เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1503 สัญญาณขอความช่วยเหลือ + ตอนที่ 1504 แตกตื่นทั่วสำนัก
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1503 สัญญาณขอความช่วยเหลือ + ตอนที่ 1504 แตกตื่นทั่วสำนัก
ตอนที่ 1503 สัญญาณขอความช่วยเหลือ + ตอนที่ 1504 แตกตื่นทั่วสำนัก
ตอนที่ 1503 สัญญาณขอความช่วยเหลือ
“บ้าที่สุด!” เขาตกตะลึง ใบหน้าซีดขาว
ถึงเขาจะไม่ใช่หมอ แต่ก็รู้ว่าหากเข็มเงินถูกแทงเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ทั้งเล่ม มันจะไหลไปตามกระแสเลือด หากไม่ขับออกมาให้เร็วที่สุด เกรงว่าจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้!
เขาที่คิดจะหนีออกไปข้างนอกยามนี้ไม่กล้าประมาท ยิ่งไม่กล้าเสี่ยงอันตราย หันกลับไปเห็นเด็กหนุ่มกำลังพยายามดึงโซ่เหล็กเพื่อช่วยซั่งกวนหวั่นหรง เขาจึงรีบเดินเลี้ยวไปนั่งขัดสมาธิลงที่อีกฝั่งหนึ่งของกำแพงถ้ำ หมุนเวียนลมปราณในร่างกายเพื่อพยายามขับเข็มที่อยู่ในร่างออก
ในขณะนั้นเอง เฟิ่งจิ่วเห็นท่านแม่ของเธอหายใจรวยรินจึงไม่ได้ไล่ตามเขาไป เธอกระตุกโซ่เหล็ก กลับค้นพบว่าโซ่เหล็กนี้ใช้มีดดาบทั่วไปฟันไม่ขาด จึงรีบเอากระบี่คมพยับออกมา ขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณในมือแล้วถ่ายเทใส่กระบี่คมพยับ จากนั้นก็ฟันโซ่เหล็กที่พันธการมือและเท้าของนางออก
“แกร๊ง!”
เสียงเหล็กแตกหักดังขึ้น โซ่เหล็กร่วงตกพื้น ท่านแม่ของเธอเสียหลักล้มลงไป เธอรีบเก็บกระบี่คมพยับแล้วประคองนางไว้ด้วยมือข้างเดียว
ตรวจชีพจรดู สีหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากป้อนยาให้นางกินหนึ่งเม็ด สายตากวาดมองหา เหลือบเห็นยาทิพย์ต้นหนึ่งหล่นอยู่ที่มุมกำแพง จึงรีบเดินเข้าไปเก็บมันใส่ห้วงมิติ แล้วประคองท่านแม่ของเธอออกไปข้างนอก
เมื่อมาถึงอีกฝั่งหนึ่งของกำแพง ซานหยางจื่อก็ไม่อยู่แล้ว ในตอนนี้เอง เสียงของอสูรกลืนเมฆาดังแว่วมาจากนอกน้ำ เธอรีบประคองท่านแม่ของเธอออกไปข้างนอก ครั้นเห็นอสูรกลืนเมฆากำลังประมือกับซานหยางจื่ออยู่ ก็ประคองท่านแม่ของเธอไปนั่งลงข้างต้นไม้ แล้วรวบรวมพลังบินเข้าไป
“ไอ้แก่! วันนี้ไม่มีใครช่วยเจ้าได้หรอก! ข้าจะเอาชีวิตเจ้าให้ได้!”
ไม่ฆ่าเขา ไฟแค้นในใจเธอคงไม่มีวันดับ! คนอย่างเขา ไม่สมควรมีชีวิตอยู่!
ได้ยินอย่างนั้น ซานหยางจื่อตกใจขาอ่อน ฝีมือของเด็กหนุ่มเขาเห็นมากับตา เขาไม่ได้คิดว่าเด็กหนุ่มกำลังพูดจาข่มขวัญเขาเลยแม้แต่น้อย เขา จะฆ่าเขาจริงๆ!
ในนาทีนี้ เขาไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น รีบหยิบสัญญาณขอความช่วยเหลือออกมาจากถุงฟ้าดิน ก่อนหน้านี้เพราะจิตใจสับสนวุ่นวายกระทั่งลืมไปว่าตนเองมีสัญญาณขอความช่วยเหลืออยู่
“บึ้ม!”
แสงสีเขียวพุ่งแหวกอากาศขึ้นไปบนฟ้า ระเบิดดังบึ้มกลางอากาศ แม้เสียงระเบิดนั้นจะไม่ดังมากนักในสำนักที่กำลังวุ่นวายไปทั่วทิศเพราะไฟไหม้ แต่มันกลับดึงดูดความสนใจของทุกคนได้
“ดูนั่น! นั่นมันสัญญาณขอความช่วยเหลือของสำนักเราไม่ใช่หรือ?”
“เหมือนจะเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากยอดเขาซานหยางนะ!”
“ถึงจะไฟไหม้ก็ไม่น่าจะใช้สัญญาณขอความช่วยเหลือนี่นา? นี่หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เจ้าโง่หรือเปล่า! ไม่เห็นหรือว่าเป็นสัญญาณสีเขียว? นั่นเป็นสัญญาณที่มีเฉพาะเจ้าเขา ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าเขาแห่งยอดเขาซานหยางแน่ๆ!”
ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนสีหน้าแตกต่างกันไป เพียงแต่พวกเขาเป็นศิษย์ของยอดเขาอื่น ในยอดเขาตนเองมีไฟไหม้ที่ยังดับไม่หมด ย่อมไปช่วยเขาไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่พูดอะไรอีก
เทียบกับการห่วงคนอื่น พวกเขาเลือกที่จะห่วงตนเองก่อน!
ทว่า เจ้าเขาคนอื่นๆ รวมถึงเหล่าผู้อาวุโสและเจ้าสำนัก เมื่อเห็นสัญญาณนั้นก็ฉุกคิดทันทีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสำนักคืนนี้กับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากซานหยางจื่อจะต้องมีความเกี่ยวข้องกันแน่
อยู่ดีๆ ยอดเขาแต่ละยอดเขาในสำนักก็เกิดไฟไหม้จนสถานการณ์โกลาหลวุ่นวาย เพราะยอดเขาซานหยางไม่ถูกไฟไหม้ เหล่าลูกศิษย์จึงพากันไปช่วยดับไฟที่ยอดเขาอื่น แต่ในตอนนี้ เจ้าเขาของยอดเขาซานหยางกลับส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ดูท่า คงจะมีคนใช้แผนส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิมและแผนล่อเสือออกจากภูเขาเป็นแน่!
ใครหน้าไหนกันแน่ที่กล้าก่อเรื่องเช่นนี้ในสำนักโอสถตะวัน? สำนักโอสถตะวันของพวกเขาเป็นสำนักใหญ่อันดับหนึ่งในแปดจักรวรรดิใหญ่ ยังไม่เคยมีใครกล้าทำเรื่องอย่างนี้ในสำนักของพวกเขา สถานการณ์ตรงหน้า ไม่ต่างอะไรกับการท้าทายซึ่งหน้า!
………………………………….
ตอนที่ 1504 แตกตื่นทั่วสำนัก
เจ้าสำนักพาคนขี่กระบี่บินมุ่งหน้าไปยังยอดเขาซานหยาง ในตอนนี้เอง หรวนจ่างชุนที่อยู่ในยอดเขาซานหยางสาวเท้าออกวิ่งไปยังยอดเขาชั้นเก้าแทบจะในทันที่เห็นสัญญาณขอความช่วยเหลือนั้น
ไม่ใช่เพราะเขาจะรีบไปช่วยท่านอาจารย์ แต่เพราะเขามีลางสังหรณ์ว่า จะต้องมีคนมาช่วยศิษย์น้องเล็กของเขาแน่ๆ!
เพียงแต่ คนคนนั้นเป็นใคนกัน? ช่างใจกล้านัก ถึงขั้นกล้าก่อเรื่องในสำนักขนาดใหญ่แห่งแปดจักรวรรดิใหญ่ ทำให้ไฟไหม้ไปทั่วสำนัก ส่งผลให้ทั่วทั้งสำนักตกสู่สถานการณ์วุ่นวายและหวาดกลัว ทำอะไรซี้ซั้วเกินไปแล้ว!
ถึงจะช่วยคนก็ไม่ควรทำเช่นนี้ เพราะเมื่อทำเช่นนี้ แม้คนผู้นั้นจะช่วยศิษย์น้องเล็กออกไปได้ ทางสำนักก็ไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ แน่ อีกอย่าง ยามนี้อาจารย์ของเขาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เดาว่าเจ้าสำนักกับคนอื่นๆ คงกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้แล้ว หากคนผู้นั้นช่วยศิษย์น้องเล็กของเขาออกมาได้แต่หนีไม่รอดเล่า เช่นนั้น…
ขณะเดียวกัน บนยอดเขาซานหยาง มองดูสัญญาณถูกยิงขึ้นฟ้า นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วมีประกายเย็นชา ลอบครุ่นคิดในใจ คนอื่นๆ ในสำนักจะต้องรีบมาที่นี่หลังจากเห็นสัญญาณขอความช่วยเหลือแน่ๆ แต่ก่อนหน้านั้น คนที่จะมาถึงก่อนเป็นอันดับแรกต้องเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนนั้นแน่
หากสองคนนั้นมา เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้หากเธอจะฆ่าซานหยางจื่อก่อนแล้วค่อยพาท่านแม่ของเธอหนีไป
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตะโกนสั่งเสียงดัง “กลืนเมฆา พาท่านแม่ของข้าหนีไปก่อน!”
