เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1765 ความคิดนี้ไม่เลว ตอนที่ 1766 เป้าหมายของข้า
ตอนที่ 1765 ความคิดนี้ไม่เลว / ตอนที่ 1766 เป้าหมายของข้า
ตอนที่ 1765 ความคิดนี้ไม่เลว
“แต่เรื่องทางนี้ท่านจะวางใจได้หรือ?” เธอหันไปถามเขา จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ เสด็จพ่อของเขาเองก็เกรงว่าจะไม่อาจกลับไปมีวรยุทธ์เหมือนแต่ก่อนได้ในระยะเวลาสั้นๆ เขาในตอนนี้ จะผละตัวได้หรือ?
“ปัญหาใหญ่จบลงแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วงอีก และไม่มีอะไรให้วางใจไม่ได้ด้วย ใต้ผืนฟ้ากว้างใหญ่นี้ เรื่องที่ทำให้ข้าวางใจไม่ได้ ก็มีเพียงเจ้าเท่านั้น”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็เบิกบานใจ รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้าอย่างกลั้นไม่อยู่ ปากกลับบอกว่า “มีอะไรให้วางใจไม่ได้กัน ถึงข้าจะไม่ได้อยู่ข้างกายท่าน ข้าก็วางใจท่านมาก ไม่กลัวว่าท่านจะเถลไถล”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อชำเลืองมองเธอแวบหนึ่ง “เพราะเจ้ารู้ว่าข้าไม่ชอบใกล้ชิดสตรี”
“ไม่ใกล้ชิดสตรีหรือ?”
เธอนึกสนุกถอยหลังหนึ่งก้าว มองเขาหัวจรดเท้า สีหน้าหยอกล้อ “ไม่ใกล้ชิดสตรีจริงหรือ?” ใครกันยามนอนกลางคืนมือไม้ชอบอยู่ไม่สุข? ใครกันยามนอนหลับจำต้องกอดเธอไว้ตลอด? ใครกันกระซิบคำพลอดรักข้างหูเธอ? แล้วใครกันที่บ่นกระปอดกระแปดกับเธอว่าถูกเมินเฉยไม่ใยดี?
เห็นสีหน้าหยอกล้อของเธอ และรอยยิ้มชั่วร้ายตรงมุมปากของเธอ เซวียนหยวนโม่เจ๋อก็รู้ว่าสมองเธอคิดอะไรอยู่ ใบหน้าเย็นชาดูไม่เป็นตัวเอง เขาเหลือบมองอิ่งอีกับเหลิ่งซวงที่อยู่ห่างสองสามจั้งแวบหนึ่ง โบกมือให้ทั้งสองถอยออกไป แล้วกระแอมเบาๆ รั้งตัวเฟิ่งจิ่วเข้ามาโอบ แล้วกระซิบข้างหูของเธอ
“เจ้าก็รู้ ข้าใกล้ชิดแต่เจ้า”
เฟิ่งจิ่วโอบเอวเขา ยิ้มถามว่า “อย่างนั้น ท่านว่าพวกเราควรหาเวลาจัดการเรื่องสำคัญให้เรียบร้อยก่อนดีหรือไม่?” ขณะพูด มือซุกซนทั้งสองข้างลูบไล้บริเวณเอวของเขา ครั้นรู้สึกได้ว่าคนข้างกายตัวแข็งทื่อ ก็อดกระตุกยิ้มมุมปากไม่ได้
“เรื่องสำคัญ?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อใจเต้นรัว มือหนึ่งคว้ามือที่อยู่ไม่นิ่งของเธอตรงเอวเขา
“อืม เรื่องสำคัญ” เธอกลั้นยิ้ม แล้วพยักหน้า
“อย่างเช่น?” เขาก้มหน้าเล็กน้อย มองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าเธอ
“ก็อย่างเช่น ร่วมหอกันก่อนอะไรทำนองนั้น” เธอมองคนบางคนที่กำลังข่มกลั้นความร้อนรุ่มอย่างเห็นได้ชัด เห็นร่างกายของเขาแข็งทื่อเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาตึงเกร็ง กลีบปาก
