เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 515 ท่านอาโกรธเสียแล้ว + ตอนที่ 516 บรรเทาไอเย็นจากเจ้าตำหนักยมราช
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 515 ท่านอาโกรธเสียแล้ว + ตอนที่ 516 บรรเทาไอเย็นจากเจ้าตำหนักยมราช
ตอนที่ 515 ท่านอาโกรธเสียแล้ว?
“ตอนนี้ค่ำแล้ว ข้าคิดว่านางคงใกล้กลับมาแล้วละ” อิ่งอีพูดพลางมองนายท่านที่ชั้นล่าง ก่อนจะเดินลงไปเช่นกัน
ได้ยินเช่นนี้ ฮุยหลางมองท้องฟ้าด้านนอกแวบหนึ่ง กระซิบว่า “เกรงว่านางคงเล่นสนุกด้านนอกจนลืมว่านายท่านยังรออยู่ที่โรงเตี๊ยม!” เขาแอบคิดในใจ ‘เฮ้อ! สองคนเป็นอย่างนี้ ทำไมไม่พักห้องเดียวกันไปเลยเล่า? เช่นนี้หากภูตหมอออกไปนายท่านจะได้รู้เสียแต่แรก!’
เขาเดินลงมาพลางมองไปข้างนอก มาถึงชั้นหนึ่งกลับไม่เฝ้าข้างกายนายท่านแต่มารออยู่ด้านนอกแทน เพื่อดูๆ ว่าร่างภูตหมอปรากฏอยู่บนถนนใหญ่หรือไม่
เวลารอคอยใครเป็นช่วงที่กระวนกระวายใจที่สุด ชัดเจนว่าเวลาไม่นาน กลับยังทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ผ่านไปนานแล้วคนที่รอก็ยังไม่กลับมา
เห็นนายท่านที่นั่งอยู่ตรงนั้นเปลี่ยนมาดื่มเหล้า ฮุยหลางกวักมือเรียกเสี่ยวเอ้อร์เข้าไป สั่งให้ยกกับแกล้มมาให้นายท่านสักสองสามอย่าง
รออีกประมาณครึ่งก้านธูป เมื่อเห็นร่างสีแดงนั้นปรากฏตัวขึ้นในสายตา ฮุยหลางก็ส่งเสียงร้องดีใจ หันบอกนายท่านด้านในทันที “นายท่าน คุณชายจิ่วกลับมาแล้วขอรับ!”
สีหน้าท่าทางรวมถึงน้ำเสียงแสนระรื่น และยังมีคำพูดเขาอีก ล้วนทำให้แขกเหรื่อที่นั่งดื่มเหล้าพูดคุยอยู่โรงเตี๊ยมชั้นหนึ่งหันไปมองด้วยความแปลกใจ สงสัยกันเล็กน้อย
เพราะท่าทางนั้นคล้ายกำลังตะโกนว่า ‘นายท่าน นายหญิงกลับมาแล้ว’ แต่กลับกลายเป็นว่าคนในคำพูดที่เขาตะโกนคือคุณชายจิ่ว เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
“นายท่าน ฮุยหลางเหมือนกำลังรอพวกเรานะขอรับ” เหลิ่งหวาเห็นฮุยหลางตรงประตูโรงเตี๊ยมแต่ไกลๆ ประหลาดใจอยู่บ้างที่เขามารออยู่ตรงนั้น แต่คิดๆ แล้วอาจไม่ใช่เขาที่กำลังรอพวกตน เป็นเจ้าตำหนักยมราชกำลังรอนายท่านต่างหาก
เฟิ่งจิ่วกระชับของในมือ กล่าวยิ้มๆ อย่างอดไม่ได้ “เดาว่าเจ้าคนจองหองนั่นคงกำลังงอนกันอีกแล้ว”
ได้ยินคำพูดนี้ เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาข้างๆ มองหน้ากัน ต่างผุดรอยยิ้มออกมา
ใช่แล้ว คนที่เย็นชาบ้าอำนาจอย่างเจ้าตำหนัก เมื่อพบนายท่านกลับเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง จิตใจคับแคบและความหยิ่งยโสใดๆ ล้วนเห็นได้จากตัวเขา ฮุยหลางพูดได้ถูกต้อง มีเพียงตอนอยู่ด้วยกันกับนายท่าน เจ้าตำหนักถึงจะมีความรู้สึกสามัญเช่นคนทั่วไป และกลายเป็นอีกคนได้
