CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 687 เข้าเรียนสำนักพลังวิญญาณ + ตอนที่ 688 ข้าอายเกินไปที่จะบอก

  1. Home
  2. เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
  3. ตอนที่ 687 เข้าเรียนสำนักพลังวิญญาณ + ตอนที่ 688 ข้าอายเกินไปที่จะบอก
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 687 เข้าเรียนสำนักพลังวิญญาณ + ตอนที่ 688 ข้าอายเกินไปที่จะบอก
ตอนที่ 687 เข้าเรียนสำนักพลังวิญญาณ

สองคนมุ่งไปยังสถานที่ฝึกบำเพ็ญของวันนี้ด้วยกัน เพราะอาจารย์แซ่หลี่ว์จะเข้ามาสอนบทเรียนการใช้พลังวิญญาณควบคุมธาตุ นอกจากพวกนักเรียนที่เก็บตัวฝึกบำเพ็ญ นักเรียนระดับสวรรค์ไม่น้อยก็รออยู่ที่นั่นตั้งแต่เช้า

“ดูสิ เฟิ่งจิ่วคนนั้นมาแล้ว”

“ไม่ต้องสอบประเมินก็กลายเป็นนักเรียนระดับสวรรค์ เขาเป็นคนแรกเลย”

“เยี่ยจิงเดินใกล้กับเขามาก”

“เยี่ยจิงเป็นผู้หญิงที่รุ่นพี่โอวหยางถูกใจ ทั่วสำนักศึกษาใครบ้างไม่รู้? เจ้าหนูนี่กล้าเดินใกล้นางเพียงนั้น ไม่ได้เห็นรุ่นพี่โอวหยางในสายตาเลยจริงๆ”

“ช่วงนี้รุ่นพี่โอวหยางกำลังเก็บตัวฝึกบำเพ็ญไม่ใช่หรือ? เรื่องไม่นานมานี้เดาว่าเขาคงไม่รู้”

“หึ ไม่ช้าก็จะรู้”

เฟิ่งจิ่วกับเยี่ยจิงสองคนมาด้วยกัน ยังเดินไปไม่ใกล้ก็ได้ยินเสียงซุบซิบจากนักเรียนพวกนั้น เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว ยิ้มบอกเยี่ยจิงว่า “คนที่ชื่นชอบเจ้ามีไม่น้อยเลย! แต่ละคนต่างเพ่งเล็งข้าทำอย่างไรดี?”

เยี่ยจิงเม้มริมฝีปากยิ้ม “ต่อให้ไม่มีพวกเขาก็เพ่งเล็งเจ้า ใครใช้ให้เจ้ากลายเป็นนักเรียนระดับสวรรค์โดยไม่ต้องสอบประเมินเล่า?”

“นี่ไม่เกี่ยวกับข้านะ เป็นความคิดรองเจ้าสำนักทั้งนั้น ข้าน้อยใจนัก”

“ได้ประโยชน์แล้วยังทำเป็นไม่ชอบใจอีก” เธอหัวเราะเบาๆ แล้วพาเฟิ่งจิ่วมาคอยข้างๆ และไม่ยืนด้วยกันกับคนอื่นๆ เช่นนี้ถึงจะเลี่ยงไม่ให้นักเรียนคนอื่นมาท้าประลองกับเฟิ่งจิ่วอีก

นักเรียนไม่น้อยทยอยกันเข้ามาแล้ว เมื่อทุกคนมาถึงต่างเหลือบมองไปทางเฟิ่งจิ่ว สายตานั้นมีความดูถูกและเหยียดหยาม ชัดเจนว่าแต่ละคนคิดว่าคนคนนี้ไม่มีฝีมืออะไร แค่อาศัยรองเจ้าสำนักเข้ามา

“ระดับสวรรค์มีแค่สองร้อยกว่าคนหรือ?” เฟิ่งจิ่วกวาดมองไป เห็นว่านักเรียนระดับสวรรค์โดยรอบอยู่ด้วยกันไม่ถึงสามร้อยคน

“แค่?”

เยี่ยจิงมองนาง บอกว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าการเข้ามาเป็นนักเรียนระดับสวรรค์ต้องผ่านการสอบประเมินเช่นไร? ที่นี่ทุกคนล้วนเป็นสิบอันดับแรกของนักเรียนระดับโลก”

เฟิ่งจิ่วเพียงกวาดมองระดับพลังวิญญาณของนักเรียนพวกนั้น ทั้งหมดเป็นระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ ส่วนมากจะอยู่ระดับยอดปรมาจารย์ช่วงที่หนึ่ง สูงสุดก็แค่นักเรียนระดับยอดปรมาจารย์ช่วงที่สาม ส่วนเยี่ยจิงเป็นนักเรียนระดับยอมปรมาจารย์ช่วงที่สามเช่นกัน

