เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 645 มาจากแคว้นระดับเก้า + ตอนที่ 646 แค่เจ้าคนเดียว
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 645 มาจากแคว้นระดับเก้า + ตอนที่ 646 แค่เจ้าคนเดียว
ตอนที่ 645 มาจากแคว้นระดับเก้า?
เอ่ยไปเช่นนี้ ทำให้ทุกคนตกใจทันที ต่างมองรองเจ้าสำนักด้วยความตกตะลึง
โดยเฉพาะอาจารย์แซ่หวังคนนั้น สองขายิ่งอ่อนยวบ พลันทรุดนั่งกับพื้น เขามองรองเจ้าสำนักด้วยสีหน้าขาวซีด อ้าปากพะงาบๆ แต่กลับไม่พูดอะไรออกมาสักประโยค
เขามองไปทางชายหนุ่มชุดดำคนนั้น ในใจแสนเกลียดชัง หากไม่ใช่เพราะมันไหนเลยเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้? ถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาหมอกดารา นี่เป็นการทำลายอนาคตเขา และตัดเส้นทางไปสู่ตำแหน่งสูงส่ง!
“ยังไม่รีบไปอีก!” รองเจ้าสำนักถลึงมองเขาอย่างโกรธเคือง พร้อมทั้งตะโกนด้วยเสียงดั่งฟ้าร้อง
อาจารย์แซ่หวังคนนั้นกัดฟันกรอด หลังจากถอนหายใจก็ลุกยืนขึ้น เขาจ้องกวนสีหลิ่นด้วยความเคียดแค้น จากนั้นจึงหันกายออกไปอย่างไม่ยอม
แค้นนี้เขาต้องชำระแน่!
กวนสีหลิ่นมองรองเจ้าสำนัก นึกไม่ถึงว่าเขาจะไล่อาจารย์คนนั้นออก ถึงอย่างไรอาจารย์สำนักศึกษาหมอกดาราทุกคนก็ล้วนผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ด้านพละกำลังต่างค่อนข้างมีจุดที่โดดเด่น ยามนี้กลับโดนรองเจ้าสำนักไล่ออกด้วยคำพูดประโยคเดียว
เห็นเช่นนี้ เขาหลุบตาลง แววตาสั่นไหวเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
“เหอะๆ ตอนนี้พวกเราคุยกันได้แล้วกระมัง?” รองเจ้าสำนักมองเขา เห็นเขาพยักหน้าถึงบอกกับอาจารย์เหอข้างๆ ว่า “นักเรียนพวกนั้นก็ให้เจ้าประเมินไป ส่วนคนนี้…”
สายตาเขาหยุดลงบนร่างกวนสีหลิ่น ยิ้มแย้มแล้วบอกอาจารย์เหอคนนั้น “ข้าจะจัดการเขาเอง”
“ขอรับ”
อาจารย์แซ่เหอขานรับ เห็นรองเจ้าสำนักพากวนสีหลิ่นออกไปแล้วถึงจะดึงสายตากลับ พานักเรียนพวกนั้นมาลงทะเบียนข้างๆ และประเมินให้พวกเขา
ภายในเขตเรือนแห่งหนึ่ง ชายชราสั่งเด็กรับใช้พันแผลให้กวนสีหลิ่น พลางเอ่ยถาม “น้องชายเจ้าคนนั้นมอบป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดาราให้เจ้า เช่นนั้นเขาเล่า? ไม่มาแล้วหรือ?”
“เขามาขอรับ”
“มาแล้ว? เป็นไปไม่ได้กระมัง ทางสำนักพลังวิญญาณข้าหาเขาไม่เจอเลย สำนักพลังเร้นลับทางนี้ก็ไม่มีการลงชื่อประเมินของเขา”
ชายชราลูบๆ เคราคิ้ว ขมวดเล็กน้อย ตั้งแต่เจอหนุ่มน้อยคนนั้นครั้งแรก เขาก็หวังมาตลอดว่าเขาจะมาสำนักศึกษาหมอกดารา และมีความรู้สึกว่าหากหนุ่มน้อยเข้ามาจะต้องสร้างเกียรติยศให้สำนักศึกษาพวกเขาได้เป็นแน่!
