เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1889 เจ้าเป็นใคร / ตอนที่ 1890 ต้องการค่าตอบแทน
ตอนที่ 1889 เจ้าเป็นใคร / ตอนที่ 1890 ต้องการค่าตอบแทน
ตอนที่ 1889 เจ้าเป็นใคร
ขณะเดียวกัน ในห้องส่วนตัวชั้นสอง ชายชราผู้นั้นกำลังดึงธนูออกให้ชายหนุ่ม เพราะลูกธนูตรงปลายคดงอเป็นปากขอ จึงทำให้มีเศษเนื้อติดออกมาด้วย หลังทำแผลเสร็จก็ตรวจชีพจรให้เขา ก่อนที่สีหน้าจะตึงเครียดขึ้นมา เขาถอยหลังหนึ่งก้าว ส่ายหน้าบอกว่า “เรื่องนี้ ผู้เฒ่าเกรงว่าจะช่วยอะไม่ได้แล้ว”
“อึก!”
ชายหนุ่มอดร้องครวญไม่ได้ ท่าทางยามเขากำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นนูนปูดขึ้นมา ทำให้คนรอบข้างตกใจมาก
เมื่อเห็นอย่างนั้น ฮุ่นหยวนจื่อขมวดคิ้ว “ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้นะ!”
“น้ำเย็นมาแล้วขอรับๆ!” เสี่ยวเอ้อร์ตะโกนบอก เขายกน้ำเย็นถังใหญ่เข้ามาให้พวกเขา
ฮุ่นหยวนจื่อประคองคนเข้าไปในถังใบใหญ่ เห็นคนพวกนั้นยังยืนล้อมอยู่ไม่ยอมไปไหน เวลานี้จึงเพิ่งสังเกตเห็นว่านอกจากชายชราสองสามคนนั้น ก็ยังมีชายวัยกลางคนรวมถึงชายหญิงอายุน้อยอีกสามคน
“พวกเจ้ากลับไปก่อนเถิด! ข้ายังต้องคิดหาทางแก้!” ฮุ่นหยวนจื่อสั่งพลางจ้องชายที่กำลังนั่งหลับตาอยู่ในถังน้ำอย่างคิดไม่ตก
“ผู้อาวุโสฮุ่นหยวน เกรงว่าแค่แช่น้ำเย็นอย่างเดียวจะแก้พิษไม่ได้” พวกเขาเดินออกมานอกฉากกั้นลม “ยาของสำนักจามจุรีมิใช่ยาธรรมดา หากไม่รีบหาทางแก้ เกรงว่าเส้นชีพจรจะระเบิดจนสิ้นใจ”
“ทางแก้? คือหยินหยางผสานกัน? ไม่ได้ๆ เจ้านั่นยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ! แล้วเขาก็ไม่มีคนที่หมายปองด้วย จะหาใครมาให้เขาส่งๆ ก็ไม่ได้แน่นอน”
ฮุ่ยหยวนจื่อว่า เขาขมวดคิ้ว นึกไม่ถึงว่ายาของสำนักจามจุรีจะแรงขนาดนี้ ถึงขั้นทำให้คนที่ควบคุมตนเองได้ดีมีสภาพอย่างนี้ไปได้
ขณะที่ฮุ่นหยวนจื่อกำลังคุยกับพวกเขาอยู่นอกฉากกั้นลม ข้างๆ ถังน้ำใบนั้น เฟิ่งจิ่วกำลังกะพริบตาปริบๆ จ้องชายหนุ่มที่กำลังพยายามข่มตัวเองสุดความสามารถด้วยความฉงนฉงาย วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดหากโดนยาชนิดนี้ก็คือไปเที่ยวหอนางโลมสักครั้งก็สิ้นเรื่องแล้ว กลับนึกไม่ถึงว่าชายคนนี้ยอมทนแต่ไม่ยอมไปที่นั่น
ครั้นมองจากระยะใกล้ๆ อย่างนี้ กลับรู้สึกว่าหน้าตาของชายคนนี้น่ามองยิ่งนัก ดวงหน้าแข็งกร้าว กลางหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเถรตรง ก็จริง หากมิใช่ว่าเถรตรงเกินไป จะถูกหญิงจากสำนักจามจุรีคนนั้นลอบกัดได้อย่างไรกัน?
