เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1711 เจ้าขนเขียวที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุม ตอนที่ 1712 เฟิ่งจิ่วออกจากการเก็บตัวฝึกตน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1711 เจ้าขนเขียวที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุม ตอนที่ 1712 เฟิ่งจิ่วออกจากการเก็บตัวฝึกตน
ตอนที่ 1711 เจ้าขนเขียวที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุม / ตอนที่ 1712 เฟิ่งจิ่วออกจากการเก็บตัวฝึกตน
ตอนที่ 1711 เจ้าขนเขียวที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุม
เสี่ยวเฮยยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันมองเฟิ่งจิ่วอย่างงงงัน แล้วเอียงคอมองไปรอบๆ ไม่รู้ว่ากำลังมองอะไรอยู่
“พักนี้พวกเจ้าไม่เห็นเจ้าขนเขียวเลยหรือ?” เฟิ่งจิ่วถาม พลางสาวเดินไปทางทุ่งยาทิพย์ช้าๆ
“ขนเขียว?”
สัตว์คู่พันธสัญญาทั้งสามชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่เห็นเลย มันก็อยู่ในนี้ด้วยหรือขอรับ?” ก็ได้! พวกมันมองข้ามไก่ตัวนั้นไปจริงๆ อีกทั้ง พักนี้ก็ได้ยินเสียงขันโหวกเหวกของเจ้าขนเขียวด้วย
“ข้าเองก็เพิ่งนึกออก ว่ามันอยู่ในนี้ตลอด ไม่เคยออกไป” เฟิ่งจิ่วเอ่ยพลางเดินไปข้างหน้า สอดส่องรอบๆ แปลงยาทิพย์
ใครจะรู้ ยังคงไม่ได้ยินเสียงอะไร ฉะนั้นเธอจึงปล่อยดวงจิตออกไปสำรวจรอบๆ สุดท้ายสายตาก็จับจ้องไปยังพื้นหญ้าที่อยู่ไม่ไกลจากแปลงยาทิพย์
เธอเดินไปข้างหน้า มาหยุดอยู่หน้าพุ่มหญ้าแล้วย่อตัวนั่งลง มองดูหลุมเล็กๆ ที่ถูกหญ้าบดบัง ก็อดสงสัยไม่ได้ เธอตะโกนเข้าไปในหลุมเล็กๆ นั่น “เจ้าขนเขียว เจ้าแอบอยู่ข้างในทำอะไร?”
เจ้าขนเขียวตัวนี้ ไม่นึกเลยว่าจะขุดหลุมแล้วซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เพียงแต่ มันเป็นไก่ ไม่ใช่หนูดิน เหตุใดจึงซ่อนตัวอยู่ในหลุมเช่นนี้? ถึงแม้ต้องการหารัง ก็ควรจะเป็นรังหญ้าถึงจะถูก!
ไหนเลยจะรู้ เจ้าขนเขียวชะโงกหน้าออกมามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก็หดหัวกลับไปโดยไม่ส่งเสียงใดๆ คล้ายไม่คิดจะออกมา อีกทั้งดวงตาเล็กๆ คู่นั้นยังมองเฟิ่งจิ่วอย่างตักเตือนและระแวดระวัง
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วอึ้งเล็กน้อย นึกสงสัยในใจ จึงถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วหันไปพูดกับหงส์ไฟ “จับเจ้าขนเขียวออกมาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ได้” หงส์ไฟรับคำแล้วก้าวไปข้างหน้า ทว่ามันยังไม่ทันลงมือ เจ้าขนเขียวที่อยู่ข้างในก็ร้องขึ้นมา
“กุ๊กๆๆ! ไม่เอาๆ! ข้าไม่ออกไป!” มันแหงนหน้าส่งเสียงร้องกุ๊กๆ ก่อน จากนั้นก็ตะโกนด้วยภาษามนุษย์ กลัวว่าเฟิ่งจิ่วจะให้หงส์ไฟจับมันออกไปจริงๆ
เพราะตอนนั้นให้เจ้าขนเขียวกินยาพูดได้เพื่อสะดวกในการสื่อสารไปด้วย บางครั้งนอกจากมันจะขัน มันก็พูดภาษามนุษย์ด้วย เพียงแต่ หลังจากเข้ามาในห้วงมิติก็เหมือนจะไม่เคยได้ยินเสียงมันอีกเลย ไม่เช่นนั้นเธอกับเหล่าสัตว์คู่พันธสัญญาก็คงไม่ลืมมัน
“เหตุใดไม่ออกมา? เจ้าไม่เป็นไรกระมัง?” เฟิ่งจิ่วถาม พยักหน้าให้หงส์ไฟถอยไป แล้วถามว่า “เจ้าซ่อนตัวอยู่ข้างในทำอะไร?”
