เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 509 ยื่นหงส์ขโมยมังกร + ตอนที่ 510 กล้ำกลืนฝืนทน
ตอนที่ 509 ยื่นหงส์ขโมยมังกร
“หากเป็นของคุณชาย ข้าก็อยากหารือกับท่านว่าจะขอยืมป้ายประจำตลาดมืดท่านไปใช้ แน่นอนข้าจะไม่ทำให้ท่านเสียหาย ขอแค่เสนอราคาข้าจะเช่ายืมในราคาสูงก็ได้”
อาจเพราะเห็นเฟิ่งจิ่วอายุยังน้อย ชายวัยกลางคนจึงเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา พอกล่าวไปอีกคนข้างๆ กับผู้ดูแลหวงก็มองเขาโดยฉับพลัน สองคนขยับริมฝีปากกลับไม่พูดอะไร แค่ใช้สายตาจับจ้องบนร่างหนุ่มน้อยชุดแดงผู้นั้น
เพียงแต่เฟิ่งจิ่วที่ได้ยินคำพูดนี้กลับยกริมฝีปากยิ้มไม่ตอบรับเขา แต่มองผู้ดูแลหวงพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “ป้ายประจำตลาดมืดสามารถปล่อยเช่าเช่นนี้ได้หรือ?”
ผู้ดูแลหวงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน มองชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง จากนั้นค่อยเอ่ยกับเฟิ่งจิ่วว่า “คุณชาย ตลาดมืดไม่มีกรณีเช่นนี้ขอรับ” สิ้นเสียงก็บอกชายวัยกลางคนว่า “พวกเจ้าไปรอข้าที่ห้องรับรองก่อนเถอะ!”
ทว่าชายวัยกลางคนกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะมองผู้ดูแลหวง “เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ ขอแค่คุณชายท่านนี้ยินยอมจะกลายเป็นการซื้อขายส่วนตัว หนำซ้ำข้าใช้ไม่นานมาก เวลาสักเดือนหนึ่งก็พอแล้ว”
แม้พวกเขาเป็นผู้รับใช้ตลาดมืดแต่ปกติจะดูแลงานภายนอก ไม่เหมือนกับตำแหน่งผู้ดูแลที่ดูแลตลาดมืด หากได้รับป้ายประจำตลาดมืดอย่างง่ายดาย เห็นโอกาสนี้ตรงหน้าเขาคงไม่คว้าไว้ไม่ปล่อยหรอก
อันที่จริงสำหรับเขาแม้ท่าทางหนุ่มน้อยชุดแดงคนนี้จะโดดเด่น แต่ถึงอย่างไรอายุยังน้อย ประสบการณ์ก็ไม่มากพอ หากเขาให้ผลประโยชน์มากพอ ก็ไม่ต้องกลัวว่าเด็กหนุ่มจะไม่ตอบรับการซื้อขายครั้งนี้
เห็นชายวัยกลางคนยังมุ่งหมายที่ป้ายประจำตลาดมืดไม่เลิกรา เธอก็ยกมุมปากขึ้นมองผู้ดูแลหวง “ป้ายประจำตลาดมืดของข้าล่ะ?”
ได้ยินเช่นนี้ผู้ดูแลหวงถึงจะนึกออกว่าแผ่นป้ายยังอยู่ในมือผู้รับใช้วัยกลางคน จึงรีบเร่งบอกว่า “น้องสวี่ รีบหยิบป้ายออกมาคืนให้คุณชายเร็ว”
“เหล่าสวี่ คืนป้ายให้คุณชายไปเถอะ! พวกเราค่อยหาวิธีอื่นก็ได้” ชายวัยกลางคนข้างๆ เอ่ยขึ้นบ้าง ถึงอย่างไรเขาก็รู้ว่าเรื่องการเช่ายืมป้ายประจำตลาดมืดไม่เหมาะสมมาแต่ไหนแต่ไร
เห็นสายตาพวกเขาหยุดลงบนร่างเขา ชายวัยกลางคนแซ่สวี่ก็มองเฟิ่งจิ่ว ชะงักลงเล้กน้อยพักหนึ่ง แล้วหยิบป้ายจากในแขนเสื้อยื่นให้เฟิ่งจิ่ว บอกว่า “นี่ป้ายประจำตลาดมืดของคุณชาย เชิญเก็บไปเถอะ”
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองชายวัยกลางคนที่สายตาหยุดอยู่บนใบหน้าเธอ ยิ้มๆ พลางรับแผ่นป้ายนั้นมา แต่พอมือรับไว้แววตาก็สั่นไหวเล็กน้อยทันควัน มองป้ายประจำตลาดมืดในมือแล้วเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยถามเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “นี่คือป้ายประจำตลาดมืดชิ้นนั้นของข้าหรือ?”
