เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1735 ผู้ครองแคว้นจักรวรรดิบุริมฉายตื่นตะลึง ตอนที่ 1736 ขอความช่วยเหลือไปทั่ว
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1735 ผู้ครองแคว้นจักรวรรดิบุริมฉายตื่นตะลึง ตอนที่ 1736 ขอความช่วยเหลือไปทั่ว
ตอนที่ 1735 ผู้ครองแคว้นจักรวรรดิบุริมฉายตื่นตะลึง / ตอนที่ 1736 ขอความช่วยเหลือไปทั่ว
ตอนที่ 1735 ผู้ครองแคว้นจักรวรรดิบุริมฉายตื่นตะลึง
“ชิ้ง!”
“อ๊าก!”
พลังแห่งดาบอันดุดันพุ่งออกไป ไม่นาน ก็เห็นเลือดสีแดงสดกระเซ็นกลางอากาศ อาวุโสเหยียนที่พยายามหนีอยู่ข้างหน้าถูกฟันขาดเป็นสองท่อนทั้งเป็น เสียงกรีดร้องโหยหวนแฝงแววเจ็บแค้นดังสนั่น ก้องสะท้อนอยู่กลางอากาศ…
“ไม่…”
ศพของเขาร่วงตกลงจากกลางอากาศ พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่เงียบไป รอบข้างเงียบกริบ แม้แต่พลังกลิ่นอายวิญญาณและกลิ่นอายพลังเร้นลับที่ป่วนพล่านอยู่กลางอากาศก็ค่อยๆ จางหายไปด้วย
กวนสีหลิ่นกระโดดลงมาจากกลางอากาศ มาหยุดยืนอยู่ข้างศพของอาวุโสเหยียน เก็บถุงฟ้าดินรวมถึงแหวนห้วงมิติบนตัวเขา จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปหาองครักษ์เฟิ่ง แล้วถามว่า “จัดการถึงไหนแล้ว?”
“วางใจขอรับ ไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว” ตู้ฝานตอบ
“เช่นนั้นก็ดำเนินแผนขั้นที่สองได้” กวนสีหลิ่นพยักหน้า พลางหันไปมองพวกหลัวอวี่
“ได้ขอรับ พวกข้าจะเคลื่อนไหวทันที” พวกหลัวอวี่รับคำ พวกเขาแปดคนแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม พาองครักษ์เฟิ่งและกลืนเมฆาออกไป เตรียมแผนการขั้นที่สอง
กวนสีหลิ่นกับตู้ฝานมองหน้ากัน ทั้งสองเองก็ไปจากที่นี่เช่นกัน และมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแห่งนั้น…
ทว่านอกเมือง เฟิ่งจิ่วที่เพิ่งฝึกซ้อมกับฮุยหลางได้ไม่นานก็หยุดการซ้อม แหงนหน้ามองท้องฟ้า กลีบปากกระตุกเล็กน้อย บอกพวกเขาว่า “ไปกันเถิด! พวกเจ้าอยากยืดเส้นยืดสายไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ได้เวลาแล้ว”
ทุกคนได้ยินก็ตาเป็นประกาย นี่จะไปบุกทำลายจักรวรรดิบุริมฉายแล้วหรือ? เพียงแต่ จักรวรรดิบุริมฉายมีผู้แข็งแกร่งมากมาย หากบุกฝ่าเข้าไปซึ่งๆ หน้านี้ เกรงว่า…
พวกเขาไม่กล้าถามออกไป แต่ละคนหันไปมองฮุยหลาง หวังว่าเขาจะช่วยออกหน้าถามแทน ว่าภูตหมอมีแผนการใดกันแน่
เห็นสายตาของพวกเขา ฮุยหลางลังเลครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “ภูตหมอ พวกเราจะบุกฆ่าเข้าไปในวังหลวงซึ่งๆ หน้าเลยหรือ?”
“ทำไมเล่า? พวกเจ้ากลัวหรือ?” เฟิ่งจิ่วเหลือบมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มหยั่งเชิง
“จะเป็นไปได้อย่างไร!” ฮุยหลางยืดอก “กลัว? ข้าฮุยหลางสะกดคำว่ากลัวไม่เป็น!”
“เช่นนั้นก็ดี ไปกันเถิด! หากไปช้า พวกเจ้าอาจไม่ได้มีบทบาท” เฟิ่งจิ่วบอก จากนั้นก็รวบรวมพลังเหาะขึ้นกลางอากาศ มุ่งหน้าไปยังวังหลวงบุริมฉาย
เห็นอย่างนั้น ฮุยหลางโบกมือ “ตามภูตหมอไป! ไปถึงก็รู้เอง!”
