เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1575 หาข้าหรือ + ตอนที่ 1576 บาดเจ็บเสียหายหนัก
ตอนที่ 1575 หาข้าหรือ + ตอนที่ 1576 บาดเจ็บเสียหายหนัก
ตอนที่ 1575 หาข้าหรือ
ได้ยินอย่างนั้น เจ้าเมืองต้วนกับผู้นำตระกูลเมิ่งมองหน้ากัน หัวใจสะดุด คนพวกนี้ใส่ชุดสีดำเหมือนกัน ดูไม่ออกว่าเป็นนักฆ่าของกลุ่มอำนาจใด แต่พลังนี้ อีกทั้งยังมีกันหลายสิบคน กลับทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างช่วยไม่ได้
ทว่า หากถอยหนีในเวลานี้ กลับดูเหมือนไม่ค่อยมีคุณธรรม โดยเฉพาะเจ้าเมืองต้วน เฟิ่งจิ่วเพิ่งรักษาโรคให้ท่านพ่อของเขา หากทอดทิ้งไม่ดูแลจนเขาถูกฆ่า เกรงว่าจะกลายเป็นที่ครหา
หลังจากชั่งน้ำหนักใจครู่หนึ่ง เจ้าเมืองต้วนตะโกนเสียงดัง “พวกเจ้ารีบถอยไปเสียดีกว่า ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
“ฮ่าๆๆๆ! ดี! ข้ากลับอยากรู้ว่าพวกเจ้าจะมีปัญญาอะไรปกป้องเขา!” ชายที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง เขายกมือขึ้น ส่งสัญญาณมือ พลันเห็นชายชุดดำหลายสิบคนต่างกรูกันเข้ามา พุ่งโจมตีไปยังรถม้าคันนั้น
“สังหาร!”
“สังหารๆๆ!”
เสียงตะโกนเหี้ยมเกรียมแฝงแววสังหารอันท่วมท้นดังออกจากปากชายชุดดำพวกนั้น พวกเขาไม่เก็บงำกลิ่นอายบนตัวอีก ไอสังหารและกลิ่นอายกระหายเลือดจากชายชุดดำพวกนั้นยิ่งน่าพรั่นพรึง ผู้คนรอบข้างราวกับต้องมนต์สะกด ไม่มีใครกล้าหายใจเสียงดัง แต่ละคนพากันถอยหนีอย่างรวดเร็ว
เผชิญหน้ากับกองกำลังเช่นนี้ กวนสีหลิ่นตวัดดาบปะทะกับศัตรูอย่างใจเย็นไม่ต่างจากตอนแรก สายตาของเขากวาดผ่านผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณพวกนั้นก่อนจะหยุดจ้องที่เหล่าผู้ฝึกตนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด แววตาไหวระริก ลึกๆ ข้างในรู้ดี หากอยากให้ศัตรูล่าถอย ก็ต้องสังหารพวกผู้นำก่อน
ด้วยเหตุนั้น ตอนที่เห็นคนพวกนั้นพุ่งเข้ามา คมดาบของเขาก็เล็งไปยังผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนหนึ่งในนั้น ส่วนน้องสาวของเขา เขาเชื่อว่าคนพวกนี้ทำร้ายเธอไม่ได้อยู่แล้ว
“ฟู่ว! ชิ้ง!”
เงาร่างโฉบไหว พลังดาบอันดุดันดังขึ้น กวนสีหลิ่นฝ่าเข้าไปกลางวงกลุ่มคนชุดดำเพียงลำพัง ตวัดดาบสังหาร ทุกดาบที่ฟาดฟันออกไป ล้วนแฝงไว้ด้วยกระแสอากาศอันรุนแรงและดุดัน
“แกร๊ง! แกร๊ก!”