ว่ากันตามจริง สำหรับนักเรียนแล้วพละกำลังระดับยอดปรมาจารย์ช่วงที่สามก็โดดเด่นมากจริงๆ ถึงอย่างไรผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานปกติจะอายุหลายสิบปี แน่นอนว่าอย่างพวกฮุยหลางนั้นไม่เหมือนกัน

สถานที่ที่พวกฮุยหลางเกินแตกต่างจากพวกเขา และยังคัดเลือกคนที่โดดเด่นจากในหมู่พวกเขามาฝึกอบรมเพิ่ม เสริมด้วยยาอายุวัฒนะ การบรรลุเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสำหรับพวกเขาจึงไม่ใช่เรื่องยาก

แต่อยู่ที่นี่แม้เป็นคนจากแคว้นระดับหนึ่ง อยากจะบรรลุกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังตอนอายุประมาณยี่สิบพูดได้เลยว่าเป็นส่วนน้อยในน้อยอีกที นอกจากพรสวรรค์ของตนเองยังต้องมียาอายุวัฒนะช่วยในช่วงหลัง มิเช่นนั้นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังจะบรรลุง่ายดายเพียงนั้นได้เช่นไร? ต้องรู้ไว้ว่าผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ก็ร่วงลงมาตอนที่กำลังบรรลุระดับหลอมแก่นพลังนี่เอง

“ไม่ต้องพูดแล้ว อาจารย์หลี่ว์มาแล้ว ชั้นเรียนเขาไม่ชอบให้นักเรียนไม่มีระเบียบเป็นที่สุด” เยี่ยจิงลากเฟิ่งจิ่วเดินไปข้างหน้าพวกนักเรียน แต่ละคนยืนเรียงกันเรียบร้อย มองไปยังอาจารย์วัยกลางคนที่มือไพล่หลังเดินมา

เฟิ่งจิ่วเห็นสถานที่ที่เดิมทีมีเสียงกระซิบดังระงมเงียบลงเพราะการมาถึงของอาจารย์ สายตาก็หยุดลงบนร่างอาจารย์คนนั้นโดยทันที และพินิจมองอย่างเงียบๆ

“เรื่องที่เราจะพูดกันวันนี้คือการควบคุมธาตุทั้งห้าในร่าง พวกเจ้า…”

ขณะกำลังพูดสายตาเขาหยุดลงบนร่างเด็กหนุ่มชุดเขียวตรงแถวหน้า กวาดมองลงไปผ่านขนนกเคลือบหลากสีตรงเอวจึงรู้ตัวตนของอีกฝ่าย

………………

ตอนที่ 688 ข้าอายเกินไปที่จะบอก

“เจ้าคือเฟิ่งจิ่วสินะ?”

เขาถามพลางมองหนุ่มน้อย หลังจากจำได้ว่าเขาคือหนุ่มน้อยคนนั้นที่รองเจ้าสำนักพูดถึง สายตาก็กวาดมองบนร่างเขากลับแปลกใจนิดหน่อย บนร่างเด็กหนุ่มไม่เห็นกลิ่นอายพลังวิญญาณแม้แต่น้อย

เก็บซ่อนไว้หรือ? ในใจนึกสงสัยจึงใช้ดวงจิตไปสำรวจกำลังของเด็กหนุ่ม แต่สิ่งที่ทำให้เขานึกไม่ถึงคือใช้ดวงจิตสำรวจแล้วก็ยังไม่เห็นวรยุทธ์พลังวิญญาณของเด็กหนุ่ม ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสนใจ

“คารวะท่านอาจารย์ ข้าคือเฟิ่งจิ่วขอรับ” เฟิ่งจิ่วก้าวเข้าไปคารวะด้วยความเคารพ

อาจารย์หลี่ว์เห็นเช่นนี้ก็พยักหน้า ถามว่า “พลังวิญญาณเจ้าธาตุอะไร?” กล่าวจบยังบอกอีกว่า “ข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นนักเรียนสำนักยาเซียนด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ต้องมีธาตุไฟแน่ แค่รากฐานวิญญาณธาตุไฟ? หรือว่ามีอย่างอื่นอีก?”

“เรื่องนี้…” เธอคิดๆ แล้วบอกว่า “คล้ายว่าข้าจะยังไม่เคยวัด ลืมไปแล้วขอรับ”

ได้ยินเช่นนี้อาจารย์หลี่ว์ตกใจ “ตอนที่เจ้าฝึกบำเพ็ญพลังวิญญาณก่อนหน้านี้ไม่ได้ลองวัดหรือ? แม้เป็นตระกูลทั่วไปก็ควรมีกระมัง? หรือว่าอาจารย์ที่ชี้แนะเจ้าไม่ได้บอก?”