“ขอรับ!” ทุกคนรับคำ จากนั้นก็ตามเธอไป
ณ วังหลวงบุริมฉาย
“อะไรนะ!”
บนที่นั่งสูงสุดในตำหนัก ผู้ครองแคว้นจักรวรรดิบุริมฉายลุกขึ้น เบิกตากว้างด้วยความตกใจ “เจ้าว่าอย่างไรนะ? พูดอีกครั้งสิ!”
“ทะ ทูลฝ่าบาท อาวุโสเหยียนพาทหารร้อยนายมุ่งหน้าไปยังภูเขาด้านหลัง ถะ ถูกสังหารทั้งหมด ไม่มีใครรอดมาได้สักคน! แม้แต่อาวุโสเหยียน กะ ก็ถูกฟันจนร่างขาดเป็นสองท่อน…” องครักษ์ลับชุดดำที่คุกเข่าอยู่กลางตำหนักรายงานเสียงสั่น
เขาได้รับคำสั่งให้สังเกตสถานการณ์สู้รบจากที่ไกลๆ เมื่อเห็นอาวุโสเหยียนถูกฆ่า ก็ตื่นกลัว รีบกลับมารายงาน แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! คนพวกนั้นแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! คนแค่ไม่กี่สิบคน ไม่นึกเลยว่าจะฆ่าผู้แข็งแกร่งร้อยคนของพวกเขาได้! หนำซ้ำ แม้แต่อาวุโสเหยียนที่เป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินก็ยังตายด้วยน้ำมือของชายร่างกายกำยำล่ำสันผู้นั้น
ทุกครั้งที่นึกถึงอาวุโสเหยียนถูกฟันจนร่างขาดเป็นสองท่อน ไอเย็นก็แผ่ขึ้นมาจากปลายเท้ากระจายทั่วร่างกาย อกสั่นขวัญหาย ใจสั่นทุกครั้งที่นึกถึง
ผู้ครองแคว้นจักรวรรดิบุริมฉาย สีหน้าราวกับเหลือเชื่อ เขายืนอยู่ตรงนั้นมององครักษ์ชุดดำที่คุกเข่าอยู่เบื้องล่าง ถามว่า “ใช่ฝีมือเฟิ่งจิ่วหรือไม่?” นอกจากเฟิ่งจิ่ว ใครจะมีความสามารถนี้อีก?
องครักษ์ลับชุดดำส่ายหน้า “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ เป็นกวนสีหลิ่นพ่ะย่ะค่ะ!”
………………………………….
ตอนที่ 1736 ขอความช่วยเหลือไปทั่ว
“กวนสีหลิ่น? พี่ชายบุญธรรมของเฟิ่งจิ่ว?” ผู้ครองแคว้นแห่งจักรวรรดิบุริมฉายถามด้วยความตกใจ “เขาจะฆ่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินอย่างผู้อาวุโสเหยียนได้อย่างไร? เจ้าดูดีๆ แล้วหรือยัง? มีผู้แข็งแกร่งคนใดแอบช่วยเขาอยู่หรือไม่?”
“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นกวนสีหลิ่นถือดาบเล่มใหญ่ฟันร่างอาวุโสเหยียนจนขาดเป็นสองท่อน ไม่มีผู้อื่น”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้ครองแคว้นบุริมฉายเสียหลักล้มลงไป ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น เฟิ่งจิ่วผู้นี้ กวนสีหลิ่นผู้นี้ องครักษ์เฟิ่งเหล่านี้ ช่างมีความสามารถจริงๆ…
หากเป็นเช่นนี้จริง ยะ อย่างนั้นก็น่ากลัวเกินไปแล้ว!