เสียงดาบและกระบี่ปะทะกันเสียงดัง กระบี่ยาวของชายชุดดำพวกนั้นหลังจากเสียงดังแกร๊ก กระบี่ยาวในมือพลันแตกหัก พวกเขาที่สูญเสียอาวุธไปยิ่งต้านทานกวนสีหลิ่นที่มีพลังแข็งแกร่งดุดันดุจพยัคฆ์ร้ายได้ยากยิ่งขึ้น
เห็นเพียงศพบนพื้นเพิ่มขึ้นทีละศพ กลิ่นเลือดเข้มข้นกระจายไปทั่วบริเวณ ตลบอบอวลไปทั่วอากาศ แขนขาที่ขาดกระจายเต็มพื้นชวนให้อกสั่นขวัญหาย เป็นอีกครั้งที่ต้องตกตะลึงกับพลังต่อสู้ของกวนสีหลิ่น
เจ้าเมืองต้วนกับผู้นำตระกูลเมิ่งเห็นเช่นนี้ก็เริ่มมีขวัญกำลังใจ กอปรกับคนในตระกูลของพวกเขาเข้ามาร่วมด้วย สถานการณ์พลิกกลับมาอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เอง เฟิ่งจิ่วที่อยู่ในรถม้าเห็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองในสี่คนเตรียมจะลอบโจมตีกวนสีหลิ่นจากข้างหลัง ฝ่ามือพลิกหมุน เข็มเงินสองเล่มพุ่งออกจากมือเธอพร้อมกับกลิ่นอายพลังวิญญาณ
ฟุ่บๆ!
ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนนั้นที่ตั้งใจจะลอบโจมตีกวนสีหลิ่นได้ยินเสียงเบาๆ จากข้างหลัง ก็หันกลับไปมอง พร้อมยกแขนเสื้อขึ้นสะบัดปัดป้องเข็มเงินสองเล่มนั้นไว้ได้ ขณะเดียวกัน สายตาดุดันกวาดมองผ่านกลุ่มคน จับจ้องไปยังเด็กหนุ่มชุดแดงที่อยู่ในรถม้า
คราวนี้ ทั้งสองพร้อมใจกันพุ่งเข้าไปโจมตี ไม่สนใจคนอื่นอีก เพียงพุ่งโจมตีไปยังเด็กหนุ่มชุดแดงคนนั้น ฝ่ามือลมพุ่งออกไป สับรถม้าคันนั้นให้แยกออกเป็นสองส่วน
“ปัง! บึ้ม!”
เศษชิ้นส่วนรถม้ากระจายเต็มพื้น เจ้าเมืองต้วนและผู้นำตระกูลเมิ่งที่ได้ยินเสียงพลันหัวใจบีบรัด ขณะหันกลับไปมอง ก็เห็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนยืนอยู่ตรงหน้าเศษซากรถม้า เฟิ่งจิ่วที่เดิมทีนั่งอยู่ในรถม้ากลับไม่รู้หายไปไหนแล้ว
นึกไม่ถึงในตอนนี้เอง เสียงเกียจคร้านอันคุ้นเคยแฝงแววเย็นชาเล็กน้อยกลับดังเข้ามาในโสตประสาทของพวกเขา ทำให้พวกเขาสองคนสะดุ้งตกใจ พยายามมองหาต้นตอของเสียง…
………………………………….
ตอนที่ 1576 บาดเจ็บเสียหายหนัก
“หาข้าหรือ? อยู่นี่อย่างไรเล่า”
ยามเสียงนั้นดังเข้ามาในโสตประสาทของพวกเขา สามในสี่คนนั้นรีบหันไปมอง เพียงแต่เมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วที่มายืนอยู่ข้างกายของพวกเขาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ อีกทั้งมือยังขย้ำคอของผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนหนึ่งในกลุ่ม และเมื่อเห็นพวกเขาหันมามอง มือที่ขย้ำคอของผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนนั้นพลันพลิกหมุน
“”กร๊อบ!”
เสียงกร๊อบดังขึ้น ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินที่ถูกขย้ำลำคอจนไม่อาจเปล่งเสียง ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว ร่างกายเหยียดตรงล้มลงไป และในจุดตันเถียนของเขา กริชคมเล่มหนึ่งแทงทะลุร่างเขาจากข้างหลัง ตัดลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเขา
กระทั่งตายไปแล้ว ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนนั้นก็ยังไม่ส่งเสียงสักนิด ไม่มีแม้แต่โอกาสตอบโต้
อีกสามคนที่เห็นภาพนั้นต่างตกตะลึงพรึงเพริด ในใจมีคลื่นพายุก่อตัว ยิ่งเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ที่ทำให้หัวใจของพวกเขาสะท้านสะเทือน แต่ไม่รอให้พวกเขาตั้งสติ พวกเขารู้สึกเพียงไอสังหารปะทะเข้ามาซึ่งหน้า กลิ่นอายความตายที่เย็นเยียบเสียดแทงกระดูกแผ่ปกคลุมพวกเขา กระทั่งความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง พวกเขาถึงเพิ่งตอบสนองตามสัญชาตญาณ
เพียงแต่ เวลานี้ลำคอของพวกเขามีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว ลูบคลำเลือดที่ซึมออกมาจากลำคอ ไม่ต้องสงสัยเลย หากพวกเขาสามคอยถอยช้ากว่านี้อีกนิด คงถูกปาดคอไปแล้วกระมัง
“จะตามหาข้าไม่ใช่หรือ? ข้าก็อยู่นี่แล้ว”
กริชในมือเฟิ่งจิ่วพลิกหมุน นัยน์ตาใสจับจ้องพวกเขา “พวกเจ้าควรรีบหนีไปเสียก่อนที่จะถูกข้าฆ่า ไม่เช่นนั้น ตกอยู่ในเงื้อมมือข้าเมื่อใด ข้ามีสารพัดวิธีที่จะทำให้พวกเจ้าเหมือนตายทั้งเป็น!”