ครั้นมาถึงหน้าประตูโรงเตี๊ยม ยังไม่ทันเข้าไปด้านในก็เห็นร่างที่นั่งอยู่ตรงชั้นหนึ่ง เห็นเช่นนี้แววตาเฟิ่งจิ่ววูบไหวเล็กน้อย ฮุยหลางที่อยู่ข้างๆ เข้ามาใกล้ พูดเสียงเบาว่า “คุณชายจิ่ว ท่านกลับมาแล้ว นายท่านรอนานมากแล้วนะ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ หลังจากเหลือบมองฮุยหลางก็เดินเข้าไปหาหลิงโม่หาน ขานเรียกอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอา ดูสิ ข้าเอาอะไรกลับมาให้ท่าน?” เธอยกๆ ของในมือ ดวงตาคู่งามหรี่ลงเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพลางมองชายหนุ่มที่ดื่มเหล้าย้อมใจ
เมื่อได้ยินว่ามีของมาฝาก ดวงตาลึกล้ำของหลิงโม่หานฉายประกาย แทบจะหันไปมองคนคนนั้นทันทีอย่างไม่อาจหักห้ามใจ รวมถึงของที่นางนำกลับมาให้เขาด้วย ทว่านึกถึงที่นางออกไปโดยไม่บอกเขา ในใจก็นึกโกรธ ด้วยเหตุนี้จึงไม่สนใจ ดูแลตัวเองดื่มเหล้าไป
“ท่านอา ท่านไม่โกรธแล้วกระมัง?”
เธอโน้มตัวลงข้างๆ เขา เอียงหน้ามองเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม เห็นใบหล่อเหลาที่ปกปิดไว้ด้วยเครายาวยังคงถมึงทึง จึงพูดอธิบาย “ข้าออกไปทำธุระ ดูสิ กลับมายังนำของมาให้ท่านโดยเฉพาะเลย!”
ระหว่างพูดเธอก็วางของในมือลงตรงหน้าเขา
………………………………………………….
ตอนที่ 516 บรรเทาไอเย็นจากเจ้าตำหนักยมราช
เฟิ่งจิ่วนั่งลงข้างๆ มือหนึ่งเท้าคางมองเขา เอ่ยด้วยรอยยิ้มเริงร่า “ได้ยินฮุยหลางบอกว่าในบรรดาขนมอบ ท่านชอบกินขนมมันฮ่อ[1] ตอนเพิ่งกลับมาเห็นร้านขนมอบจึงซื้อกลับมาให้ท่านนิดหน่อย ลองกินซิว่ารสชาติเป็นอย่างไร”
ได้ยินคำพูดนี้ สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้หันมองนาง หัวใจลิงโลดขึ้นมาอย่างน่าผิดหวัง ความเบิกบานที่เต้นเร่าอยู่รางๆ ทำให้ไอหนาวเย็นบนร่างพลันจางหาย ฮุยหลางกับอิ่งอีข้างๆ เห็นแล้วพูดไม่ออก
รู้อยู่แล้วว่าภูตหมอช่วยบรรเทาไอเย็นทั่วร่างนายท่าน ขอเพียงมีนางอยู่ฤดูหนาวก็เปลี่ยนเป็นใบไม้ผลิได้
เห็นท่าทีเปลี่ยนไป ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งนัก แต่ลองคิดๆ ดูแล้วก็ปกติ ใครใช้ให้นายท่านหลงภูตหมอเสียจนจิตใจเคลิบเคลิ้มเล่า? เฮ้อ! ตกลงไปในกับดักรักที่ภูตหมอถักทอขึ้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว โดนพันรัดไว้อย่างยินยอมพร้อมใจ
“ฮึ! อย่าคิดจะถือขนมมันฮ่อไม่กี่ชิ้นมาจัดการข้า หากเจ้าไม่เล่าให้ชัดเจน คอยดูซิว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร!” ชัดเจนว่าสุขใจจนยากจะปิดบัง กลับยังคงทำหน้าเย่อหยิ่ง กล่าวพลางเปิดขนมมันฮ่อถุงนั้นแล้วหักขึ้นมากิน
เหล่าแขกที่ชั้นหนึ่งได้ยินคำพูดและเห็นท่าทางของทั้งสอง สีหน้าก็อดแปลกใจขึ้นมาไม่ได้ สายตาแต่ละคนวนมองบนร่างพวกเขา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
