เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1815 วางแผน / ตอนที่ 1816 ผู้อาวุโสถานลอบสำรวจยามกลางคืน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1815 วางแผน / ตอนที่ 1816 ผู้อาวุโสถานลอบสำรวจยามกลางคืน
ตอนที่ 1815 วางแผน / ตอนที่ 1816 ผู้อาวุโสถานลอบสำรวจยามกลางคืน
ตอนที่ 1815 วางแผน
“แต่ปกติเวลาเราเลือกใคร ก็จะทำอย่างลับๆ หนำซ้ำต้องสืบประวัติความเป็นมาอย่างชัดเจน ทว่าตอนนี้ ท่านส่งคนไปสืบแน่ชัดแล้วจริงหรือ? จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?
ผู้อาวุโสเฝิงกระตุกมุมปาก แสยะยิ้มเย็นชา “เจ้าเด็กนั่นน่าจะมาจากบ้านนอกสักแห่ง เพียงแต่วันนั้นบังเอิญเจอผู้อาวุโสถาน ผู้อาวุโสถานนั่นจึงปกป้องเขา ด้วยการบอกว่าเจ้าหนูนั่นเป็นหลานชายเขา”
ได้ยินอย่างนั้น คนที่เหลือมองหน้ากันแล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า เจ้าหนุ่มนั่นเป็นเด็กบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นโลก? ไม่มีภัยแฝง?”
“จากที่ข้าเห็นก็เป็นเช่นนี้ แต่ในเมื่อพวกท่านไม่เชื่อ จะลองดูก็ได้” ผู้อาวุโสเฝิงแสยะยิ้มมุมปาก “เราอยู่ในที่ลับ เขาอยู่ในที่แจ้ง จะสืบประวัติคนคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น คนที่เหลือครุ่นคิดครู่หนึ่ง ยังคงอดถามไม่ได้ “เด็กหนุ่มคนนี้ มีอะไรพิเศษกันแน่? พวกเราก็ไม่ได้ขาดคนอย่างเขา เหตุใดต้องจับตัวเขามาให้ได้?”
การจับตัวคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปมาเพิ่มอย่างนี้ ทำให้พวกเขาอดกังวลใจไม่ได้จริงๆ
“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเชื่อว่าสายตาที่ข้ามองคนไม่ผิดแน่” ผู้อาวุโสเฝิงตอบ มองพวกเขาแวบหนึ่ง บอกว่า “เอาล่ะ เรื่องนี้ตกลงตามนี้ก็แล้วกัน! คำนวณเวลาดูแล้ว เจ้าเด็กนั่นน่าจะฟื้นแล้ว พวกท่านไปดูพร้อมกันกับข้า”
ด้วยเหตุนี้ คนที่เหลือจึงออกจากชั้นบนสุดของหอรวมสมบัติไปพร้อมกับเขา
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก สีหน้าไหวระริกเล็กน้อย เก็บงำแววเจ้าเล่ห์และปราดเปรื่องในดวงตา และแสร้งทำแววตาใสซื่อ ใบหน้าแสดงออกถึงความลนลานหวาดกลัว สองมือกอดขาหดตัวอยู่ที่มุมห้อง
ประตูห้องถูกเปิดออก กลุ่มคนที่เข้ามามองเห็นเด็กหนุ่มที่หดตัวอยู่ตรงมุมห้องด้วยความหวาดกลัวและลนลาน ทั้งที่เห็นได้ชัดว่ากำลังหวาดกลัว แต่กลับแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง เขาพยายามสงบสติอารมณ์ แต่กลับไม่รู้ว่าร่างกายสั่นเทานั่นฟ้องหมดแล้วว่าเขากำลังหวาดกลัวเพียงใด
ผู้อาวุโสเฝิงที่เพิ่งเข้ามาเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง สายตานั้นราวกับกำลังบอกว่า ดูเอาก็แล้วกัน บอกแล้วอย่างไรว่าเป็นเพียงเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง? ไม่มีอะไรน่ากลัว
คนที่เหลือเห็นสีหน้าท่าทางของเด็กหนุ่มที่ขดตัวอยู่ตรงมุมห้อง ก็วางใจได้ในที่สุด ขอเพียงไม่มีภัยแฝงหรือปัญหายุ่งยากอะไรก็พอ เรื่องอื่น ล้วนไม่เป็นไร
