เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 415 อุทานเสียงหลง + ตอนที่ 416 เป็นไปไม่ได้!
ตอนที่ 415 อุทานเสียงหลง
เห็นชายชราคนนั้นโจมตีมา แววตาผู้เฒ่าเกิ่งเคร่งขรึม ผลักเฟิ่งจิ่วข้างกายไปด้านหลังพลางบอกว่า “แม่หนูเฟิ่งหลบไปข้างๆ เร็ว” พูดจบ กลิ่นอายพลังเร้นลับในร่างก็พลุ่งพล่านขึ้นมา เท้าพลันก้าวไป ฝ่ามือกำหมัดแน่นรับการโจมตีของศัตรู
เฟิ่งจิ่วที่โดนผลักไปด้านหลังแววตาสั่นไหวเล็กน้อย มองชายชราคนนั้นเข้าไปต้านรับหลังผลักเธอออก เห็นกลิ่นอายทั่วร่างเขาปะทุ ฝีเท้ามั่นคงมีแรงกดดันพุ่งออกมา เข้าไปรับมือชายชราผู้ฝึกวิชาเซียนคนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว ทันใดนั้น เธอเพียงสัมผัสได้ว่าในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก
ความรู้สึกร้อยพันผสมปนเป กระแสธารอุ่นพรั่งพรู รอยยิ้มที่มาจากใจจริงเบ่งบานอยู่ตรงริมฝีปากเธออย่างเงียบเชียบ ราวกับดอกไม้งดงามค่อยๆ ผลิบาน ทำให้รูปโฉมที่เดิมงามเลิศยิ่งเพริศแพร้วกว่าเดิมเพราะรอยยิ้มจากก้นบึ้งหัวใจ
เมื่อผู้นำตระกูลเกิ่งเห็นบิดาเข้าไปรับมือชายชราผู้ฝึกวิชาเซียนคนนั้น หัวใจก็บีบแน่น ศัตรูเป็นถึงผู้ฝึกเซียน แม้พละกำลังอยู่ระดับสร้างรากฐานก็ไม่แน่ว่าบรรพชนนักรบทั่วไปจะต่อกรด้วยได้ มิหนำซ้ำยังชัดเจนว่ากำลังของสองคนนี้อยู่ในระดับหลอมแก่นพลังที่เหนือกว่าระดับสร้างรากฐาน!
ด้วยวรยุทธ์ระดับบรรพชนนักรบของบิดาเขา จะสามารถต่อกรผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้จริงหรือ? คำตอบคือ เป็นไปไม่ได้!
เขามองไปทางร่างชุดแดงนั้นทันควัน กลับเห็นนางมองภาพการต่อสู้นั้นโดยที่มุมปากมีรอยยิ้มดวงตาอิ่มเอม จึงขุ่นเคืองอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้ คุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งคนนี้จะทำอะไรกันแน่? หรือมองไม่ออกว่าท่านพ่อเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ฝึกเซียนคนนั้น?
“ฟุ่บ!”
“ผัวะๆๆ!”
คนหนึ่งเป็นนักรบพลังเร้นลับระดับบรรพชนนักรบขั้นกลาง อีกคนเป็นผู้ฝึกวิชาเซียนระดับหลอมแก่นพลัง กำลังของทั้งสองนับว่าไม่เป็นสองรองใครในหมู่คนที่มุงดูรอบๆ ด้วยเหตุนี้ เมื่ออานุภาพกดดันและกลิ่นอายทั่วร่างพวกเขาพรั่งพรูขึ้นมา ความกดอากาศโดยรอบจึงพลันลดฮวบลงประหนึ่งถูกเมฆดำปกคลุม ทำให้รู้สึกว่าหายใจลำบาก
บางคนที่รับแรงกดดันนี้ไม่ไหวต่างถอยมายังจุดที่ค่อนข้างไกลอย่างเงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันและกระแสลมที่กระจายอยู่ ความว่องไวทำให้พวกเขามองอะไรไม่เห็นเลย เห็นแต่ว่าร่างสีเทาทั้งสองพุ่งขึ้นกลางอากาศจากพื้นดิน และกลับลงสู่พื้นจากบนฟากฟ้า รอบกายพวกเขามีกระแสลมพัดหวีดหวิวรุนแรงดั่งใบมีด คนที่มุงดูอดกลั้นลมหายใจไว้ไม่ได้
นี่คือการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่ง! ผู้อ่อนแอเข้าไปแทรกแซงไม่ได้แน่นอน! แม้อยากเข้าไปช่วยอีกแรง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แน่นอนว่าไม่ใช่ใครๆ ก็สามารถลงมือได้ แรงกดดันและกระแสลมของสองคนนั้นบ้าคลั่งยิ่งนัก หากไม่ใช่พลังที่สอดคล้องกัน ต่อให้อยากเข้าใกล้ก็ทำไม่ได้
เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ หัวใจพวกเขาอดไม่ได้ที่จะเลือดร้อนพลุ่งพล่าน หากพวกเขามีวรยุทธ์เช่นนี้บ้างจะดีสักเพียงใด?
