เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1633 อ่างอาบน้ำนี้ใหญ่มาก ตอนที่ 1634 ยังไม่ตื่น
ตอนที่ 1633 อ่างอาบน้ำนี้ใหญ่มาก / ตอนที่ 1634 ยังไม่ตื่น
ตอนที่ 1633 อ่างอาบน้ำนี้ใหญ่มาก
“เอาล่ะ ไปไกลกันเกินไปแล้ว เรื่องที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงามีอะไรให้พูดถึงกัน” เฟิ่งจิ่วยิ้มพลางยกมือเป็นเชิงบอกให้ทั้งสองหยุดพูดได้แล้ว จากนั้นก็หันไปบอกเซวียนหยวนโม่เจ๋อ “ท่านจะกลับไปอาบน้ำหรือไม่?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อนัยน์ตาไหวระริก สายตาลึกล้ำมีประกายมืดมนพาดผ่าน เขาจ้องเธอ แล้วขยับกลีบปาก “อาบ”
“ได้! เช่นนั้นก็ไปกันเถิด!” เธอเก็บกระบี่คมพยับ ไม่ได้สังเกตแววตาลึกล้ำของเขา เอื้อมมือไปคล้องแขนของเขาแล้วออกเดินไปพร้อมกับเขา
มองดูทั้งสองจากไป ฮุยหลางเอื้อมมือไปโอบไหล่อิ่งอี แล้วพูดอย่างมีลับลมคมในว่า “นี่ เจ้าเห็นสายตาของนายท่านหรือไม่?”
อิ่งอีตวัดสายตามองเขา แล้วสะบัดมือเขาออก “ไปไกลๆ เลย!” จากนั้นก็สาวเท้ายาวๆ เดินจากไป ตามหลังสองคนข้างหน้าในระยะที่ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป
เฟิ่งจิ่วที่กลับถึงเรือนสั่งคนให้เตรียมน้ำร้อนอาบน้ำ เข้าห้องมาเธอกลับพบว่าเซวียนหยวนโม่เจ๋อเดินตามเข้ามา ก็อดชะงักงันไม่ได้ “ท่านไม่กลับไปอาบน้ำหรือ?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเธอ “อาบสิ!” เขาเดินเข้ามาแล้วมองรอบๆ จากนั้นก็เดินมาหยุดยืนตรงหน้าอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ “อาบที่นี่ได้พอดีเลย อ่างอาบน้ำนี่ใหญ่พอแน่นอน”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก “ท่านคงไม่ได้พูดจริงกระมัง?”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อแววตาไหวระริก เดินเข้าไปโอบเธอที่ยืนอยู่ข้างประตู ขณะเดียวกันก็โบกมือปิดประตู พร้อมลงกลอน
เฟิ่งจิ่วรู้สึกเพียงถูกอุ้มตัวลอยตรงเข้าไปข้างใน เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เซวียนหยวนโม่เจ๋อเป็นคนภายนอกเงียบขรึมข้างในเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ดูจากที่เขามักปั้นหน้าเย็นชาเคร่งขรึมแต่กลับใส่กางเกงในสีแดงก็รู้แล้ว
เมื่อก่อนถึงเขาจะมีความคิดอยากทำอะไร แต่กลับควบคุมตนเองตลอด โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ท่านแม่ของเธออยู่ที่นี่เขายิ่งไม่เคยล้ำเส้นเลยแม้แต่น้อย เหตุใดวันนี้…
“กางแขนออก”
น้ำเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ดึงดูดดังเข้ามาในโสตประสาท ลมหายใจอุ่นร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มรดที่หลังใบหูของเธอ ความรู้สึกจั๊กจี้ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว
เวลานี้จึงเพิ่งตั้งสติได้ เธอถูกเขาอุ้มมายืนอยู่ข้างอ่างอาบน้ำแล้ว และเขาก็ยืนอยู่ข้างหลังเธอ
ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เธอกลับทำตามที่เขาบอก กางแขนทั้งสองข้างออก ปล่อยให้เขาถอดเสื้อผ้าชั้นนอกของเธอออก
ชุดคลุมสีแดงถูกถอดออก เขาโบกมือ เห็นเพียงเสื้อคลุมสีแดงถูกโยนออกไปห้อยบนฉากบังลม มือของเขาลูบจากเอวของเธอขึ้นมาข้างบน ครั้นสัมผัสมาถึงหน้าอกอันแบนราบ เขาโอบกอดเธอจากข้างหลัง เอาใบหน้าแนบข้างหูแล้วถามว่า “เจ้ายังรัดหน้าอกอยู่หรือ?”
