เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1631 เจ้ารู้ได้อย่างไร ตอนที่ 1632 กระบี่เก้ามังกรหงส์ไฟ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1631 เจ้ารู้ได้อย่างไร ตอนที่ 1632 กระบี่เก้ามังกรหงส์ไฟ
ตอนที่ 1631 เจ้ารู้ได้อย่างไร / ตอนที่ 1632 กระบี่เก้ามังกรหงส์ไฟ
ตอนที่ 1631 เจ้ารู้ได้อย่างไร
“นายท่านมักปั้นหน้านิ่ง ดูไม่ค่อยออก ภูตหมอไปถึงก็รู้เองขอรับ” ฮุยหลางยิ้มบอก พลางคิดในใจ ถึงรู้ว่านายท่านอารมณ์ไม่ดีเพราะถูกเมิน แต่เขาก็ไม่อาจเปิดโปงนายท่านอยู่แล้ว!
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว หยักยิ้มมุมปากแล้วเดินไปข้างหน้า กระทั่งมาถึงสนามฝึก เห็นเซวียนโม่เจ๋อในชุดสีดำดูทรงพลังน่าเกรงขามกำลังฝึกกระบี่อยู่ตรงนั้น
นัยน์ตาของเธอไหวระริก ไม่นาน ปลายเท้าเขย่งแตะพื้น ดึงกระบี่คมพยับออกมาขณะอยู่กลางอากาศแล้วพุ่งแทงไปที่เขา
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเหลือบเห็นเธอเหาะเข้ามาทางหางตา จึงตวัดกระบี่ในมือเพื่อต้านรับ ได้ยินเพียงเสียงกระแสอากาศขุมหนึ่งตวัดผ่าน พลังกระบี่อันรุนแรงซัดสาดใส่เฟิ่งจิ่ว
“เกร๊ง!”
กระบี่สองเล่มปะทะกันเสียงดัง สะเก็ดไฟกระจาย กระแสอากาศสองขุมผสานรวมกัน ก่อนจะหายไปในพริบตา
มองดูกระบี่ในมือเซวียนหยวนโม่เจ๋อ เฟิ่งจิ่วดวงตาเป็นประกาย นั่นกระบี่เซวียนหยวนนี่!
นี่เป็นกระบี่ของเขา และยังเป็นกระบี่เทวะโบราณด้วย กระบี่เทวะโบราณที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากระบี่คมพยับ!
ชั่วขณะหนึ่ง เกิดความคิดที่อยากประลองฝีมือกับเขาสักครั้ง อยากรู้ว่ากระบี่สองเล่มนี้หากปะทะกันจะเป็นเช่นไร? ด้วยเหตุนี้ กระบี่ในมือพลิกหมุน ก่อนจะโน้มตัวเหาะขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเห็นอย่างนั้น นัยน์ตาสีดำไหวระริก รีบถอยหนี คมกระบี่พลิกหมุนท่ากระบี่พลันเปลี่ยน เขาใช้กระบี่ในมือหุ้มล้อมรอบกระบี่ พานางเคลื่อนไหว และตวัดท่ากระบี่ไปพร้อมกัน
เฟิ่งจิ่วตะลึง ไม่โจมตีแต่เคลื่อนไหวไปพร้อมกับเขา กระบี่ของเขาไปที่ใด ตวัดอย่างไร เธอก็ตามไป และเรียนรู้ไปด้วย หลังผ่านไปหนึ่งกระบวนท่า เธอค้นพบด้วยความประหลาดใจ ท่ากระบี่วิชานี้ใช้กระบี่ได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ กระบี่คมส่องประกายรัศมีเย็นเยียบ ยามทั้งสองตวัดกระบี่ยิ่งเปี่ยมไปด้วยพลัง แสดงให้เห็นพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า
ฮุยหลางกับอิ่งอียืนมองอยู่นอกสนามฝึก เห็นเงาร่างแดงหนึ่งดำหนึ่งในสนาม ชายหนุ่มทรงอำนาจหญิงสาวงามสะคราญ ชุดสีดำที่ดูลึกลับมั่นคงกับชุดสีแดงอันโดดเด่นผสานเป็นหนึ่ง เปลี่ยนท่าไปมาไม่หยุด ช่างดูงดงามสะดุดตาจนไม่อาจละสายตาออกไปจากทั้งสองได้
“นายท่านกับภูตหมอเหมาะสมกันเหลือเกิน เจ้าว่าบนโลกนี้จะมีคนอย่างภูตหมออยู่อีกหรือไม่? แต่ก่อนตอนยังไม่เจอภูตหมอ ข้างกายนายท่านไม่มีผู้หญิงสักคน ข้ายังกังวลว่าเขาจะชอบพอเพศเดียวกัน แต่โชคดีที่มีผู้หญิงอย่างภูตหมอปรากฏตัวขึ้นมา”
ฮุยหลางยิ้มๆ ทั้งรู้สึกทอดถอนใจและปลาบปลื้มในเวลาเดียวกัน แม้พวกเขาจะเป็นนายบ่าวกัน แต่กลับไม่ใช่นายบ่าวทั่วไป เห็นนายท่านได้พบคนในดวงใจ เขามีความสุขมากจริงๆ
อิ่งอีที่อยู่ข้างๆ เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้ากำลังทอดถอนใจที่ตนเองยังไม่พบหญิงสาวที่เหมาะสมงั้นหรือ? ข้าจำได้ว่าเจ้าเองก็ไร้คนเคียงคู่มายี่สิบกว่าปีแล้ว เหตุใดจึงไม่กังวลว่าตนเองจะเป็นพวกชอบพอเพศเดียวกันบ้างเล่า?”
