เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 417 พวกเจ้ารอก่อนเถอะ! + ตอนที่ 418 ความรู้สึกร้อยพันผสมปนเป!
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 417 พวกเจ้ารอก่อนเถอะ! + ตอนที่ 418 ความรู้สึกร้อยพันผสมปนเป!
ตอนที่ 417 พวกเจ้ารอก่อนเถอะ!
“ท่านปู่เกิ่ง! ท่านเก่งกาจนัก!”
ผู้เฒ่าเกิ่งหันหน้ามา เห็นแม่หนูตระกูลเฟิ่งมาอยู่ข้างกายเขาเมื่อใดไม่รู้ สองดวงตากำลังฉายประกาย มองเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เห็นเช่นนี้ใจผู้เฒ่าก็เบิกบาน รู้สึกแต่ว่าปลื้มปีติจนร่างกายเบาหวิว แม้แต่ความเคลือบแคลงในใจยังโยนทิ้งไป หัวเราะลั่นขึ้นมาโดยไม่สืบสาวราวเรื่องอีก
“ดูท่าข้าจะเป็นกระบี่เก่าที่คมไม่รู้เสื่อม! ฮ่าๆๆๆ!” มือหนึ่งของเขาเท้าเอว อีกมือลูบเคราพลางเงยหน้าหัวเราะลั่น ท่าทางภาคภูมิใจยิ่งนัก
เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วก็เหยียดยิ้ม คิดว่าผู้เฒ่าเกิ่งกับท่านปู่เธอคล้ายคลึงกันบางส่วนจริงๆ สายตาเธอเคลื่อนไปจับจ้องร่างผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่โดนซัดกระเด็นออกไปไกลร้อยเมตร ดวงตามีประกายจางๆ ฉายผ่าน
หากศัตรูไม่ใช่ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง มีวรยุทธ์ป้องกันตัว การโจมตีนี้ของผู้เฒ่าเกิ่งต้องปลิดชีวิตเขาไปแล้ว แต่ตอนนี้ดูแล้ว หากไม่พักฟื้นสักสิบวันหรือครึ่งเดือน อยากจะฟื้นสภาพก็ไม่ง่ายดายนัก
ยามนี้ ชายชราอีกคนที่เรียกสติกลับมาจากความตกตะลึงไม่ได้เข้าไปประมือกับผู้เฒ่าเกิ่ง แต่พุ่งไปหาชายชราที่ล้มอยู่บนพื้นและประคองเขาขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้าถึงต้านฝ่ามือนั่นไว้ไม่ได้?”
“แค่กๆ! อั่ก!”
ชายที่ถูกพยุงขึ้นมาไอสองครั้ง กระอักเลือดออกมา มือหนึ่งกุมตรงหน้าอกที่เจ็บปวดรุนแรง รู้สึกได้ว่ากระดูกซี่โครงโดนซัดหักจนบาดเจ็บภายในสาหัส ก่อนจะมองไปทางผู้เฒ่าเกิ่งอย่างไม่ยอมแพ้
“ไป! กลับกันก่อน!” เขาพูดอย่างโกรธแค้น ในใจมีไฟโทสะกำลังแผดเผา ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังผู้เกรียงไกรคนหนึ่งพ่ายแพ้ต่อผู้ฝึกตนระดับบรรพชนนักรบขั้นกลาง น่าขายหน้านัก!
เห็นเช่นนี้ ชายชราคนนั้นก็ไม่พูดอะไรมาก ประคองเขาจากไปอย่างรวดเร็ว
“ดี! ดี! ฮ่าๆๆๆ…”
เสียงร้องยินดีเสียงหัวเราะร่าแต่ละเสียงดังขึ้นกลางค่ำคืน เสียงชื่นชมและความตื่นเต้นจากใจทำให้ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคนนั้นมีไฟสุมทรวง ได้ยินเสียงหัวเราะยินดีด้านหลังทุกเสียงสะเทือนหู ทำให้พวกเขารู้สึกอัปยศราวกับถูกตบหน้า
“พวกเจ้ารอก่อนเถอะ!”
