เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1659 ฆ่าคนแล้ว ตอนที่ 1660 เสียแรงที่เป็นลูกท่านพ่อ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1659 ฆ่าคนแล้ว ตอนที่ 1660 เสียแรงที่เป็นลูกท่านพ่อ
ตอนที่ 1659 ฆ่าคนแล้ว / ตอนที่ 1660 เสียแรงที่เป็นลูกท่านพ่อ
ตอนที่ 1659 ฆ่าคนแล้ว
เมื่อเห็นอย่างนั้น ผู้ชายตัวผอมสูงคนนั้นฉีกยิ้ม เผยให้เห็นฟันเหลืองน่าแขยง เขามองซ้ายทีขวาที เห็นว่าไม่มีใครสังเกต จึงรีบเดินตามไปเร็วๆ เข้าไปในตรอกถนนแล้วขวางหน้าเด็กสองคนนั้น
“ฮี่ๆ เด็กน้อย ผู้ปกครองของเจ้าเล่า?” เขาขวางหน้าเด็กน้อยสองคน ฉีกยิ้มเผยให้เห็นฟันหนูสีเหลือง
เสี่ยวเฟิ่งเย่กินอาหารแห้งพลางเหลือบมองเขา กะพริบตาปริบๆ ไม่พูดอะไร
แต่เจ้าหยางกลับถามว่า “เจ้าจะทำอะไร?”
“ไปกับลุง เดี๋ยวลุงพาไปกินของอร่อย ดีหรือไม่?” ชายร่างผอมสูงฉีกยิ้ม พลางเดินเข้ามาใกล้พวกเขาสองคน คิดในใจว่าจะตีพวกเขาสลบแล้วพาตัวไปเสีย
“ไม่เอา! เจ้าเป็นคนเลว ไสหัวไปเสีย!” เสี่ยวเฟิ่งเย่ตะโกน ขว้างอาหารแห้งในมือใส่ตัวเขา
“ฮ่า นั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้วล่ะ!” ชายตัวผอมสูงหัวเราะเย็นชา ก้าวเข้าไปหมายจะอุ้มเสี่ยวเฟิ่งเย่ขึ้นมา ใครจะรู้ เจ้าเด็กนั่นกลับวิ่งไปหลบข้างหลังเด็กตัวโตกว่าหน่อยอย่างว่องไว
เห็นอย่างนั้น เขาหัวเราะอย่างชั่วร้าย “พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก ตามข้าไปดีๆ จะได้ไม่ลำบาก” ทว่า สิ้นเสียง กลับเป็นเด็กผู้ชายอายุเจ็ดแปดขวบคนนั้นหยิบมีดสั้นออกมาถือจากที่ใดไม่รู้ได้ สายตาเยือกเย็น รวมถึงไอสังหารและกลิ่นอายพลังวิญญาณที่กระจายออกมาจากตัวเขา ทำให้เขาอดตกใจไม่ได้
เขาอดผงะถอยไม่ได้ ตะลึงงัน “จะ เจ้าเป็นผู้ฝึกตนหรือ?”
เดิมทีเขาเห็นว่าเด็กสองคนนี้ไม่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณจึงได้บังเกิดความคิดชั่วร้าย คิดว่าเป็นเพียงลูกของชาวบ้านธรรมดา ใครจะรู้ว่าเด็กผู้ชายเจ็ดแปดขวบคนนี้กลับมีกลิ่นอายพลังวิญญาณท่วมกายเช่นนี้ นี่ทำให้เขาอดตกใจกลัวและลังเลไม่ได้
เด็กอายุน้อยขนาดนี้ก็เริ่มฝึกบำเพ็ญตนแล้ว ต้องไม่ใช่ลูกชาวบ้านธรรมดาแน่ๆ! หนำซ้ำลูกชาวบ้านธรรมดาก็มีผู้ฝึกบำเพ็ญตนน้อยมาก แม้เขาไม่ได้ฝึกวรยุทธ์ แต่ก็ยังแยกออกว่าใครเป็นผู้ฝึกพลังเร้นลับ ใครเป็นผู้ฝึกพลังวิญญาณ กลิ่นอายบนเด็กผู้ชายคนนี้เป็นกลิ่นอายพลังวิญญาณชัดๆ!