“ก็ใช่น่ะสิ!”
เธอตอบ “ข้าแต่งกายเป็นชายหากไม่รัดหน้าอก จะไม่ดูแปลกหรอกหรือ?”
“รัดหน้าอกบ่อยๆ ไม่ดีต่อการเจริญเติบโต หากเราแต่งงานกันเมื่อใด เจ้าก็ไม่ต้องรัดหน้าอกแล้ว” เขากระซิบบอกเสียงเบา น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย มือเลื่อนมาถึงชุดชั้นใน แล้วถอดชุดชั้นในออก หมุนตัวเธอให้หันหน้าเข้าหาเขา
ยามเขาเห็นเธอที่อยู่ตรงหน้าเผยหัวไหล่กลมมนและขาวนวลดุจหิมะ รวมถึงกระดูกไหปลาร้าอันน่าเย้ายวนใจ นัยน์ตาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นลึกล้ำ สายตาค่อยเลื่อนลงข้างล่าง จดจ้องอยู่บนผ้าสีขาวที่รัดหน้าอกของเธอ
เรือนร่างของนางอรชรงดงามอยู่แล้ว แต่กลับถูกผ้ารัดไว้ชั้นแล้วชั้นเล่าอย่างนี้ หนำซ้ำยังรัดเสียแน่น ทุกครั้งที่นึกถึงตรงนี้ เขาก็อดปวดใจไม่ได้ รัดไว้อย่างนี้ นางจะอึดอัดเพียงใดกัน?
มือของเขาลูบหัวไหล่ของเธอ ไล้ผ่านกระดูกไหปลาร้า และหยุดอยู่ตรงผ้าพวกนั้น แวบหนึ่งเกิดความคิดอยากฉีกผ้าเหล่านี้ให้ขาดเป็นชิ้นๆ และเขา ก็ทำอย่างที่คิด…
………………………………….
ตอนที่ 1634 ยังไม่ตื่น
ครั้นเสียงแคว่กดังขึ้นเบาๆ ผ้าผืนนั้นก็กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายลงบนพื้น ปรากฏสู่สายตาของเซวียนหยวนโม่เจ๋อ
ทำให้ลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้นหลายส่วน ส่วนลึกในดวงตา มีประกายมืดมนกำลังพลุ่งพล่านอยู่ เขาอดกลืนน้ำลายไม่ได้ สายตาลึกล้ำเร่าร้อนจับจ้องไปที่หน้าอกของเธอ เนิ่นนานก็ยังไม่ละสายตา
“งามนัก…”
เสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย ลมหายใจติดขัด ร่างกายและจิตใจรุ่มร้อนไปหมด แวบหนึ่งคิดอยากจะครอบครองเธอเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ทว่า เขาเคยบอกไว้ ว่าเขาจะเก็บค่ำคืนที่สวยงามที่สุดระหว่างพวกเขาสองคนไว้ในคืนเข้าหอ ด้วยเหตุนี้…
มองดูเธอที่มีใบหน้างดงามเลิกคิ้วเล็กน้อย กลีบปากหยักยิ้มยั่วเย้ามองเขา ทั่วทั้งกายเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจชวนให้อยากทำเรื่องไม่ดี
เขายกมือ ถอดเสื้อคลุมของตนเองออกแทบจะในพริบตาเดียว เอื้อมมือโอบนางเข้าไปในอ่างอาบน้ำ
ทั้งสองเข้าไปในอ่างอาบน้ำ หยดน้ำกระเซ็น น้ำล้นออกจากอ่าง เสียงน้ำกระทบกันดังขึ้น กลีบดอกลอยเหนือผิวน้ำ กลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้ลอยอบอวลทั่วห้อง ผสมผสานกับความรู้สึกอันเร่าร้อน…
ยามหัวค่ำ
ซั่งกวนหวั่นหรงที่ว่างงานลงมือทำอาหารด้วยตนเองอีกครั้ง เพราะเฉินเต้ากับลั่วเหิงกลับไปแล้ว ตอนนี้พวกนางก็มีคนไม่มาก นางจึงทำอาหารเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น
หลังจากจัดวางอาหารเสร็จ ซั่งกวนหวั่นหรงก็มองซ้ายทีขวาที แล้วถามว่า “เหลิ่งซวง เสี่ยวจิ่วเล่า? เหตุใดยังไม่เห็นนางอีก?”