กวนสีหลิ่นได้ยินคำพูดนี้ แววตาสั่นไหวเล็กน้อย
เสี่ยวจิ่วไม่อยู่สำนักพลังวิญญาณ? และไม่อยู่สำนักพลังเร้นลับ? เช่นนั้นนางอยู่สำนักยาหรือสำนักยาเซียน? นางบอกว่าจะมา เช่นนั้นก็ต้องมาแน่นอน ไม่แน่ว่ายามนี้คงอยู่ในสำนักศึกษาแล้ว
แม้ในใจจะคาดเดา แต่ปากเขากลับไม่พูด แค่บอกว่า “เขาบอกว่าจะมาเช่นนั้นก็ต้องมาแน่ ท่านรองเจ้าสำนักแค่ต้องตรวจสอบเสียหน่อยก็รู้แล้ว”
“เจ้านึกว่าข้าไม่ตรวจสอบหรือ สองสำนักนั้นต่างไม่มี แล้วจะให้ข้าหาอย่างไร?” เขาทอดถอนใจ มองกวนสีหลิ่น แล้วยื่นใบลงชื่อให้
“กรอกข้อมูลลงบนนี้เสีย จากนี้ไปเจ้าคือนักเรียนสำนักพลังเร้นลับ ภายหลังหากมีเรื่องอะไรก็ไปหาอาจารย์ ถ้าไม่ได้ค่อยมาหาข้า อย่าเอะอะก็ลงไม้ลงมือ หากสู้กับอาจารย์ คนที่ลำบากมีแค่ตัวเจ้าเอง”
ได้ยินแล้ว กวนสีหลิ่นมองเขาแวบหนึ่งแล้วขานรับ และถึงจะรับใบลงชื่อนั้นมา ใช้แขนข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บเขียนกรอกลงไป
“ท่านรองเจ้าสำนัก เรียบร้อยแล้วขอรับ” ไม่นานนักเขาก็ยื่นใบข้อมูลส่งให้
ชายชรารับมาเหลือบมองโดยไม่ตั้งใจ เมื่อเห็นว่าเขามาจากแคว้นระดับเก้าก็อึ้งไปทันที มองยังอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแปลกๆ “เจ้ามาจากแคว้นระดับเก้าหรือ?”
“ขอรับ”
เห็นเขาขานรับอย่างตรงไปตรงมา รองเจ้าสำนักไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี อย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่ฝีมือไม่เลวเช่นนี้จะมาจากแคว้นระดับเก้า ล้วนบอกกันว่าแคว้นระดับเก้าไม่มีทางมีคนโดดเด่นอะไรไม่ใช่หรือ?
……………………
ตอนที่ 646 แค่เจ้าคนเดียว
สุดท้าย รองเจ้าสำนักเพียงมองกวนสีหลิ่นพยักหน้า พูดให้กำลังใจว่า “อยู่ในสำนักศึกษาต้องตั้งใจเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ หากเจ้าแสดงฝีมือเหนือกว่าคนมากมายเพียงนั้นได้ ก็พิสูจน์ได้ว่าเจ้าโดดเด่น”
สิ้นเสียง เขายังบอกอีกว่า “เดี๋ยวเจ้าไปรายงานตัวที่สำนักพลังเร้นลับ ไปหาอาจารย์เหอก็ได้ ให้เขาจัดการให้เจ้าเสียหน่อย นอกจากนั้นหากน้องชายเจ้าเฟิ่งจิ่วมาหา เจ้าอย่าลืมมาแจ้งข้าด้วย”
“ขอรับ” กวนสีหลิ่นขานรับ เห็นว่าพันแผลเรียบร้อยแล้วจึงคารวะและถอยออกไป จากนั้นมุ่งหน้าไปรายงานตัวที่สำนักพลังเร้นลับ
เช้าตรู่วันต่อมา เฟิ่งจิ่วเก็บข้าวของเรียบร้อยตั้งแต่เช้า แวะกินอะไรนิดหน่อยแล้วก็ออกไปรายงานตัวที่สำนักยาเซียน
วันนี้เป็นวันรวมพลผู้เล่าเรียนเข้าใหม่ของสำนักยาเซียน เธอเต็มไปด้วยความเฝ้ารอคอย ถึงแม้เธอศึกษาด้านยาเซียนมา แต่จะทดลองโดยไม่มีคนชี้แนะก็เปลืองแรงเกินไป หากมีคนคอยชี้แนะ ด้านยาเซียนของเธออาจจะก้าวหน้าเร็วขึ้น
เธอโอบกอดความคาดหวังที่มากล้นตรงไปยังสำนักยาเซียน เมื่อมาถึงสำนักยาเซียนหลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม กลับเห็นว่ารอบข้างยังว่างเปล่าไม่มีใครสักคน คิดว่าเพราะตนเองมาเร็ว ดังนั้นจึงเดินเล่นในสำนักยาเซียนก่อน มองๆ ห้องปรุงยาแต่ละห้องภายในสำนัก และเตากลั่นยาแต่ละใบที่วางเรียงราย
“ทำไมถึงรกเพียงนี้? น่าแปลก ห้องปรุงยาพวกนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครใช้มานานมาก” เธอพึมพำเสียงเบา หลังจากเดินวนไปห้องปรุงยาทุกห้อง สุดท้ายก็กลับมารอด้านหน้า
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม สำนักยาเซียนที่ว่างเปล่ายังคงมีเธอยืนอยู่แค่คนเดียว สายลมยามเช้าพัดมาสะบัดถูกใบไม้ร่วงของต้นไม้ใหญ่ในลานบ้าน ให้ความรู้สึกเงียบเหงาอยู่บางส่วน…
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม เธอที่หาที่นั่งรอมีท่าทีแปลกๆ แล้ว นานเพียงนี้ยังมีเธอมาแค่คนเดียว? ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรกระมัง?