บางทีอาจเพราะสายตาของเฟิ่งจิ่วโจ่งแจ้งเกินไป ชายหนุ่มที่ตอนแรกหลับตาอยู่จึงพลันลืมตาขึ้นมา ครั้นลืมตาก็สบประสานกับนัยน์ตาที่ฉายแววพิจารณาและอยากรู้อยากเห็นคู่นั้นพอดี
ดวงตาสองคู่สบประสานกัน คนหนึ่งสงสัย คนหนึ่งอยากรู้อยากเห็น
“เจ้าเป็นใคร?”
เสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นทำให้ฮุ่นหยวนจื่อที่อยู่ข้างนอกฉากกั้นลมตกใจ เขารีบโฉบกายเข้ามา กลับเห็นเด็กหนุ่มชุดเขียวที่ไม่รู้เข้ามายืนอยู่ข้างถังน้ำตั้งแต่เมื่อใด เขากำลังจ้องพิจารณาชายในถังน้ำด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฮุ่นหยวนจื่อเห็นเด็กหนุ่มชุดเขียวไม่ได้คิดร้ายจึงไม่ได้พูดอะไร เพียงจ้องพิจารณาเขา เด็กหนุ่มคนนี้คือคนที่นั่งดูเรื่องคึกคักอยู่ที่ชั้นล่างเมื่อครู่ไม่ใช่หรือ?
เมื่อครู่เขากำลังสู้กับหลี่เม่ยเอ๋อร์ คนชั้นล่างล้วนถอยออกไปหมด แม้แต่เถ้าแก่กับเสี่ยวเอ้อร์ก็ยังพากันหาที่หลบ มีแค่เจ้าหนูนี่ที่ยังกินเนื้อไปพลาง ดื่มสุราไปพลางอยู่ตรงมุมร้าน ท่าทางใจเย็นไม่เดือดเนื้อร้อนใจแม้แต่น้อย
และเพราะเห็นเด็กหนุ่มดูสงบนิ่งเขาจึงหันมองหลายที ทว่าเมื่อครู่มัวแต่สนใจคนที่ถูกวางยา กลับไม่มีเวลาสนใจเจ้าหนูนั่น นึกไม่ถึง เจ้าหนูนั่นกลับแอบย่องเข้ามาในนี้?”
แอบย่องเข้ามาตอนไหนกันนะ? เหตุใดเขาไม่รู้ตัว?
“ข้าหรือ! ข้าเป็นหมอ” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี ก่อนจะยื่นมือไปแตะเบาๆ ที่ข้อมือของชายคนนั้นเพื่อตรวจชีพจรท่ามกลางสายตางุนงงของเขา
………………………………….
ตอนที่ 1890 ต้องการค่าตอบแทน
จัวจวินเยวี่ยเดิมทีถูกวางยา แม้ว่าจะแช่ตัวในน้ำเย็น แต่ร่างกายก็ยังร้อนเหมือนไฟ เวลานี้ ยามที่นิ้วมือของเด็กหนุ่มวางลงที่ข้อมือของเขา เขารู้สึกเพียงไอเย็นสายหนึ่งไหลเข้ามาในร่างของเขา ทำให้เขาตัวสั่นเล็กน้อย ไม่นานความรู้สึกเย็นสบายก็กระจายไปทั่วร่าง
แต่ในยามนี้เอง นิ้วมือนั้นกลับยกห่างจากข้อมือของเขา เขาเงยหน้ามอง และสบเข้ากับแววตาหยอกเย้าของเด็กหนุ่มพอดี หัวใจสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม ราวกับถูกอ่านใจออก ทำให้เขารู้สึกอับอายและโกรธ อดก้มหน้าเก็บซ่อนสายตาไม่ได้
“เป็นอย่างไรบ้าง? แก้ได้หรือไม่?” ฮุ่นหยวนจื่อเห็นเด็กหนุ่มไม่พูดอะไรเสียทีจึงถามขึ้นมา บางทีอาจเพราะเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่เหมือนใครอยู่แล้ว ลึกๆ ข้างในถึงได้แอบหวังเล็กน้อย
“ท่านมีของมีค่าหรือไม่?” เฟิ่งจิ่วหันไปถามฮุ่นหยวนจื่อ
“หา?”
ฮุ่นหยวนจื่อตะลึงค้าง ก่อนจะพยักหน้า “มีสิ! ผู้เฒ่าจะไม่มีของมีค่าได้อย่างไรกัน? อยากได้แก้วแหวนเงินทองอะไรล้วนมี” เขาหันไปมองชายหนุ่ม ก่อนจะเผยยิ้ม “เจ้าพูดอย่างนี้ หมายความว่าเจ้าแก้ได้งั้นหรือ?”