พูดไปเช่นนี้ท่าทีทั้งสามต่างเปลี่ยนไป โดยเฉพาะผู้ดูแลหวง เขารีบรับไปดู พอเห็นก็ตะลึงเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะมองชายวัยกลางคนแซ่สวี่ข้างกายที่ใบหน้าแข็งทื่อ
“น้องสวี่ นี่… เจ้า…”
เห็นเช่นนี้คิ้วชายวัยกลางคนข้างๆ ก็ขมวดขึ้นมา มองชายวัยกลางคนแซ่สวี่ แล้วมองป้ายประจำตลาดมืดในมือผู้ดูแลหวงคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไร
“คุณชายหมายความว่ายังไง? ชิ้นนี้ไม่ใช่ป้ายประจำตลาดมืดชิ้นนั้นของท่าน หรือจะมีของปลอม?” สีหน้าชายวัยกลางคนยิ่งคร่ำเครียด แรงกดดันผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังก็กระจายออกมาปกคลุมไปทางเฟิ่งจิ่ว
รู้สึกถึงแรงกัดดันโจมตีมา สีหน้าเหลิ่งซวงที่เดิมทีเฉยชาจึงยิ่งเย็นเยียบ เห็นน้องชายข้างกายเป็นเช่นเดียวกัน เขาฝืนตนรับไว้ไม่ขยับเขยื้อนแต่ตรงหน้าปากมีเหงื่อไหลออกมา เห็นเช่นนี้นางจึงมองชายวัยกลางคนผู้นั้น
จะใช้แรงกดดันทำให้นายท่านหวาดกลัว? คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ
………………………………………………….
ตอนที่ 510 กล้ำกลืนฝืนทน?
ทว่าสิ่งที่เหนือการคาดเดาของทุกคน คือเฟิ่งจิ่วกลับไม่โมโห ไม่โกรธเคือง และยิ่งไม่ลงมือทำร้ายใคร แต่หลังจากเผยรอยยิ้มแปลกๆ ก็คว้าป้ายประจำตลาดมืดในมือผู้ดูแลหวงมาดูแล้วดูอีก กล่าวว่า “อืม ดูให้ละเอียดหน่อยก็คล้ายๆ ชิ้นนั้นของข้า ใช่ นี่คือป้ายประจำตลาดมืด ใครเล่าจะกล้าทำของปลอม?”
เธอยิ้มพลางลุกยืนขึ้น มองไปทางผู้ดูแลหวงท่ามกลางท่าทีแปลกใจเล็กน้อยของทุกคน “ท่านผู้ดูแลหวง ตอนนี้ท่านมีเวลาหรือไม่กันแน่? ข้ามีเรื่องให้ท่านช่วยเหลือ”
“คุณชาย ป้ายประจำตลาดมืดนั่น…” ผู้ดูแลหวงอึ้งไป อยากจะเอ่ยปากก็ถูกเฟิ่งจิ่วตัดบท
“ในเมื่อท่านดูป้ายประจำตลาดมืด นั่นก็พอแล้ว” พูดจบก็มองสองคนข้างๆ นั้น “ข้าว่าพวกท่านควรออกไปก่อนไม่ใช่หรือ?”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราก็ขอตัวก่อน” ชายวัยกลางคนแซ่สวี่พูดจบก็สาวก้าวเดินออกไปทันทีโดยไม่รอให้ผู้ดูแลหวงพูดอะไร
ชายวัยกลางคนอีกคนเห็นเช่นนี้จึงชะงักไปเล็กน้อย ประสานมือคาราวะ สายตาหยุดลงบนร่างเฟิ่งจิ่วพักหนึ่งถึงจะหันตัวออกไป
เห็นสองคนจากไป ผู้ดูแลหวงอ้าปากไม่รู้จะพูดอะไรดี ผ่านไปสักพักก็หันหน้ากลับมามองเฟิ่งจิ่วแล้วถอนใจ ไม่รู้จะพูดยังไงทำได้เพียงเอ่ยถาม “คุณชายท่านนี้ บอกว่ามีเรื่องต้องการให้ตลาดมืดช่วย ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไรขอรับ?”