ขณะกำลังคิดพลันได้ยินเสียงพูดคุยลอยมา เธอรีบมองไปตามเสียงนั้น ก็เห็นอาจารย์สองคนนั้นที่สอบประเมินให้เธอเมื่อวานสนทนากันพลางเดินเข้ามา
เมื่อทั้งสองเห็นหนุ่มน้อยชุดฟ้านั่งนิ่งอยู่ในลาน เสียงพูดคุยก็หยุดลงทันใด ท่าทางตกใจเล็กน้อย คล้ายเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ หนึ่งคนในนั้นรีบขานเรียก “เฟิ่งจิ่ว? เจ้ารออยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?”
เด็กคนนี้ทำไมถึงมารอเหงาๆ อยู่ที่นี่เล่า? สำนักยาเซียนตั้งกว้างขวางมีเขานั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว เฮ้อ! เด็กคนนี้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา รอไปไม่เจอใครก็ไม่รู้จักไปถามหากับผู้ดูแลซุน ต้องโทษพวกเขาที่เมื่อวานไม่ได้บอกให้ชัดเจน
“ท่านอาจารย์ พวกท่านมาแล้ว?”
เฟิ่งจิ่วเห็นคนทั้งสองก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไป มายังเบื้องหน้าพวกเขาพร้อมเผยรอยยิ้ม “ผู้ดูแลซุนบอกว่าวันนี้เป็นวันรวมพลนักเรียนเข้าใหม่ของสำนักยาเซียน ข้าเข้ามารอแต่เช้า ทว่ารอตั้งนานยังไม่เห็นคนอื่น ตอนนี้ดีเลย ในที่สุดท่านอาจารย์ทั้งสองก็มา”
ทั้งสองได้ยินคำพูดนี้ต่างมองหน้ากันและยิ้มอักอ่วน พวกเขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะจำได้ว่าวันนี้เป็นวันรวมพลนักเรียนเข้าใหม่ แต่เข้ามาที่นี่เพราะมีธุระบางอย่างพอดี แต่แม้เป็นเช่นนี้ก็ไม่อาจพูดออกมาตรงๆ
หนึ่งคนในนั้นจึงกระแอมเบาๆ กล่าวว่า “เช่นนี้เอง! ได้ วันนี้พวกเราจะพูดถึงขั้นตอนพื้นฐานการกลั่นยาเซียนบางส่วนกับเจ้า”
“ท่านอาจารย์ ไม่ต้องรอคนอื่นหรือขอรับ?” เธอถามอย่างปรารถนาดี
“เหอะๆ ไม่ต้องๆ” อาจารย์อีกคนโบกๆ มือ เผยยิ้มใจดีอ่อนโยน “ปีนี้สำนักยาเซียนรับเจ้าเป็นนักเรียนแค่คนเดียว”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็กะพริบตาอย่างตะลึง ชี้หน้าตัวเองพลางถาม “ระ รับแค่ข้าคนเดียว?” ไม่ใช่กระมัง? วันรับสมัครนักเรียนที่สามปีมีครั้ง แต่รับเธอแค่คนเดียวเนี่ยนะ?
………………………………………………….