เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1507 เป็นเรื่องจริง + ตอนที่ 1508 นั่นเฟิ่งจิ่วหรือ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1507 เป็นเรื่องจริง + ตอนที่ 1508 นั่นเฟิ่งจิ่วหรือ
ตอนที่ 1507 เป็นเรื่องจริง + ตอนที่ 1508 นั่นเฟิ่งจิ่วหรือ?
ตอนที่ 1507 เป็นเรื่องจริง
หรวนจ่างชุนผู้นี้การกระทำเข้าใจยากยิ่งนัก ตั้งแต่เมื่อครู่เธอก็สังเกตเห็นเขาอยู่ตรงนั้นแล้ว แต่เขากลับแอบดูเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ไม่คิดจะยื่นมือเข้ามายุ่ง หรือเขาอยากปล่อยท่านแม่ของเธอไป?
นึกถึงว่าเขาแอบสังเกตการณ์พวกเขา กอปรกับพฤติกรรมเมื่อตอนกลางวัน กลับใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดถึงวิธีมากมาย วิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดก็คือพาท่านแม่เข้าไปซ่อนตัวในห้วงมิติ แต่อาการบาดเจ็บของนางเหนือความคาดหมายของเธอ ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็ไม่มั่นใจด้วยว่านางจะหนีไปจากสำนักโอสถตะวันได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ย่อมไม่อาจเอาความปลอดภัยของท่านแม่มาฝากไว้กับเธออยู่แล้ว
คำนวณเวลาดูแล้ว ถ้าหากพวกเหลิ่งซวงมาถึงและรอรับช่วงอยู่ต่อข้างนอกแล้ว เช่นนั้นพวกนางก็น่าจะเจอท่านแม่ของเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของนางมากนัก
ส่วนคนอื่นๆ ในสำนักโอสถตะวัน หากเป็นไปได้เธอก็ไม่อยากทำร้ายพวกเขา ถึงอย่างไรคนที่เธออยากฆ่าก็มีแค่ซานหยางจื่อคนเดียวเท่านั้น เธอไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกเขา แต่หากพวกเขาไม่ปล่อยเธอไป เช่นนั้นเธอก็จำเป็นต้องลงมือเท่านั้น
“ผู้ใดกัน! กล้าทำตัวสามหาวในสำนักโอสถตะวัน!”
เสียงทุ้มต่ำแฝงกลิ่นอายพลังวิญญาณดังขึ้น เฟิ่งจิ่วเงยหน้ามอง เห็นเพียงเงาร่างหลายร่างขี่กระบี่บินเข้ามา เห็นอย่างนั้น เธอตวัดมองไปที่หรวนจ่างชุดแวบหนึ่ง จากนั้นก็เหาะหนีไปทางหลังเขาซึ่งอยู่ทิศตรงข้าม
ผู้ฝึกตนหลายคนที่บินตามหลังเจ้าสำนักมาไหวร่างไล่ตามไปทันที
หรวนจ่างชุนสัมผัสได้ถึงสายตาที่เด็กหนุ่มมองมาก่อนจากไป เขาลุกขึ้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว หันไปมองเจ้าสำนักและเหล่าผู้อาวุโสและผู้แข็งแกร่งหลายคนด้านหลังพวกเขา อดรู้สึกหัวใจหนักอึ้งไม่ได้
นอกจากผู้แข็งแกร่งสองสามคนที่ไล่ตามเด็กหนุ่มคนนั้นไป ยังมีผู้แข็งแกร่งที่คอยคุ้มกันอยู่ข้างกายเจ้าสำนักและคนอื่นอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ เกรงว่าเด็กหนุ่มคงจะหนีไม่รอดแล้วจริงๆ
“ท่านเจ้าสำนัก! ศิษย์ชั้นล่างที่ชื่อเฟิ่งจิ่วคนนั้นฆ่าท่านเจ้าเขาซานหยางจื่อขอรับ!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณที่บาดเจ็บหนักเห็นพวกเขามา ก็รีบเข้าไปรายงานทันที “ข้ารู้จักเขาขอรับ เดิมเขาเป็นศิษย์ชั้นล่างของยอดเขาซานหยางแห่งนี้ นึกไม่ถึงกลับเป็นยอดฝีมือซ่อนตัวตน ถึงขั้นสังหารท่านเจ้าเขาซานหยางจื่อ!”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้มาสิบกว่าคนพลันหน้าเปลี่ยนสี ตวัดสายตามองไปยังศพของซานหยางจื่อที่นอนอยู่บนพื้น ครั้นเห็นก็ตะลึงพรึงเพริด
“นะ นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? เขาเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินเชียวนะ!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ เดินเข้าไปตรวจสอบ พบว่าซานหยางจื่อสิ้นลมแล้วจริงๆ ถึงยอมเชื่อ เขาตายแล้วจริงๆ
คนอื่นๆ เมื่อเห็นภาพนั้น คลื่นพายุซัดสาดในใจ ยิ่งให้ความสนใจคนที่สังหารซานหยางจื่อมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เจ้าสำนักมองผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้น แล้วถามว่า “เจ้าบอกว่าคนที่ฆ่าเจ้าเขาซานหยางจื่อคือเฟิ่งจิ่วที่เคยเป็นศิษย์ชั้นล่างของยอดเขาซานหยาง? ศิษย์ชั้นล่างคนหนึ่ง จะฆ่าเขาได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่ก็เห็นแล้วว่าพลังของคนผู้นั้นเป็นถึงระดับกำเนิดวิญญาณ จะเป็นศิษย์ชั้นล่างได้อย่างไรกัน?”