“ขอรับ! นายท่านระวังตัวด้วย”
อสูรกลืนเมฆารับคำ โน้มตัวกระโดดครั้งเดียวก็มาถึงข้างกายซั่งกวนหวั่นหรง หมายจะแบกนางขึ้นหลังแล้วพาหนีไปทางหลังเขา มีเพียงทำอย่างนี้นายท่านจึงจะวางใจและต่อสู้เต็มกำลังได้ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ทว่า ในตอนนี้เอง ซั่งกวนหวั่นหรงที่เดิมทีหมดสติอยู่กลับฟื้นขึ้นมาเพราะกินยาที่เฟิ่งจิ่วป้อนให้ นางได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่วรางๆ
“ไม่ จะไปก็ไปด้วยกัน” นางพยายามจะลุกขึ้น แต่สองขากลับอ่อนแรงล้มลงไปอีกครั้ง โชคดีที่อสูรกลืนเมฆาก้มหมอบบนพื้นเพื่อรองรับร่างนางไว้
“ท่านแม่ ท่านไปก่อน ท่านไปแล้วข้าถึงจะไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง!” เฟิ่งจิ่วหันมาบอก น้ำเสียงแข็งกร้าวเล็กน้อย “ท่านไปแล้วข้าถึงจะมีโอกาสรอดออกไปจากที่นี่ได้ รีบไปเสีย! หนีไปกับอสูรกลืนเมฆา!”
“แต่ว่า…”
จะให้นางที่เป็นมารดาหนีไปก่อน แล้วปล่อยให้ลูกสาวเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่อันตรายอย่างนี้ นางไม่วางใจ
“วางใจเถิดขอรับ! นายท่านไม่เป็นไรแน่นอน ข้าจะส่งท่านออกไปก่อน บางทีอาจยังกลับมารับนายท่านได้อีก” อสูรกลืนเมฆาบอก แล้วดึงนางขึ้นมาหมอบลงบนแผ่นหลังตนเอง “ท่านจับขนบนหลังของข้าไว้ จะได้ไม่ตกลงมา”
ได้ยินลูกสาวและอสูรกลืนเมฆาพูดอย่างนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงเองก็รู้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าตนเองไม่อาจช่วยอะไรได้ กระทั่งอาจกลายเป็นตัวถ่วงของเธอด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ นางทำได้เพียงทิ้งตัวลงบนแผ่นหลังของอสูรกลืนเมฆา ดึงขนของมันไว้ แล้วหันไปบอกกับเฟิ่งจิ่วว่า “เจ้าต้องมีชีวิตรอดนะ แม่จะรอเจ้ากลับบ้าน”
“ข้าจะกลับไปหาท่านแน่นอน” เฟิ่งจิ่วพยักพเยิดให้อสูรกลืนเมฆา ไม่นานก็เห็นอสูรกลืนเมฆาแบกซั่งกวนหวั่นหรงหนีไปทางหลังเขา
เห็นซั่งกวนหวั่นหรงถูกอสูรกลืนเมฆาพาหนีไป ซานหยางจื่อหน้าเปลี่ยนสีรีบวิ่งตามไป “จะ เจ้าอย่าหนีนะ! หวั่นหรง! กลับมา! กลับมาเดี๋ยวนี้!”
นั่นเป็นตัวนำยาต่อชีวิตของเขาเชียวนะ! นั่นคือเตาหลอมมนุษย์ที่เขาตามหามาเนิ่นนานเชียวนะ! ทำไมถึงหนีไปแล้วเล่า? ไม่มีนาง เขาจะหลอมยาต่ออายุขัยได้อย่างไร? ไม่มีนาง เขาจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร?
“อย่าหนีนะ! กลับมาเดี๋ยว…”
“ชิ้ง!”
พลังกระบี่รุนแรงแหวกอากาศตวัดผ่านต่อหน้าซานหยางจื่อ แรงสะเทือนของกระแสอากาศจากพลังกระบี่ทำให้เขาพรั่นพรึง ล้มนั่งลงบนพื้น
“ท่านเจ้าเขา!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนตะโกนเรียก รีบเหาะเข้ามาจากที่ไม่ไกล
………………………………….