เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1641 ต้วนมู่ไป๋มา ตอนที่ 1642 พบหน้า
ตอนที่ 1641 ต้วนมู่ไป๋มา / ตอนที่ 1642 พบหน้า
ตอนที่ 1641 ต้วนมู่ไป๋มา
บนถนน ต้วนมู่ไป๋ทอดมองเมืองแห่งนี้ ในใจอดทอดถอนใจไม่ได้ เฟิ่งจิ่วต้องใจกล้าเพียงใดกัน? เดิมทีเขานึกว่าเธอช่วยหวั่นหรงแล้วจะหนีไปไกลแสนไกล ใครจะรู้กลับซ่อนตัวอยู่ในเมืองที่ไม่ไกลจากสำนักโอสถตะวันนัก หากไม่ใช่พวกเฉินเต้ามารายงาน เขาไม่มีทางนึกถึงว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่
เพราะช่วงนี้สำนักโอสถตะวันเสียหายหนักมาก คนในสำนักอกสั่นขวัญหาย แม้ในตระกูลเขาจะมีเรื่องให้สะสาง แต่พอเห็นว่าสุขภาพของท่านพ่อเขาฟื้นตัวได้ดี และไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว เขาจึงวางใจ
เรื่องในตระกูลปล่อยให้พี่ใหญ่ของเขาเป็นคนจัดการเองก็แล้วกัน! สิ่งที่ตระกูลของเขาต้องเผชิญคืออะไร? และต้องสูญเสียอะไรไป หรือมีภัยแฝงใดซ่อนอยู่ เรื่องเหล่านั้น ล้วนไม่ใช่เรื่องที่เขาจะจัดการได้อีกแล้ว
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้นำตระกูล หากยังยื่นมือเข้าไปแทรกแซง เกรงว่ามีแต่จะทำให้พี่ใหญ่เขาไม่พอใจ เพียงแต่ไม่รู้ว่าหลานสาวตัวน้อยของเขาคนนั้น ยามนี้ไม่รู้ไปอยู่แห่งหนใดแล้ว?
นึกถึงหลานสาวตัวน้อยที่ถูกบีบบังคับให้ต้องหนีออกจากบ้าน เขาก็อดส่ายหน้าและถอนหายใจไม่ได้ เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีการเช่นนี้ของพี่ใหญ่ของเขาเลยจริงๆ เพียงหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับหลานสาวตัวน้อยของเขา ไม่เช่นนั้น เกรงว่า…
มองดูผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนนอย่างคึกคัก เขาเดินตามหาที่อยู่ตามที่พวกเฉินเต้ารายงานมา ตั้งใจจะไปพบหวั่นหรงสักครั้งแล้วค่อนกลับสำนัก
ทว่า พอเขามาถึงลานบ้านแล้วเคาะประตู ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่มีใครมาเปิดประตู เขาอดแปลกใจไม่ได้ ลอบคิดในใจ หรือว่าไปกันแล้ว? พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เขาจึงมาที่ร้านยา
ได้ยินมาว่า เจ้าของร้านยาแห่งนี้ก็คือภูตหมอ และภูตหมอก็คือเฟิ่งจิ่ว อีกทั้งในเวลาสั้นๆ ก็มียาชั้นยอดกระจายออกไปจากร้านขายยาแห่งนี้ไม่น้อย ชื่อเสียงของภูตหมอเองก็แพร่กระจายออกไปเพราะยาเหล่านั้น แทบจะเรียกได้ว่า กลุ่มอำนาจต่างๆ ในแปดจักรวรรดิใหญ่ล้วนจับตามองที่นี่แล้ว
แน่นอน ว่าพวกเขาสืบประวัติของภูตหมอด้วย จึงรู้ว่าภูตหมอมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับตลาดมืด เดาว่าจุดนี้ต่างหากที่ทำให้ทุกคนไม่กล้าออกหน้าแย่งตัวมาอย่างโจ่งแจ้ง!
