เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1647 ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ตอนที่ 1648 ไม่รู้จักนาง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1647 ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ตอนที่ 1648 ไม่รู้จักนาง
ตอนที่ 1647 ความคิดเห็นไม่ตรงกัน / ตอนที่ 1648 ไม่รู้จักนาง
ตอนที่ 1647 ความคิดเห็นไม่ตรงกัน
“ถึงเสี่ยวเย่จะยังเด็ก แต่จะตามใจเช่นนี้ไม่ได้”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด ซู่ซีเดินมาเข้าไม่ไกล เห็นเฟิ่งซานหยวนตามใจลูกเช่นนี้ เอาแต่เล่นกับเขาและให้ของกินเขาทั้งวัน นางรู้สึกว่าทำอย่างนี้ไม่ดีนัก
“ท่านแม่!” เสี่ยวเฟิ่งเย่เห็นนาง ก็รีบไถลตัวลงจากตักของพ่ออีกครั้ง แล้ววิ่งไปกอดแม่ของเขา
ซู่ซีก้มตัวรับเขามา แล้วพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “เย่เอ๋อร์ เจ้าลืมแล้วหรือว่าแม่พูดอะไรกับเจ้า?”
“ไม่ลืม เย่เอ๋อร์จำได้! วิชากำลังภายในที่ท่านแม่ให้ท่อง เย่เอ๋อร์ท่องจำได้หมดแล้ว!” เสียงของเสี่ยวเย่เอ๋อร์อ้อแอ้น่าฟัง ตัวเล็กน่ารัก ทำให้สีหน้าท่าทางของซู่ซีอ่อนลง
เด็กตัวเล็กๆ ทั้งยังน่ารักขนาดนี้ นางทำใจลงโทษเขาไม่ได้จริงๆ
“เจ้าอย่าเข้มงวดกับลูกนักเลย เขาเป็นอย่างนี้ก็ดีมากแล้ว” เฟิ่งซานหยวนบอก พอนางก้าวมาใกล้ ก็จูงมือนางให้นั่งข้างๆ “ลูกยังเด็กขนาดนี้ ยังมีเวลาฝึกอีกมาก ยิ่งไปกว่านั้น เย่เอ๋อร์ฉลาดเพียงนี้ เรียนรู้ก็ไว ไม่รีบร้อน”
“ท่านตามใจเขาเช่นนี้ก็ไม่ดีเหมือนกัน” ซู่ซีส่ายหน้า แล้วพูดกับลูกชายในอ้อมแขนว่า “ไปเถิด! ไปเรียนวิชาหมัดกับหยางหยาง”
“ท่านแม่ เย่เอ๋อร์ไม่อยากไป เย่เอ๋อร์อยากเล่นกับท่านแม่และท่านพ่อ” เด็กน้อยอิงแอบอ้อมอกแม่ไม่ยอมไป
“เด็กดี เชื่อฟังแม่นะ ประเดี๋ยวคืนนี้แม่จะทำเกี๊ยวที่เจ้าชอบกินที่สุดให้กิน” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน กวักมือเรียกเจ้าหยางมา “หยางหยาง เจ้าพาเย่เอ๋อร์ไปสนามฝึก ต้องให้เขาเรียนวิชาหมัดหนึ่งชุด อย่าปล่อยให้เขาแอบอู้ได้เล่า”
“ขอรับ” เจ้าหยางรับคำ แล้วหันไปเรียกเฟิ่งเย่ “นายท่าน พวกเราไปกันเถิดขอรับ!”
“เช่นนั้นเสี่ยวหยางหยางต้องแบกข้าไป” เขาพูดอย่างโกรธๆ ไม่ค่อยอยากไปสนามฝึก
“ได้ขอรับ” เจ้าหยางย่อตัวลงไป รอให้เขาขึ้นหลัง
เห็นอย่างนั้น เสี่ยวเฟิ่งเย่เผยรอยยิ้มดีใจ กระโดดขึ้นหลังเขาและใช้สองมือโอบรอบคอ “ขึ้นหลังม้าแล้วๆ! เสี่ยวหยางหยาง รีบวิ่งเร็ว!”