แม้จะขอความช่วยเหลือจากจักรวรรดิอื่นตอนนี้ ก็เกรงว่าน้ำไกลจะช่วยดับไฟใกล้ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถึงจะขอความช่วยเหลือ อีกสองจักรวรรดิอื่นก็เกรงว่าจะไม่มาทันที
เขาสูดหายใจลึกๆ สงบสติอารมณ์ กล่าวเสียงเข้ม “ส่งคนไปหาตระกูลใหญ่ในเมือง! เชิญผู้อาวุโสกับผู้นำตระกูลเข้าวังมาช่วยเหลือ!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์ลับชุดดำรับคำ แล้วออกไปอย่างรวดเร็ว
ทว่า ตั้งแต่จักรวรรดินทีแดงล่มสลาย ข่าวแพร่กระจายไปยังทุกจักรวรรดิ โดยเฉพาะตระกูลใหญ่ต่างๆ ในจักรวรรดิที่ร่วมมือกับนทีแดง ได้มีการเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงแม้พวกเขาไม่รู้จักภูตหมอเฟิ่งจิ่ว แต่ก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเธอมาไม่น้อย
แม้จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องพูดเกินจริง ทว่าผู้ครองแคว้นจักรวรรดินทีแดงถูกสังหาร รัชทายาทและองค์หญิงสามผู้เป็นที่โปรดปรานก็ถูกสังหารด้วย ศพถูกแขวนหน้าประตูวัง วังหลวงชื่อสุ่ยถูกไฟแผดเผาเป็นเวลาหนึ่งคืนเต็มๆ
พวกเขาจึงเริ่มระวังตัว ไม่ว่าภูตหมอเฟิ่งจิ่วจะมีพลังเช่นใด ผู้อาวุโสของแต่ละตระกูลล้วนถ่ายทอดคำสั่งลงไปแล้ว ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระหว่างราชวงศ์กับเฟิ่งจิ่ว
เมื่อเวลาผ่านไป ยามพลบค่ำมาเยือน ท้องฟ้าค่อยๆ มืด กลิ่นอายอันตรายขุมหนึ่งก็แผ่ปกคลุมวังหลวง เหล่าตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงเองก็เหมือนจะรู้สึกได้ เพียงแต่ แต่ละตระกูลล้วนปิดประตูไม่ยอมออกมา
กระทั่ง คนในวังส่งคนมาเคาะประตูบ้านของเหล่าตระกูลใหญ่ หลังเข้าไปไม่นาน ก็ออกมา แล้วข่าวก็แพร่กระจายไปยังตระกูลต่างๆ อย่างนั้น เหล่าอาวุโสของตระกูลใหญ่จึงมารวมตัวกัน
“นึกไม่ถึงเลยว่าภูตหมอเฟิ่งจิ่วจะมาจริงๆ! ในสามจักรวรรดิที่เหลือยังเลือกลงมือกับจักรวรรดิบุริมฉาย”
“จากที่องครักษ์ในวังบอก ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนหนึ่งของฝ่าบาทพาทหารร้อยนายไปต่อกรกับคนไม่กี่สิบคน แต่กลับถูกฆ่าหมด ไม่มีใครรอดกลับมาได้สักคน” อาวุโสอีกคนกล่าว เขาขมวดคิ้วครุ่นคิด “นึกไม่ถึงจริงๆ พลังของภูตหมอเฟิ่งจิ่วจะแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้หลังจากผ่านไปเพียงครึ่งปี”
ได้ยินอย่างนั้น อาวุโสอีกคนที่อยู่ข้างๆ ก็ส่ายหน้า “ใช่เสียที่ไหน ข้าได้ยินมาว่าภูตหมอเฟิ่งจิ่วไม่ได้ลงมือ คนที่ฆ่าอาวุโสเหยียนชื่อกวนสีหลิ่น เป็นพี่ชายบุญธรรมของภูตหมอเฟิ่งจิ่ว”
“ดูท่าฝ่าบาทคงไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับเฟิ่งจิ่วได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่สั่งให้คนมาเชิญพวกเราไปช่วย” ผู้นำตระกูลหนวดขาวเอ่ยเสียงแช่มช้าพร้อมกับลูบหนวดไปด้วย ลึกๆ ข้างในประหลาดใจในตัวภูตหมอเฟิ่งจิ่วคนนี้นัก
นางเป็นผู้หญิงแบบใดกันแน่? ถึงได้บีบคั้นผู้ครองแคว้นของจักรวรรดิแห่งหนึ่งจนอับจนหนทาง วิ่งเร่ขอความช่วยเหลือไปทั่วเช่นนี้
“เรื่องอย่างนี้ หากไม่ระวังอาจนำภัยมาสู่ทั้งตระกูลได้ ใครจะกล้าช่วยเหลือส่งเดช?”
“นั่นน่ะสิ! ภัยที่ราชวงศ์สร้างขึ้นมา ก็ปล่อยให้พวกเขาไปเก็บกวาดกันเองเถิด!” อาวุโสอีกคนส่ายหน้าบอก ลึกๆ ข้างในกลับรู้ดี เกรงว่าจักรวรรดิบุริมฉายคงเป็นรายต่อไปที่จะต้องล่มสลายต่อจากจักรวรรดินทีแดงเสียแล้ว
อาวุโสคนหนึ่งครุ่นคิด แล้วถามว่า “จักรวรรดิที่ร่วมมือกันเหล่านั้น ไม่ใช่ว่ามีกลุ่มอำนาจแถบเหนือแม่น้ำเป็นผู้หนุนหลังหรอกหรือ? เหตุใดพวกเขาจึงปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ไม่มาช่วยเหลือ?”
………………………………….