ไม่เช่นนั้น สำหรับกลุ่มอำนาจใหญ่เหล่านั้น มีนักเล่นแร่แปรธาตุอัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏตัว หากชิงตัวมาไม่ได้พวกเขาก็จะสังหารคนผู้นั้น คนที่พวกเขาไม่ได้ตัว ย่อมไม่อาจปล่อยให้กลุ่มอำนาจอื่นได้ตัวไป ไม่เช่นนั้นก็อาจเป็นภัยต่อพวกเขาได้
แต่โชคดีที่ภูตหมอผู้นี้ฉลาดมากพอ นอกจากตลาดมืดที่เป็นกลุ่มอำนาจใหญ่แล้ว เขาไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกับตระกูลหรือกลุ่มอำนาจอื่นอีก ไม่ว่าเป็นใครล้วนสามารถซื้อยาและยาน้ำจากเขาได้ แต่มีเงื่อนไขก็คือต้องมีป้ายยาอายุวัฒนะหรือป้ายยาจากภูตหมออยู่ในมือ ไม่เช่นนั้น แม้มีเงินอีกมากแค่ไหนก็ซื้อของที่อยากได้ไม่ได้
นึกถึงเรื่องนี้ เขาก็อดส่ายหน้าและลอบหัวเราะไม่ได้ เป็นคนประหลาด ที่สร้างกฎประหลาดดังคาด
มาถึงในร้านยา ต้วนมู่ไป๋กวาดมองผ่านๆ เห็นว่าร้านขายยาที่ไม่มีอะไรสะดุดตาเลยแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นข้างในหรือข้างนอกล้วนเรียบง่าย กระทั่งธรรมดากว่าร้านยาทั่วไปเสียด้วยซ้ำ สถานที่เช่นนี้ กลับเป็นที่ซ่อนของพยัคฆ์และมังกร
“เถ้าแก่ ผู้ดูแลของพวกท่านเล่า?”
เขาเอ่ยปากถามชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปีคนหนึ่งที่กำลังจัดสมุนไพรในร้าน ในนี้นอกจากเถ้าแก่คนนี้ก็มีแค่เสี่ยวเอ้อร์ที่คอยต้อนรับแขก ไม่พบเหลิ่งหวาหรือตู้ฝานที่พวกเฉินเต้าบอกแต่อย่างใด
เถ้าแก่คนนั้นได้ยินต้วนมู่ไป๋ถามก็ลอบมองพิจารณาเขาอย่างแนบเนียน เห็นเขาสวมชุดคลุมสีขาวของสำนักโอสถตะวัน บุคลิกไม่ธรรมดา ระดับวรยุทธ์ก็ไม่ต่ำ จึงยิ้มถามว่า “ไม่ทราบว่าลูกค้าท่านนี้มีเรื่องใดหรือ?”
………………………………….
ตอนที่ 1642 พบหน้า
ต้วนมู่ไป๋มองเขา ชะงักงันไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “สหาย”
ได้ยินอย่างนั้น เถ้าแก่สีหน้าไหวระริกเล็กน้อย หัวเราะแล้วบอกว่า “ผู้ดูแลของเราออกไปแล้ว บอกว่าคืนนี้จะไม่กลับเข้ามา ถ้าอย่างไร ลูกค้าค่อยกลับมาอีกครั้งพรุ่งนี้ดูไหม?”
เมื่อได้ยิน ต้วนมู่ไป๋ก็รู้ว่าพวกเฟิ่งจิ่วยังไม่ไปจากที่นี่ จึงพยักหน้า “เช่นนั้นก็ได้! พรุ่งนี้ข้าค่อยมาใหม่ก็ได้” ด้วยเหตุนี้ เขาไม่ได้รั้งอยู่แต่หมุนตัวจากไปเลย ทว่าในตอนนี้เอง เถ้าแก่ผู้นั้นถามอีกว่า
“ช้าก่อนขอรับ” เถ้าแก่ตามไป มาหยุดยืนตรงหน้าต้วนมู่ไป๋ แล้วถามว่า “ยังไม่ทราบชื่อของลูกค้าเลย? พรุ่งนี้หากผู้ดูแลของเรามา ข้าน้อยจะได้รายงานถูก”
“ข้าแซ่ต้วน” เขาทิ้งท้ายไว้ แล้วจากไป
กระทั่งเช้าตรู่วันต่อมา ตู้ฝานกำลังเตรียมตัวกลับไปดูร้านยา ทว่าพอเปิดประตู ก็เห็นชายชุดขาวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก หลังจากเห็นชุดคลุมสำนักโอสถตะวันที่คุ้นเคยดี สายตาของตู้ฝานเลื่อนลงข้างล่าง สะดุดที่ป้ายห้อยเอวของเขา
“ท่านคือ?”
“ต้วนมู่ไป๋” เขารายงานชื่อแซ่ มองคนตรงหน้า แล้วบอกว่า “ข้าเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของซั่งกวนหวั่นหรง เฟิ่งจิ่วน่าจะอยู่ที่นี่กระมัง?”