เห็นเด็กสองคนเดินห่างออกไปแล้ว ซู่ซีหันมามองเฟิ่งซานหยวน “ถึงลูกจะยังเด็ก แต่อายุประมาณนี้เป็นช่วงที่เรียนรู้ได้ไวที่สุด และเรียนรู้ได้ดีที่สุดแล้ว ท่านจะตามใจเขาเพราะรักเขาไม่ได้ เช่นนั้นไม่เรียกว่ารัก แต่เป็นการทำร้ายเขา
ท่านว่า หากมีวันใดที่พวกเราไม่อยู่ข้างกายเขา เขากลับเหมือนเด็กทั่วไปหรือสู้เด็กทั่วไปไม่ได้ด้วยซ้ำ พวกท่านจะวางใจได้เช่นไร? แม้จะเติบโตในราชวงศ์ เติบโตอยู่ข้างกายท่าน ก็ต้องให้เขาเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง และดูแลตนเอง”
“เขายังเด็กขนาดนี้ ถึงอย่างไรก็น่าจะรอให้ถึงห้าขวบก่อนค่อยเรียนก็ยังไม่สาย ตอนนี้ยังเด็กเกินไป” เฟิ่งซานหยวนบอก รู้สึกว่าเด็กอายุน้อยขนาดนี้ให้เรียนนั่นเรียนนี่ไม่ดีนัก อายุน้อยขนาดนี้ควรปล่อยให้เขาเล่นสนุกมากกว่า
พูดถึงเรื่องการเลี้ยงลูก ความคิดของทั้งสองไม่ค่อยตรงกันนัก บางครั้งก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ แต่โชคดีที่ไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรงเกินไป บางครั้งเถียงกันสักสองสามประโยคก็ช่วยเพิ่มสีสันให้ชีวิตได้เช่นกัน
ซู่ซีเถียงอย่างไม่เห็นด้วย “ไม่เด็กแล้ว อายุสามขวบเรียนรู้ได้ดีที่สุด ให้เขาท่องจำวิชากำลังภายใน เขาก็ยังจำได้แล้ว”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งซานหยวนบอกว่า “เอาเถิดๆ เรื่องนี้เอาตามนี้ก็แล้วกัน อย่าเถียงกันอีกเลย พวกเรามาคุยเรื่องพวกเสี่ยวจิ่วกันดีกว่า! ครั้งก่อนได้ข่าวจากพวกเขา บอกว่าใกล้กลับมาแล้ว นี่ลองคำนวณเวลาดูแล้วตอนนี้เฟิ่งเซียวก็น่าจะเจอพวกเสี่ยวจิ่วแล้ว ไม่รู้ว่าอยู่ระหว่างทางหรืออยู่ที่ใดกันแล้ว?”
………………………………….
ตอนที่ 1648 ไม่รู้จักนาง
“ไม่ว่าอยู่ที่ใด แค่ปลอดภัยก็ดีแล้ว” ซู่ซีบอก แล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ยิ้มบอกว่า “กลับเป็นพวกเราที่ต้องสั่งให้คนเตรียมตัวจัดงานมงคลให้พวกเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยวจิ่วหรือหวั่นหรงแม่ของเสี่ยวจิ่ว ข้าคิดว่า อย่างไรก็ต้องจัดงานแต่ง แล้วก็ต้องจัดให้สมเกียรติด้วย”
“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว” เฟิ่งซานหยวนยิ้มพยักหน้า
อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเฟิ่งเย่กับเจ้าหยางมาถึงสนามฝึก มองดูเหล่าองครักษ์กำลังฝึกประลองกำลังกัน เสี่ยวเฟิ่งเย่กลอกตาไปมา ยกมือกุมท้องแล้วตะโกนว่า “เสี่ยวหยางหยาง ข้าปวดท้อง”
เจ้าหยางตะลึง บอกว่า “เช่นนั้นข้าพาท่านไปหาหมอหลวง”
“ไม่ต้องๆ เจ้าส่งข้ากลับไปนอนก็พอแล้ว” เด็กน้อยรีบบอก
ได้ยินอย่างนั้น เจ้าหยางสีหน้าดำทะมึนลงเล็กน้อย พูดกับเสี่ยวเฟิ่งเย่ที่ขี่หลังเขาอยู่ว่า “นายท่าน ท่านอยากท่องจำวิชากำลังภายใน หรืออยากยกสูง?”