“ท่านว่าความคิดข้าดีหรือไม่? ฟังดูไม่เลวเลยใช่ไหมเล่า?” เธอนึกจะแกล้งเขา สองมือโอบรอบลำคอหนา กระซิบถามข้างหูของเขาเบาๆ
“อย่าเล่นกับไฟ ไม่เช่นนั้น จะเจอจุดจบที่ร้ายแรงมาก” เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองด้วยนิ่งๆ สายตาลึกล้ำมีประกายไฟโลดแล่น น้ำเสียงเริ่มแหบพร่า
“ก็ได้! ไม่แกล้งท่านแล้ว ข้าไปหาพวกท่านพี่คุยเล่นกับพวกเขาดีกว่า”
จู่ๆ เฟิ่งจิ่วก็ผละออกจากตัวเขาเหมือนปลาไหล ยิ้มร่าเอามือไพล่หลัง พลางถอยหลังทีละก้าวๆ ส่งยิ้มเย้ายวนให้เขาดุจภูตสาว “ข้าไปแล้ว คืนนี้รอข้าด้วยเล่า”
มองดูเธอกระโดดเขย่งปลายเท้าจากไป และหายลับไปจากครรลองสายตาของเขาในพริบตา ในดวงตาของเซวียนหยวนโม่เจ๋อฉายแววจนใจระคนเอ็นดู
ผู้หญิงคนนี้ ดูออกว่าเขาไม่มีทางกินนางก่อนจะแต่งงานกันแน่นอน ถึงได้ยั่วยวนเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้
เพียงแต่ เขาอดทนครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่อย่างนี้ จะเป็นการตามใจนางเกินไปหรือไม่? บางที เขาน่าจะหาโอกาสทำให้คำแนะนำของนางเป็นจริงขึ้นมา…
นึกมาถึงตรงนี้ ประกายมืดมนพาดผ่านดวงตาของเขา มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย ข่มความร้อนรุ่มในใจ แล้วสาวเดินออกไปพร้อมกับอารมณ์ชื่นมื่น
………………………………….
ตอนที่ 1766 เป้าหมายของข้า
ในอีกด้าน ยามเฟิ่งจิ่วหากวนสีหลิ่นเจอ เขากำลังประลองฝีมือกับพวกหลัวอวี่อยู่ที่สนามฝึก แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ผู้ครองแคว้นบุริมฉายผู้นั้นก็กำลังยืนดูอยู่ด้านหนึ่ง
และพอเห็นเธอมา ผู้ครองแคว้นบุริมฉายก็เดินมาหาเป็นคนแรก
“นายท่าน” ผู้ครองแคว้นบุริมฉายก้าวเข้ามาคารวะ “ข้ากำลังอยากไปหานายท่านเพื่อรายงานพอดี ไม่ทราบว่านายท่านมีเวลาหรือไม่?”
ได้ยินอย่างนั้น เธอหันไปมองกลุ่มคนในสนามฝึกแวบหนึ่ง แล้วบอกผ๔ครองแคว้นบุริมฉายว่า “ไปที่ศาลาฝั่งนั้นก็แล้วกัน!” ด้วยเหตุนั้น จึงหมุนตัวเดินไปทางศาลาหลังนั้น
มาถึงศาลาก็นั่งลง มองเห็นสถานการณ์ประลองฝีมือของพวกนั้นในสนามได้พอดี หลังจากดูอยู่ครู่หนึ่ง เธอละสายตากลับมา มองผู้ครองแคว้นบุริมฉาย “มีเรื่องใด? เจ้าว่ามาเถิด!”
“คืออย่างนี้ขอรับ ผู้ครองแคว้นอีกสองจักรวรรดิยอมศิโรราบต่อเราแล้ว ข้าอยากถามว่า หลังจากนี้นายท่านมีแผนการอะไรต่อ? จะส่งคนไปควบคุมดูแลสองจักรวรรดินั้นหรือไม่ขอรับ?”
“ไม่ต้อง เจ้ารับมาดูแลต่อก็พอ ทุกอย่างทำตามที่เจ้าทำอยู่ต่อไป” ขณะตอบ เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้ายังสะสางเรื่องในจักรวรรดิบุริมฉายไม่เสร็จกระมัง? ในเมื่อเรื่องทางนี้เรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นก็กลับไปก่อนเถิด!”