ได้ยินอย่างนั้น ตู้ฝานพยักหน้า เบี่ยงตัวให้เขาเข้ามาข้างใน “เชิญเข้ามาข้างในก่อน” เขาปิดประตูอีกครั้ง แล้วบอกว่า “เฉินเต้ากับลั่วเหิงเคยพูดถึงท่าน ฉะนั้นข้าจึงรู้จักท่านด้วย ใช่แล้ว ข้าชื่อตู้ฝาน”
“ข้ารู้” ต้วนมู่ไป๋ตอบ สายตาจับจ้องไปที่พัดในมือเขา
ตู้ฝานมองตามสายตาเขามาที่พัดในมือตนเอง ตู้ฝานยิ้มๆ แล้วพาเขาเข้าไปในห้องรับแขก พลางบอกว่า “ตอนนี้นายท่านของข้ายังไม่ตื่น ส่วนฮูหยินเมื่อคืนดื่มสุราไปสองสามแก้ว เดาว่าวันนี้คงจะตื่นสายหน่อย ถ้าอย่างไรเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ท่านนั่งในห้องรับแขกสักเดี๋ยว ข้าจะให้คนไปรายงาน ดูว่านายท่านของข้าตื่นแล้วหรือยัง”
“ให้พวกนางนอนไปเถิด! ข้ารอพวกนางได้” ต้วนมู่ไป๋บอก เดินไปนั่งในห้องรับแขก “ข้าเพียงผ่านทางมาจึงแวะมาดูหลังจากที่ได้รับข่าวจากพวกเฉินเต้า ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไร”
ตู้ฝานรินน้ำชาให้เขา บอกว่า “เช่นนั้นท่านนั่งตรงนี้ก่อน หรือจะเดินเล่นในจวนก็ได้ ข้ายังต้องไปดูที่ร้านอีก คงต้องขอตัวก่อนแล้ว”
“อืม” ต้วนมู่ไป๋รับคำ ยกชาขึ้นมาจิบคำหนึ่ง
ตู้ฝานที่ออกมาแล้ว หลังตามหาเหลิ่งหวาเจอ ก็บอกเขาให้ไปต้อนรับต้วนมู่ไป๋ที่ห้องรับแขก จากนั้นจึงค่อยออกไป
หลังจากเหลิ่งหวาทราบว่าผู้มาคือศิษย์พี่ใหญ่ของฮูหยิน จึงไปห้องครัวแล้วเตรียมของว่างบางส่วน และต้มชาหนึ่งกายกไปที่ห้องรับแขก เพียงแต่พอเขามาถึงห้องรับแขก กลับไม่เห็นใครอยู่
“ไม่ใช่บอกว่านั่งอยู่ในห้องรับแขกหรอกหรือ?” เขาประหลาดใจ วางถาดในมือลง เห็นว่าแก้วชาบนโต๊ะยังอุ่นร้อนอยู่ ก็รู้ว่ายังไปได้ไม่ไกล จึงเดินออกไปดู
ในอีกด้าน หลังจากเดินออกจากลานบ้าน ต้วนมู่ไป๋ก็เดินไปรอบๆ บังเอิญผ่านสนามฝึกแห่งหนึ่ง ได้ยินสียงประลองแว่วมารางๆ จึงเดินตามเสียงนั้นไป
มาหยุดยืนอยู่ไม่ไกลจากสนามฝึกแห่งนั้น มองดูเงาร่างสองร่างนั้นกำลังประลองกันอยู่ในสนาม แม้รู้ว่าเป็นเพียงการประลองเพื่อแลกเปลี่ยน แต่ก็ดูออกได้ถึงฝีมืออันโดดเด่นของทั้งสอง เพราะท่าร่างของพวกเขาสับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมาก จนเขามองเห็นใบหน้าของพวกเขาไม่ชัด แต่ดูจากพลังและฝีมือของพวกเขาสองคน กลับรู้ได้ว่าสองคนนี้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ
อีกทั้งสองคนนี้ยังเป็นเพียงผู้ฝึกพลังเร้นลับเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญเซียน ทว่า พลังต่อสู้ของทั้งสองคนกลับน่าทึ่งมาก กระทั่งหากพูดถึงเรื่องพลังต่อสู้ น่าจะอยู่เหนือเขาเสียด้วยซ้ำ
………………………………….
———————————