เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1661 เฟิ่งจิ่วกลับมา ตอนที่ 1662 ล่อเสือออกจากภูเขา
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1661 เฟิ่งจิ่วกลับมา ตอนที่ 1662 ล่อเสือออกจากภูเขา
ตอนที่ 1661 เฟิ่งจิ่วกลับมา / ตอนที่ 1662 ล่อเสือออกจากภูเขา
ตอนที่ 1661 เฟิ่งจิ่วกลับมา
“พวกท่านสองพ่อลูกอย่าโทษตนเองอีกเลย ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องรีบกลับไป ถึงบ้านเมื่อใดจึงจะรู้ว่าต้องทำอะไร และทำอย่างไร ตอนนี้ไม่ว่าพวกท่านจะโทษตนเองอย่างไรก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว” ซั่งกวนหวั่นหรงกล่าวเสียงเบา มองพวกเขาแวบหนึ่ง แล้วเสริมว่า “กลับไปแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือตามหาเด็ก ตอนนี้ไม่มีข่าวอะไร ก็ถือว่าเป็นข่าวดีเช่นกัน ฉะนั้นพวกท่านอย่ากังวลมากไปเลย”
ทั้งสองต่างเงียบงัน ไม่พูดอะไร ทำให้พวกเหลิ่งหวาที่อยู่บนเรือเห็นแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้
บินเป็นเวลานาน นอกจากจะใช้หินวิญญาณมากแล้ว คนโดยสารก็ทนไม่ไหวเช่นกัน ด้วยเหตุนี้พอเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง กอปรกับเข้ามาในอาณาเขตของราชวงศ์เฟิ่งหวงแล้ว พวกเขาจึงหยุดพักที่เมืองแห่งหนึ่ง เข้าไปในตัวเมืองแล้วหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักหนึ่งคืน แล้วค่อยออกเดินทางพรุ่งนี้
จากที่นี่ไปลองคำนวณระยะทางจากความเร็วของเรือบินดูแล้ว อีกสามวันก็น่าจะถึงราชวงศ์เฟิ่งหวงแล้ว ยิ่งใกล้ถึง ใจที่อยากกลับบ้านก็ยิ่งร้อนรน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากกลับไปเห็นภาพที่ทำให้เศร้าใจ
หลังกินมื้อเย็นเสร็จ ทุกคนนั่งพักและพูดคุยกันครู่หนึ่ง จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับห้องไปพักผ่อน ทว่ากลางดึก จู่ๆ ทุกคนก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวบนหลังคา
ทุกคนที่เดิมก็หลับไม่ลึก ครั้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็รีบลุกพรวด กระโดดออกทางหน้าต่างแล้วรวมพลังลอยตัวขึ้นด้านบน
เฟิ่งจิ่วเห็นชายชุดดำคนหนึ่งกำลังกระโดดเคลื่อนไหวอยู่บนหลังคา คนคนนั้นเห็นเธอแล้วยิงธนูใส่ ก่อนจะรีบหนีไป เห็นอย่างนั้น เธอตะโกนบอกพวกตู้ฝานที่อยู่ข้างหลัง “คุ้มกันท่านพ่อกับท่านแม่ของข้า!”
สิ้นเสียง คนก็กระโดดออกไปหลายจั้งแล้ว กวนสีหลิ่นที่กระโดดมาจากข้างหลังเห็น ก็บอกพวกเขาว่า “ข้าจะตามไปดู” เขาไม่ค่อยวางใจให้เธอตามไปเพียงลำพัง
พวกตู้ฝานมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะลงมารวมตัวกับพวกเฟิ่งเซียวในโรงเตี๊ยม “นายท่านกับคุณชายกวนไล่ตามคนไปแล้ว ผู้นำตระกูลกับฮูหยินรออยู่ในห้องก่อนเถิดขอรับ”
“เห็นหรือไม่ว่าเป็นใคร?” เฟิ่งเซียวถามเสียงเครียด “คนคนนั้นพลังเป็นอย่างไร?” พวกเขาตามไปแค่สองคน หากเป็นศัตรูที่พลังแข็งแกร่งเกินไป เกรงว่า…
“มีแค่คนเดียว น่าจะไม่มีปัญหาอะไรขอรับ” ตู้ฝานตอบ มองหงส์ไฟที่กลายร่างเป็นนกแล้วเกาะอยู่บนไหล่ซั่งกวนหวั่นหรง รู้ว่านายท่านไม่วางใจ ถึงได้สั่งให้หงส์ไฟอยู่ปกป้องพวกเขา
ทว่า ขณะที่พวกเขาเพิ่งคุยกันจบ จู่ๆ ก็เห็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งพุ่งโจมตีเข้ามา เฟิ่งเซียวรีบดึงกระบี่ยาวขึ้นมาต้านรับ จากนั้นจู่โจมคนที่อยู่นอกหน้าต่าง เงาร่างของทั้งสองโรมรันพันตีกันอยู่ท่ามกลางราตรี ผ่านไปหลายกระบวนท่า คนชุดดำมองเฟิ่งเซียวด้วยสายตาลึกซึ้ง ประกายมีดมืนพาดผ่านในดวงตา ก่อนจะรีบหมุนตัวหลบหนีไป
“พวกเจ้าเฝ้าระวังไว้! ดูแลฮูหยินให้ดี!”