“ได้สิ!” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ยื่นมืออกไป ยิ้มตาหยีแล้วบอกว่า “แต่ต้องการค่าตอบแทนนะ”
“ปัดโถ่ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ถึงเจ้าจะดูแคลนคลังสมบัติของข้า แต่เจ้าหนูนี่ชาติตระกูลไม่ธรรมดา อย่างไรเขาก็พอเอาออกมาให้เจ้าได้อย่างสองอย่างนั่นล่ะ” ฮุ่นหยวนจื่อว่า ก่อนจะรีบเอ่ย “อย่างนั้นเจ้าก็รีบหน่อย จะแก้อย่างไร? เร็วหน่อยเล่า อย่าปล่อยให้เขาทรมานอยู่เลย”
“ก็ได้! คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป” เฟิ่งจิ่วสั่ง ก่อนจะตวัดมองคนพวกนั้นที่อยู่ด้านหนึ่ง
“ผู้อาวุโสฮุ่นหยวน เกรงว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะยังไม่มีความสามารถแก้ฤทธิ์ยาได้ จากที่ข้าดูมา อย่างไรก็รีบไปที่สมาคมนักปรุงยาดีกว่า จะได้ไม่พลาดจังหวะสำคัญ” ชายชราผู้นั้นเสนอ เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้แก้พิษไม่ได้แน่นอน เพราะอย่างไร เขาก็ยังดูเด็กถึงเพียงนั้น หนำซ้ำยาจากสำนักจามจุรีจะแก้ได้ง่ายๆ ขนาดนั้นเสียที่ไหน
“เอาล่ะๆ ข้ารู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร พวกเจ้าออกไปก่อนๆ” ฮุ่นหยวนจื่อไล่คนออกไปแล้วลงกลอนประตู ก่อนจะเดินเข้ามาข้างใน
“ถอดเสื้อบนออกเถิด!” เฟิ่งจิ่วเอาเข็มเงินออกมา ดึงโต๊ะตัวหนึ่งมาวางเรียงลงไป
จัวจวินเยวี่ยได้ยินก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อจะถอดเสื้อตัวบนออก ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร อย่าว่าแต่ถอดเสื้อตัวบน แม้แต่กางเกงเขาก็ถอดออกไปพร้อมกันในคราวเดียว ไม่เห็นเป็นไร สิ่งสำคัญคือแก้ฤทธิ์ยากำหนัดในตัวเขาให้ได้ก็พอ
เฟิ่งจิ่วหยิบเข็มเงินขึ้นมาแทงลงไป ดูเหมือนแทงไปมั่วๆ ทว่าแต่ละเข็มล้วนทำให้ฮุ่นหยวนจื่อที่อยู่ข้างๆ ลุ้นระทึกไปด้วย เพราะตำแหน่งที่ลงเข็มแต่ละเข็ม หากผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ก็อาจถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
“ตาเฒ่า ให้คนเอาน้ำแข็งเข้ามาเติมในถังน้ำ” เฟิ่งจิ่วกำชับโดยไม่เงยหน้า มือก็ไม่ได้ว่างเว้น ไม่นาน บนแผ่นหลังกว้างก็มีเข็มแทงอยู่สิบกว่าเข็ม
ฮุ่นหยวนจื่อเห็นว่าตนเองถูกเด็กเมื่อวานซืนเรียกว่าตาเฒ่า เดิมก็นึกขุ่นเคือง นึกในใจว่าอย่างไรเสียเขาก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งกัง เจ้าหนูนี่กลับมีตาหามีแววไม่ ยังกล้าเรียกเขาเช่นนี้ ช่างใจกล้านัก!
ทว่าเพราะเห็นแก่จัวจวินเยวี่ย เขาจึงทำได้เพียงสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ครั้นมาถึงข้างนอก ก็กำชับให้เสี่ยวเอ้อร์เอาน้ำแข็งมาหนึ่งถัง
พอเติมน้ำแข็งเข้าไปในถังน้ำ เข็มเงินเล่มหนึ่งก็ถูกแทงลงมาบนแผ่นหลังอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะแทงกระตุ้นโดนจุดลมปราณหรือเพราะน้ำเย็น ได้ยินเพียงจัวจวินเยวี่ยสูดหายใจเสียงดังก่อนจะหมดสติไป