ได้ยินอย่างนั้น สายตาของฮุยหลางมีแววไม่ประสงค์ดีพาดผ่าน เขามองอิ่งอีแวบหนึ่ง พลันเผยรอยยิ้มเขินอายระคนกระดาก เอื้อมมือคล้องแขนเขา ก่อนยิ้มถามว่า “อิ่งอี เจ้ารู้ได้เช่นไรกัน? เจ้าเองก็รู้สึกได้ใช่หรือไม่?”
ระหว่างพูด มือข้างหนึ่งลูบไล้แขนของอิ่งอีไม่หยุด อิ่งอีสะดุ้งโหยง รีบปัดเขาออก แล้วจ้องเขาอย่างหวาดระแวง
“จะพูดก็พูด เป็นชายชาตรีเหตุใดมือไม้จึงอยู่ไม่สุข?”
ฮุยหลางยิ้มกว้าง จ้องเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย “อิ่งอี พวกเราเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก เรียกได้ว่าเป็นคู่รักตั้งแต่วัยเด็กได้แล้ว…”
………………………………….
ตอนที่ 1632 กระบี่เก้ามังกรหงส์ไฟ
“หุบปาก!”
อิ่งอีรีบตัดบทเขา จ้องเขาเขม็งอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก “ใครเป็นคู่รักวัยเด็กกับเจ้ากัน? หยุดพูดจาส่งเดชได้แล้ว”
“หรือไม่จริงเล่า? พวกเราโตมาด้วยกัน ทั้งยังเข้าร่วมการฝึกพร้อมกัน กินนอนด้วยกัน แล้วยังเคยอาบน้ำด้วยกัน ใส่กางเกงตัวเดียวกันอีก แม้แต่สภาพเจ้าเปลือยเปล่าไม่ใส่เสื้อผ้าข้ายังเคยเห็นมาแล้ว พวกเราใกล้ชิดกันถึงขั้นนี้ จะไม่ใช่คู่รักตั้งแต่วัยเด็กเชียวหรือ?”
ยิ่งฟังเขา สีหน้าของอิ่งอีก็ยิ่งดำทะมึน ขนลุกขนพองไปทั้งตัว โดยเฉพาะดวงตาของฮุยหลางที่มองส่งเดชอยู่นั่น ยิ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดจนพูดไม่ถูก
เหตุใดแต่ก่อนเขาไม่เคยรู้เลยว่าฮุยหลางชื่นชอบแนวนี้?
นึกมาถึงตรงนี้ เขาก็อดขนลุกไม่ได้ จ้องฮุยหลางอย่างระแวดระวัง รีบเดินหนีไปยืนรออยู่อีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว
เห็นเขาเดินหนีไปราวกับหนีเอาชีวิตรอดเช่นนั้น ฮุยหลางเผยยิ้มย่ามใจ “คนหน้าตายอย่างเจ้าคิดจะสู้กับข้า? หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ”
เขาแค่นเสียง หันไปมองสองคนที่กำลังฝึกกระบี่กันอยู่ในสนาม
ประมาณหนึ่งชั่วยามผ่านไป ทั้งสองหยุดการฝึก ยามนี้เฟิ่งจิ่วเหงื่อท่วมไปทั้งตัวแล้ว แต่ดวงตาเธอยังคงเป็นประกายอยู่ มองเซวียนหยวนโม่เจ๋อตรงหน้า แล้วถามอย่างตื่นเต้นว่า “ท่ากระบี่วิชานี้ท่านคิดค้นขึ้นมาเองจริงหรือ?”
