหมดแรงจนตามต่อไม่ไหว”
ตามหลักแล้ว มันเป็นถึงสัตว์เทวะ ยาหรือพิษทั่วไปล้วนใช้ไม่ได้ผลกับมัน แต่ไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร แม้แต่สัตว์เทวะอย่างมันยังถูกเล่นงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไปทางไหน? หนีกลับไปทางหลังเขาหรือ?” สายตาของเธอหันไปมองเส้นทางที่เธอมา เธอนึกว่าซานหยางจื่อจะลงมือกับท่านแม่ของเธอข้างนอก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะจับนางกลับไปที่สำนัก
ทำเรื่องอย่างนี้ เขาไม่มีทางกล้าให้คนอื่นรู้แน่ ฉะนั้นจึงทำได้เพียงกลับเข้าไปในสำนักจากทางหลังเขา หากเป็นเช่นนี้…
เธอสูดหายใจลึกๆ รีบใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว พาท่านแม่เธอกลับไป หมายความว่าเขาคิดจะใช้ร่างกายของนางเป็นเตาหลอมมนุษย์จริงๆ? หากเป็นเตาหลอมมนุษย์ เช่นนั้นก็จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ถึงจะยังทำให้กลิ่นอายพลังวิญญาณไหลเวียนอยู่ในร่างกายได้
“เจ้ากลืนเมฆา กลับเข้าไปในมิติ พวกเรากลับไปอีกครั้งกัน!” เธอบอก เอื้อมมือออกไปคว้า ให้มันกลับเข้าไปอยู่ในห้วงมิติ
มองดูร่องรอยการต่อสู้รอบๆ นัยต์ตานางเย็นเยียบ รีบจากไปโดยใช้เส้นทางเดิมตอนมา ในเมื่ออยู่ในยอดเขาซานหยาง เช่นนั้นเธอก็ยังต้องกลับไป! เธอไม่เชื่อว่าจะหาโอกาสช่วยท่านแม่ของเธอออกมาไม่ได้!
ขณะเดียวกัน ในสำนัก คนที่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวรางๆ ลอบประหลาดใจ เพราะเสียงดังมาจากบริเวณใกล้ๆ สำนักโอสถตะวัน จึงส่งศิษย์ออกไปตรวจสอบ
ต้วนมู่ไป๋ที่ตามหาเฟิ่งจิ่วไม่เจอได้ยินเสียงนั้น หัวใจพลันหนักอึ้ง รู้สึกสังหรณ์ใจรางๆ…
………………………………….
ตอนที่ 1488 ใครกันแน่
จิตใจของเขาว้าวุ่นกระสับกระส่าย เรื่องที่เขากลัวกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ แล้ว เขารีบวิ่งลงไปข้างล่าง
ลูกศิษย์ที่กำลังเฝ้าประตูสำนักเห็นว่าเป็นต้วนมู่ไป๋ จึงยิ้มถาม “อาจารย์อาต้วน เป็นท่านได้อย่างไรกัน? ท่านรีบร้อนไปไหนหรือขอรับ?”
“ข้าจะออกไปตรวจสอบดูหน่อยว่าเสียงข้างนอกนั่นเกิดอะไรขึ้น รีบเปิดประตูเร็ว” ต้วนมู่ไป๋พูดด้วยสีหน้าซีดเผือด น้ำเสียงไม่ค่อยมั่นคง
“อาจารย์อาต้วนไม่ต้องออกไปแล้ว มีศิษย์ถูกส่งตัวออกไปแล้ว อีกประเดี๋ยวก็กลับมา”
“เปิดประตู!” เขาตวาดเสียงเข้ม สองมือกำหมัดแน่น เส้นเอ็นนูนชัด
เห็นอย่างนั้น ศิษย์คนนั้นสะดุ้งตกใจ ไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบเปิดประตูให้เขาออกไป มองดูต้วนมู่ไป๋โฉบกายหายลับไปในพริบตา เขาอดพึมพำไม่ได้ “อาจารย์อาต้วนเป็นอะไรไป? บ้าไปแล้วหรือ?”