“เปรี้ยง!”
พวกเขาผลัดกันโจมตีผลัดกันตั้งรับ ระหว่างที่กระแสลมพวยพุ่งออกมา ผู้แข็งแกร่งยืนมั่นไม่ถอย ฝ่ายที่กำลังอ่อนแอกว่าพลันโดนโจมตีถอยออกไปหลายเมตร เท้าก้าวซวนเซยืนทรงตัวไม่ค่อยอยู่
“ท่านพ่อ!”
เห็นผู้เฒ่าโดนโจมตีถอยไป พ่ายต่อศัตรูผู้ฝึกวิชาเซียน ผู้นำตระกูลเกิ่งร้องอุทานและคิดจะเข้าไป แต่ชายชราระดับหลอมแก่นพลังอีกคนที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ด้านข้างแค่นเสียงหนักๆ สะบัดแขนเสื้อใส่ ทำเขาถอยห่างออกไปหลายเมตรทันที ทำไม่ได้แม้แต่จะเข้าใกล้
“หึ! ไม่มีฝีมือก็อย่าดึงดันออกหน้า!” ผู้ฝึกตนคนนั้นแค่นเสียงหยัน ชายตามองผู้นำตระกูลเกิ่ง ชัดเจนว่าต้องการสังหารผู้เฒ่าเกิ่งเพื่อเขย่าขวัญทุกคน
ฝ่ายผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่ต่อสู้กับผู้เฒ่าสบโอกาสไล่ต้อน โฉบไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วหมายจะปลิดชีพผู้เฒ่า คนตระกูลเกิ่งเห็นแล้วหัวใจบีบรัดขึ้นมาทันใด พากันอุทานเสียงหลง…
………………………………………………….
ตอนที่ 416 เป็นไปไม่ได้!
“ท่านพ่อ!”
“ท่านปู่!”
“ท่านผู้เฒ่า!”
ได้ยินลูกหลานของเขาอุทานเสียงหลงกันอยู่ตรงนั้น หลังจากผู้เฒ่าประคองฝีเท้าไว้ได้ก็เบิกตาเขม็ง ตะโกนใส่พวกเขาอย่างเกรี้ยวกราด เหมือนไม่เห็นว่าผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นมุ่งเข้ามาจู่โจมหมายเอาชีวิต
“ตะโกนอะไรกัน? ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย!”
ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งจิ่วอีกด้านหนึ่งหลุดยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ มองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย และเวลานี้ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น สองมือใต้แขนเสื้อเธอคีบเข็มเงินเล่มหนึ่งเล่นอยู่
ดวงตาที่มีรอยยิ้มของเธอจับจ้องร่างผู้เฒ่าเกิ่ง จากนั้นเหลือบมองผู้ฝึนตนระดับหลอมแก่นพลังที่เข้าโจมตี ขณะที่มือขยับส่งเข็มเงินไปก็ตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงเคารพ
“ท่านปู่เกิ่งสู้ๆ นะเจ้าคะ! ท่านเก่งกาจที่สุดเลย!”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นตกใจสะดุ้งเพราะเสียงตะโกนอย่างกะทันหันของเธอ ทันใดนั้นเอง ร่างกายคล้ายมีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพียงยิ้มเย็นเท่านั้น เก่งกาจที่สุด? คุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนี้ช่างใสซื่อเสียจริง!
ทว่าเวลาต่อมาสีหน้าเขากลับเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง…
“ฮ่าๆๆๆ! ดี! แม่หนูเฟิ่งช่างได้ใจข้ายิ่ง ไม่เหมือนคนตระกูลข้าพวกนั้น แต่ละคนเอาแต่ดูถูกข้า!”