ใครจะรู้ เจ้าขนเขียวกลอกตาเล็กๆ คู่นั้นไปมา แล้วตอบว่า “ข้างในนี้อุ่น”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก เหลือบมองเจ้าขนเขียวด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ข้างในอุ่นงั้นหรือ? เช่นนั้นข้าเติมไฟให้เจ้า ย่างเจ้าเสียให้สุกเลยเอาหรือไม่? บางทีอย่างนี้คงจะอุ่นกว่า เจ้าว่าหรือไม่?”
“ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร” เจ้าขนเขียวพูดเหมือนน้อยใจ “ข้าก็แค่แอบกินยาทิพย์ของท่านเป็นบางครั้ง ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร ท่านก็จะย่างข้ากินเลยหรือ?”
“ไม่อย่างนั้นเล่า? เจ้าลองว่ามา เจ้าซ่อนตัวอยู่ข้างในทำอะไร?”
เธอถาม แต่กลับเห็นเจ้าขนเขียวนั่งฟุบอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน อีกทั้งปีกคู่นั้นก็กางออกเหมือนกำลังป้องของบางอย่างที่อยู่ด้านล่างตลอดเวลา เธอเห็นก็พลันสะดุดใจ
“เจ้าซ่อนอะไรไว้ข้างล่าง?” เธอโพล่งปากถามออกไป พลางคิดในใจ หรือขโมยยาทิพย์อะไรมาซ่อนไว้ไม่ให้เธอรู้?
“ไม่ได้ซ่อนอะไร” เจ้าขนเขียวตอบอย่างลนลาน ร่างกายกลมอ้วนเกร็งไปทั้งตัว เหมือนกำลังบอกว่าตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง[1]
“อ้อ? เช่นนั้นหรือ? อย่างนั้นก็แล้วไป ในเมื่อเจ้าไม่ออกมาก็อยู่ข้างในไปก็แล้วกัน!” เธอบอกพลางก้าวถอย แล้วส่งสายตาให้หงส์ไฟ
………………………………….
ตอนที่ 1712 เฟิ่งจิ่วออกจากการเก็บตัวฝึกตน
เจ้าขนเขียวเห็นเธอหมุนตัวจากไป เพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งออก ใครจะรู้ว่าพริบตาต่อมา กรงเล็บข้างหนึ่งก็ยื่นเข้ามาข้างใน จับตัวมันออกไป
“กุ๊กๆๆ! เจ้าคนเลว!” มันตะโกนด่าด้วยความลนลาน แต่กลับเห็นเฟิ่งจิ่วล้วงมือเข้าไปข้างใน แล้วหยิบของก้อนนั้นออกมา
“นี่อะไร?”
เฟิ่งจิ่วมองไข่มุกกลมๆ ในมืออย่างประหลาดใจ มันมีขนาดเท่าไข่ไก่ ดูไม่เหมือนไข่ น่าจะเป็นมุกอะไรสักอย่าง เพียงแต่ กลับดูไม่ออกว่าเป็นมุกอะไร รู้เพียงว่า มุกเม็ดนี้มีกลิ่นอายพลังวิญญาณเข้มข้นกระจายอยู่รอบๆ
“นั่นข้าคลอดออกมาเอง ข้าคลอดออกมา! นั่นของข้า! กุ๊กๆๆ!” ขนไก่ตั้งชันทั้งตัว มองเฟิ่งจิ่วด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านและตื่ตัว ดวงตาเล็กๆ จ้องไข่มุกในมือของเธอเขม็ง
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองมันแวบหนึ่ง แล้วยิ้มมุมปาก “แม้แต่เจ้าก็ยังเป็นของข้า ไข่ที่เจ้าออก ย่อมต้องเป็นของข้าด้วย แต่นี่เหมือนจะไม่ใช่ไข่กระมัง?”
เธอยื่นมือไปลูบก้อนที่อยู่ในท้องของเจ้าขนเขียว ตามคาด หายไปแล้ว ดูท่า พักนี้ที่มันซ่อนตัวอยู่ในนี้คงเพราะออกไข่มุกเม็ดนี้ออกมา?
