เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1667 หาเฟิ่งเซียวเจอแล้ว ตอนที่ 1668 บุคคลลึกลับ
ตอนที่ 1667 หาเฟิ่งเซียวเจอแล้ว / ตอนที่ 1668 บุคคลลึกลับ
ตอนที่ 1667 หาเฟิ่งเซียวเจอแล้ว
ทุกคนที่ได้ยินอย่างนั้นหันไปมองนอกหน้าต่าง ก็เห็นเฟิ่งจิ่วกับกวนสีหลิ่นนั่งขนนกบินมุ่งหน้ามาทางนี้ เพียงแต่ ความดีใจที่ได้ยินว่าพวกเขากลับมา เลือนหายไปในพริบตาเมื่อเห็นเลือดและบาดแผลทั้งตัวของพวกเขา แต่ละคนสูดหายใจ หัวใจบีบคั้นตามไปด้วย
ตู้ฝาน เหลิ่งหวาและเหลิ่งซวงรีบเหาะเข้าไปประคองพวกเขา รับพวกเขาเข้ามาในเรือนแล้วพยุงไปนั่งลงบนเก้าอี้ “นายท่าน เหตุใดบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้?”
ตอนไล่ตามออกไปก็มีแค่คนเดียวแท้ๆ หรือว่าจะมีการซุ่มโจมตีอยู่?
เฟิ่งจิ่วไม่ตอบ แต่หลังจากมองหน้าทุกคน ก็พบว่าไม่เห็นเงาท่านพ่อของเธอ หัวใจพลันหนักอึ้ง ถามว่า “ท่านพ่อของข้าเล่า?”
“หลังจากนายท่านออกไปก็มีคนชุดดำมาโจมตีอีก ผู้นำตระกูลไล่ตามออกไป จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยขอรับ” ตู้ฝานบอก พูดจบก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แม้แต่นายท่านกับกวนสีหลิ่นยังบาดเจ็บขนาดนี้ เช่นนั้นเฟิ่งเซียวออกไป จะเจอกับดักซุ่มโจมตีด้วยหรือไม่?
เขาบอก “ข้าจะรีบออกไปตามหาเดี๋ยวนี้ขอรับ!”
“หงส์ไฟ เจ้าไปกับเขาด้วย” เฟิ่งจิ่วสั่งให้หงส์ไฟออกไปตามหาด้วยกัน เธอเป็นห่วงว่าท่านพ่อของเธอจะเจอการซุ่มโจมตี หากเป็นอย่างนั้นจริง เธอไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาว่าจะเลวร้ายเพียงใด
“แผลของท่าน…” หงส์ไฟลังเลเล็กน้อย สำหรับมัน ไม่มีความปลอดภัยของผู้ใดสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของเธออีกแล้ว ยามนี้เธอบาดเจ็บถึงขนาดนี้ เขาจะออกไปตามหาพ่อของเธอได้อย่างไรกัน?
“ข้าไม่เป็นไร ล้วนเป็นแค่บาดแผลภายนอกทั้งนั้น” เธอพูดเสียงอ่อนโยน เพียงแต่อาการเจ็บตึงจากบาดแผล ทำให้หน้าของเธอซีดลงหลายส่วน เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก
“หงส์ไฟ เจ้าไปเถิด! ตรงนี้มีข้าคอยดูแลอยู่ ไม่เป็นอะไรหรอก” ซั่งกวนหวั่นหรงกล่าว นางเองก็กังวลว่าเฟิ่งเซียวจะเจอการซุ่มโจมตี รู้อย่างนี้ นางน่าจะรั้งเขาไม่ให้ไล่ตามไปแต่แรก
“หงส์ไฟ รีบไปเถิด! ตอนนี้ความปลอดภัยของพ่อบุญธรรมสำคัญที่สุด” กวนสีหลิ่นเองก็เร่งเร้า
“ได้ เช่นนั้นข้าจะออกไปตามหา พวกท่านต้องระวังตัวด้วย” หงส์ไฟบอก แล้วออกไปพร้อมกับตู้ฝาน
“เสี่ยวจิ่ว พวกข้าจะลงยาและพันแผลให้เจ้า” ซั่งกวนหวั่นหรงกับเหลิ่งซวงประคองเธอเข้าไปในห้องข้างใน พลางกำชับเหลิ่งหวาให้ทำแผลให้กวนสีหลิ่นด้วย
หลังจากที่ทั้งสองจัดการแผลบนตัวแล้ว ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เพียงแต่ผ่านไปนานแล้วก็ยังไม่เห็นพวกเขากลับมา เฟิ่งจิ่วกับซั่งกวนหวั่นหรงก็ยิ่งกระวนกระวาย