“พะ พวกเจ้าเป็นใคร? ทำไมต้องจับตัวข้ามา?” เฟิ่งจิ่วถามเสียงสั่น แสดงบทบาทหนุ่มบ้านนอกได้อย่างสมจริง
“วรยุทธ์ระดับสร้างฐานพลัง เทียบกับคนพวกนั้น ถือว่าอ่อนไปหน่อย” ชายชราคนหนึ่งเอ่ย สายตามองสำรวจร่างกายของเฟิ่งจิ่ว
“ไม่เป็นไร ขอเพียงเข้าไปในนั้น อ่อนแอแค่ไหนก็ต้องแข็งแกร่งกว่าคนข้างนอก” ชายชราอีกคนกล่าว
“มันก็จริง การฝึกฝนยอดฝีมือในครั้งนี้ เตรียมของดีไว้รอไม่น้อยเชียวล่ะ ครั้งที่แล้วมีระดับสร้างรากฐานพลังคนหนึ่งข้ามขั้นไปสังหารผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด กลับทำให้พวกเราตะลึงไม่น้อย”
“ข้างบนให้เวลามาหนึ่งปี ในหนึ่งปีต้องฝึกฝนพวกเขาให้แข็งแกร่ง ไม่นานก็จะเริ่มได้แล้ว”
พวกเขายืนหารือกันต่อหน้าเฟิ่งจิ่วอย่างนั้น คล้ายไม่กังวลเลยว่าเนื้อหาที่พวกเขาคุยกันจะถูกเด็กหนุ่มได้ยินเข้า บางที อาจเพราะพวกเขาเชื่อว่าหากเข้ามาในนี้แล้ว อยากออกไปก็คงเป็นไปไม่ได้อีก
เฟิ่งจิ่วฟังพวกเขาคุยกัน ก้มหน้าต่ำ เก็บซ่อนแววตาที่ไหวระริกไว้
………………………………….
ตอนที่ 1816 ผู้อาวุโสถานลอบสำรวจยามกลางคืน
“คนพวกท่านก็เห็นแล้ว หากไม่มีอะไร ก็สั่งให้พาตัวเขาไปพรุ่งนี้เลยเถิด” ผู้อาวุโสเฝิงหันไปพูดกับคนพวกนั้น
“อืม ได้!” คนที่เหลือพยักหน้า จากนั้นจึงหมุนตัวจากไป ประตูห้องปิดลงอีกครั้ง ทิ้งให้เฟิ่งจิ่วอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง
พอรู้สึกได้ว่าคนพวกนั้นออกไปหมดแล้ว เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก ลอบคิดในใจ คนพวกนี้กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่กันแน่? ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของหอรวมสมบัติแห่งนี้ เป็นใครกัน?
จากบทสนทนาของพวกเขาจับใจความได้ว่า คนพวกนี้ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เช่นนั้น เหตุผลที่จับเธอมาก็คงเป็นเพราะไม่รู้ว่าเธอคือเฟิ่งจิ่ว
นึกมาถึงตรงนี้ เธออดสงสัยไม่ได้ พรุ่งนี้จะพาเธอไปที่ไหน?
คืนนี้ เธอกลับไม่ได้คิดอะไรมาก ถึงอย่างไรไม่ว่าอยู่ที่ใด ขอเพียงเธออยากไป ก็ต้องไปได้แน่นอน คนพวกนี้อยากจะขังเธอไว้ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน เพราะพวกเขาไม่มีวันคาดคิด ว่าเธอเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียนขั้นสูงสุด
แต่ทว่า กลางดึกสงัด เธอลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด
ใครกัน? กลางดึกเช่นนี้ไม่หลับไม่นอนกลับวิ่งโฉบอยู่เหนือหลังคา
เธอในตอนนี้ ไม่มีทางคาดคิดว่าจะเป็นผู้อาวุโสถาน เพราะอย่างไร เธอกับผู้อาวุโสถานไม่ได้เป็นครอบครัวหรือมิตรสหายกัน เธอจึงไม่มีทางนึกถึงว่าผู้อาวุโสถานจะเสี่ยงถูกเปิดโปงระดับวรยุทธ์ที่แท้จริงของเขาด้วยการเข้ามาสำรวจหอรวมสมบัติกลางดึกอย่างนี้
เธอปิดตา แต่กลับไม่นอนหลับ เพียงเอนตัวพิงกำแพงเงียบๆ รอให้ฟ้าสว่าง ทว่าเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป หลังคาเหนือห้องที่เธออยู่ก็มีเสียงเบาๆ เล็ดลอดมา
“เจ้าหนู เจ้าหนู!”