ครั้นเห็นว่ามีผู้ฝึกตนไล่ตามไปแล้ว ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นพูดอย่างหนักแน่นว่า “เป็นเรื่องจริงขอรับ เขาเป็นศิษย์ชั้นล่างจริงๆ ก่อนหน้านี้เขารับหน้าที่ส่งยาทิพย์บนยอดเขาชั้นแปด ยังเคยขึ้นมาบนยอดเขาชั้นเก้าครั้งหนึ่งด้วย แต่ถูกพวกข้ากันไว้นอกประตู พวกข้าเองก็รู้มาจากปากคนอื่น เด็กหนุ่มคนนี้เป็นศิษย์ชั้นล่างที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน ชื่อเฟิ่งจิ่ว เป็นที่ชื่นชอบของคนบนยอดเขาซานหยางมากขอรับ”
“เขาพูดจริงหรือ?” สายตาของเจ้าสำนักหันไปจ้องหรวนจ่างชุนที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
เห็นเช่นนั้น หรวนจ่างชุนก้าวเข้ามา คารวะก่อนแล้วจึงตอบว่า “เป็นเรื่องจริงขอรับ เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นศิษย์ชั้นล่างที่ทำงานเป็นเด็กส่งของขอรับ”
………………………………….
ตอนที่ 1508 นั่นเฟิ่งจิ่วหรือ?
“มีคนอันตรายเช่นนี้แฝงตัวเข้ามาในสำนักกลับไม่มีใครรู้? ยอดเขาซานหยางของพวกเจ้ามัวทำอะไรกันอยู่? ถึงปล่อยให้ซานหยางจื่อตายด้วยน้ำมือของเด็กนั่น”
เจ้าสำนักตะคอกด้วยความโมโห ขมวดคิ้วแน่น แล้วถามด้วยความสงสัย “แต่คนคนนี้เหตุใดจึงฆ่าซานหยางจื่อ? พวกเขามีบุญคุณความแค้นอะไรต่อกัน? ในเมื่อแฝงตัวเข้ามานานแล้ว เหตุใดจึงเพิ่งลงมือคืนนี้? มิหนำซ้ำยังทำให้ไฟไหม้ไปทั่วสำนักเช่นนี้อีก?”