ผู้เฒ่าเกิ่งเป็นดั่งเด็กน้อยซุกซน หน้าชื่นตาบานจากเสียงกู่ร้องให้กำลังใจของนาง จากนั้นเก็บเสียงหัวเราะ เปิดดวงตาพยัคฆ์ ระหว่างรวบรวมกระแสลมปราณทั่วร่างมายังสองมือและพลันจู่โจมไปเบื้องหน้า ปากก็ตะโกนลั่น
“แรงต้านพันชั่ง!”
เห็นเพียงว่าพริบตาที่สองมือของผู้เฒ่าเกิ่งจู่โจมไป กลิ่นอายพลังเร้นลับมหาศาลซึ่งเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็รวมตัวกันพุ่งโจมตีออกจากสองมือเขาราวกระแสน้ำ มุ่งไปยังผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่จู่โจมมาและหน้าเปลี่ยนสี ทันใดนั้นเหมือนมีแรงพันชั่งปะทะร่างผู้ฝึกตนคนนั้น ทำให้ร่างกระเด็นออกไปไกลร้อยเมตรเสียดื้อๆ
“ตูม!”
“อ๊าก!”
เมื่อเสียงการโจมตีปะทะลงบนร่างผู้ฝึกตนคนนั้น ก็ประหนึ่งมีเสียงกระดูกแตกหักดังขึ้นด้วย เพียงแต่ถูกเสียงร้องแหลมอย่างเจ็บปวดกลบของเขาไว้ จึงไม่มีใครได้ยินก็เท่านั้น
เอ๋?
ผู้เฒ่าเกิ่งเห็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นโดนเขาโจมตีกระเด็นโดยไม่มีแม้แต่แรงต่อต้าน ก็แปลกใจอยู่บ้าง ว่ากันตามหลักเหตุผล ศัตรูเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง แม้การโจมตีครั้งนี้จะรวมพลังพันชั่งไว้ แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ควรนิ่งรับการโจมตีโดยไร้ซึ่งแรงต่อต้านนี่?
ผิดปกติตรงไหนกันแน่?
ไม่ต้องพูดถึงว่าตัวผู้เฒ่าเองยังรู้สึกแปลกใจ แม้แต่คนอื่นๆ รอบข้างเห็นภาพนี้ก็เบิกตากว้างอย่างออกจะมึนงงเช่นกัน
นั่นเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังเชียว! ผู้ฝึกตนระดับบรรพชนนักรบขั้นกลางเช่นเขาต่อกรกับระดับหลอมแก่นพลังได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หนำซ้ำยังโจมตีจนกระเด็นไปไกลร้อยเมตรในหนึ่งฝ่ามือ? นี่ นี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง?
“ทะ ท่านผู้นำตระกูล ท่านผู้เฒ่าขะ…แข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?” คนตระกูลเกิ่งคนหนึ่งกลืนน้ำลาย จับจ้องผู้เฒ่าเกิ่งด้วยสองตาเป็นประกาย
ผู้นำตระกูลเกิ่งยามนี้หัวใจก็เต้นรัวเร็ว รู้สึกว่าภาพนี้น่าเหลือเชื่อและไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่บอกไม่ถูกว่าผิดปกติตรงไหน? ถึงอย่างไร คนอื่นๆ ต่างก็เห็นว่าไม่มีใครเข้าไปช่วย และเห็นว่าผู้ฝึกตนคนนั้นถูกท่าแรงต้านพันชั่งของผู้เฒ่าปะทะกระเด็นออกไปเช่นนั้น…
ยามนี้ ผู้ฝึกตนอีกคนเบิกตากว้างจ้องผู้เฒ่าเกิ่ง ปากพึมพำว่า “เป็นไปไม่ได้! ไม่สมเหตุสมผลเลย! นี่มันไม่ถูกต้อง!”
ผู้เฒ่าเกิ่งที่รู้สึกเช่นกันว่าไม่ค่อยปกติมองๆ สองมือของตัวเอง นึกฉงนสงสัย ทว่าเวลานี้เอง เสียงหนึ่งที่ตื่นเต้นยินดีกลับลอยเข้าหูเขา…
………………………………………………….