“หวั่นหรง? หวั่นหรง? ศิษย์น้อง? ศิษย์น้อง…”
ต้วนมู่ไป๋ตะโกนเสียงดัง ตามหาไปทั่วป่าอย่างบ้าคลั่ง เสียงที่แฝงกลิ่นอายพลังวิญญาณดังสะท้อนกลางอากาศ ดังเข้าหูพวกลูกศิษย์ที่กำลังสำรวจอยู่ในป่า
“เหมือนจะเป็นเสียงของอาจารย์อาต้วนนะ”
“เหมือนเขากำลังตะโกนเรียกอาจารย์อาซั่งกวน? แต่ข้าได้ยินว่าอาจารย์อาซั่งกวนออกจากสำนักไปเมื่อเช้าแล้ว”
ศิษย์สองสามคนพูดคุยถกเถียงกัน มองหน้ากันแล้วเดินไปตามเสียงนั้น ไม่นาน ก็เห็นต้วนมู่ไป๋กำลังตามหาสะเปะสะปะทั่วป่า พลางตะโกนว่า “อาจารย์อาต้วนขอรับ พวกข้าเจอร่องรอยการต่อสู่ด้านหน้านั้น แล้วก็ยังมีรอยเลือดด้วย ท่านจะไปดูหรือไม่ขอรับ?”
เลือด?
ได้ยินประโยคนี้ หัวใจของต้วนมู่ไป๋ราวกับจมดิ่งลงไปก้นบ่อ หรือว่าศิษย์น้องจะ…
เขาฝีเท้าซวนเซ เดินตามพวกเขามายังจุดที่มีรอยเลือด เห็นร่องรอยรอบๆ และรอยเลือดที่อยู่บนพื้น เขาถามเสียงสั่น “คนเล่า? พบเจอคนหรือไม่?”
“ไม่เจอขอรับ ตอนที่พวกข้ามาก็เห็นร่องรอยการต่อสู้บริเวณนี้ แต่กลับไม่เห็นเงาคนเลยสักคน”
ศิษย์คนหนึ่งบอก มองหน้าซีดเผือดของต้วนมู่ไป๋ ก็ลังเลครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “อาจารย์อาต้วน เมื่อครู่ท่านตะโกนเรียกอาจารย์อาซั่งกวนหรือขอรับ? พวกข้าได้ยินว่านางออกไปเมื่อเช้าแล้ว ท่านวางใจ น่าจะไม่ใช่นางนะขอรับ”
ต้วนมู่ไป๋ยืนนิ่งราวกับไม่ได้ยินอะไร ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในสมอง ไม่ใช่นาง? จะไม่ใช่นางได้อย่างไร? นางออกจากสำนักวันนี้ ถึงท่านอาจารย์บอกว่าจะเก็บตัวฝึกพรุ่งนี้ แต่ ใครจะไปรู้…
ท่านอาจารย์…ใช่แล้ว ท่านอาจารย์!
ราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหมุนตัวแล้วรีบไหวตัวกลับไป
ในอีกด้าน เฟิ่งจิ่วขึ้นไปบนยอดเขาชั้นที่เก้าโดยใช้เส้นทางเดิม ซึ่งก็คือหลังเขา ซานหยางจื่อสร้างเขตอาคมและค่ายกลไว้หลายชั้น เพื่อไม่ให้คนอื่นขึ้นมาจากด้านหลัง บางทีอาจเพราะเขามั่นใจเกินไป จึงทำให้เธอขึ้นลงได้ตามใจ
และตอนที่เธอปีนขึ้นไปบนชั้นเก้าจากข้างหลัง ซานหยางจื่อเอาตัวซั่งกวนหวั่นหรงที่หมดสติอยู่ขังไว้ในห้องหลอมยาของเขา มองดูบาดแผลบนตัวและรอยข่วนที่ลึกจนเห็นกระดูกบนแขนตนเอง สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด
ใครกันแน่? ใครกันแน่ที่รู้ว่าเขาจะลงมือกับซั่งกวนหวั่นหรง?
ต้วนมู่ไป๋? ไม่มีทางเป็นเขา สัตว์ที่ผูกพันธะสัญญากับเขาเป็นเพียงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดตัวหนึ่งเท่านั้น แต่หากไม่ใช่เขา แล้วจะเป็นใครได้อีก?
สัตว์เทวะอสูรกลืนเมฆาเดิมก็เป็นสัตว์ที่ดุร้ายกระหายเลือดอยู่แล้ว แล้วเขาก็เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ แม้จะฝึกบำเพ็ญถึงระดับเซียนเหินแล้ว แต่ก็ฝึกบำเพ็ญกลิ่นอายพลังวิญญาณเป็นหลัก ทักษะการต่อสู้ไม่ได้สำคัญกับพวกเขาเท่าการหลอมยา หากต้องประมือกันซึ่งๆ หน้า เขาไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะสัตว์นักสู้ได้จริงๆ
………………………………….