ผู้ฝึนตนคนนั้นหันมาทิ้งคำพูดที่ชวนให้คนหัวเราะบ้าคลั่งไว้อย่างชั่วร้าย คำขู่เช่นนี้ ปกติจะเป็นคำกล่าวฝืนทนของผู้ที่จากไปอย่างหน้าม่อยคอตก ไม่พูดเสียยังดีกว่า พอพูดไปผู้คนก็หัวเราะดังลั่นกว่าเดิม
“ท่านพ่อ ท่านไม่เป็นไรกระมัง?” ผู้นำตระกูลเกิ่งก้าวยาวมาข้างกายผู้เฒ่าเกิ่ง พินิจมองจากบนลงล่าง เป็นห่วงว่าบิดาจะบาดเจ็บเพราะโดนฝ่ามือก่อนหน้านี้
“ไม่เป็นไรๆ ข้ายังดีอยู่!” ผู้เฒ่าเกิ่งโบกๆ มือ หยีตาแย้มยิ้มมองเฟิ่งจิ่ว “แม่หนูเฟิ่ง แม้ว่าจะค่ำแล้ว แต่ข้าคิดว่ามีเรื่องที่จำเป็นต้องคุยกับเจ้าดีๆ เสียหน่อย”
ได้ยินเช่นนี้ แววตาเฟิ่งจิ่ววูบไหวเล็กน้อย บอกทั้งรอยยิ้มอิ่มเอมว่า “เชิญท่านปู่เกิ่งเจ้าค่ะ” จากนั้นจึงหันข้างทำท่ามือเชื้อเชิญเขาเข้าจวน
“คนอื่นๆ กลับไปให้หมด ส่วนเจ้าเข้ามากับข้า!” ผู้เฒ่าเกิ่งหันกายไปบอก ส่งสัญญาณให้ผู้นำตระกูลเกิ่งตามเข้ามา
เห็นเช่นนี้ผู้นำตระกูลเกิ่งจึงออกคำสั่ง แล้วเดินตามผู้เฒ่าเข้าจวนตระกูลเฟิ่งไป
เฟิ่งจิ่วมองไปรอบๆ แวบหนึ่ง จากนั้นค่อยบอกกับฉีคังว่า “ในเมื่อองครักษ์เราต่างมากันแล้ว ก็เรียกรวมพลเสียหน่อย ให้พวกเขาเปิดเผยตัวตนคอยอารักขารอบๆ จวน รอข้าสั่งการ”
“ขอรับ!”
พวกเขาขานรับด้วยความเคารพ เห็นนางเข้าไปแล้วถึงจะมองหน้ากัน จากนั้นหยิบนกหวีดไม้ประจำตระกูลเฟิ่งออกมาเป่าเสียงดัง เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น เหล่าองครักษ์ตระกูลเฟิ่งที่เดิมทีซุ่มซ่อนอยู่โดยรอบพลันปรากฏตัว แต่ละคนวิ่งเหยาะๆ เข้ามา ยืนเรียงแถวเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว และรอคอยคำสั่ง…
………………………………………………….
ตอนที่ 418 ความรู้สึกร้อยพันผสมปนเป!
ภายในจวนตระกูลเฟิ่ง
เฟิ่งจิ่วเชิญผู้เฒ่าเกิ่งและผู้นำตระกูลเกิ่งเข้าไปห้องโถงใหญ่ หลังเชิญพวกเขานั่งลง ข้ารับใช้ก็ยกน้ำชาเข้ามาแล้วถอยออกไป ในห้องโถงใหญ่ นอกจากเหลิ่งซวงที่ยืนอยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่ว ก็มีเพียงผู้เฒ่าเกิ่งกับบุตรชาย ส่วนคนอื่นๆ คอยอยู่ด้านนอก
“แม่หนูเฟิ่ง ช่วงนี้ข้าเก็บตัวฝึกบำเพ็ญอยู่ตลอด พอออกมาถึงเพิ่งได้ยินเรื่องพวกเจ้าตระกูลเฟิ่ง ยามนี้ปู่เจ้าไม่อยู่ พ่อเจ้ายังหมดสติไม่ฟื้น ไม่รู้ว่าต่อจากนี้เจ้ามีแผนการเช่นไร?” ผู้เฒ่าเกิ่งเอ่ยปากตรงเข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อมแม้แต่น้อย
“ท่านปู่เกิ่งไม่ต้องเป็นห่วงตระกูลเฟิ่งไปเจ้าค่ะ คืนนี้ท่านก็เห็นแล้ว คนพวกนั้นคิดจะเอาเปรียบตระกูลเรายังทำไม่ได้ ข้ามีความสามารถและความมั่นใจว่าจะปกป้องตระกูลเฟิ่งได้เป็นอย่างดี”
บนใบหน้าเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในคำพูดล้วนมีความเชื่อมั่น ราวกับว่าไม่เห็นคนพวกนั้นในสายตา ความมั่นใจนั้นทำให้ชายชราตระกูลเกิ่งเห็นแล้วอดแปลกใจไม่ได้ ไม่รู้ว่านางเอาความมั่นใจมาจากไหน?