“เหลิ่งซวง เหลิ่งหวา พวกเจ้าสองคนก็ออกไปช่วยตามหาด้วยเถิด!” เฟิ่งจิ่วสั่ง
“ขอรับ” ทั้งสองรับคำ หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก
ในห้องเหลือเพียงสามคนที่นั่งอยู่ ซั่งกวนหวั่นหรงมองทั้งสองที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยแผล ถามว่า “นี่เป็นฝีมือใครกันแน่? พวกเจ้ารู้หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า “ไม่แน่ใจเหมือนกันเจ้าค่ะ รู้แค่ว่าคนที่ถูกส่งตัวมาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหิน แต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดา เกรงว่าจะไม่ใช่กลุ่มอำนาจทั่วไป อีกทั้งที่น่าแปลกก็คือ พวกเขามีโอกาสฆ่าพวกข้า แต่กลับไม่ลงมือปลิดชีพ”
ได้ยินอย่างนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงเองก็สงสัย “นี่มันเพราะอะไรอีก? หรือว่าพวกเขามีจุดประสงค์อื่น?”
“ไม่ทราบเช่นกันเจ้าค่ะ” เฟิ่งจิ่วบอก หันมองออกไปข้านอก “หวังเพียงว่าท่านพ่อจะไม่เป็นไรเท่านั้น!”
ทั้งสามรออยู่ในห้อง กระทั่งท้องฟ้าเริ่มสว่าง ถึงเห็นพวกเขาพาเฟิ่งเซียวที่หมดสติกลับมา ครั้นเห็นพวกเขากลับมา เฟิ่งจิ่วอดกลั้นต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลที่แข้งเดินเข้าไปหา “เกิดอะไรขึ้น ท่านพ่อข้าหมดสติได้อย่างไร บาดเจ็บหนักมากหรือ?” ขณะพูด เธอยื่นมือไปจับชีพจรของท่านพ่อของเธอ ครั้นจับดูก็อดถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ได้
………………………………….
ตอนที่ 1668 บุคคลลึกลับ
“โชคดีที่แผลบนตัวเป็นแค่แผลภายนอก อาการบาดเจ็บภายในไม่ได้หนักมาก” เธอพูดด้วยน้ำเสียงแช่มช้า แล้วพยุงโต๊ะพาตนเองนั่งลงบนเก้าอี้ รู้สึกเพียงหัวใจที่ตื่นตระหนกผ่อนคลายลงแล้ว
พวกท่านปู่ไม่อยู่แล้ว เท่านี้ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดมากพอแล้ว เธอไม่อยากจินตนาการ หากท่านพ่อถูกฆ่าเพราะเธออีก เช่นนั้นเธอคง…
“บาดเจ็บไม่หนักหรือ? เช่นนั้นเหตุใดพ่อบุญธรรมจึงหมดสติเล่า?” กวนสีหลิ่นถาม รู้สึกกังวลเล็กน้อย
ซั่งกวนหวั่นหรงที่อยู่ด้านหนึ่งก็เก็บมือกลับมาหลังจากจับชีพจรของเฟิ่งเซียว “เหมือนที่เสี่ยวจิ่วบอก บาดแผลล้วนเป็นบาดแผลภายนอก อาการบาดเจ็บภายในไม่ได้รุนแรง ที่เขาหมดสติเป็นเพราะเลือดลมในร่างกายตีกัน ได้รับแรงกระทบกระทบเทือนจิตใจอย่างหนักถึงได้หมดสติไป พักผ่อนแล้วกินยาคลายเครียดหน่อยก็น่าจะฟื้น”
“ถูกต้อง” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ท่านพ่อของเธอไม่ได้บาดเจ็บจนเป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน เรื่องนี้ทำให้นางโล่งใจ ขณะเดียวกันลึกๆ ข้างในก็รู้สึกไม่สบายใจ คนพวกนั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่? เหตุใดเล่นงานพวกเขาแต่กลับไม่เอาชีวิตพวกเขา?