“ข้าอยากนอน ข้าอยากกินของอร่อย ข้าอยากไปเล่น ข้าอยาก…” เด็กน้อยขี่หลังเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ดวงหน้าน้อยๆ ยับยู่ยี่ กลีบปากเล็กๆ ห่อเป็นวงกลม
“ไม่มีทางเลือกอื่น ท่องจำวิชากำลังภายในหรือฝึกวิชาหมัด ท่านเลือกได้แค่หนึ่งในสองอย่างนี้”
“แต่ท่องจำวิชากำลังภายในหมายถึงอะไร ท่องนั้นท่องจำได้แล้ว แต่ข้าไม่เข้าใจนี่นา!” เด็กน้อยไถลตัวลงจากแผ่นหลังของเจ้าหยาง เบะปาก มองเขาด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา “เสี่ยวหยางหยาง อันนั้นไม่สนุกเลยสักนิด”
เห็นอย่างนั้น เจ้าหยางก็ครุ่นคิดแล้วบอกว่า “เช่นนั้นข้าพาท่านไปที่อื่น” เขาบอก ก่อนจะจูงมือเสี่ยวเฟิ่งเย่ไปอีกทาง
“พวกเราจะไปทำอะไรหรือ? พวกเราจะไปเล่นกันที่ไหนหรือ?” เสี่ยวเฟิ่งเย่สาวเท้าสั้นๆ ก้าวตามไป ถามไม่หยุดปาก
“ถึงแล้วท่านก็รู้เอง” เจ้าหยางบอก พาเขาไปที่ตำหนักข้างที่ไม่ค่อยมีคน
หลังจากมาถึงข้างในตำหนักข้างที่ไม่มีใครอยู่ เจ้าหยางก็หยุดเท้า แล้วมองรอบๆ ก่อนหันไปพูดกับเสี่ยวเฟิ่งเย่ว่า “นายท่าน ท่านพ่อและท่านแม่ของข้า รวมถึงท่านปู่และท่านย่าของข้าล้วนอยู่ที่นี่ ท่านมองเห็นพวกเขาหรือไม่?”
ได้ยินอย่างนั้น เสี่ยวเฟิ่งเย่กระพริบตาสุกใสปริบๆ ไปรอบๆ “ไม่เห็น ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลย”
แต่ทว่า พอเขาพูดจบ เงาร่างหนึ่งก็ค่อยปรากฏตัวออกมา นั่นก็คือหญิงสาวในชุดกระโปรงสีเรียบคนหนึ่ง เพียงแต่ใบหน้าค่อนข้างซีดเล็กน้อย
“หยางหยาง เหตุใดวันนี้เจ้าจึงพาเสี่ยวเฟิ่งเย่มาที่นี่เล่า?”
“เอ๊ะ? ทำไมจู่ๆ ก็ปรากฏตัวได้เล่า?” เสี่ยวเฟิ่งเย่มองหญิงสาวที่เดินเข้ามาใกล้อย่างฉงนฉงาย “ท่านเป็นใคร? แต่ก่อนข้าไม่เคยเห็นท่านเลย”
“นางเป็นแม่ของข้า ท่านแม่ของข้าเป็นคนขององค์หญิง พวกเขามาเยี่ยมข้า” เจ้าหยางบอก แหงนหน้ามองแม่ของเขา “ท่านแม่ วรยุทธ์ของท่านยอดเยี่ยมขึ้นอีกแล้วหรือขอรับ?”
ตั้งแต่พวกเขาได้ฝึกวรยุทธ์ นอกจากกลางวันจะปรากฏตัวใต้แสงอาทิตย์ได้แล้ว พลังก็ยังเพิ่มขึ้นไม่น้อยอีกด้วย อีกทั้งพวกเขายังสามารถควบคุมลมหายใจของตนเองได้อย่างดีมาก ไม่ต้องกังวลว่าการสูญเสียพลังหยินจะทำให้ส่งผลต่อร่างกายของพวกเขาอีก
“องค์หญิง?” เด็กน้อยเอียงคอ แล้วถามด้วยความสงสัย “คือหลานสาวที่โตกว่าข้า แต่กลับต้องเรียกข้าว่าท่านอาน้อยคนนั้นน่ะหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น ก็มีเงาร่างอีกหนึ่งเงาเดินออกมาจากในที่มืด นั่นคือพ่อของเจ้าหยาง เห็นเพียงเขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม กล่าวว่า “ถูกต้องแล้ว ก็คือนาง นางชื่อเฟิ่งจิ่ว เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก”
เด็กน้อยครุ่นคิด กลีบปากเล็กๆ พึมพำเสียงเบา พูดอย่างเศร้าๆ ว่า “แต่ว่าข้าไม่รู้จักนาง ข้าจำไม่ได้แล้วว่านางหน้าตาเป็นอย่างไร”
………………………………….