เฟิ่งจิ่วยิ้มเจื่อนๆ “ข้าฝึกบำเพ็ญแค่พลังวิญญาณมาตลอด ก่อนหน้านี้ไม่มีอาจารย์ชี้แนะ ข้าแค่… ฝึกบำเพ็ญด้วยตนเองขอรับ”

ได้ยินคำพูดเฟิ่งจิ่วเหล่านักเรียนด้านหลังแต่ละคนต่างตะลึง แม้แต่อาจารย์หลี่ว์ยังเบิกตาโตด้วยความตกใจ

“มะ ไม่มีอาจารย์ชี้แนะ? แล้วระดับของเจ้า…”

ไม่มีอาจารย์ชี้แนะ ทำไมเขาถึงไม่มีอาการธาตุไฟเข้าแทรก? หรือเด็กหนุ่มคนนี้มีโชคอะไรน่าเหลือเชื่อ?

เฟิ่งจิ่วเห็นอาจารย์เบิกตาจ้องมองเธอก็เกาๆ หัว “ใช่ขอรับ! ข้าฝึกบำเพ็ญด้วยตนเองตามตำราดูดซับพลัง ฝึกไปฝึกไปก็กลายเป็นยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณแล้ว”

เธอไม่รู้จริงๆ ธาตุพลังวิญญาณควบคุมอย่างไร ปกติสู้กับคนอื่นส่วนมากจะใช้พลังเร้นลับ พลังวิญญาณใช้มากสุดแค่ย้ายกลิ่นอายพลังวิญญาณธาตุไฟในร่างมาใช้กลั่นยาเซียน

แต่ร่างแท้จริงของหงส์ไฟน้อยที่ทำสัญญากับเธอก็มีไฟเทวะโบราณ เธอไม่เข้าใจ อย่างไรเสียการไหลเวียนพลังวิญญาณเธอก็ทำตามหัวใจมาตลอด และไม่เห็นว่าจะเกิดปัญหาอะไร

ยิ่งไปกว่านั้นเธอฝึกบำเพ็ญพลังวิญญาณมาไม่นานเท่าไร เพียงแต่เพราะเดิมเป็นร่างเทพประทับ ระดับพลังวิญญาณจึงพุ่งขึ้นค่อนข้างเร็วเท่านั้นเอง

เหล่านักเรียนด้านหลังได้ยินคำพูดเขาแต่ละคนต่างหน้าแดงก่ำ เบิกตาแดงฉาน ผ่านไปสักพักถึงจะสบถออกมา “บ้าไปแล้ว!”

อะไรคือฝึกไปฝึกไปก็กลายเป็นยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ?

พวกเขานักเรียนระดับสวรรค์คนไหนบ้างในตระกูลไม่มีอาจารย์ชี้แนะและต้องฝึกอบรบอย่างพิถีพิถัน? เจ้าหนูนี่… นึกไม่ถึงว่าเจ้าหนูนี่จะบอกว่าเขาแค่ฝึกไปฝึกไปด้วยตนเองก็กลายเป็นยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณแล้ว นี่มาชกหน้าพวกเขาหรือไร?

ยามนี้อาจารย์หลี่ว์ยังมีสีหน้าตะลึงและพูดอะไรไม่ออก สอนนักเรียนผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นมามากมายเพียงนั้น ยังไม่เคยเจอใครเหมือนหนุ่มน้อยคนนี้เลย ไม่มีใครชี้แนะก็กลายเป็นยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณได้

ขณะบรรลุขั้นเขายังไม่ธาตุไฟแตก ไม่นอกลู่นอกทาง ทำให้คนเหงื่อเย็นไปทั้งฝ่ามือจริงๆ!

เยี่ยจิงแปลกใจเล็กน้อย นึกว่าเฟิ่งจิ่วอย่างมากก็เป็นแค่ปรมาจารย์พลังวิญญาณ ถึงอย่างไรครั้งนั้นบนถนนใหญ่นางยังถูกตนเองไล่ตีเสียจนไม่มีโอกาสโต้กลับ ทว่าหลังจากได้ยินคำพูดต่อมา แม้แต่สีหน้านางยังเปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาด

“เช่นนั้นเฟิ่งจิ่ว เจ้าเพิ่งบรรลุระดับยอดปรมาจารย์ได้ไม่นานใช่หรือไม่? แล้วขั้นของระดับปรมาจารย์เล่า?” อาจารย์หลี่ว์เอ่ยถามอีกครั้งพลางจ้องมองเฟิ่งจิ่วด้วยดวงตาฉายประกายเฝ้ารอ หนุ่มน้อยคนนี้เขามองไม่ออกเลยจริงๆ

“เรื่องนี้…”

เธอมองอาจารย์ แล้วหันไปเล็กน้อยเหลือบมองนักเรียนระดับสวรรค์แต่ละคนที่กลั้นหายใจจนหน้าแดงและถลึงตาจ้องมองมา บอกว่า “ข้าอายเกินกว่าจะบอกขอรับ” เธอกลัวจะตอกหน้าพวกเขาเกินไป

………………………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 687 เข้าเรียนสำนักพลังวิญญาณ + ตอนที่ 688 ข้าอายเกินไปที่จะบอก"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์