เฟิ่งเซียวตะโกนสั่ง จากนั้นก็ไล่ตามคนคนนั้นไป เขาคิดว่าคนคนนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับศัตรูที่สังหารพ่อของเขาแน่ๆ! ไม่แน่ว่าอาจเป็นคนพวกนั้นส่งตัวมา!
ขอเพียงจับได้สักคน พวกเขาก็จะสืบหาความจริงได้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง! ฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ปล่อยให้เขาหนีไปไม่ได้เด็ดขาด!
เพราะในใจคิดแต่เรื่องจับคนร้าย กลับไม่สังเกตเห็นสายตาอันเป็นประกายของคนคนนั้นก็ตามไปแล้ว ครั้นตามออกมาประมาณสามสิบจั้ง กลับเห็นคนคนนั้นยืนรอเขาอยู่ในตรอกที่ร้างไร้ผู้คน
เห็นอย่างนั้น เขาจ้องชายคนนั้นด้วยสายตาระมัดระวัง สังเกตเห็นว่าคนคนนี้เป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขั้นกลาง จึงยิ่งมั้นใจว่าคนคนนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับศัตรูที่สังหารพ่อเขาแน่นอน!
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่? เหตุใดต้องเป็นศัตรูกับตระกูลเฟิ่งของเราด้วย? ผู้ใดเป็นคนบงการพวกเจ้า!” เขาตะคอกเสียงเข้ม กลิ่นอายรอบกายเกรี้ยวกราดดุดัน
………………………………….
ตอนที่ 1662 ล่อเสือออกจากภูเขา
“หึๆ เฟิ่งเซียว เสียแรงที่เจ้าเป็นถึงเจ้าผู้ครองแคว้นราชวงศ์เฟิ่งหวง นึกไม่ถึงจริงๆ กลับเป็นคนเลอะเลือนไม่ได้เรื่องเช่นนี้ มีคนเช่นเจ้าเป็นเจ้าผู้ครองแคว้น ราชวงศ์เฟิ่งหวงช้าเร็วก็ต้องถูกแคว้นอื่นรุกรานทำลาย”
คนคนนั้นแสยะยิ้มเยือกเย็น มองเขาคล้ายเย้ยหยันและเสียดสี สีหน้าเช่นนั้นยังแฝงไว้ด้วยแววตาเย้าแหย่ เหมือนกำลังเจอเรื่องสนุกก็ไม่ปาน
“แคว้นข้าจะเป็นอย่างไร ไม่เกี่ยวกับเจ้า! วันนี้ ข้าจะจับเจ้าให้ได้! และสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังคนที่ลงมือกับตระกูลเฟิ่งของเรา!” น้ำเสียงของเขาเย็นชาเกรี้ยวกราด ดวงตาพยัคฆ์เบิกกว้าง กลิ่นอายพลังเร้นลับถูกปลดปล่อยทั่วร่าง กระบี่ยาวถูกเขาทิ่มแทงเข้าไปในดิน
สองมือคว้าไปในอากาศ กลิ่นอายพลังเร้นลับที่เดือดพล่านรวบรวมกระแสอากาศมาไว้กลางสองฝ่ามือ เห็นเพียงกระแสอากาศที่ส่งเสียงหวีดหวิวหมุนวนอยู่กลางสองฝ่ามือเขา เมื่อจิตเขาเคลื่อนขยับ สองหมัดก็ซัดออกไป
“เอาหมัดข้าไปกิน!”