“คือว่า…คือว่าเรื่องนี้ข้าก็ไม่ทราบเหมือนกันขอรับ” หรวนจ่างชุนเก็บซ่อนสายตาแล้วส่ายหน้า
“ได้ยินว่าซานหยางจื่อตั้งใจจะเก็บตัวหลอมยา อีกอย่างเป็นยาที่ไม่ธรรมดา เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมลูบหนวด สายตาทอดมองไปยังทิศทางที่เด็กหนุ่มหนีไปรวมถึงผู้ฝึกตนพวกนั้นที่ไล่ตามไปด้วย
“ถึงอย่างไรเรื่องที่เขาวางเพลิงในสำนักโอสถตะวัน และฆ่าซานหยางจื่อก็เป็นเรื่องจริง จับตัวเขาให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” เจ้าสำนักสั่ง หลังกำชับสองสามประโยคให้หรวนจ่างชุนนำศพของซานหยางจื่อไปฝัง ก็หมุนตัวจากไป ตั้งใจจะเรียกรวมคนในสำนัก เพื่อจับเป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อเฟิ่งจิ่ว
หรวนจ่างชุนรับคำ เมื่อเห็นเขาจากไป ก็ให้ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเฝ้าศพไว้ ส่วนตนเองก็เข้าไปตรวจสอบในถ้ำ พอก้าวเท้าเข้าไปข้างใน กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นที่ลอยออกมาทำให้เขาตกใจ ครั้นก้าวเดินเข้าไปข้างในอีก มาถึงห้องหลอมยา จุดที่โซ่เหล็กถูกฟันขาด มีรอยเลือดกระดำกระด่าง ดูน่าสยดสยอง…
เมื่อเห็นสภาพในถ้ำ แล้วนึกถึงสภาพบาดเจ็บหายใจรวยรินของศิษย์น้องเล็ก เขาจึงเข้าใจว่าเหตุใดเด็กหนุ่มคนนั้นถึงต้องฆ่าท่านอาจารย์ให้ได้
ในอีกด้าน เฟิ่งจิ่วกำลังมุ่งหน้าหนีไปทางประตูสำนัก ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนรวมถึงผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสองคนที่อยู่ข้างหลังไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ ระหว่างไล่ตามมา เธอถูกพลังกระบี่ของพวกเขาจู่โจม กลายเป็นรอยข่วนหลายเส้น
ก็จริง ประมือกับซานหยางจื่อที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินก็เรื่องหนึ่ง ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้ฝึกฝนพลังต่อสู้เป็นหลัก แต่ต่อกรกับเหล่าผู้แข็งแกร่งที่คอยปกป้องเหล่าผู้อาวุโสและเจ้าสำนักพวกนั้น กลับไม่ได้ง่ายดายถึงขนาดนั้นแล้ว
หากไม่ใช่ว่าอาศัยท่าร่างอันแปลกประหลาด รวมถึงกระบี่คมพยับในมือด้วย บางทีเธออาจตกอยู่ในกำมือของคนพวกนี้แล้วก็ได้ ตอนที่ประตูสำนักอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสามร้อยเมตร เธอถูกคนสี่คนล้อมไว้กลางอากาศ
“เป็นกระบี่คมพยับตามคาด! เจ้าเป็นใครกันแน่!” ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินคนหนึ่งจ้องกระบี่คมพยับในมือเฟิ่งจิ่วตาเป็นประกาย แววตาตื่นตะลึง
กระบี่คมพยับในตำนานหายสาบสูญไปนานหลายปีแล้ว ยามนี้ปรากฏตัวอีกครั้ง กลับไม่นึกว่าจะมาอยู่ในมือเด็กหนุ่ม? เด็กหนุ่มคนนี้ เป็นใครกันแน่?
อีกสามคนที่เหลือเองก็ตื่นตะลึงไม่ต่างกัน นั่นคือกระบี่คมพยับ! ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะมีบุญได้เห็นกระบี่คมพยับในตำนานด้วยตาตนเอง นี่เป็นถึงกระบี่เทวะในตำนานที่ทำให้เกิดสงครามแย่งชิงนองเลือดในไม่กี่สิบปีก่อนเชียวนะ!
เหล่าลูกศิษย์บางคนที่สังเกตเห็นคนพวกนั้นประจันหน้ากันอยู่กลางอากาศ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กัน และบนเขาชั้นที่เจ็ดของยอดเขาซานหยาง ยามนี้ลั่วเหิงและเฉินเต้ากลับตกตะลึงยิ่งกว่า
พวกเขาจ้องเงาร่างสีเขียวที่ถูกผู้แข็งแกร่งสี่คนล้อมไว้จากที่ไกลๆ แม้ระยะทางจะไกลมาก แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ไฟไหม้ทั่วสำนัก ภายใต้แสงสว่างจากเปลวไฟ เงาร่างและใบหน้าของคนผู้นั้น ยังคงสะท้อนชัดในสายตาของพวกเขา…
“นะ นั่นเฟิ่งจิ่วหรือ? ขะ เขาไปทำอะไรไว้กันแน่?” ลั่วเหิงพึมพำถามคนข้างกาย ขณะจ้องเฟิ่งจิ่วที่อยู่ไกลๆ ด้วยแววตาตกตะลึง
ส่วนเฉินเต้าที่ยืนอยู่ข้างกายเขากลับเม้มปาก แววตาลึกล้ำ…
………………………………….