เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 671 บอกแล้วว่าข้าซ้อมคนเป็น + ตอนที่ 672 รุ่นน้องคนนี้นามว่าอะไร
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 671 บอกแล้วว่าข้าซ้อมคนเป็น + ตอนที่ 672 รุ่นน้องคนนี้นามว่าอะไร
ตอนที่ 671 บอกแล้วว่าข้าซ้อมคนเป็น
ทว่าฝีเท้าเพิ่งก้าวถอยหลัง ก็ถูกนักเรียนข้างหลังขวางไว้
“จะไปหรือ? ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ไม่คุยให้ชัดเจนก็อย่าคิดไปเชียว” นักเรียนคนหนึ่งแค่นเสียงเย็น สองแขนกอดอกจ้องมองหนุ่มน้อยชุดฟ้าคนนั้นอย่างเย็นเยียบ
“ใช่ ไม่คุยให้รู้เรื่องก็ไปไม่ได้!” นักเรียนอีกคนพูดจบก็ขวางทางถอยเฟิ่งจิ่วไว้
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็กะพริบตาจ้องมองพวกเขาด้วยความตะลึง “พวกเจ้าคิดจะทำอะไร? รังแกคนอื่นหรือ? ข้าขอบอกพวกเจ้า อย่าเข้ามายุ่งเชียว!”
“เหอะๆ เจ้ากล้าสวมขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นเดินกรีดกรายไปทั่ว ยังกลัวคนเข้ามายุ่งอีกหรือ?”
นักเรียนคนหนึ่งจับจ้องเฟิ่งจิ่ว บอกว่า “ขนนกเคลือบหลากสีเป็นหนึ่งในสามสมบัติหอสวรรค์ ข่าวว่ามันถูกแลกไปแพร่ออกมาแล้ว ไม่ใช่แค่พวกเรา คนทั้งสำนักศึกษาก็กำลังตามหาเจ้า! หนำซ้ำเดาว่าสิบผู้มีพรสวรรค์ของสำนักศึกษาคงอยากเห็นเสียหน่อย ว่านักเรียนเข้าใหม่ชุดฟ้าอย่างเจ้ามีฝีมือแค่ไหนกันแน่ถึงแลกขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนี้มาได้”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเบิกตาโตจ้องมองพวกเขาอย่างโกรธเคือง ทั้งน้อยใจและขุ่นข้องใจ “พวกเจ้าจะรังแกกันเกินไปแล้ว! ชัดเจนว่านี่เป็นของวิเศษที่ข้าหากลับมา อีกอย่างข้าเดินกรีดกรายไปทั่วเสียที่ไหน? ขนนกชิ้นนี้เดิมทีใช้เป็นของประดับเอวได้ ไม่สวมตรงเอวจะไปสวมตรงไหน!”
“เหอะๆ หามาเอง? พวกเจ้าเชื่อหรือเปล่า?” นักเรียนคนหนึ่งหัวเราะเสียงดัง มองไปยังเหล่านักเรียนโดยรอบพลางเอ่ยถาม
“ไม่เชื่อ!” พวกนักเรียนรอบข้างยิ้มรับ แต่ละคนต่างแหงนหน้าหัวเราะร่า
“จะรังแกกันเกินไปแล้ว! รังแกกันเกินไปแล้ว!” เธอเอ่ยอย่างโมโหปึงปัง กวาดมองพวกเขาพลางกล่าวเตือน “พวกจะ พวกเจ้าอย่าให้มันเกินไปนัก หากทำข้าโกรธจริงๆ ขะ ข้าจะ…”
“เจ้าจะอย่างไร?” มีนักเรียนเอ่ยถามพลางหัวเราะเยาะ
ในแววตาเธอฉายประกาย พลันยิ้มขึ้นมา “ข้าก็ซ้อมคนเป็น”
“ฮ่าๆๆ… ซ้อมคน? เจ้าเนี่ยนะ?”