เสียงคำรามดังลั่น สองหมัดซัดออกไป หมัดสองลูกนั้นโจมตีออกไปราวแฝงไว้ด้วยน้ำหนักพันชั่ง ขณะที่ซัดหมัดออกไป กระแสอากาศที่โอบล้อมรอบหมัดกลายเป็นกำปั้นขนาดใหญ่สองลูกพุ่งจู่โจมออกไป
คนผู้นั้นนึกไม่ถึงว่าเขาบอกโจมตีก็จะโจมตีทันที อีกทั้งยังโจมตีดุดันถึงเพียงนี้ สองหมัดซัดออกไปรุนแรงดุจพยัคฆ์วิ่งลงจากเขา หมัดยังไม่ทันถึงตัว กระแสอากาศอันแข็งแกร่งและแรงกดดันกลับทำให้เขาต้องถอยหลังไปหลายก้าว เสียหลักจนเกือบล้มลงไปนั่งบนพื้น
เขาตั้งหลักยืนอย่างมั่นคงได้ในนาทีสุดท้าย หลังยืนอย่างมั่นคงได้ก็รวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณแล้วซัดโจมตีไปข้างหน้า เห็นเพียงกระแสอากาศสองขุมปะทะกันเสียงดังสนั่น เมื่อเสียงระเบิดดังก็ก็ถูกดีดถอยหลังออกไปไกลหลายจั้ง เลือดกระอักออกจากมุมปากของทั้งสองฝ่าย
เฟิ่งเซียวไม่สนใจเลือดลมที่ปั่นป่วนในร่างกาย เขาเห็นชายชุดดำได้รับบาดเจ็บ จึงคิดจะฉวยโอกาสโจมตีซ้ำ กระแสพลังในร่างกายเดือดพล่าน กลิ่นอายพลังเร้นลับระเบิดออกจากตัว ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอีก นาทีต่อมา เขาโฉบไปข้างหน้าราวกับเหาะเหิน ซัดหมัดที่เต็มไปด้วยไอสังหารใส่ชายชุดดำ…
ในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วกับกวนสีหลิ่นไล่ตามคนชุดดำไป เดิมทีมีคนชุดดำเพียงคนเดียว แต่พอมาถึงนอกเมือง กลับมีกลุ่มชายชุดดำหลายคนพรั่งพรูออกมาจากในที่ลับ คนพวกนี้ล้วนมีพลังอยู่ในระดับเซียนเหิน ขั้นพลังสูงต่ำต่างกันไป
เห็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินเจ็ดแปดคนนั้น กวนสีหลิ่นตื่นตระหนก ดังคาดไว้ สัญชาตญาณของเขาถูกต้องแล้ว เมื่อครู่เขารู้สึกสังหรใจไม่ดี รู้สึกว่าจะมีออันตรายจึงตามมา โชคดีที่เขาตามมา ไม่เช่นนั้น เสี่ยวจิ่วคนเดียวจะรับมือผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินเจ็ดแปดคนได้อย่างไร?
เพียงแต่ ใครเป็นคนส่งคนพวกนี้มากันแน่? ถึงได้ลงทุนลงแรงจะเอาชีวิตนางถึงเพียงนี้? กลุ่มอำนาจทั่วไป เกรงว่าจะไม่มีผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินมากมายขนาดนี้ อีกอย่าง คนพวกนี้รู้ได้อย่างไรว่าพวกเขามาถึงที่นี่แล้ว?
ความสามารถในการสืบสวนอย่างทะลุปรุโปร่งเช่นนี้ ราวกับร่องรอยและทุกการกระทำของพวกเขาล้วนตกอยู่ในสายตาของคนพวกนี้ที่ซ่อนอยู่ในที่มืด อำนาจควบคุมที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก
คล้ายกับว่า ผ่านมานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอกลุ่มอำนาจที่น่ากลัวจนไม่อาจหยั่งรู้ได้ อีกทั้งจนถึงตอนนี้ พวกเขาล้วนไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครกันแน่?
เสี่ยวจิ่วเคยมีเรื่องกับกลุ่มอำนาจที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่เช่นนี้ด้วยหรือ? จากที่เขารู้มา คล้ายจะไม่เคย ถ้าอย่างนั้น เหตุใดคนพวกนี้จึงเล่นงานนางครั้งแล้วครั้งเล่า?
ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินมากมายขนาดนี้ ช่างลงทุนยิ่งนัก! พวกเขาตั้งใจจะเอาชีวิตนางให้ได้กระมัง!
………………………………….