ป้ายประจำตลาดมืดของจริง นึกไม่ถึงว่าเดินไปตลาดมืดก็ถูกเปลี่ยนเป็นของปลอม เรื่องเช่นนี้เขาเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก หนำซ้ำเขายังพกป้ายปลอมติดตัวไป เรื่องนี้หากเขาไม่รายงานเบื้องบน น่ากลัวจริงๆ ว่าจะก่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
อีกอย่างหนุ่มน้อยคนนี้โง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่? ถึงนิ่งดูดายมองป้ายประจำตลาดมืออันนั้นโดนสับเปลี่ยนไป? ชัดเจนว่าเขามองออกว่าป้ายนั้นไม่ใช่อันเดิมกลับยังคงยิ้มรับเก็บเอาไว้ หรือเพราะกลัวแรงกดดันระดับหลอมแก่นพลังจากเขา?
ทันใดนั้นสายตาตรวจมองก็หยุดลงบนร่างหนุ่มน้อยที่ใบหน้าประดับรอยยิ้ม ในใจมีเรื่องมากมายที่ไม่เข้าใจ
เฟิ่งจิ่วเล่นป้ายประจำตลาดมืดในมือ มุมปากที่ยกเล็กน้อยมีรอยยิ้มแปลกๆ ที่ทำให้คนไม่อาจคาดเดา ดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งฉายประกายแผนร้าย เธอที่เจ้าเล่ห์ปานจิ้งจอก จะกล้ำกลืนฝืนทนไปเช่นนี้จริงๆ หรือ?
“ผู้ดูแลหวง ข้ามาขอให้ท่านตรวจสอบคนคนหนึ่ง” เธอยิ้มๆ มองไปทางผู้ดูแลที่กำลังกลัดกลุ้ม
“ไม่ทราบว่าคุณชายอยากตรวจสอบใครขอรับ?” ด้วยกลุ่มอำนาจตลาดมืด ไม่ต้องพูดถึงการตรวจสอบคนคนเดียว จะตรวจสอบตระกูลก็ไม่มีปัญหา
“ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อซู่ซี ข้าต้องการรู้ที่อยู่ตระกูลนาง รวมถึงเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับนางและการเคลื่อนไหวช่วงนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ความคิดแรกที่ผู้ดูแลหวงคิดคือหนุ่มน้อยคนนึ้คงไม่ได้ขโมยป้ายประจำตลาดมืดท่านพ่อออกมาไล่ตามแม่นางกระมัง? นึกถึงป้ายปลอมชิ้นนั้นเขาก็ปวดหัวยิ่งนัก จึงบอกว่า “คุณชาย ท่านต้องการตามหาแม่นางคนนี้มีภาพเหมือนหรือไม่? หรือแซ่อะไร? ลำพังแค่ชื่อต่อให้เป็นกลุ่มอำนาจตลาดมืดจะควานหาก็ไม่ง่ายหรอกนะขอรับ!”
“ภาพเหมือน?”
สีหน้าเธอแปลกใจ ภาพสาวงามนั้นไม่รู้ท่านปู่เก็บมากี่ปีแล้ว ผู้หญิงในภาพนั้นเดาว่าตอนนี้คงเป็นผู้หญิงที่แก่ประมาณท่านปู่ แม้เคยเห็นรูปเหมือนนางตอนสาวก็ไม่มีประโยชน์!
นึกถึงตรงนี้เธอจึงบอกว่า “เดาว่าตอนนี้นางคงไม่สาวแล้ว แต่ข้ารู้หน้าตาตอนนางยังสาว งั้นเอาแบบนี้เถอะ! ข้าจะวาดให้ท่านไปลองสอบถาม นอกจากนั้นผู้หญิงคนนี้ไม่น่าใช่คนจากตระกูลธรรมดาๆ ท่านไปไถ่ถามกับพวกตระกูลและกลุ่มอำนาจคงยิ่งได้ข่าวเร็วขึ้น”
…………………………………………