“อืม ข้าซ้อมคนเป็นจริงๆ นะ” เธอกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“คนสำนักยาบอกคนสำนักพลังเร้นลับอย่างพวกเราว่าซ้อมคนเป็น? ฮ่าๆๆ พวกเจ้าคิดว่าคำพูดนี้น่าขันหรือไม่? เจ้าซ้อมคนเป็น? เจ้าก็ลองดูหน่อยสิ! ข้าอยากขอคำแนะนำเสียหน่อยว่าเจ้าซ้อมคนอย่างไร ฮ่าๆๆ…”
ทว่าเฟิ่งจิ่วส่ายหน้า ถอนใจบอกว่า “ไม่ได้หรอก! ภายในสำนักศึกษาไม่อนุญาตให้สู้กันไม่ใช่หรือ? แล้วข้าจะสู้กับพวกเจ้าได้เช่นไร! ประเดี๋ยวท่านอาจารย์มาเอาเรื่องข้าจะทำอย่างไร? พวกเจ้าปล่อยข้าไปดีกว่า! มิเช่นนั้นหากทำให้ข้าโกรธ ข้าจะซ้อมพวกเจ้าจริงๆ”
“จริงด้วยๆ! เจ้าก็สู้ให้ดูหน่อยสิ! ฮ่าๆๆ เจ้าหนู เจ้าไม่รู้ล่ะสิว่าที่นี่คือที่ไหน? ที่นี่คือสำนักพลังเร้นลับ บอกว่าจะสู้กับคนสำนักพลังเร้นลับเรา? เหอะ เจ้าใจกล้าไม่น้อยเลย!”
“ใช่ ข้าอยู่สำนักพลังเร้นลับมาหลายปีเพียงนี้ ยังไม่เคยเจอเรื่องน่าสนุกเช่นนี้เลย นักเรียนสำนักยาบอกว่าจะสู้ในสำนักพลังเร้นลับเรา? ฮ่าๆๆ ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าหนูนี้ฝีมือเป็นอย่างไร”
“เจ้าหนู มาๆๆ ซ้อมให้พวกเราดูสักหมัด เจ้าออกหมัดเป็นหรือเปล่า? ต้องให้ข้าสอน…”
นักเรียนคนนั้นที่ยืนอยู่หน้าเฟิ่งจิ่วยิ้มเอ่ยอย่างเยาะเย้ย แต่ยังพูดไม่ทันจบก็เห็นหมัดหนึ่งพลันเหวี่ยงเข้ามา หมัดที่ออกมาอย่างกะทันหันนั้นทำให้นักเรียนคนนั้นยากจะตั้งรับ เพียงได้ยินเสียงผัวะ ขณะที่ดวงตารู้สึกเจ็บเบื้องหน้าก็มืดมัว และล้มลงไปทันควัน
“ซี๊ด!”
“จะ เจ้ากล้าสู้จริงๆ ด้วย!”
“เจ้าบ้า! เจ้าหนู เจ้าอยากตายรึ!”
เฟิ่งจิ่วนวดๆ มือ พร้อมมองไปยังทุกคนรอบข้างที่มีสีหน้าตะตะลึง กล่าวอย่างใสซื่อว่า “เรื่องนี้โทษข้าไม่ได้จริงๆ บอกแล้วว่าข้าซ้อมคนเป็น พวกเจ้ายังไม่เชื่อ”
…………………
ตอนที่ 672 ศิษย์น้องคนนี้นามว่าอะไร?
ทุกคนมองนักเรียนสำนักพลังเร้นลับที่โดนหนุ่มน้อยชกไปหนึ่งหมัดจนสลบไป แต่ละคนด่าทออย่างขุ่นเคือง พลางชี้ยังหนุ่มน้อยผู้มีสีหน้าไร้เดียงสาคนนั้น คิดว่าคนคนนี้ช่างน่ารังเกียจ บอกว่าจะลงมือก็ลงมือ อาศัยจังหวะตอนคนไม่ระวังราวกับลอบโจมตี ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
“กล้ามาทำกำเริบเสิบสานถึงสำนักพลังเร้นลับพวกเรา เหล่าสหาย จัดการเขาซะ!”
นักเรียนพวกนั้นด่าทออย่างเกรี้ยวกราด แต่ละคนเหวี่ยงหมัดไปทางเด็กหนุ่มชุดฟ้าผู้มีสีหน้าใสซื่อ ทุกคนล้อมเข้ามาพร้อมกัน เฟิ่งจิ่วจึงตกใจเสียจนร้องอุทาน
“อ๊ะ! พวกเจ้าอย่าเข้ามา!” ร่างเธอแวบหลบ เท้าพลันก้าวเคลื่อนทะลุผ่านข้างกายพวกเขาไป ขณะกำลังหนีไปด้านล่างสำนักพลังเร้นลับ ก็เห็นร่างคู่ชายหญิงขี่นกกระเรียนขาวมาทางนี้
“อ๊ะ! ศิษย์พี่โจวกับศิษย์พี่เกิ่ง!”
“จริงด้วย พวกเขามากันจริงๆ แล้ว!”
“เด็กหนุ่มคนนี้แย่เสียแล้วล่ะ!”