“ชอบหรือไม่?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อหยักยิ้มมุมปากน้อยๆ เอื้อมมือเสยปอยผมที่ร่วงลงมาทัดหูให้เธอ ท่าทางใกล้ชิดดูเป็นธรรมชาติ
“ชอบ ชอบมาก พลังสังหารของท่ากระบี่นี้แข็งแกร่งมาก หากสองคนร่วมมือกันยิ่งส่งเสริมกัน พลังต่อสู้ยิ่งจะไม่ธรรมดา หนำซ้ำหากคิดจะแกะกระบวนท่ายิ่งไม่ง่าย จริงสิ ท่ากระบี่นี้ชื่อว่าอะไรหรือ?”
เห็นเธอทำหน้าตาตื่นเต้นดีใจ แววตาทึ่งระคนประหลาดใจอันงดงามจับใจจ้องมาที่เขา เซวียนหยวนโม่เจ๋อรู้สึกเพียงหัวใจของเขาถูกหลอมละลายไปทั้งดวง แล้วยังรู้สึกเหมือนหัวใจพองโตด้วย หัวใจของชายชาตรีผู้หนึ่งถูกเติมเต็ม รู้สึกภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ
“ท่ากระบี่นี้มีชื่อว่า กระบี่เก้ามังกรหงส์ไฟ หากใช้กระบี่เล่มเดียว ข้าก็จะใช้ท่ากระบี่เก้ามังกร ส่วนเจ้าใช้ท่ากระบี่เก้าหงส์ไฟ ท่ากระบี่นี้ใช้ผสานกันก็ได้แยกกันก็ดี ปรับเปลี่ยนได้ไม่มีวันสิ้นสุด หากรวมเป็นหนึ่ง ก็จะยิ่งทรงพลานุภาพ”
พูดมาถึงตรงนี้ เสียงของเขาหยุดไปเล็กน้อย นัยน์ตาลึกล้ำเผยแววอ่อนโยนและรักใคร่ลึกซึ้ง กล่าวเสียงอบอุ่นว่า “อีกอย่าง เดิมข้าก็ตั้งใจคิดค้นท่ากระบี่นี้ขึ้นเพื่อเราสองคน เจ้าต้องจำสูตรพลังภายในที่ข้าถ่ายทอดให้เจ้าครั้งก่อน เอาไว้ใช้กับท่ากระบี่นี้ อนาคตสามารถใช้เป็นวิชากระบี่ประจำตระกูล และถ่ายทอดให้ลูกๆ ของเราต่อไปได้”
ที่จริงความหวังของเขาเรียบง่ายมาก ก็คือใช้ชีวิตกับคนที่ตนเองรัก และสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขด้วยกัน
และตอนนี้ เขาก็รู้สึกว่าเขาอยู่ห่างจากเป้าหมายนี้ไม่ไกลแล้ว
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็หัวเราะ “นี่ยังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ ก็พูดถึงเรื่องลูกแล้วหรือ? ท่านก็ใจร้อนเกินไปกระมัง”
“ภูตหมอ นายท่านไม่ใจร้อนข้าก็ร้อนแทนแล้ว ข้าเองก็อยากมีนายท่านแล้วเหมือนกันขอรับ!” ฮุยหลางยิ้มกว้างแล้วตะโกนบอก เห็นทั้งสองหันมามองเขา เขาก็ยิ้มแห้ง “อีกอย่าง หากพวกท่านมีนายท่านน้อยเร็วๆ ข้าฮุยหลางก็ยังช่วยพวกท่านเลี้ยงได้ด้วยนะขอรับ!”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วนึกภาพตอนฮุยหลางอุ้มเด็กทารกไว้ข้างหน้าคนหนึ่ง แบกเด็กทารกไว้ข้างหลังคนหนึ่ง ก็อดหัวเราะไม่ได้
อิ่งอีไม่รู้โผล่มาจากไหน พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาว “หากมีนายท่านน้อยแล้วให้เจ้าเลี้ยง ขนาดข้ายังไม่วางใจเลย!”
“เจ้ามีอะไรให้ไม่วางใจกัน? ภูตหมอยังไม่ว่าอะไรเลย!” ฮุยหลางถมึงตาจ้องเขาอย่างไม่พอใจ รู้สึกว่าคนคนนี้มักชอบขัดแข้งขาขาเขา ลอกนึกภาพดูว่าหากมีนายท่านน้อยจริงๆ จะมีความสุขขนาดไหนกัน?
………………………………….