ยิ่งเห็นไอสังหารพวยพุ่งออกมาจากตัวเขา สายตาเยือกเย็นดุจสัตว์ร้ายคู่นั้นจับจ้องมาที่เขา ทำให้เขาอดขนลุกไปทั้งตัวไม่ได้
“ยะ อย่าเพิ่งใจร้อน ข้าแค่ล้อพวกเจ้าเล่นเท่านั้นเอง…เอื้อก!”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นเพียงเงาร่างตรงหน้าโฉบกระโดดขึ้นกลางอากาศ นัยน์ตาหดเล็ก รู้สึกถึงความเจ็บปวดยามคมมีดเฉือนผ่านลำคอ ยกมือขึ้นปัดป้องตามสัญชาตญาณ พยายามกำราบปีศาจน้อยตนนั้น
เสี่ยวเฟิ่งเย่ยืนอยู่ด้านหนึ่ง มองดูหยางหยางพุ่งตัวออกไป แต่กลับไม่อาจปลิดชีพคนผู้นั้นในดาบเดียว กลับถูกคนชั่วคนนั้นจับมือไว้ได้ ขณะกำลังร้อนใจ ก็เห็นหยางหยางกอดขาผู้ชายคนนั้นแล้วล้มเขาลงกับพื้น จากนั้นก็กระโดดขึ้นคร่อม กระชับมีดสั้นในมือแล้วแทงลงไปที่ลำคอของผู้ชายคนนั้นเต็มแรง
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น ชั่วพริบตา เลือดสีแดงสำทะลักออกมาราวกับน้ำพุ ย้อมพื้นจนแดงไปทั้งแถบ คนผู้นั้นชักกระตุกอยู่บนพื้น กระทั่งแน่นิ่งและสิ้นลมไป
เจ้าหยางจับมีดสั้นไว้แน่น มือน้อยๆ สั่นเทา สีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย เขาขบกลีบปากพยายามควบคุมสติ มองดูชายที่นอนแน่นิ่งไม่ขยับคนนั้น เขาเข้าไปตรวจสอบลมหายใจอย่างไม่วางใจ หลังจากมั่นใจว่าเขาตายแล้ว จึงรีบเก็บมีดสั้นแล้วอุ้มเสี่ยวเฟิ่งเย่ที่กำลังตะลึงงันไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฆ่าคน แต่ก่อนแม้จะเคยฝึกมา แต่ก็เป็นเพียงการฝึกเท่านั้น ไม่เคยฆ่าคนจริงๆ เขานึกว่าการฆ่าคนจะง่ายมาก แต่ที่แท้ การฆ่าคนกลับน่ากลัวมาก
………………………………….
ตอนที่ 1660 เสียแรงที่เป็นลูกท่านพ่อ
แต่ว่า เขาไม่อาจแสดงออกมาได้ เขาไม่อาจหวาดกลัวและขี้ขลาด เพราะเขาต้องปกป้องนายท่านของเขา ปกป้องเขาจนกว่าจะเจอองค์หญิง
เสี่ยวเฟิ่งเย่ได้สติกลับคืนมาจากภวังค์ตกตะลึง เขารู้สึกได้ว่าตัวของหยางหยางที่อุ้มเขาอยู่กำลังสั่นเทา จึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปตบหัวของหยางหยางเบาๆ เป็นการปลอบใจ เหมือนที่ท่านพ่อของเขาทำกับท่านแม่ของเขา ก่อนจะเปล่งเสียงพูดอ้อแอ้
“หยางหยาง ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นไรแล้ว มีเย่เอ๋อร์อยู่กับเจ้านี่แล้วอย่างไร!”
ได้ยินอย่างนั้น เจ้าหยางอบอุ่นหัวใจ ค่อยๆ ใจเย็นลง “ข้าไม่กลัวขอรับ”
เขากลัวไม่ได้ หากเขากลัว นายท่านจะทำอย่างไร? นายท่านยังเด็กกว่าเขา ยังเป็นเด็กที่เนื้อตัวนุ่มนิ่มอยู่เลย เขาต้องปกป้องนายท่าน เขารับปากไว้หลายคนว่าจะปกป้องเขาให้ได้
ในอีกด้าน พวกเฟิ่งจิ่วที่เดิมทีตั้งใจจะมุ่งหน้าไปยังราชวงศ์เซวียนหยวน หลังจากได้ยินข่าวว่าเกิดเรื่องกับราชวงศ์เฟิ่งหวง ก็รีบเดินทางกลับทันที เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่เดิมทีตั้งใจจะกลับไปพร้อมกับพวกเขาได้รับข่าวด่วนจากเสด็จพ่อของเขา จึงทำได้เพียงกลับวังไปก่อน
หลังจากเดินทางอยู่ประมาณสิบกว่าวัน พวกเฟิ่งจิ่วก็มาถึงในอาณาเขตของราชวงศ์เฟิ่งหวงในที่สุด
บนเรือบิน บรรยากาศตึงเครียด เฟิ่งเซียวสีหน้าเหมือนตำหนิตนเอง “หากข้าไม่พาหงส์ไฟมาหาพวกเจ้าด้วย บางที พวกท่านพ่ออาจไม่เป็นไร ล้วนเป็นความผิดข้า ล้วนต้องโทษข้า…”
ตลอดทาง เขาเอาแต่ตำหนิตนเอง เขาคิดว่าเป็นเพราะเขาพาหงส์ไฟออกมาด้วยจึงทำให้พ่อของเขาตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกผู้แข็งแกร่งเหล่านั้น หากมีหงส์ไฟอยู่ด้วย แม้สถานการณ์จะเลวร้ายอีกเพียงใด อย่างน้อยก็ยังปกป้องพวกเขาไว้ได้ แต่ตอนนี้…
พ่อของเขาตายอย่างอนาถ องครักษ์ตระกูลเฟิ่งเสียหายไปกว่าครึ่ง แต่ละคนล้มตายอยู่ในวังหลวง ทิ้งชีวิตไว้ในกองเพลิง แต่พวกเขา กลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนร้ายเป็นใคร ช่างเสียแรงที่เป็นลูกของท่านพ่อจริงๆ!