เหลิ่งซวงเงียบครุ่นคิด แล้วบอกว่า “นายท่านน่าจะอยู่ในเรือนเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นเจ้าไปเรียกเสี่ยวจิ่วกับโม่เจ๋อมากินข้าวเถิด!” ซั่งกวนหวั่นหรงยิ้มบอก นั่งพักครู่หนึ่ง แล้วเทน้ำชาออกมาจิบหนึ่งคำ รอพวกเขามากินข้าว
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงรับคำ หมุนตัวเดินออกไป
ในอีกด้าน ฮุยหลางกับอิ่งอีที่เฝ้าอยู่นอกเรือนของเฟิ่งจิ่วแม้ปากจะไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตากลับเป็นประกายกว่าปกติ อิ่งอีเพียงเหลือบมองไปที่เรือนหลักของนายท่านเป็นบางครั้ง คล้ายกำลังรอนายท่านทั้งสองออกมา
แต่ฮุยหลางกลับเอาแต่จ้องเขม็งไปที่เรือนหลัก รู้สึกคันยุบยิบที่ใจ อยากรู้อยากเห็นแทบตายแล้ว นายท่านกำราบภูตหมอแล้วหรือยังกันแน่? นี่ทั้งบ่ายแล้วก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย หรือว่าทั้งสองคนกำลังนอนพักกลางวันอยู่ข้างใน? ไม่ได้ทำอะไรกันเลย?
นึกมาถึงตรงนี้ เขาอดถามไม่ได้ “อิ่งอี เจ้าว่าได้เรื่องหรือยัง?” ถามไปนานก็ยังไร้เสียงตอบรับจากอิ่งอี เขาจึงหันไปมอง แล้วใช้ศอกกระทุ้งเขา “ข้าถามเจ้าอยู่นะ!”
“ข้าไม่รู้”
อิ่งอีตอบเสียงเย็น หางตาเหลือบเห็นเหลิ่งซวงที่เดินเข้ามาไม่ไกล จึงพยักพเยิดให้เขาหันไปมองผู้มา
เห็นเหลิ่งซวง ฮุยหลางยิ้มกว้าง รีบเดินเข้าไปขวางหน้านาง “เหลิ่งซวง เจ้ามาได้อย่างไร? มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”
มองดูฮุยหลางที่ขวางทาง เหลิ่งซวงขมวดคิ้ว แล้วเหลือบมองอิ่งอี ถามว่า “พวกท่านสองคนทำอะไรอยู่ตรงนี้? เจ้าตำหนักยมราชอยู่ข้างในหรือ? พอดีเลย ฮูหยินเตรียมอาหารเย็นไว้ สั่งให้ข้ามาเชิญพวกนายท่านไปกินข้าว”
ขณะพูดก็ทำท่าจะเดินไปข้างหน้า แต่กลับถูกขวางไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยวๆๆๆ” ฮุยหลางยิ้มมองนาง “ตอนนี้พวกนายท่านยังไม่ออกมาเลย! เจ้าอย่าเข้าไปทำให้เสียเรื่อง”
“ทำเสียเรื่องอะไร?” เหลิ่งซวงชะงัก มองไปที่เรือนแวบหนึ่ง ในลานบ้านไม่เห็นเงาร่างของทั้งสอง เช่นนั้นก็อยู่ในบ้านงั้นหรือ?
“พวกเขายังไม่ตื่นเลย!” ฮุยหลางเพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก
………………………………….
———————————