สิ้นเสียง เธอฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาเผลอ เงาร่างสีแดงโน้มตัวไปข้างหน้าพุ่งโฉบเข้าไปทางพวกเขา ในตอนนี้เอง สามคนที่เริ่มตั้งสติได้กัดฟันกรอด ตะโกนเสียงดัง “สังหารนางเสีย!”
แรงกดดันของผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินพวยพุ่งในพริบตา กระแสอากาศที่ถูกปลดปล่อยจากตัวของพวกเขาสามคนกลายเป็นหลุมอากาศวน ห้อมล้อมเฟิ่งจิ่วไว้ตรงกลาง กระแสอากาศขุมนั้นม้วนเอาก้อนหินดินทรายบนพื้นขึ้นมา ปิดกั้นเธอออกจากคนอื่น
ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสามคนฝ่าเข้าไปในหลุมอากาศที่หมุนวนเพื่อสังหารเฟิ่งจิ่ว ไอสังหารที่พุ่งทะยานท้องฟ้ากระจายไปทั่วด้านในวังวนหลุมอากาศนั้น คนข้างนอกมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวข้างในเลยแม้แต่น้อย ได้ยินเพียงเสียงดาบและกระบี่ปะทะกันที่ดังออกมาจากข้างในเป็นระยะ
หลังเสียงกรีดร้องดังขึ้นหลายครั้ง ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนถูกดีดออกมาจากหลุมอากาศที่หมุนวน ร่างกระแทกพื้นอย่างแรง ขณะเดียวกันกระแสอากาศที่ก่อให้เกิดหลุมอากาศหมุนวนก็ได้จางหายไป ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนสุดท้ายกุมบาดแผลทิ้งตัวลงบนพื้น พลางถอยหนี
เฟิ่งจิ่วเองก็มีบาดแผลบนตัวหลายรอย เพียงแต่เลือดซึมชุดสีแดง จึงมองไม่ค่อยออก
เวลานี้ กวนสีหลิ่นที่จัดการผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณได้หลายคนแล้วสาวเท้าเดินก้าวใหญ่มายืนข้างกายเฟิ่งจิ่ว เห็นบนตัวเธอมีบาดแผลหลายรอย สายตาพลันเย็นชา ไอสังหารทั่วกายพวยพุ่งตวัดดาบเล่มใหญ่ฟาดฟันไปยังผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนที่ล้มอยู่บนพื้นยังไม่ทันลุกขึ้น
ดาบเล่มใหญ่แฝงไอสังหารฟาดฟันลงมา สับเอวของสองคนนั้นจนขาดเป็นสองท่อน เสียงกรีดร้องโหยหวนแฝงแววเคียดแค้นสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน ผสมกับเสียงสูดหายใจของคนรอบข้าง
เลือดสดๆ ย้อมพื้นดินจนแดงทั้งแถบ การสังหารอันเหี้ยมโหดชวนให้ผู้คนขวัญผวา ต่างผงะถอยหลังไปหลายก้าว ไม่กล้าก้าวเข้าใกล้
ครั้นเห็นภาพนั้น ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนสุดท้ายที่โชคดีรอดชีวิตมาได้กัดฟันกรอด เขาตะโกนเสียงดัง “ไป!” แม้จะเจ็บใจ แต่ตอนนี้ก็ไม่อาจรั้งอยู่ต่อ ไม่เช่นนั้น ก็มีแต่จะพ่ายแพ้ราบคาบเท่านั้น!
สมควรตายจริงๆ! หากรู้ว่าเฟิ่งจิ่วผู้นี้รับมือยากถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่มีทางรับภารกิจลอบสังหารนี้แน่นอน!!
………………………………….
————————————–