“ท่านพ่อ ท่านอย่าตำหนิตนเองอีกเลย หากจะโทษก็ควรโทษข้า ต้องเป็นศัตรูที่ข้าสร้างไว้ข้างนอกมาตามล้างแค้นที่ราชวงศ์เฟิ่งหวงแน่ๆ ต้องเป็นเพราะข้าแน่ๆ พวกท่านปู่ถึงต้องเอาชีวิตไปทิ้งในทะเลเพลิง ข้าต่างหากคือคนที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เพียงแต่ ตอนนี้พวกท่านปู่ไม่อยู่แล้ว แต่เสี่ยวเฟิ่งเย่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเราต้องตามหาเสี่ยวเฟิ่งเย่ก่อน”
เฟิ่งจิ่วเองก็ทุกข์ใจเช่นกัน เธอคิดว่าคนพวกนี้อาจเป็นศัตรูของเธอก็ได้ เธอเป็นคนที่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน นึกถึงท่านปู่ที่รักและเอ็นดูนางถูกบีบคั้นให้ต้องตายอยู่ในทะเลเพลิง หัวใจของเธอบีบคั้นยิ่งนัก เจ็บจนไม่อาจหายใจ
ในหู ราวกับมีเสียงของท่านปู่เรียกขานชื่อของเธอดังก้องอยู่…
บนถนนใหญ่ เขานั่งอยู่หน้าร้านสุราของคนอื่นเขา ถือไหสุราเพื่อขอสุราดื่ม แล้วยังตำหนิคนอื่นเขาว่าสุรารสไม่ดี ตอนนั้นเธอหน้าตาเสียโฉม ใช้ผ้าโปร่งปิดบังใบหน้า เขากลับจำเธอได้ทันที เสียงเรียกขานว่าแม่หนูเฟิ่งนั่นเอง ที่ละลายน้ำแข็งในหัวใจของเธอ
เธอเป็นผู้มาทีหลังแท้ๆ เธอไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแท้ๆ แต่คำว่าแม่หนูเฟิ่งของเขา การปกป้องครั้งแล้วครั้งเล่าจากเขา ความรักและความเชื่อใจอย่างไร้ข้อแม้จากเขา ทำให้เธอค่อยๆ กลายเป็นคนของตระกูลเฟิ่ง และมองพวกเขาเป็นเหมือนครอบครัว
เธอหวังจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้พวกเขา เธอหวังว่าพวกเขาจะมีความสุข แต่ตอนนี้กลับเป็นเพราะเธอ ที่ทำร้ายพวกเขาจนต้องตายอยู่ในทะเลเพลิง ทุกครั้งที่นึกถึงตรงนี้ ก็เหมือนมีคนเอามีมากรีดหัวใจของเธออย่างไรอย่างนั้น
เป็นใครกันแน่? เป็นใครที่ต้องการฆ่าล้างตระกูลของเธอ? เป็นใครที่ต้องการฆ่าครอบครัวของเธอ?
ไม่ว่าจะเป็นใคร แต่กล้ามาแตะต้องจุดต้องห้ามของเธอ แม้จะอยู่สุดล่าฟ้าเขียว เธอก็จะลากตัวคนคนนั้นออกมาให้ได้! เธอจะสับร่างคนพวกนั้นให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น จึงจะสาแก่ความแค้นในใจเธอ!
………………………………….
———————————