“แล้วองค์รัชทายาทแคว้นเหินเวหาคนนั้นเล่า มู่หรงป๋อยังดี หากพวกเราร่วมมือต่อต้านร่วมกับเหล่าวงศ์ตระกูลและกลุ่มอำนาจ มู่หรงป๋อก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเจ้าแล้ว แต่หากเป็นรัชทายาทแคว้นเหินเวหา เกรงว่าต่อให้พวกเราคิดจะปกป้องกันและกันก็ยังยาก” ผู้เฒ่าเกิ่งเอ่ยปัญหาที่กังวลอยู่ในใจด้วยความวิตกเล็กน้อย
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วก็ยิ้มน้อยๆ “คืนนี้ตระกูลเกิ่งออกหน้าแทนพวกเรา ข้ากังวลเช่นกันว่าหลังจากนี้พวกเขาจะสร้างปัญหาให้พวกท่าน ดังนั้นข้าจึงอยากขอให้ท่านปู่เกิ่งอย่ายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้เลย เช่นนี้ตระกูลเกิ่งจะได้ไม่พลอยเดือดร้อนไปด้วย ส่วนวิธีแก้ไข…”
เสียงเธอชะงักเล็กน้อย เอ่ยยิ้มๆ ว่า “จะต้องมีเสมอ”
ได้ยินคำกล่าวนี้ ผู้เฒ่าเกิ่งแปลกใจอยู่บ้าง ผู้นำตระกูลเกิ่งเองก็คาดไม่ถึงนิดหน่อย เขานึกว่าพอตระกูลเกิ่งออกหน้า คุณหนูใหญ่เฟิ่งผู้นี้จะพยายามจับพวกเขาไว้ไม่ปล่อย ให้พวกเขาได้ช่วยตระกูลเฟิ่งอีกแรง ไม่นึกเลยว่านางจะไม่อยากให้พวกเขายุ่งเกี่ยวด้วย ทุกเรื่องล้วนคำนึงถึงพวกเขา ช่างเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ
ไม่นึกว่าถึงแม้ตระกูลเฟิ่งไร้บุตรชาย แต่คุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนี้ก็ยังกล้าหาญและมั่นใจเช่นนี้ หาได้ยากยิ่งเหมือนกัน
เพียงแต่ เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้นางมีใบหน้าแย้มยิ้ม ต่อมากลับสังหารผู้นำทหารคนนั้นโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา ท่ามือโหดเหี้ยมที่เด็ดขาดนั้นทำให้เขานึกขึ้นได้ว่านางไม่ได้ไร้พิษสงเช่นที่เห็นภายนอก
แต่บิดาของเขากลับคล้ายจะคิดว่าคุณหนูใหญ่เฟิ่งที่ยิ้มแย้มเบิกบานตรงหน้าเป็นเพียงเด็กสาวน่ารักไร้เดียงสา ได้ยินผู้เฒ่ากำชับและตักเตือนอยู่ข้างๆ หลายต่อหลายครั้ง ท่าทีไม่วางใจนั้นปานเห็นนางเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเอง เขามองเสียจนใจมีความรู้สึกร้อยพันผสมปนเป
ผู้เฒ่าเกิ่งคุยกับเฟิ่งจิ่วในห้องโถงใหญ่ประมาณหนึ่งชั่วยาม และถามถึงอาการเฟิ่งเซียวในตอนนี้ เพียงแต่เฟิ่งจิ่วไม่บอกตามความจริง สุดท้ายส่งพวกเขาสองคนออกไปด้วยตนเองแล้ว ถึงจะไปยังเรือนของบิดาเพื่อบอกเรื่องที่ตระกูลเกิ่งออกหน้าแทน
ทางด้านมู่หรงอี้เซวียน ครั้นได้ยินเรื่องจวนตระกูลเฟิ่งในคืนนี้ก็ยืนครุ่นคิดอยู่ข้างหน้าต่างเนิ่นนาน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร…
ภายในพระราชวัง มู่หรงป๋อยังโกรธเคือง หลังจากได้ยินคนเบื้องล่างรายงาน เสียงตะโกนเกรี้ยวกราดก็แทบจะดังไปทั่วราชวัง โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าตระกูลเกิ่งร่วมมือกับวงศ์ตระกูลและกลุ่มอำนาจบางส่วนมาออกหน้าปกป้องตระกูลเฟิ่ง ยิ่งโกรธจัดจนร่างกายสั่นเทิ้ม
“ดี! ดีนัก! รอตระกูลเฟิ่งล่มสลายเมื่อใด ข้าจะทำให้พวกมันเสียใจกับการกระทำในวันนี้แน่!”
ส่วนภายในตำหนักที่รัชทายาทแคว้นเหินเวหาพำนักอยู่ ตอนนี้…
………………………………………………….