แต่นี่มันไข่มุกอะไรกันแน่? สีของมันออกหม่นๆ รู้เพียงพลังวิญญาณของมันเข้มข้นมาก แต่กลับดูอะไรอย่างอื่นไม่ออก
เจ้าขนเขียวเห็นอย่างนี้ ก็อดก้มหน้าอย่างหมดแรงไม่ได้ “ข้านึกแล้วว่าหากถูกท่านจับได้ต้องปกป้องไว้ไม่ได้แน่ ช่างเถิดๆ ให้ท่านก็แล้วกัน!” นึกถึงที่มันกินอยู่กับเธอ ยกไข่มุกก้อนนี้ให้เธอก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ ถึงอย่างไรแม้ไม่มีพันธสัญญา แต่เธอก็นับได้ว่าเป็นเจ้านายของมันครึ่งหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ปกป้องไข่มุกก้อนนี้มาครึ่งปีแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร
“เอาล่ะ ออกไปกันได้แล้ว!” เธอเก็บไข่มุกแล้วสะบัดแขนเสื้อ จากนั้นก็พาพวกมันออกไป
เพียงพริบตาเดียว พวกเขาก็ปรากฏตัวในห้อง เหล่าไป๋พุ่งออกไปก่อน แล้วตะโกนด้วยความดีใจ “แม่นางเหลิ่งซวงคนงาม! มาดูนี่เร็ว ข้าทะลวงขั้นแล้ว! ข้ากลายเป็นมังกรแล้ว!”
ทว่า มันที่บินออกไปกลับถูกเขตอาคมดีดกลับเข้ามา ล้มลงบนพื้นลานบ้าน กลืนเมฆาที่อยู่ข้างหลังเค่อยๆ เดินออกมา เหลือบมองมันแวบหนึ่ง “กลายเป็นมังกรก็เปลี่ยนนิสัยเดิมเจ้าไม่ได้ ไม่เห็นหรือว่านายท่านร่ายเขตอาคมกับค่ายกลไว้? พุ่งออกมาชนเช่นนี้ ช่างไม่มีสมองจริงๆ”
เหล่าไป๋อ้าปาก เบิกตากว้าง สุดท้ายกลับพูดไม่ออก ทำได้เพียงถอยไปอยู่ด้านหนึ่ง แล้วรอนายท่านออกมา
ผ่านไปไม่นาน เฟิ่งจิ่วเดินออกมาจากข้างใน โบกมือสลายเขตอาคมและค่ายกล ขณะเดียวกันก็กำชับให้พวกมันไปเรียกเหลิ่งซวงมา
ด้วยเหตุนี้ เหล่าสัตว์คู่พันธสัญญาตัวน้อยรีบแย่งกันวิ่งออกไปข้างนอก เหล่าไป๋คุยโวกับพวกองครักษ์เรื่องที่มันทะลวงขั้นไปทั่ว ส่วนหงส์ไฟบินสังเกตการณ์รอบๆ กลืนเมฆากลับเดินเข้าไปในป่าอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ แม้แต่เจ้าขนเขียวก็ยังกระพือปีกบินออกไปพร้อมกับร้องเสียงดังกระโตกกระตาก มีเพียงเสี่ยวไป๋ที่นั่งเฝ้าอยู่ในลานบ้านเงียบๆ
เพียงพริบตาเดียว ทุกคนก็รู้แล้วว่าเฟิ่งจิ่วออกจากการเก็บตัวแล้ว เมื่อได้ยินข่าวนี้ ทุกคนล้วนยิ้มอย่างดีใจ
ออกมาก็ดีแล้ว ครึ่งปีมานี้ พวกเขาเป็นห่วงมาตลอด
“นายท่าน” เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวามากันทั้งสองพี่น้อง เห็นนายท่านยืนอยู่กลางลานบ้านในชุดสีแดง ทั้งสองตาเป็นประกาย แววดีใจพาดผ่านดวงตา
ไม่ได้เจอนายท่านครึ่งปี บุคลิกและราศีของนางเปลี่ยนไปมาก กลิ่นอายรอบตัวราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งกับผืนฟ้าและแผ่นดิน หากไม่สังเกตอย่างละเอียด ก็แทบไม่รับรู้ถึงกลิ่นอายของนาง
ทว่า สิ่งที่น่าแปลกมากก็คือ กลิ่นอายรอบตัวนางแข็งแกร่งมาก และพลังของนางก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
………………………………….
[1]ตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึง อยากปกปิดซ่อนเร้น กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้
————————