“ใช่ นักเรียนเข้าใหม่แลกขนนกเคลือบหลากสีหนึ่งในสามสมบัติหอสวรรค์ไป พวกเขาต้องมาดูแน่ๆ ว่าหนุ่มน้อยคนนี้วิเศษวิโสอย่างไรกัน”
“ลำพังแค่นักเรียนเข้าใหม่คนเดียว ทำให้สิบผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักศึกษาเราแตกตื่นได้ เข้าช่างมีหน้ามีตานัก”
“ฮ่าๆๆ พวกเรารอดูเขาโดนจัดการเถอะ ศิษย์พี่โจวกับศิษย์พี่เกิ่งเป็นคนจากสำนักพลังวิญญาณ นอกจากนี้เบื้องหลังพวกเขายังมีกลุ่มอำนาจและคนหนุนหลังมากมาย แม้แต่ของที่พวกเขาถูกใจยังกล้าแย่ง เด็กหนุ่มคนนี้วอนหาเรื่องจริงๆ”
ระหว่างที่ทุกคนพูดคุยกัน สองคนที่ขี่นกกระเรียนขาวมานั้นยังไม่ลงมา แต่หยุดอยู่กลางอากาศ และพินิจมองเด็กหนุ่มชุดฟ้าเบื้องล่างจากบนลงล่าง โดยเฉพาะเมื่อเห็นขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นตรงเอวหนุ่มน้อย นัยน์ตาต่างเปล่งประกาย
ชายชุดขาวที่นั่งบนนกกระเรียนขาวจับจ้องเฟิ่งจิ่วด้านล่างด้วยแววตาคมกริบ ถามไปว่า “ศิษย์น้องคนนี้นามว่าอะไร?”
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองสองคนด้านบนและไม่คิดจะเอ่ยปาก แต่มองไปรอบๆ แล้วผลักคนที่ขวางทางออกเตรียมจะจากไป
น่าตลกจริงๆ เขาถามเธอต้องตอบด้วยหรือ? มีด้วยหรือการวางท่าถามคนอื่นจากด้านบนเนี่ย? เธอคร้านจะสนใจเขาแล้ว
เมื่อทุกคนเห็นหนุ่มน้อยชุดฟ้าคนนั้นหลังจากแค่ชำเลืองมองศิษย์พี่เกิ่งก็ผลักนักเรียนที่ขวางทางและเตรียมจะออกไป แต่ละคนต่างแอบสูดลมหายใจ
เด็กหนุ่มชุดฟ้าคนนี้จะหยิ่งยโสเกินไปแล้วกระมัง? ถึงกล้าเมินศิษย์พี่เกิ่ง?
ชายชุดขาวบนนกกระเรียนขาวเห็นเช่นนี้ แววตายิ่งเย็นชา จ้องมองหนุ่มน้อยคนนั้นพลางเอ่ยถามออกไปอีกครั้ง “ศิษย์น้องคนนี้ มีนามว่าอะไร?”
น้ำเสียงเขามีความเย็นเยียบ หนำซ้ำยังแฝงด้วยแรงกดดันพลังวิญญาณ นั่นเป็นแรงกดดันระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ ยามนี้ทั้งหมดล้วนจู่โจมไปทางเฟิ่งจิ่ว
นักเรียนโดยรอบสำนักพลังเร้นลับรู้สึกได้ถึงแรงกดดันระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณที่กวัดแกว่งไปในอากาศ แต่หนุ่มน้อยชุดฟ้าคนนั้นกลับเหมือนว่าไม่เป็นอะไร ยังเดินต่อไปโดยไม่เงยหน้ามอง และไม่ได้รับผลกระทบสักนิด
“เฮ้! เจ้าหนู ไม่ได้ยินที่ศิษย์พี่เกิ่งถามเจ้าหรือ?”
“เจ้าหนู เจ้ารู้จักระเบียบหรือเปล่า?”
นักเรียนรอบสำนักพลังเร้นลับตะโกนไป พร้อมล้อมเข้ามาขวางทางเฟิ่งจิ่วไว้อีกครั้ง
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจเบาๆ มองพวกเขาพลางบอกว่า “พวกเจ้าทำอะไรเนี่ย? เป็นนักเรียนสำนักเดียวกันทั้งนั้น จะทำให้ข้าลำบากใจทำไม? ข้าไม่อยากโต้เถียงด้วย พวกเจ้ากลับยังไม่เลิกรา ไม่รู้หรือว่านักปราชญ์ก็มีโทสะ?”
คนพวกนี้สู้กันไปก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เธอ ยังปรี่มาตรงหน้าเธอโดยไม่รู้จักประเมินตนแม้แต่น้อย เดิมทีนางเป็นคนใสซื่อ เรื่องการใช้อำนาจรังแกคนอ่อนแอเช่นนี้ไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ
………………………………………………….