“ข้ายังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย! กินไปพลางเล่าไปพลางเถอะ!” เธอเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นคีบอาหารกิน
เห็นเช่นนี้ หลิงโม่หานกวาดตามองฮุยหลางข้างๆ กัน “เอาชามข้าวมาให้นาง สั่งเสี่ยวเอ้อร์เพิ่มอาหารสักสองสามอย่าง” เสียงเขาชะงักไป เขามองร่างเล็กๆ ของนางพร้อมบอก “เพิ่มเนื้อกับผัก แล้วเอาน้ำแกงมาอีกหนึ่งด้วย”
“ขอรับ” ฮุยหลางฉีกยิ้มกว้าง รีบเรียกให้เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารมาโดยเร็ว ส่วนตัวเองวิ่งไปห้องครัวและยกข้าวขาวหนึ่งโถเล็กออกมาให้พวกเขา
เฟิ่งจิ่วกินพลางเล่าว่า “ข้าเพิ่งไปตลาดมืดมา สั่งพวกเขาสืบข่าวคราวให้เสียหน่อย ลองดูว่าจะไปตามหาท่านปู่ได้ที่ไหน แต่ถูกเรื่องบางอย่างประวิงเวลาไว้ มิเช่นนั้นคงกลับมานานแล้ว”
ได้ฟังเช่นนี้ หลิงโม่หานยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ไม่ปริปากตอบรับอะไรอีก เดิมทีเขาก็ให้ฮุยหลางสั่งคนไปตรวจสอบแล้ว แต่ไม่ทันบอกนางก็วิ่งออกไปเสียเอง
เห็นนางกินข้าวปลาอาหารอย่างเจริญอาหารยิ่ง เขาวางแก้วเหล้าลง หยิบตะเกียบคีบเนื้อให้นางชิ้นหนึ่ง “กินเนื้อเยอะๆ หน่อย เจ้าผอมเกินไปแล้ว”
เฟิ่งจิ่วไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตากินอาหาร คิดว่ารีบๆ กินให้เสร็จแล้วกลับห้องไปพักผ่อนเสียหน่อยดีกว่า สายตาเขาเร่าร้อนลุกวาวเช่นนี้เธอรับไม่ไหวหรอก!
ทันทีที่ทานอาหารเสร็จ เธอรีบร้อนเอ่ยว่า “วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ท่านอาพักผ่อนเร็วหน่อยแล้วกัน! ข้าจะกลับห้องก่อน พรุ่งนี้เจอกัน!” สิ้นเสียงก็ขึ้นไปห้องปีกชั้นสองทันทีโดยไม่รอให้เขาพูดอะไร
เห็นร่างผู้หญิงคนนั้นที่คล้ายหนีไป หลิงโม่หานแค่นเสียงเย็น ทว่าไม่เอ่ยอะไร แต่ถือขนมมันฮ่อถุงนั้นที่นางนำกลับมาขึ้นไปชั้นสอง
ครั้นเห็นพวกเขาขึ้นไปกันหมดแล้ว พวกแขกชั้นล่างถึงจะพูดคุยกัน
“สายตาที่หนุ่มนั่นมองเด็กหนุ่มคนนั้นแปลกจริงๆ”
“อืม นั่นคือสายตาที่มองผู้หญิง”
“แต่หนุ่มน้อยคนนั้นก็หน้าตาดีจริงๆ”
“ดูท่าทางความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจะไม่ธรรมดาเลย พวกเจ้าคิดว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อหรือไม่?”
อิ่งอีที่เฝ้าตรงประตูห้องปีกชั้นสองได้ยินคำพูดด้านล่าง มุมปากก็กระตุก แหงนมองฟ้าอย่างหมดคำพูด
รุ่งเช้าวันต่อมา เมื่อหัวหน้าเคอคนนั้นนำของขวัญมาเยี่ยมถึงโรงเตี๊ยมด้วยตนเอง กลับแจ้งว่าคนที่เขามาหาออกไปแต่เช้าตรู่แล้ว
ส่วนพวกเฟิ่งจิ่ว เวลานี้มายังหน้าประตูใหญ่ของสมาคมนักปรุงยา…
………………………………………………….
[1] ขนมมันฮ่อ หรือคุกกี้เหอเถา ส่วนประกอบหลักคือวอลนัทกับพุทราจีน เป็นของกินเล่นที่ทำในแถบเหนือและใต้ของจีน แต่ละที่รสชาติจะแตกต่างกันไป