ที่ผ่านมาเธอรู้ตลอดว่าศัตรูเป็นใคร แต่ครั้งนี้เธอไม่รู้แม้กระทั่งว่าศัตรูของเธอเป็นใคร ไม่รู้ด้วยว่าสร้างศัตรูผู้นี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด ตรงกันข้าม อีกฝ่ายกลับรู้การเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นอย่างดี ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกสังหรณ์ใจ เอาแต่รู้สึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอตั้งตัวรับมือไม่ทัน
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” กวนสีหลิ่นบอก แล้วหันไปกำชับตู้ฝานกับเหลิ่งหวาว่า “พวกเจ้าประคองเขาเข้าไปทำแผลก่อนเถิด”
“ขอรับ” ทั้งสองรับคำ แล้วพยุงเฟิ่งเซียวที่หมดสติอยู่เข้าไปข้างใน
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วหันไปถามหงส์ไฟ “พวกเจ้าเจอท่านพ่อข้าที่ไหน ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ที่นั่นด้วยหรือ?”
“เจอในตรอกเล็กๆ เส้นหนึ่ง ตอนพวกข้าไปถึงเขาก็หมดสติไปแล้ว ที่นั่นมีแค่เขาคนเดียว แต่ดูจากร่องรอยบริเวณนั้นแล้ว เขาน่าจะประมือกับผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินคนหนึ่ง” หงส์ไฟอธิบาย กระพือปีกทิ้งตัวลงบนพื้น
เฟิ่งจิ่วเม้มปาก สายตาสะท้อนแววครุ่นคิด เป็นอย่างนี้อีกแล้ว เพียงทำให้บาดเจ็บแต่ไม่เอาชีวิตอีกแล้วหรือ? คนพวกนั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่?
ขณะเดียวกัน ในป่าลึกนอกเมือง บนเรือบินลำหนึ่ง เหล่าผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินที่โจมตีพวกเฟิ่งจิ่วกำลังรายสถานการณ์ให้นายของพวกเขา
“พวกข้าทำตามที่นายท่านสั่ง เพียงทำให้พวกเขาบาดเจ็บแต่ไม่ได้ปลิดชีพพวกเขา ต่อมาได้รับสัญญาณก็ถอยกลับมาทันทีขอรับ” คนเจ็ดแปดคนที่โจมตีเฟิ่งจิ่วกับกวนสีหลิ่นรายงานให้คนในเรือบินฟัง
ด้านข้าง ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินอีกคนเสริมว่า “ข้าก็ทำตามที่นายท่านสั่งเช่นกัน เล่าเรื่องที่เฟิ่งจิ่วอาจถูกยึดร่างให้เฟิ่งเซียวฟังโดยใส่สีตีไข่เพิ่มเข้าไปอีก เฟิ่งเซียวรับไม่ได้จนกระอักเลือดและหมดสติไป ข้าเชื่อว่าพอเขาฟื้นแล้วจะต้องมีเรื่องสนุกให้ดูแน่ขอรับ”
“หึๆ เฟิ่งจิ่วผู้นี้ก็ถือเป็นคนมีความสามารถ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นดวงวิญญาณที่มาจากที่ใด? ถึงได้รวมความสามารถมากมายไว้ร่างเดียว เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะจริงๆ กระทั่งหากคิดจะฆ่านาง ก็ยังรู้สึกเสียดาย”
เสียงนั้นฟังดูไม่สมจริง เปลี่ยนผันไปมา ราวกับเสียงพูดนั้นไม่ใช่เสียงที่แท้จริงของเขา ไม่อาจแยกแยะได้จากเสียงนั้นว่าผู้พูดเป็นชายหรือหญิง เป็นคนแก่หรือคนหนุ่ม รู้เพียงว่า เสียงนั้นแฝงไว้ด้วยแรงกดดันอันแข็งแกร่งจนพาให้อกสั่นขวัญหาย แม้แต่เหล่าผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินที่อยู่ข้างนอกเมื่อได้ยินเสียงของเขา ก็อดก้มหัวด้วยอย่างนอบน้อมไม่ได้
“พวกเจ้าว่า หลังจากนี้เฟิ่งเซียวจะทำอย่างไรกับเฟิ่งจิ่ว? จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น? หรือว่าสังหารดวงวิญญาณที่ยึดร่างลูกสาวของเขา และทำให้พวกเขาต้องบ้านแตกสาแหรกขาด?”
เสียงนั้นฟังดูเหมือนกำลังตื่นเต้น คล้ายตั้งตารอดูว่าหลังจากนี้เรื่องราวจะเป็นอย่างไร
………………………………….