ขณะสั่ง เธอขยับมือหนึ่งครั้ง ยื่นขวดยาหนึ่งขวดให้เขา “ในนี้มียาเม็ดหนึ่งที่ช่วยเจ้าให้ทะลวงขั้นได้ เจ้ากลับไปแล้วหาโอกาสดีๆ กินเสีย!”
เห็นอย่างนั้น ผู้ครองแคว้นบุริมฉายรับไปด้วยความตื้นตัน “ขอบพระคุณนายท่านขอรับ!” เขารู้ดีว่ายาของเธอวิเศษขนาดไหน ขนาดผู้ครองแคว้นจักรวรรดิเซวียนหยวนที่ถูกทำลายแก่นพลังใน เธอยังทำให้เขากลับมาสู่เส้นทางผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนได้ ยานั่น เรียกได้ว่าเป็นยาเซียนได้แล้ว!
“ตั้งใจทำงานให้ข้า ข้าไม่ละเลยเจ้าแน่นอน” เฟิ่งจิ่วเอ่ยเสียงแช่มช้า
“ขอรับ นายท่านวางใจ ข้าจะทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานเพื่อท่านอย่างสุดกำลังแน่นอน ขอเพียงนายท่านสั่งมา ข้าไม่กล้าขัดแน่นอน!” เขารีบรับคำ มือที่กำยาสั่นเทาเล็กน้อย
หากทะลวงขั้นได้อีกครั้ง เช่นนั้นพลังและอายุขัยของเขาก็จะพัฒนาขึ้น สำหรับเขา นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อน
หลังจากผู้ครองแคว้นจักรวรรดิบุริมฉายถอยออกไป เฟิ่งจิ่วก็นั่งอยู่ในศาลาต่อ ตรงนี้อยู่สูงกว่าสนามฝึก ดูจากตรงนี้สามารถมองเห็นกระบวนท่ายามประลองฝีมือกันของพวกเขาได้ชัดกว่า
ไม่นาน กวนสีหลิ่นถอยหลัง รวบรวมพลังแล้วเหาะมาที่ศาลา “เสี่ยวจิ่ว เจ้ามาได้อย่างไร?”
“ข้าว่างก็เลยมาดู” เธอตอบขณะเอามือข้างหนึ่งเท้าคาง มองดูองครักษ์เฟิ่งในสนามฝึกแวบหนึ่ง แล้วหันกลับมามองกวนสีหลิ่น “ท่านพี่ หลังจากนี้ท่านมีแผนอะไรหรือไม่?”
ได้ยินอย่างนั้น กวนสีหลิ่นนั่งลง ยิ้มตอบว่า “ข้าตั้งใจจะบอกเจ้าในอีกสองสามวัน ในเมื่อเจ้าถาม เช่นนั้นบอกเลยก็แล้วกัน!” เสียงเขาชะงักหยุดไป มองเธอ แล้วพูดว่า “ข้าคิดว่าเรื่องทางนี้ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว อีกไม่กี่วัน ข้าอยากออกเดินทางไปที่แผ่นดินใหญ่แถบเหนือแม่น้ำก่อน”
“อีกไม่กี่วัน?” เธอชะงักงัน “เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”
“อืม อยู่ทางนี้ก็ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรแล้ว ข้าเลยคิดว่าหลังไปถึงที่นั่น ข้าจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้าง เพื่อฝึกวิชาของข้าต่อ” เขาหัวเราะเสียงดัง บอกว่า “เสี่ยวจิ่ว เจ้าแข็งแกร่งขึ้นแล้ว พี่เองก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นด้วยถึงจะดี ภายหน้าหากเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วย ข้าถึงจะมีพลังพอที่จะช่วยเจ้าได้ ไม่มีการฝึกใดดีไปกว่าการเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างอีกแล้ว”
ใบหน้าแข็งกร้าวของเขาสะท้อนรอยยิ้มมั่นใจ สายตามุ่งมั่นหนักแน่น บอกว่า “ข้าเป็นผู้ฝึกพลังเร้นลับ มีเพียงต้องอยู่ในการสู้รบจริงๆ จึงจะพัฒนาพลังได้ อีกอย่าง ข้าหวังว่าเมื่อถึงที่นั่น ข้าจะสร้างสำนักของตนเองขึ้นมา”
………………………………….