ยามได้ยินเสียงนั้น เฟิ่งจิ่วตะลึงเล็กน้อย เงยหน้าด้วยความสับสน “ท่านปู่ถาน!” อาศัยแสงสลัวยามกลางคืนอันน้อยนิดที่สาดส่องลงมาจากข้างบน เธอมองเห็นคนบนหลังคาอย่างชัดเจน เขาก็คือผู้อาวุโสถานนั่นเอง
“เจ้ารอเดี๋ยว ข้าจะช่วยเจ้าออกไปเอง” สิ้นเสียง ผู้อาวุโสถานที่นอนหมอบอยู่บนนั้นก็ลงจากหลังคา ไม่นาน ก็เปิดผลักประตูเข้ามาจากด้านหน้า
ครั้นเห็นสภาพในห้องอย่างชัดเจน ผู้อาวุโสถานขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไรมาก สาวเดินเข้ามาหมายจะปลดกุญแจ แต่นึกไม่ถึง เวลานี้เฟิ่งจิ่วกลับห้ามเขาไว้ก่อน
“รอเดี๋ยว” เฟิ่งจิ่วก้าวออกมาห้ามเขา เธอมองอาวุโสตรงหน้า ลอบถอนใจลึกๆ ข้างใน ก่อนบอกว่า “ท่านปู่ถาน ท่านรีบหนีไปเสียเถิด! ข้าอยู่ที่นี่ไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องช่วยข้า”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรอยู่? หากข้าไม่ช่วยเจ้าออกไป อีกไม่นาน เจ้าจะต้องตายแน่ๆ!” ผู้อาวุโสถานกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด อยากจะปลดกุญแจ แต่กลับพบว่าเป็นกุญแจเหล็กดำ หากไม่มีลูกกุญแจแม้จะใช้ดาบหรือกระบี่ก็ฟันไม่ขาด
“ข้ารู้” เฟิ่งจิ่วเผยยิ้ม รอยยิ้มนี้ไม่ใสซื่อเหมือนดังเดิม แต่เป็นรอยยิ้มฉลาดและเจ้าเล่ห์ “ข้าเห็นว่าพวกเขาหมายหัวข้า จึงได้ใช้แผนซ้อนแผนเข้ามาดู เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าท่านปู่ถานจะตามมา”
ครั้นเห็นเด็กหนุ่มที่อยู่ในห้องเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ผู้อาวุโสถานชะงักเล็กน้อย “เจ้า…”
“ข้าถึงได้บอกว่าไม่เป็นไร รอข้าไม่อยากอยู่ที่นี่เมื่อใด ย่อมจะออกไปเอง ข้าดูแลตนเองได้ ท่านปู่ถานไม่ต้องห่วงข้า” เธอยิ้มบอก หยุดพูดไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “ท่านปู่ถานรีบหนีไปตอนที่พวกเขายังไม่รู้ตัวเถิด! พรุ่งนี้พวกเขาจะย้ายข้าไปที่อื่น ข้าอยากรู้ ว่าเบื้องหลังของหอรวมสมบัติคือสถานที่แบบใดกันแน่?”
ผู้อาวุโสถานมองเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าสับสน สุดท้ายจึงถามประโยคหนึ่งออกมา “เจ้าตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ต่อจริงหรือ?”
“อืม” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ยิ้มตาหยีตอบว่า “ข้าว่างไม่มีอะไรทำพอดี รอดูสักหน่อยก็แล้วกัน!”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้อาวุโสถานพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง รู้สึกเพียงว่าเด็กหนุ่มมองเรื่องราวง่ายเกินไป